บทที่ 608 เงินหาไม่ง่าย

บทที่ 608 เงินหาไม่ง่าย

“ซื่อเลี่ยงครั้งนี้ฉันจะไปเอง นายอยู่ที่นี่เป็นเพื่อนแม่กับพ่อเถอะ!” ซูโส่วเวินพูดขึ้นมา

ซูซื่อเลี่ยงก็ไม่เกรงใจเช่นกัน จึงยิ้มพลางขอบคุณซูโส่วเวิน

เงินของหยางซู่หลินเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว จึงอ้าปากค้างด้วยความดีใจ เขาคำนวณไว้แล้วว่าหลังจากครั้งนี้จะสามารถเดินทางได้ห้ารอบ หากทุกครั้งทำเงินได้แบบนี้ ตอนที่กลับไปในมือเขาก็จะมีเงินก้อนใหญ่ทีเดียว

รู้สึกขอบคุณหัวหน้าที่ให้โอกาสนี้กับเขา

ก่อนหน้านี้ยังอยากช่วยลูกในครอบครัวหัวหน้าเป็นการขอบคุณ ตอนนี้ถึงเพิ่งรู้ว่าหัวหน้าช่วยเขาเอาไว้โดยที่ไม่พูดอะไรเลย เรื่องที่เขาเป็นหนี้หัวหน้า ทั้งชีวิตก็ชดใช้ไม่หมด

ทุกคนรีบกลับไปยังที่พัก ไม่มีเวลาพอจะหาอะไรกินดี ๆ ทุกคนจึงเอาของมารวมกันง่าย ๆ แล้วกินไปก่อน

ซูเสี่ยวเถียนเตรียมซาลาเปาเนื้อ ขนมโหยวปิ่ง ซอสเนื้อ รวมถึงมะเขือเทศและแตงกวาให้พวกเขาเอาไปกินระหว่างเดินทาง ซูเสี่ยวเถียนและซูซื่อเลี่ยงวางแผนจะไปส่งคนอื่นขึ้นรถไฟ แต่ถูกพวกเขาปฏิเสธ

“พวกนายยุ่งมาทั้งวันแล้ว พักผ่อนสักหน่อยเถอะ สินค้าที่เหลือก็มีไม่น้อยซึ่งยังต้องพึ่งพวกนายอีก” หลี่มู่มู่ยิ้ม พอพูดจบก็โบกมือ จากนั้นก็ออกเดินทางไปพร้อมคนอื่น ๆ

เมื่อซูเหล่าเอ้อร์และฉีเหลียงอิงกลับมายังที่พัก ถึงเพิ่งรู้ว่าคนอื่น ๆ ล้วนออกเดินทางไปเมืองหรงเฉิงแล้ว

“ทำไมรีบไปขนาดนี้?” ฉีเหลียงอิงถาม

แม้ว่าลูกชายจะอยู่ต่อ แต่พวกหลาน ๆ ล้วนไปกันแล้ว ฉีเหลียงอิงก็รู้สึกปวดใจเช่นกัน

“ไปกลับใช้เวลาหกเจ็ดวัน เลยจะเสียเวลาไม่ได้ครับ” ซูซื่อเลี่ยงพูด “พวกเราล้วนเป็นนักเรียน ปิดเทอมครั้งหนึ่งก็แค่สี่สิบห้าสิบวัน ถ้าไม่คว้าโอกาสไว้จะทำเงินได้สักเท่าไหร่เชียวครับ”

หลังจากฉีเหลียงอิงได้ยินที่ลูกชายพูดก็ทอดถอนใจ “ปีที่แล้วพวกลูกก็บอกว่าจะหาเงิน ตอนนี้แม่ก็เพิ่งรู้ว่าการหาเงินพวกนั้นมันไม่ง่ายเลย”

ก่อนหน้านี้ยังคิดว่าง่าย คิดว่าในเมืองใหญ่มีโอกาสทำเงินมาก ตอนนี้ถึงเพิ่งรู้ว่าไม่ใช่แบบนั้นเลย เงินพวกนั้น พวกลูกพยายามอย่างถึงที่สุดเพื่อหามา วิ่งวุ่นไปทั่วไม่สนว่ากลางวันหรือกลางคืน

“เสี่ยวเถียน เธอกับพวกพี่ชายของเธอลำบากขนาดนี้เชียวหรือ?” ตอนที่ฉีเหลียงอิงนอนอยู่บนเตียง ก็มองไปยังซูเสี่ยวเถียนพลางถาม

“แม่รองคะ หนูไม่เป็นไรจริงๆ พวกพี่ชายดูแลหนูอย่างดีเลยค่ะ!” ซูเสี่ยวเถียนปิดหนังสือและพูด

พวกพี่ชายของเธอล้วนดูแลเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะทำอะไร เธอก็ล้วนเป็นคนที่สบายที่สุด

“ถ้ามีเรื่องอะไรก็ให้พวกพี่ชายเธอไปนะเธอเป็นแค่เด็กสาวตัวน้อย พวกเรามีเด็กสาวตัวน้อยอย่างเธอแค่คนเดียว ต้องดูแลให้ดี!” ฉีเหลียงอิงพูดเตือน

ในจุดนี้ซูเสี่ยวเถียนรู้สึกได้ถึงความจริงใจของฉีเหลียงอิง

ผ่านมาหลายปีขนาดนี้ เธอที่เป็นหลานสาวเพียงคนเดียว ไม่ว่าจะแม่ใหญ่หวังเซียงฮวา หรือแม่รองฉีเหลียงอิงก็ล้วนดูแลเธอดีมาก

“แม่รองขอบคุณนะคะ!”

ทั้งสองคนพูดคุยไม่กี่ประโยค ก็ต่างฝ่ายต่างแยกไปพักผ่อน

วันที่สอง ฉีเหลียงอิงเสนอว่าจะไปขายสินค้ากับพวกซูเสี่ยวเถียน ด้วยเหตุผลง่าย ๆ เพราะสินค้ามากมายขนาดนี้จะให้เด็กไปขายกันแค่สองคนได้อย่างไร?

ในเมื่อฉีเหลียงอิงสมัครใจเอง ซูเหล่าเอ้อร์ก็ยิ่งไม่มีความเห็น รีบช่วยลูกชายและหลานสาวออกไปขายของด้วย

ผ่านวันที่สามไป ของทั้งหมดก็ขายจนเกลี้ยง

“นี่มันเหนื่อยเกินไปจริง ๆ การหาเงินไม่ใช่เรื่องง่ายเลย!” ฉีเหลียงอิงทุบไหล่พลางพูด

ไม่กี่วันมานี้กับลูกชายและหลานสาว ล้วนไม่มีเวลาให้พักผ่อนแม้แต่น้อย ทุกวันตอนเย็นต้องยุ่งจนถึงค่ำ เมื่อถึงเช้าวันต่อมาฟ้ายังไม่ทันสางก็ต้องตื่นแล้ว ฉีเหลียงอิงที่ก่อนหน้านี้กระตือรือร้นก็ยังเหนื่อย

เธอคิดว่าเด็กทั้งสองคนต้องเหนื่อยกว่าแน่ จึงรู้สึกปวดใจยิ่ง

“ยังดีที่ขายหมดแล้ว แม่รองคะพวกเราพักกันสักหน่อย พรุ่งนี้ค่อยเริ่มตั้งร้านใหม่เถอะค่ะ ได้ยินว่าอีกสามวันจะเป็นวันฤกษ์ดีเหมาะจะเปิดร้านนะคะ เพราะอย่างนั้นหลังจากนี้อีกสามวันพวกเราค่อยเริ่มการค้ากันดีไหมคะ?”

ที่บอกว่าได้ยินมานั้นเป็นเรื่องโกหก ที่จริงเป็นซูเสี่ยวเถียนให้ระบบช่วยตนเอาปฏิทินออกมา จึงรู้ว่ามะรืนนี้เป็นฤกษ์ดีเหมาะแก่การเริ่มการค้า

ซูเสี่ยวเถียนเป็นคนที่ราชามังกรดูแล คนตระกูลซูไม่ว่าใครต่างก็รู้เรื่องนี้ ฉีเหลียงอิงก็ไม่สงสัยว่าวันที่ซูเสี่ยวเถียนบอกจะดีหรือไม่ เรื่องนี้จึงถูกตัดสินไปเช่นนั้น

ทั้งครอบครัวร่วมแรงร่วมใจกันสองวัน ในที่สุดก็จัดการในร้านเสร็จเรียบร้อย คืนก่อนเปิดร้านเมื่อมองไปที่ร้านเล็ก ๆ ที่สวยเป็นอย่างยิ่ง ซูเสี่ยวเถียนก็พอใจทุกด้านเด็กหญิงหยิบห่อเครื่องปรุงรสออกมาเตรียมไว้ แต่ละห่อล้วนมีผ้าก๊อซห่อไว้อย่างดี

“เสี่ยวเถียนนี่คืออะไรหรือ?” ฉีเหลียงอิงถาม

“แม่รองคะ นี่คือห่อเครื่องปรุงรส ถุงสามเหลี่ยมนี่ใช้เป็นเครื่องปรุงของไข่พะโล้ ถุงกลมนี่ใช้เป็นของเนื้อตุ๋นหม้อไฟ และยังมีถุงสี่เหลี่ยมที่ใช้เป็นของหมูพะโล้ด้วยค่ะ”

“นี่เป็นส่วนผสมพิเศษของไข่พะโล้ค่ะ สามารถปรุงไข่ไก่ได้สามร้อยฟอง หมูพะโล้สามารถปรุงได้สามสิบชิ้น ทั้งยังถุงเนื้อตุ๋นหม้อไฟที่สามารถปรุงได้ห้าสิบชิ้นค่ะ”

ฉีเหลียงอิงได้ยินก็อยากรู้อยากเห็นเป็นอย่างยิ่ง ตอนที่เธออยู่ในบ้านก็เห็นซูเสี่ยวเถียนทำพะโล้ด้วยไข่ไก่ แต่สองวันนี้ยังไม่เห็นถุงเครื่องปรุงรสของซูเสี่ยวเถียนเลย

“เสี่ยวเถียน เครื่องปรุงนี่คุ้มไหม? ถ้าราคาแพง อาหารของพวกเราจะไม่ราคาถูกเกินไปหรือ?” ฉีเหลียงอิงถาม

“ไม่แพงค่ะ แม่รองหนูคำนวณแล้ว ถ้าใช้เครื่องปรุงหนึ่งถุงทุกสามวัน ปรุงพะโล้ทั้งผักเนื้อไข่ล้วนสามารถขายไปได้ค่ะ และจะทำกำไรได้ห้าสิบถึงหกสิบหยวนเลยนะคะ”

ฉีเหลียงอิงไม่ได้คำนวณอย่างละเอียด คาดไม่ถึงว่าซูเสี่ยวเถียนจะคำนวณไว้แล้ว

“เสี่ยวเถียน ได้กำไรมากขนาดนั้นจริงหรือ?” เธออดไม่ได้ที่จะตื่นเต้น

ก่อนหน้านี้ที่ทำงานในโรงงาน เหนื่อยยากมาทั้งเดือนยังได้แค่ห้าสิบหกสิบหยวนเท่านั้น

“พรุ่งนี้พวกเราลองทำดูเดี๋ยวก็รู้ค่ะ เพียงแต่เพิ่งเริ่มการค้า กำไรเกรงว่าคงยังไม่สูงมาก รอให้พ้นช่วงแรกไปก่อนระยะหนึ่งก็จะดีขึ้นค่ะ” ซูเสี่ยวเถียนคิดว่าช่วงเริ่มต้นยังไม่ค่อยมีใครรู้จักร้าน การค้าคงไม่ค่อยดีนักจึงเตือนไว้ก่อนสักนิด

ฉีเหลียงอิงพยักหน้า “เรื่องนี้ฉันรู้ทุกอย่างต้องใช้เวลาสะสมชื่อเสียง”

ถึงอย่างไรแรกเริ่มความต้องการจะไม่ค่อยสูงนักหมดหนึ่งวันสามารถทำเงินได้สักสิบหยวนก็พอแล้ว นอกจากค่าเช่าและค่าฟืน ก็ยังเหลือกำไรแปดเก้าหยวน

ซูเสี่ยวเถียนพอใจกับสภาพจิตใจของฉีเหลียงอิงมาก

แม่รองถนัดเรื่องนี้ แม้ว่าตอนวางแผนจะตึงเครียด แต่ยามคับขันเธอจะมั่นคงเป็นอย่างมาก

“เสี่ยวเถียน วันนี้พวกเราต้องทำพะโล้ไหม?”

“ทำค่ะ แม่รองคืนนี้ถ้าทำพะโล้ไม่ดี พรุ่งนี้เช้ารสชาติจะไม่เข้าเนื้อค่ะ”

ฉีเหลียงอิงได้ยินคำพูดนี้ก็ทุกข์ใจ วันนี้มืดแล้ว ทั้งเนื้อ ไข่ และผักก็ล้วนยังไม่ได้ซื้อ

“พ่อ ไปตลาดกับฉันสักรอบนะ ต้องรีบไปซื้อเนื้อ ผักและไข่ด้วย” ฉีเหลียงอิงรีบเร่งซูเหล่าเอ้อร์

ซูเหล่าเอ้อร์มองฉีเหลียงอิงพลางพูด “เมื่อครู่เสี่ยวเถียนเตรียมไว้เรียบร้อยหมดแล้ว ทั้งหมดอยู่ในห้องครัว”

ภรรยาคนนี้ดูยุ่งมาก ทำไมถึงไม่รู้ล่ะ?

“อะไรนะ?” ฉีเหลียงอิงถามอย่างตกใจ

“เธอลองไปดูก็รู้แล้วไม่ใช่หรือ?”

สองสามีภรรยามาในห้องครัว ก็เห็นตะกร้าไม้ไผ่ที่เต็มไปด้วยไข่ไก่ ทั้งยังมีเนื้อสามชั้นชิ้นใหญ่สองชิ้น รวมถึงผักชนิดต่าง ๆ ด้วย

นี่เตรียมไว้ตั้งแต่เมื่อไรกัน?

ฉีเหลียงอิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก็คิดไม่ออก ช่างเถอะ ไม่ต้องไปคิดก็ได้ ยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องทำด้วย