ตอนที่ 673 ผมเข้าใจแล้ว

แม่ปากร้ายยุค​ 80

ตอนที่​ 673 ผม​เข้าใจ​แล้ว​

ตอนที่​มาถึงโรงแรม​ ก็​เป็นเวลา​เที่ยง​พอดี​ หลิน​ม่าย​จึงเปลี่ยนไป​เป็น​ชุด​สำหรับ​งานเลี้ยง​กลางคืน​

เธอ​ถอด​เครื่อง​เพชร​ออก​ทั้งหมด​แล้ว​ใส่เครื่องประดับ​ทอง​แทน​ ตาม​ฟางจั๋ว​หรา​น​ไป​ชนแก้ว​ทีละ​โต๊ะ​

ไป๋​เหยียน​เป็น​คน​รับผิดชอบ​เก็บ​เครื่อง​เพชร​ราคา​ประเมินค่า​ไม่ได้​นั้น​ไว้​ให้​หลิน​ม่าย​

หล่อน​ถือ​กล่อง​เครื่อง​เพชร​กล่อง​เล็ก​ ๆ ราวกับ​กำลัง​ถือ​ความลับ​แห่งชาติ​เอาไว้​ ไม่กล้า​ปล่อย​ให้​คาด​สายตา​แม้แต่​วินาที​เดียว​

หลังจาก​เวียน​ดื่ม​สุรา​หลาย​รอบ​ หลิน​ม่าย​ก็​เปลี่ยน​ชุด​เด​รส​ชุด​แล้ว​ชุด​เล่า​ ชุด​เด​รส​แต่ละ​ชุด​ที่​เธอ​ใส่ล้วน​น่าตื่นตาตื่นใจ​

ทุกครั้งที่​ฟางจั๋ว​หรา​น​พา​หลิน​ม่าย​ไป​ชนแก้ว​ที่​โต๊ะ​นู้น​โต๊ะ​นี้​ ซูอวี้เจี๋ย​ก็​อยาก​จะเห็น​หลิน​ม่าย​กับ​สามีมาที่​โต๊ะ​ของ​พวกเขา​ แล้ว​แกล้ง​ทำเป็น​คว่ำ​จาน​หรือ​แก้วไวน์​ใส่หลิน​ม่าย​ให้​ชุด​เด​รส​ของ​หลิน​ม่าย​เปื้อนเปรอะ​เสีย​จริงๆ​ แต่​อย่างไร​เสีย​ หล่อน​ก็​ไม่มีความกล้า​นั้น​

ตอนที่​หลิน​ม่าย​เปลี่ยน​เปลี่ยนเป็น​ชุด​เด​รส​ชุด​ที่​ห้า​และ​ออกมา​พร้อมกับ​ฟางจั๋ว​หรา​น​ สายตา​ของ​ทุกคน​ล้วน​จับจ้อง​ไป​ที่​ประตู​โรงแรม​

หลิน​ม่าย​และ​ฟางจั๋ว​หรา​น​ก็​หันหน้า​ไป​มอง​เช่นกัน​ ก่อน​เห็น​กู้​ม่าน​ซือ​ใน​ชุดแต่งงาน​สีดำ​ ค่อย ๆ​ เยื้องย่าง​เข้ามา​

ฟางจั๋วเยวี่ย​ร้อง​ตะโกน​อยู่​ใน​ใจ มารดา​มัน​เถอะ​ ผู้หญิง​คน​นี้​โผล่​มาจริง ๆ​ แล้ว​!

พี่ชาย​ของ​เขา​บอก​ให้​เขา​คอย​จับตาดู​ บอ​กว่า​กู้​ม่าน​ซือ​จะมาก่อเรื่อง​ เขา​ยัง​ไม่ค่อย​จะเชื่อ​เลย​ นึกไม่ถึง​ว่า​หล่อน​จะมาจริง ๆ​!

ไม่รู้​ว่า​เพื่อน​ของ​เขา​ที่อยู่​สวน​เฝ้าระวัง​อย่างไร​ คน​ตัว​เป็น​ ๆ ตัว​ใหญ่​ขนาด​นี้​ก็​ยัง​ไม่เห็น​ ปล่อย​ให้​กู้​ม่าน​ซือ​หลุด​เข้ามา​ได้​

ฟางจั๋วเยวี่ย​วาง​ตะเกียบ​ลง​ รีบ​เข้าไป​ขวาง​กู้​ม่าน​ซือ​ เอ่ย​ด้วย​น้ำเสียง​ไม่เป็นมิตร​ “เธอ​ต้องการ​อะไร​?”

กู้​ม่าน​ซือ​พยายาม​หลบ​เขา​ แต่​เขา​ไม่ยอม​ปล่อย​

หล่อน​ไป​ทางซ้าย​ เขา​ก็​ไป​ทางซ้าย​

หล่อน​ไป​ทางขวา​ เขา​ก็ตาม​ไป​ทางขวา​ ขวางทาง​หล่อน​ไว้​อย่าง​เหนียวแน่น​

กู้​ม่าน​ซือ​เลิกคิ้ว​แล้ว​ยิ้ม​ “นาย​ไม่ต้อง​ตระหนก​ไป​ ฉัน​แค่​มางานแต่ง​พี่ชาย​ของ​นาย​ ดื่ม​สุรา​งานแต่ง​สัก​แก้ว​แล้วก็​จะไป​”

ฟางจั๋ว​หรา​น​เดิน​เข้ามา​ พูด​ด้วย​สีหน้า​เย็นชา​ “ผม​ไม่ต้อนรับ​คุณ​ รีบ​ไปให้พ้น​!”

ถึงแม้เฉินเฟิง​จะไม่ได้​ลุก​ออกจาก​ที่​ เขา​ก็​จดจ่อ​กับ​ความเป็นไป​ของ​สถานการณ์​เต็มที่​

ตราบใดที่​ผู้หญิง​คน​นี้​กล้า​ก่อเรื่อง​ขึ้น​มา เขา​ก็​จะใช้วิธี​ที่​ต่าง​ออก​ไป​ ให้​เขา​เห็น​ว่า​พี่​เฉินคน​นี้​มีอำนาจ​มาก​แค่​ไหน​ใน​ย่าน​นี้​

เขา​รู้สึก​โกรธ​เล็กน้อย​ที่​หลิน​ม่าย​ไม่ชายตามอง​เขา​ เลือก​แล้ว​เลือก​อีก​ ก็​ยัง​ไป​เลือก​ผู้ชาย​ที่​มีดอก​ท้อ​เน่า​[1]เยอะแยะ​ขนาด​นี้​มา

แต่งงาน​แล้วก็​ยังมี​ดอก​ท้อ​เน่า​มาสร้าง​ความวุ่นวาย​ให้​

กู้​ม่าน​ซือ​ไม่สนใจ​ท่าที​ของ​ฟางจั๋ว​หรา​น​แม้แต่น้อย​ ทำตัว​เหมือน​อันธพาล​คน​หนึ่ง​ “ใน​เมื่อ​ฉัน​มาที่นี่​ใน​ฐานะ​แขก​ คุณ​กับ​เจ้าสาว​ของ​คุณ​ก็​ควร​ชนแก้ว​กับ​ฉัน​ ไม่อย่างนั้น​ฉัน​จะไม่ไป​ไหน​ทั้งนั้น​!”

พูด​จบ​ มือ​ที่​ไพล่หลัง​ไว้​ตลอด​ก็​เอื้อม​ออกมา​ข้างหน้า​

มือ​คู่​นั้น​ถือ​ขวด​ขวด​หนึ่ง​ ขวด​นั้น​บรรจุ​ของเหลว​ที่​ไม่รู้จัก​

ก่อนที่​ทุกคน​จะได้​ตอบสนอง​ หล่อน​ก็​เปิด​ขวด​นั้น​แล้ว​โยน​ไป​ทาง​หลิน​ม่าย​ทันที​

ฟางจั๋ว​หรา​น​หันหลัง​ขวาง​ของเหลว​ที่​ไม่รู้​ว่า​เป็น​อะไร​นั่น​ด้วย​แผ่น​หลัง​ของ​เขา​ ปกป้อง​หลิน​ม่าย​เอาไว้​อย่าง​หนาแน่น​

เห็น​กู้​ม่าน​ซือ​มาก่อเรื่อง​ดังนี้​ ฟางเว่ยกั๋ว​ก็​รีบ​เข้ามา​ล้อม​ทันที​โดย​ไม่ได้​พูด​อะไร​

เห็น​แบบนี้​แล้ว​ เขา​ก็​รีบ​พุ่ง​เข้ามา​เข้า​ปกป้อง​ฟางจั๋ว​หรา​น​ ท่ามกลาง​เสียงอุทาน​ของ​แขก​ใน​งาน​

ของเหลว​พวก​นั้น​กระเซ็น​โดน​หลัง​ของ​เขา​ กลายเป็น​ฟองฟอด​ขึ้น​มาทันที​

ฟางจั๋วเยวี่ย​ตื่นตระหนก​ “น้ำกรด​ มัน​เป็น​น้ำกรด​ รีบ​ส่งไป​โรงพยาบาล​เร็ว​เข้า​!”

ใน​ตอนที่​เขา​กำลังจะ​ไป​ช่วย​ฟางเว่ยกั๋ว​ กู้​ม่าน​ซือ​ก็​หัวเราะ​เป็นบ้าเป็นหลัง​ “ไม่ใช่น้ำกรด​ โค้ก​ต่างหาก​ล่ะ​ กลัว​ล่ะ​สิ”

ทุกคน​รีบร้อน​เลิก​เสื้อ​ของ​ฟางเว่ยกั๋ว​ขึ้น​แล้ว​มองดู​ แล้วก็​เป็น​อย่าง​ที่​คิด​ ผิวหนัง​ของ​เขา​ยังอยู่​ใน​สภาพ​ดี​

จากนั้น​จึงถามว่า​เขา​เจ็บ​ไหม​ เขา​ยิ้ม​แล้ว​บอ​กว่า​ไม่

ฟางจั๋วเยวี่ย​ยังคง​กังวล​ ดังนั้น​เขา​จึงเข้าไป​ดม​ของเหลว​ที่​ยัง​ไม่รู้​ว่า​เป็น​อะไร​นั่น​ดู​ และ​พบ​ว่า​เป็น​โค้ก​จริง ๆ​

สีหน้า​ของ​ฟางจั๋ว​หรา​น​อึมครึม​ เขา​หันไป​มอง​กู้​ม่าน​ซือ​ด้วย​สายตา​โกรธเกรี้ยว​ “ถึงคุณ​อยาก​จะก่อกวน​ ก็​ต้อง​รู้จัก​ขอบเขต​ ผม​ไม่ใช่คน​ที่จะ​โอ๋​คุณ​นะ​”

กู้​ม่าน​ซือ​ยิ้ม​อย่าง​ผู้ชนะ​ “คุณ​อยาก​จะแต่งงาน​อย่าง​สงบ​ ๆ ไม่ใช่หรือ​? ฉัน​จะไม่ให้​คุณ​สมหวัง​หรอก​! คุณ​ทำให้​ชีวิต​ของ​ฉัน​อยู่​ไม่สู้ตาย​ ฉัน​จะตาย​อยู่​ที่​งานแต่ง​ของ​พวกคุณ​! ให้​คนอื่น​เห็น​ว่า​พวกคุณ​สามีภรรยา​สุนัข​ฆ่าผู้หญิง​บริสุทธิ์​คน​หนึ่ง​ยังไง​!”

“อยาก​ตาย​สินะ​ งั้น​ฉัน​จะช่วย​เธอ​เอง​” ทันใดนั้น​หลิน​ม่าย​ก็​ก้าว​เข้ามา​ คว้า​ข้อมือ​ของ​กู้​ม่าน​ซือ​แล้ว​ลาก​หล่อน​ไป​ยัง​บันได​

เห็น​ ๆ อยู่​ว่า​เธอ​ผอม​กว่า​กู้​ม่าน​ซือ​ แต่​เธอ​กลับ​แข็งแรง​กว่า​มาก​

เธอ​ลาก​หล่อน​ไป​ถึงชั้นสอง​ใน​อึด​ใจเดียว​

ฟางจั๋ว​หรา​น​ดึง​กู้​ม่าน​ซือ​ไป​จาก​มือ​ของ​เธอ​ แล้ว​เอ่ย​เบา​ ๆ “ภรรยา​ งาน​หยาบ ๆ​ พวก​นี้​ผม​ทำ​เอง​ คุณ​แค่​สั่งผม​ก็​พอ​”

แขก​ที่​ตามมา​ข้างหลัง​เพื่อ​เกลี้ยกล่อม​หลิน​ม่าย​ไม่ให้​ทำ​เรื่อง​โง่ ๆ ต่าง​ตกตะลึง​กัน​หมด​

ถึงแม้คุณ​ฟางจั๋ว​หรา​น​จะอยาก​เอาอกเอาใจ​ภรรยา​แค่​ไหน​ ก็​อย่า​เลือก​วินาที​ที่​อ่อนไหว​แบบนี้​ได้​ไหม​ ถ้ามีคนตาย​ขึ้น​มาล่ะ​?

หลิน​ม่าย​สั่ง “ลาก​หล่อน​ไป​ชั้น​ห้า​”

ฟางจั๋ว​หรา​น​ทำ​ตามคำสั่ง​ ลาก​กู้​ม่าน​ซือ​ขึ้นไป​ที่​ชั้น​ห้า​อย่าง​รวดเร็ว​

จากนั้น​หลิน​ม่าย​ก็​บอก​ให้​ฟางจั๋ว​หรา​น​คืน​กู้​ม่าน​ซือ​ให้​เธอ​

เธอ​ลาก​กู้​ม่าน​ซือ​ไป​ที่​หน้าต่าง​ริม​ระเบียง​ จากนั้น​ผลัก​ร่าง​ของหล่อน​ให้​ยื่น​ออก​ไปนอก​หน้าต่าง​มากกว่า​ครึ่งตัว​

ขอ​แค่​หลิน​ม่าย​ไม่จับ​ไว้​ให้​แน่น​ ๆ กู้​ม่าน​ซือ​จะต้อง​พลัด​ตกลง​จาก​หน้าต่าง​ไป​ที่​พื้น​แน่นอน​ร้อย​เปอร์เซ็นต์​ ถ้าไม่ตาย​ก็​คางเหลือง​

กู้​ม่าน​ซือ​หวาดกลัว​จน​ส่งเสียง​กรีดร้อง​ พลาง​ร้องไห้​น้ำตา​นองหน้า​ พร่ำ​อ้อนวอน​ขอให้​หลิน​ม่าย​ปล่อย​หล่อน​ไป​

แขก​ที่​ตาม​ขึ้น​บันได​มาข้างหลัง​และ​โน้มน้าว​หลิน​ม่าย​ไม่ให้​ทำ​เรื่อง​โง่ ๆ ล้วน​ตกตะลึง​ไป​ตาม​ ๆ กัน​

นึก​ว่า​ผู้หญิง​คน​นี้​จะไม่กลัว​ตาย​จริง ๆ​ เสีย​อีก​ ที่ไหนได้​กลับเป็น​คนขี้ขลาด​

หลิน​ม่าย​พูด​เยาะเย้ย​ “ที่แท้​เธอ​ก็​ยัง​กลัว​ตาย​นี่เอง​ คิด​จะเอา​ความตาย​มาขู่​ฉัน​กับ​ฟางจั๋ว​หรา​น​ให้​กลัว​สินะ​! ถ้าอย่างนั้น​ฉัน​จะบอก​เธอ​ให้​ เธอ​คิดผิด​แล้ว​ล่ะ​ คิด​เหรอ​ว่า​ถ้าเธอ​ตาย​ไป​แล้ว​พวกเรา​จะรู้สึก​ผิด​ไป​ตลอดชีวิต​? ฉัน​จะบอก​เธอ​ให้​ ไม่ใช่แค่​เรา​จะไม่รู้สึก​ผิด​ แต่​เรา​ยัง​จะมีความสุข​ที่​เธอ​ตาย​อีกด้วย​ เพราะ​หลังจากนั้น​คง​ไม่มีใคร​มาก่อกวน​เรา​ อีก​อย่าง​อีก​สอง​สามปี​ผ่าน​ไป​ พวกเรา​แม้แต่​จำเธอ​ก็​ยัง​จำไม่ได้​ เธอ​ยัง​อยาก​จะตาย​อยู่​อีก​ไหม​?”

กู้​ม่าน​ซือ​หน้า​ซีดเผือด​ ร้องไห้​อ้อนวอน​ “ฉัน​ยอมรับผิด​แล้ว​ ปล่อย​ฉัน​ไป​เถอะ​~”

หลิน​ม่าย​เยาะเย้ย​ “ถ้าฉัน​ปล่อย​เธอ​ไป​จริง ๆ​ เธอ​ก็​จะตกลง​ไป​ สมอง​ของ​เธอ​คง​กระจาย​เต็ม​พื้น​แน่​”

ได้ยิน​เธอ​พูด​อย่างนี้​ กู้​ม่าน​ซือ​ก็​หวาดกลัว​มากกว่า​เดิม​แล้ว​ “ถ้าอย่างนั้น​เธอ​ก็​ดึง​ฉัน​ขึ้นไป​”

หลิน​ม่าย​เลิกคิ้ว​ “เธอ​ลุกขึ้น​มาเอง​ไม่ได้​หรอ​? ถ้าอย่างนั้น​ฉัน​ก็​เสียหน้า​แย่​สิ! นอกจาก​เธอ​จะสัญญาว่า​จะไม่มาก่อกวน​พวกเรา​อีก​ ฉัน​ถึงจะปล่อย​เธอ​”

กู้​ม่าน​ซือ​ร้องไห้​น้ำตาไหล​อาบ​สอง​แก้ม​ “ฉัน​สัญญาว่า​ฉัน​จะไม่มาก่อกวน​พวก​เธอ​อีก​”

หลิน​ม่าย​รอ​จนกระทั่ง​หล่อน​หวาดกลัว​แทบตาย​แล้วจึง​ดึง​ตัว​หล่อน​ขึ้น​มา และ​บอก​ให้​หล่อน​ไป​จาก​ที่นี่​

กู้​ม่าน​ซือ​รีบ​เดิน​โซซัดโซเซ​ออก​ไป​ด้วย​ความ​อับอาย​

ทันทีที่​เดิน​ไป​ถึงล็อบบี้​ชั้นแรก​ของ​โรงแรม​ เฉินเฟิง​ก็​ขวาง​หล่อน​เอาไว้​

เขา​เตือน​อย่าง​เหี้ยมโหด​ “ให้​เวลา​เธอ​สามวัน​ออก​ไป​จาก​ปักกิ่ง​ซะ ไม่เช่นนั้น​ฉัน​จะทำให้​เธอ​หาย​ไป​!”

ใบหน้า​ของ​กู้​ม่าน​ซือ​บิดเบี้ยว​ด้วย​ความหวาดกลัว​

เดิมที​หล่อน​อยาก​จะก่อ​ความโกลาหล​ใน​งานแต่ง​ของ​ฟางจั๋ว​หรา​น​ ปลดปล่อย​ความโกรธแค้น​ของหล่อน​

นอกจาก​จะไม่ได้​ปลดปล่อย​ความโกรธ​แล้ว​ ความปลอดภัย​ของ​ตัว​หล่อน​กลับ​ถูก​คุกคาม​อย่าง​ร้ายแรง​

ไม่ต้อง​เอ่ย​ถึงว่า​จะออกจาก​ปักกิ่ง​ เพื่อ​ความปลอดภัย​ของหล่อน​ หล่อน​ไม่กล้า​แม้แต่​อยู่​ในประเทศ​นี้​ และ​อยาก​กลับ​ไป​ที่​อเมริกา​

หลังจาก​ขู่​กู้​ม่าน​ซือ​ให้​กลัว​แล้ว​ ทุกอย่าง​ใน​งานเลี้ยง​แต่งงาน​ก็​ดำเนินต่อไป​อย่าง​ลื่นไหล​

หลังจาก​งานเลี้ยง​แต่งงาน​จบ​ลง​ ก็​เหลือ​ธรรมเนียม​อีก​อย่างหนึ่ง​ นั่น​คือ​เจ้าสาว​และ​เจ้าบ่าว​ต้อง​วิ่ง​กลับบ้าน​ด้วยกัน​ ใคร​ถึงบ้าน​ก่อน​คน​นั้น​จะได้​เป็น​คน​ดูแล​รับผิดชอบ​เรื่อง​ของ​ครอบครัว​ในอนาคต​

เกม​นี้​ดูเหมือน​จะสนุก​มาก​

หลิน​ม่าย​ถอด​รองเท้าส้นสูง​ของ​เธอ​ออก​ตรงนั้น​ ทันทีที่​สัญญาณดัง​ เธอ​ก็​ถก​กระโปรง​ยาว​ของ​เธอ​ขึ้น​ วิ่ง​กลับ​ไป​ที่​เรือน​สี่ประสาน​ทันที​ราวกับ​ลูกศร​พุ่ง​ออกจาก​คันธนู​ ทำให้​แขกเหรื่อ​หัวเราะ​อย่าง​ครื้นเครง​ บอ​กว่า​เจ้าสาว​อยาก​เป็น​หัวหน้าครอบครัว​

ฟางจั๋ว​หรา​น​ตาม​ไป​ข้างหลัง​ติด ๆ​

ทุกครั้งที่​เขา​ใกล้​จะถึงหลิน​ม่าย​ เขา​ก็​ค่อย ๆ​ ผ่อน​ฝีเท้า​ลง​

สุดท้าย​หลิน​ม่าย​ก็​กลับ​ไป​ถึงเรือน​สี่ประสาน​ก่อน​เขา​ พร้อมทั้ง​ทำท่า​ไชโย​

งานแต่ง​ครั้งนี้​ไม่มีการปลุก​ห้อง​เจ้าสาว​ แขก​ที่​ตาม​หลิน​ม่าย​กับ​ฟางจั๋ว​หรา​น​มาถึงเรือน​สี่ประสาน​ นั่งลง​ก็​แล้ว​ มาเยือน​ก็​แล้ว​ จึงจากไป​

หลิน​ม่าย​รีบ​อาบ​น้ำร้อน​ทันที​ รู้สึก​สบาย​ไป​ทั้งตัว​

การ​แต่งงาน​นี่​ลำบาก​กว่า​เป็น​กุลี​เสีย​อีก​

เธอ​ออก​มาจาก​ห้องน้ำ​ พูด​กับ​ฟางจั๋ว​หรา​น​ที่อยู่​อีก​ด้าน​ “วันนี้​ฉัน​มีความสุข​มาก​ ฉัน​ยัง​อยาก​กินข้าว​สัก​สอง​ถ้วย​ฉลอง​สักหน่อย​ ที่รัก​ คุณ​อยาก​ฉลอง​แบบ​ไหน​?”

ฟางจั๋ว​หรา​น​คิด​อย่าง​จริงจัง​ “ต้อง​ใช้อีก​สอง​ชุด​”

ถึงแม้หลิน​ม่าย​จะเคย​แค่​แต่งงาน​ในนาม​ใน​ชาติก่อน​

แต่​ถึงเธอ​จะไม่เคย​กิน​เนื้อหมู​ ก็​ใช่ว่า​จะไม่เคย​เห็น​หมู​วิ่ง​ เธอ​เข้าใจ​ความหมาย​ของ​คำพูด​ของ​ฟางจั๋ว​หรา​น​ในทันที​

หน้าแดง​เรื่อ​ขึ้น​มา คนขับรถ​อาวุโส​คน​นี้​ขับรถ​เหาะ​อีกแล้ว​

ตอน​รับ​ประ​อาหารเย็น​ ฟางจั๋ว​หรา​นข​อ​ให้​แม่บ้าน​ที่​เพิ่ง​จ้างได้​ไม่นาน​ไป​ท้าย​ตรอก​สั่งอาหาร​จาน​โปรด​ของ​หลิน​ม่าย​กลับมา​เต็มโต๊ะ​

หลิน​ม่าย​กินข้าว​สอง​ถ้วย​ใหญ่​ ๆ อย่าง​จริงจัง​ จากนั้น​เธอ​จึงวาง​ตะเกียบ​ลง​อย่าง​พึงพอใจ​

ผ่าน​มาทั้งวัน​แล้ว​ เธอ​ยัง​ไม่ได้​กิน​อะไร​นอกจาก​อาหารเช้า​เบา​ ๆ ที่​กิน​ตอน​ตื่นขึ้น​มาใน​ตอนเช้า​

ตอนนี้​ได้​กิน​จน​อิ่ม​ท้อง​ ช่างดี​จริง ๆ​

หลังจาก​รับประทาน​เสร็จ​ ฟางจั๋ว​หรา​น​ช่วย​แม่บ้าน​จัดการ​เก็บ​จานชาม​ จากนั้น​จึงไป​อาบน้ำ​

หลังจาก​อาบน้ำ​เสร็จ​และ​กลับ​มายัง​ห้อง​ของ​สามีภรรยา​แล้ว​ ก็​เห็น​หลิน​ม่าย​กำลัง​ซ่อน​อะไร​บางอย่าง​ด้วย​ความ​ตื่นตระหนก​

เขา​เดิน​เข้ามา​แล้ว​ถามขึ้น​ “คุณ​ซ่อน​อะไร​ไว้​ครับ​?”

หลิน​ม่าย​กระแอม​เบา​ ๆ แกล้ง​ทำเป็น​บอก​อย่าง​ใจเย็น​ “ฉัน​ไม่ได้​ซ่อน​อะไร​นะคะ​”

“งั้น​หรือ​?” ฟางจั๋ว​หรา​น​กัก​หลิน​ม่าย​ไว้​ใต้​อ้อมแขน​ด้วยมือ​เดียว​ จากนั้น​พลิก​หมอน​ขึ้น​มาเห็น​ เผย​ให้​เห็น​หนังสือ​ ‘สามสิบ​หก​กระบวนท่า​แห่ง​การ​ร่วมรัก​’ เล่ม​หนึ่ง​ปราก​ฎตรงหน้า​เขา​

หลิน​ม่าย​ยก​มือขึ้น​ปิดหน้า​ตัวเอง​ ช่างเป็น​การฆ่าตัวตาย​ที่​อนาถ​เหลือเกิน​

ฟางจั๋ว​หรา​นพ​ลิ​ก​ดู​เนื้อหา​ใน​หนังสือ​ แล้ว​ถามด้วย​ความประหลาดใจ​ “จะต้อง​ฝึก​ท่า​พวก​นี้​หรือ​?”

หลิน​ม่าย​ถามอย่าง​แปลกใจ​ “ไม่อยาก​ลอง​หรือ​คะ​?”

ฟางจั๋ว​หรา​น​ลูบ​หัว​เธอ​อย่าง​ง่าย ๆ​ เพื่อ​เตรียม​ลงมือ​ “ไม่จำเป็น​หรอก​ ผม​เข้าใจ​แล้ว​ คุณ​แค่​นอน​นิ่ง ๆ​ ก็​พอ​”

หลิน​ม่าย​หน้า​แดงก่ำ​ ไม่กล้า​แม้แต่​จะมองหน้า​เขา​

………………………………………………………………………………………………………………………….

[1] ดอก​ท้อ​เน่า​ หมายถึง​ไป​แสวงหา​หรือ​พัวพัน​กับ​คน​ที่​ไม่เหมาะสม​ ไม่น่าเชื่อถือ​ มัก​ใช้ใน​เชิงความรัก​ เช่น​การ​มีคน​ที่​ไม่เหมาะสม​มาเกาะแกะ​ตามติด​ทั้งที่​ตนเอง​มีคนรัก​อยู่แล้ว​

สาร​จาก​ผู้แปล​

ยัย​แฟน​เก่า​นี่​ไม่เข็ด​สินะ​ ต้อง​เจอ​วิธี​ของ​ม่าย​จื่อ​ถึงจะเข็ด​

เอา​แล้ว​ วิชา​รัก​ที่​แอบ​ร่ำเรียน​มาจะได้​ถูก​งัด​ออกมา​ใช้ใน​คืน​แต่งงาน​ไหม​นะ​

ไหหม่า​(海馬)