บทที่ 629 เพราะคนรักของเจ้า ข้าจึงไม่คิดสนใจเจ้า

ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี

บทที่ 629 เพราะคนรักของเจ้า ข้าจึงไม่คิดสนใจเจ้า

บทที่ 629 เพราะคนรักของเจ้า ข้าจึงไม่คิดสนใจเจ้า

“เดิมทีนั้น ผู้ฝึกตนปีศาจมักจะหลบซ่อนตัวอยู่ที่นี่”

ภายในโถงนั่งเล่น ไป๋โม่เสวี่ยกางแผนที่ก่อนจะชี้ไปยังเมืองที่อยู่ใกล้เคียง และเลื่อนนิ้วลากไปยังเทือกเขาระหว่างเมืองทั้งสอง

“พรุ่งนี้คือกำหนดการ เขาควรจะอยู่ใกล้กับแท่นบูชาบนเทือกเขาแล้ว”

“ข้าจะส่งคนไปยังที่ที่เขาอาศัย และจะติดตามทั้งสองฝ่าย”

ไป๋ซวี่เซียงเขียนบางอย่างลงบนแผนที่พร้อมกล่าวหยอกล้อ

“โม่เสวี่ย เจ้าใช้วิธีการใดเพื่อเข้าไปนั่งอยู่ในใจของสตรีผู้นั้น?”

“ก็… ข้าสระผมกับแปรงผมให้นาง”

ไป๋โม่เสวี่ยตอบกลับ

“ฮ่า ๆ เจ้าเล่นบทช่างทำผมหรือ?”

ไป๋ซวี่เซียงยื่นมือไปเชยคางของน้องชาย

“เจ้าตุ้งติ้งไม่เบา ไปเรียนรู้สิ่งนี้จากผู้ใด?”

“ข้าเรียนรู้มันจากท่านแม่ของท่าน”

ไป๋โม่เสวี่ยบีบข้อมือของพี่สาวพร้อมกับบิดมันลงอย่างแรง

“อย่าแตะต้องตัวข้า โดยเฉพาะเมื่ออยู่ต่อหน้าหลี่ลี่”

ไป๋ซวี่เซียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ก่อนที่ไป๋โม่เสวี่ยจะปล่อยมือของนาง

“เข้าใจซะ”

หลี่ลี่ลูบไล้เส้นผมสีเกาลัดของตนเองก่อนจะกล่าวด้วยความริษยาเล็กน้อย

“ข้าก็อยากให้โม่เสวี่ยแปรงผมให้บ้าง”

“รอจนกว่าเราจะจับผู้ร้ายคนนั้นได้ก่อน”

ไป๋โม่เสวี่ยจับมือนางแล้วกล่าวกระซิบ

“ข้าก็อยากทำ แล้วข้าจะแปรงผมให้เจ้า”

“เฮ้ เฮ้!”

ไป๋ซวี่เซียงมองน้องชายที่กำลังแสดงความรักกับหลี่ลี่ ก่อนจะกล่าวขัดจังหวะการสนทนานั้น

“เอาล่ะ พรุ่งนี้มีเรื่องต้องทำอีกมาก พวกเจ้าจะสามารถแสดงความรักต่อกันได้จนฟ้าดินสลายหลังเรื่องราวจบ หากวันนี้ไม่มีอะไรแล้ว ไปนอนซะ”

ไป๋โม่เสวี่ยเงยหน้าขึ้นมองพี่สาวของตนพร้อมกล่าวถาม

“พรุ่งนี้ท่านคิดจะให้หลี่ลี่ไปกับพวกเราหรือไม่?”

“ไปด้วยกัน”

ไป๋ซวี่เซียงคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวตอบ

“ผู้ฝึกตนปีศาจนั้นชั่วร้ายและมากด้วยเล่ห์เหลี่ยม หากหลี่ลี่อยู่ในบ้าน ไม่มีสิ่งใดจะรับประกันได้ว่ามันจะไม่บุกรุกเข้ามา และมันจะปลอดภัยที่สุดหากนางอยู่ใกล้กับเรา”

“หลี่ลี่ เจ้าต้องระวังตัวให้มาก ข้าจะสอนทักษะบางอย่างให้เจ้า”

ไป๋โม่เสวี่ยหันมากล่าวกับเด็กสาวผมสีเกาลัด

“อืม”

หลี่ลี่ตอบรับอย่างมีความสุข

“โม่เสวี่ย เจ้าจะสอนสิ่งใดให้ข้าหรือ?”

“เจ้าคือสังสารวัฏแห่งการกลับชาติมาเกิดของวิถีสวรรค์ แม้ว่าเจ้าจะต้องละทิ้งตัวตนนี้ในอีกไม่ช้าก็เร็ว แต่สุดท้ายเจ้าก็ยังเป็นวิถีสวรรค์ของโลกใบนี้ ซึ่งมีอำนาจสูงสุด”

ไป๋โม่เสวี่ยกล่าวกับคนรัก

“หากข้าเดาไม่ผิด หลังจากที่เจ้าเติบโตเป็นผู้ใหญ่และตระหนักรู้ เจ้าจะสามารถควบคุมทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกนี้ เช่นนั้นเวลานี้ข้าจะสอนการควบคุมที่ง่ายที่สุดให้กับเจ้า เจ้าจะสามารถควบคุมปราณปฐพีของโลกนี้ได้”

“เดี๋ยว…”

ไป๋ซวี่เซียงที่อยู่ด้านข้างอุทานออกด้วยความประหลาดใจก่อนจะกล่าวถาม

“นี่คือทักษะเฉพาะของวิถีสวรรค์ เจ้าไปเรียนรู้มันจากที่ใด?”

“แน่นอนว่าข้าเรียนรู้มันมาจากท่านลุงวิถีสวรรค์!”

ไป๋โม่เสวี่ยหันมองพี่สาวของตน

“หลายสิบปีก่อน เขามาที่บ้านของเราและถูกท่านพ่อทุบตี ข้าจึงนำจานผลไม้ไปให้เขาเพื่อปลอบใจ แล้วข้าก็ถามถึงความสามารถนี้ เขาถามข้าว่าต้องการเป็นตัวแทนของเขาในเก้ามหาทวีปสิบแผ่นดินหรือไม่… แต่เมื่อท่านพ่อได้ยิน เขาก็ถูกทุบตีอีกครั้ง และไม่ได้มีการพูดคุยกันอีก!”

“เรียนรู้ไปเพื่ออะไร?”

ไป๋ซวี่เซียงพึมพำ

ไป๋โม่เสวี่ยเพิกเฉยต่อพี่สาวของตน พร้อมหันกลับมาสอนหลี่ลี่อย่างจริงจัง

แม้จะยืนยันว่านางคือวิถีสวรรค์กลับชาติมาเกิดอีกครั้ง แต่อย่างไรแล้วพลังของนางยังไม่ถูกปลุกให้ตื่น แต่สุดท้ายหลี่ลี่ก็เก่งกาจและมีพรสวรรค์ นางอยู่ในขอบเขตกลั่นลมปราณ แต่เพราะนางถูกควบคุมวิธีการฝึกฝน นางจึงไม่มีความรู้ที่จะควบคุมพลัง ทั้งยังไม่สามารถปลดปล่อยพลังที่แท้จริงได้ ยิ่งมองยิ่งนับว่าอ่อนแอ

หลังจากที่นางเข้าใจตัวตนของตนเองและถูกสั่งสอนโดยไป๋โม่เสวี่ย หลี่ลี่ก็เชี่ยวชาญวิธีการควบคุมพลังนี้อย่างรวดเร็ว

นางควบคุมปราณปฐพีได้สำเร็จ ภายใต้คำแนะนำจากไป๋โม่เสวี่ย นางควบแน่นลมปราณไว้ในแก้วน้ำ ก่อนจะแปรเปลี่ยนแก้วน้ำเปล่าให้กลายเป็นน้ำพุวิญญาณ

“สำเร็จแล้ว”

เมื่อมองแก้วน้ำที่มีน้ำพุวิญญาณพวยพุ่งออกมา หลี่ลี่กล่าวอุทานอย่างประหลาดใจ

“มันง่ายราวกับการกดบางอย่างบนหน้าจอ”

“เพราะเจ้ามีพรสวรรค์มาก สุดท้ายแล้วเจ้าก็เป็นผู้มีอำนาจสูงสุดภายในโลกใบนี้”

ไป๋โม่เสวี่ยพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ

“ลองดื่มสิหลี่ลี่ นี่คือน้ำพุวิญญาณที่เจ้าสร้างขึ้นเอง มันจะเป็นประโยชน์ต่อการฝึกฝนของเจ้า”

หลี่ลี่ดื่มมันอย่างว่าง่าย นางสัมผัสได้ถึงกระแสน้ำไหลผ่านลำคอ พร้อมกับแผ่ขยายไปทั่วแขนและขา มันทำให้นางรู้สึกสดชื่นยิ่ง

“ตอนนี้เจ้าเรียนรู้ทักษะควบแน่นปราณปฐพีแล้ว สิ่งนี้ต้องการเพียงความตั้งใจของเจ้า แม้เจ้าจะควบแน่นปราณปฐพีจำนวนมาก แต่สุดท้ายแล้วมันเพียงสร้างความเหนื่อยล้าให้กับจิตวิญญาณของเจ้าเพียงเล็กน้อย”

ไป๋โม่เสวี่ยกล่าวกำชับ

“หลี่ลี่เจ้าจงจำไว้ให้มั่น หากพรุ่งนี้เจ้าตกอยู่ในอันตรายและพวกเรายังไม่อาจเข้าช่วยเหลือ เจ้าจะต้องควบแน่นปราณปฐพีอย่างถึงที่สุด ไม่ต้องหวาดกลัว ในโลกนี้ไม่มีสิ่งใดไม่ใช่ของเจ้า จงควบแน่นปราณปฐพีของโลกใบนี้และของฝ่ายตรงข้าม”

“อืม”

หลี่ลี่พยักหน้ารับอย่างจริงจัง

  

หลังจากจบสิ้นเรื่องราวแล้ว ทั้งสามกลับสู่ห้องของตนเองเพื่อพักผ่อน เตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ในวันพรุ่งนี้

วันรุ่งขึ้น ไป๋โม่เสวี่ยใส่เสื้อผ้าของบุรุษ เขาออกไปพร้อมกับหลี่ลี่และไป๋ซวี่เซียง ตรงสู่ค่ายอาคมเคลื่อนย้ายเพื่อมุ่งหน้าสู่เทือกเขาที่คนร้ายซ่อนตัว

ที่เชิงเขา สมาชิกกลุ่มทำภารกิจลับของแดนเซียนยืนรวมกลุ่มกันอยู่ หลังจากรับทราบคำสั่งจากไป๋ซวี่เซียงและรองหัวหน้า ทั้งทางเข้าออกใกล้เคียงทั้งหมดถูกปิดกั้นทันที จากนั้นไป๋ซวี่เซียงจึงพาทีมเซียนออกค้นหาผู้ฝึกตนปีศาจภายในภูเขาด้วยตนเอง

ก่อนจะเข้าถึงภายในภูเขา ผู้ที่อยู่ใกล้เคียงจะสัมผัสได้ถึงพลังงานชั่วร้ายมหาศาลที่เล็ดลอดออกมาจากภายในเทือกเขา แม้ว่าผู้ฝึกตนปีศาจจะไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่ดูเหมือนว่าสิ่งสำคัญของเขาจะอยู่ภายในเทือกเขานี้

หลังจากอพยพคนไม่เกี่ยวข้องออกจากเทือกเขาเสร็จสิ้นแล้ว ไป๋ซวี่เซียงและคนอื่น ๆ เดินไปตามเส้นทางบนภูเขาพร้อมกับปีนขึ้นสู่ยอดเขาสูง เวลานั้นนางได้พบเจอกับผู้ฝึกตนปีศาจโดยไม่คาดคิด เขายืนอยู่บนยอดเขาพร้อมกับหนามแหลมยิ่งใหญ่รอบกาย เวลานี้เขากำลังร่ายเวทเตรียมพร้อมบางอย่างบนพื้นดิน และไม่คิดสนใจแขกไม่ได้รับเชิญ อีกทั้งยังไม่คิดหลบหนี

“โอ้”

เมื่อสัมผัสได้ถึงออร่าของไป๋ซวี่เซียงและไป๋โม่เสวี่ย ผู้ฝึกตนปีศาจพลันหันกลับมามอง

“เป็นพวกเจ้าอีกแล้ว… โอ้ แม้สวมใส่ชุดของบุรุษ เจ้าก็ยังงดงามไม่น้อย ช่างเป็นบุรุษที่งดงามอะไรเช่นนี้”

เขาชี้ไป๋โม่เสวี่ย

ไป๋โม่เสวี่ยหนีบก้นของเขาอย่างไม่รู้ตัว แต่ไป๋ซวี่เซียงและหลี่ลี่ที่ยืนอยู่ด้านหน้าจับจ้องผู้ฝึกตนปีศาจตรงหน้า แววตาฉายชัดถึงความเป็นปฏิปักษ์

“โอ้ ร่างเกิดใหม่แห่งเจตจำนงวิถีสวรรค์ก็อยู่ที่นี่ ยอดเยี่ยมแล้ว”

เขายกยิ้มชั่วร้ายเมื่อสบตากับหลี่ลี่

“เดิมทีข้าต้องการใช้ฝึกฝนเพื่อควบแน่นปราณหยินและหยาง ครอบครองพลังของเจ้าเพื่อให้ข้าเป็นทวยเทพที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกใบนี้ แต่เป็นเพราะคนรักของเจ้าทำให้ข้าหมดความสนใจในตัวเจ้าแล้ว ต้องขอโทษด้วย เดิมทีเจ้าจะได้สนุกเล็กน้อยก่อนตาย แต่ตอนนี้ข้าทำได้เพียงนำโลหิตของเจ้ามาเซ่นสังเวย หากจะกล่าวโทษข้า ก็จงกล่าวโทษคนรักตัวน้อยของเจ้าแล้วกัน!”