บทที่ 616 เจ้ามันนังปีศาจ

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 616 เจ้ามันนังปีศาจ

บทที่ 616 เจ้ามันนังปีศาจ

ชาวบ้านกว่ายี่สิบคนถือคบเพลิงขวางทางรอบประตูบ้านกู้

คนที่เป็นผู้นำคือภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงที่กำลังจ้องมองพวกกู้เสี่ยวหวานด้วยความขุ่นเคือง

กู้เสี่ยวหวานตกใจ นางก้าวไปข้างหน้าสองก้าวเดินตรงมาที่ลาน เมื่อมองดูคนเหล่านี้ แม้ว่านางจะแปลกใจ แต่ก็ไม่มีวี่แววของความขลาดกลัวบนใบหน้าของนาง “พวกท่านกำลังทำอะไรกัน?”

“เจ้าทำอะไรลงไป” ฮูหยินเหลียงกรีดร้องด้วยความโกรธบนใบหน้า “กู้เสี่ยวหวาน เจ้าทำคุณไสยอะไรกับสามีของข้า!”

เสียงร้องที่น่าสังเวชและน่าสะพรึงกลัวของหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงเมื่อคืนนี้ทำให้คนอื่น ๆ ตัวสั่น จากนั้นพวกเขาก็จ้องมองที่กู้เสี่ยวหวานอย่างดุดัน

แม้มีคนจำนวนมากจ้องมองมาที่นางอย่างดุดัน กู้เสี่ยวหวานก็ไม่ได้แสดงอาการขี้ขลาด แต่กู้เสี่ยวอี้ที่อยู่ข้าง ๆ นางรู้สึกกลัวเล็กน้อยจึงซ่อนตัวอยู่ข้างหลังพี่สาวโดยจับชายเสื้อของกู้เสี่ยวหวานไว้แน่น และเผยให้เห็นศีรษะเป็นครั้งคราวมองไปที่กลุ่มคนนับหลายสิบคนที่อยู่ตรงหน้านางด้วยความหวาดผวา

แสงเพลิงส่องใบหน้าของพวกเขาอย่างแจ่มชัด แสงสีแดงที่ลุกเป็นไฟทำให้ใบหน้าของพวกเขาแดงก่ำ ซึ่งความดุดันบนใบหน้าขับให้พวกเขาดูน่ากลัวยิ่งขึ้นไปอีก

กู้เสี่ยวหวานสัมผัสถึงความกลัวของผู้เป็นน้องสาว นางจึงเอื้อมมือไปสัมผัสใบหน้าอีกฝ่ายเบา ๆ ราวกับกำลังปลอบโยนนางว่าไม่ต้องกลัว

จากนั้นนางก็หันศีรษะมาเผชิญหน้ากับกลุ่มคนเลวทรามเบื้องหน้าเหล่านี้ด้วยความมั่นใจ!

“เมื่อวานสามีของข้าเห็นนางเหมือนเห็นผี กลับบ้านไปก็ไม่ได้นอนทั้งคืน ดูเหมือนคนจะเสียสติไปแล้ว” เมื่อภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงพูด นางยังคงรู้สึกหวาดกลัวในใจ

ก่อนที่นางจะวางแผนที่มาหากู้เสี่ยวหวานเพื่อคิดบัญชี สามีของนางที่ไม่นอนทั้งคืนก็ผล็อยหลับไปในที่สุด

นางออกไปเคาะประตูบ้านชาวบ้านรอบ ๆ ทันที ก่อนบอกกับทุกคนว่าเกิดอะไรขึ้นกับหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงเมื่อวานนี้ รวมทั้งสิ่งที่หมอหม่าพูด

ทุกคนตกใจกลัว จากนั้นพวกเขาก็ทำตามคำแนะนำของนาง โดยไปที่บ้านของกู้เสี่ยวหวานพร้อมกับคบเพลิง

ไม่ว่านางจะเป็นคนหรือผี กู้เสี่ยวหวานจะต้องกลัวไฟแน่ พวกเขาที่ถือคบเพลิงไวจึงรู้สึกสบายใจขึ้นบ้าง

“เกี่ยวอะไรกับข้า บางทีสามีของท่านอาจทำเรื่องแย่ ๆ มามาก!” กู้เสี่ยวหวานพูดอย่างไม่ใส่ใจ

จุดประสงค์ของการมาของคนเหล่านี้ชัดเจนนัก

หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงเสียสติ?

เกี่ยวอะไรกับนาง?

นางจะทำให้เขาตกใจจนตายได้หรือ? นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเราเจอกันสักหน่อย!

แม้ว่ากู้เสี่ยวหวานจะไม่มีความมั่นใจนัก แต่นางก็ยังคงไม่เกรงกลัว

วิญญาณของนางติดอยู่กับร่างนี้มานานกว่าหนึ่งปีแล้ว นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงได้เห็นนาง และเขาก็ไม่เคยกลัวนางมาก่อน เป็นไปได้หรือไม่ที่เขาลืมตาขึ้นแล้วมองเห็นได้ว่านางเป็นวิญญาณที่มาสิงร่างของกู้เสี่ยวหวานคนก่อน!

ตลกน่า!

ดวงตาของกู้เสี่ยวหวานลุกเป็นไฟ นางจ้องมองไปที่ภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงโดยไม่เกรงกลัว

หญิงชราอายุห้าสิบปีเศษ นางทั้งเตี้ยและอ้วน เมื่อคืนนี้นางถูกหัวหน้าหมู่บ้านรบกวนและพักผ่อนได้ไม่ดี นางเป็นเหมือนมะขามป้อมที่มีน้ำค้างแข็งเกาะและไร้เรี่ยวแรง

แต่เพื่อที่จะมาหากู้เสี่ยวหวานเพื่อคิดบัญชี นางได้เค้นแรงเกินขีดจำกัด

ทว่านางเองก็กลัวเช่น ดังนั้นจึงคัดเลือกคนงานที่แข็งแกร่งจำนวนมากจากหมู่บ้าน เมื่อมีคนมากมายถือคบเพลิงยืนอยู่ข้างนาง ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องกลัว!

ภายในสายตาที่ไร้ความกลัวของกู้เสี่ยวหวาน หญิงชราเผยความรู้สึกผิดเล็กน้อย

ทว่าเมื่อนางคิดว่าหมอหม่าบอกว่าสามีของนางถูกคุณไสย ในใจนางก็รู้สึกว่าเรื่องนี้ต้องเกี่ยวข้องกับกู้เสี่ยวหวานแน่

นางรู้สึกมานานแล้วว่ามีบางอย่างผิดปกติกับกู้เสี่ยวหวาน

คนที่ขี้ขลาดอยู่เสมอจะกล้าหาญขึ้นได้อย่างไร?

มันไม่สมเหตุสมผลเลย!

ไม่มีใครเคยพูดถึงเรื่องนี้มาก่อน ทว่าคราวนี้สามีของนางตกใจกลัว นางจึงนึกถึงเรื่องเหล่านี้ได้ทันที

“กู้เสี่ยวหวาน อย่าอวดดีนัก ไม่งั้นเจ้าจะต้องร้องไห้ทีหลัง!” ภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงเยาะเย้ย

ก่อนรุ่งสาง มีชายหนุ่มคนหนึ่งได้ขับรถม้าไปที่เมืองถู่ถังเพื่อตามหาทังป้านเซียนแล้ว

ยามสามีนางเหม่อลอย นางไม่ได้คิดไปหาทังป้านเซียนมาก่อน แต่หลังจากสามีของนางพูดถึงผีสักพัก นางก็นึกถึงทังป้านเซียนได้ ซึ่งทังป้านเซียนไม่เพียงสามารถมาดูอาการสามีของนางได้เท่านั้น แต่ยังมาดูได้ด้วยว่าเกิดอะไรขึ้นกับกู้เสี่ยวหวาน นางถูกอะไรเข้าสิงหรือเปล่า?

ภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงพลันตัดสินใจ นางให้ชายหนุ่มคนหนึ่งยืมรถม้าเพียงคันเดียวในหมู่บ้านขับไปยังเมืองถู่ถัง โดยบอกว่านางต้องการเชิญทังป้านเซียนมาที่หมู่บ้านอู๋ซี

จากนั้นนางก็ไม่ได้อยู่ว่าง นางได้รวบรวมกลุ่มคนในหมู่บ้านถือคบเพลิงตรงมาที่นี่

ต้องมีบางอย่างแปลก ๆ เกี่ยวกับกู้เสี่ยวหวานที่ทำให้สามีของนางตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ นางต้องทำหน้าที่แทนสามี และสอนบทเรียนให้กับนังเด็กสมควรตายนี่

กู้เสี่ยวหวานมีสีหน้าไร้อารมณ์ ขณะมองดูอีกฝ่ายตะโกนใส่หน้านาง

“จัดการเลย จับนังปีศาจให้ข้าเดี๋ยวนี้!”

“เจ้ากำลังพูดเรื่องบ้าอะไร นี่คือพี่สาวของข้า!” ทันทีที่กู้หนิงผิงได้ยินเรื่องนี้ เขาก็ตะโกนทันทีและยืนขวางหน้ากู้เสี่ยวหวานเพื่อขวางทางคนเหล่านั้นไว้

“ข้าพูดไร้สาระหรือ เหอะ ๆ… กู้หนิงผิง ข้าเกรงว่าเจ้าจะไม่รู้สินะว่าพี่สาวที่อยู่ตรงหน้าเจ้านี้ไม่ใช่พี่สาวของเจ้าอีกต่อไป!” เหลียงซื่อพูดอย่างมืดมนและไร้ความเกรงใจ

“เหอะ! หากนางไม่ใช่พี่สาวของข้า เป็นไปได้หรือไม่ว่าหญิงชราเช่นท่านจะเป็นพี่สาวของข้า” กู้หนิงผิงสวนกลับอย่างไร้ความเกรงใจเช่นกัน

“เจ้า…” เหลียงซื่อถูกอีกฝ่ายตอกกลับจนจุกออก สีหน้าของนางดูน่าเกลียดเล็กน้อย แต่นางก็กลับมามีสติในทันทีและร้องออกมาอย่างโกรธเคืองว่า “เจ้าสารเลว เจ้ายังเห็นภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านอยู่ในสายตาอีกหรือไม่! เจ้ากล้าดีอย่างไรมาพูดจาใส่ข้าเช่นนั้น! ถึงเวลาเจ้าต้องร้องไห้แน่ ฮึ่ม นางเป็นพี่สาวของเจ้าหรือ? กู้หนิงผิง ข้าจะบอกเจ้าให้ว่ากู้เสี่ยวหวานในยามนี้ไม่ใช่กู้เสี่ยวหวานคนก่อนอีกต่อไป เจ้ารู้หรือไม่?”

กู้เสี่ยวหวานมองไปที่ภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านเหลียง และรู้สึกสับสนเล็กน้อยในใจ

นางดูออกหรือ?

“ท่านหมายถึงอะไร?”

กู้เสี่ยวหวานขมวดคิ้วและถาม

“หมายความว่าอย่างไร? พอตกน้ำก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน อะไรที่เคยไม่รู้ ตอนนี้กลับรู้ไปหมด ไม่เพียงแต่เขียนได้ แต่ยังสามารถคิดบัญชีได้ด้วย เหอะ ๆ เจ้าสามารถรู้ในสิ่งที่ไม่เคยเรียนได้ในวันเดียวหรือ? เด็กสาวที่ไม่เคยได้เรียนหนังสือ ยามนี้กลับเป็นคนทำบัญชีในร้านจิ่นฝู!” หญิงชราตะโกนเกี่ยวกับกู้เสี่ยวหวาน

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

คนพวกนี้จ้องจะทำร้ายเด็ก ๆ ไม่หยุด พวกเขาเป็นคนยังไงกันเนี่ย

ไหหม่า(海馬)