EP 591
“นำท่อช่วยหายใจมาเปิดหลอดลมของเธอ” หลิงรันมองไปที่ผู้ป่วยซึ่งอยู่ห่างจากเขา 6.5 ฟุตขณะที่เขาออกคําสั่งกับพยาบาล
พยาบาลที่สาขาโรงพยาบาลไบ๋ไฮเซียง นั้นค่อนรักสวยรักงามแต่พวกเธอนั้นเป็นพยาบาลอาวุโสที่ทํางานที่นั่นมาหลายปี พวกเธอเองมีทักษะพื้นฐานและยังเตรียมการรักษาฉุกเฉินพร้อมเตียงผู้ป่วยไวแล้ว ซึ่งมันรวดเร็วและดูชํานาญเอามากๆ
ในเวลานี้หยูหยวนนับจํานวนครั้งของการบีบอัดในขณะที่เธอใช้กําลังของร่างกายทั้งหมด เธอดันแขนลงและดูเหมือนเสือดาวตัวน้อยกําลังกัดม้าลาย
“บอกคนรอบตัวเราให้ถอยห่างออกไปและหาที่ว่าง วาดผ้าม่าน” หลิงรันพูดกับหมอลู่ก่อนที่เขาจะเริ่มใส่ท่อช่วยหายใจ ฝ่ายหลังโบกแขนใหญ่ของเขาทันทีและไล่ผู้คนออกไป
เมื่อเทียบกับผู้ป่วยทั่วไปผู้ป่วยที่ใส่ท่อช่วยหายใจจะติดเชื้อหากไม่ระมัดระวัง ในขณะนั้นผู้คนรอบข้างล้วนเป็นแหล่งแพร่เชื้อที่ไม่จําเป็นที่สุด
บางที่อาจเป็นเพราะผู้หญิงที่กรีดร้องกําลังนอนลง แต่ญาติของผู้ป่วยที่เหลือก็เงียบลงและยืนห่างออกไปไม่กี่ฟุต แต่ไม่มีใครอยากจากไปแม้ว่าพวกเขาจะขอให้ก็ตาม
ผู้อํานวยการแผนกฮง เฉินเต๋อกัว และเฉาซวงก็ติดตามพวกเขาด้วย พวกเขาทั้งสามมองไปที่ผู้หญิงที่นอนอยู่บนพื้นด้วยความตกใจ
“ร่างกายของมนุษย์นี้ทั้งบอบบางเหลือเกิน” เฉาซวงถอนหายใจอย่างมีความรู้สึก “เมื่อก่อนเธอไม่เคยเป็นแบบนี้และปอดของเธอก็สบายดีเหมือนมิลเซล เพิร์บ” ในพริบตาเธอดูเหมือนเธอกําลังจะตาย
“ตอนนี้คงต้องเป็นเพราะเธอกรีดร้องมากไปแน่ ๆ เธออาจจะหายใจไม่ทันและเธอก็เป็นลม” เฉินเต๋อกัวยังคงยืนอยู่บนปลายเท้าของเขาเพื่อมอง
ผู้อํานวยการแผนกฮงส่ายหัว “การทํา CPR เสร็จสิ้นแล้วและหลิงรันได้เริ่มใส่ท่อช่วยหายใจ เธอน่าจะเป็นโรคหัวใจ หากพวกเขาทําผิดพลาดเธออาจจะไม่ฟื้นกลับมาแล้ว นี้เป็นการสินนิฐาน สําหรับผู้ปวยที่มีอาการเป็นลม
“เธอเกือบตายเพราะการกรีดร้องของเธอไม่กี่นาทีนี้นะ? ถ้าอย่างนั้นฉันจะไม่ทะเลาะกับใครแล้วสัญญา” เฉาซวงส่ายหัวอย่างแรง
เฉินเต๋อกัว กล่าวว่า “นายเองก็ไม่กล้าทะเลาะกับใครมาตั้งนานแล้วไม่ใช่หรือยังไงกัน”
“ทําไมฉันถึงไม่กล้าล่ะ? น้าเขยของฉันเป็นนายกเทศมนตรีตําบล ฉันเลยไม่ต้องเสียเวลาทะเลาะกับใครไงเล่า”
“พ่อของฉันเป็นนายกเทศมนตรีตําบลและถึงอย่างนั้นฉันก็ถูกทุบตีครั้งสุดท้ายเลือดกําเดาไหลของฉันแย่มากมันทําให้ฉันกลัวตาย”
ลูกพี่ลูกน้องทั้งสองสนทนากันอย่างคุ้นเคย ทันใดนั้นเฉินเต๋อกัว ก็หันกลับมาและพูดว่า “ทําไมพวกคุณเอาแต่ดูงานของหลิงรัน? มีแพทย์มากมายในที่อยู่ที่นี้และไม่มีใครมีประสบการณ์มากไปกว่าเขาเลยหรือยังไง?”
ผู้อํานวยการแผนกฮงหัวเราะเพียงสองสามครั้งกับคําดูถูกเล็กน้อย จากนั้นเขาก็พูดว่า “คุณรู้ไหมว่าใครเป็นครูฝึกของทีม CPR ของโรงพยาบาลหยุนหัว คนๆนั้นคือหลิงรัน หมอหลิงเป็นคนที่เก่งที่สุดในการทํา CPR
หากแพทย์ถูกอธิบายว่าเป็นกองทัพรายงานผู้ปวยที่ประสบความสําเร็จคือผลลัพธ์ของการต่อสู้ของแพทย์ ผลที่ได้รับก็ยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น
การทํา CPR เป็นเวลานานที่ประสบความสําเร็จเป็นชัยชนะที่ยอดเยี่ยมสําหรับแพทย์
ความมั่นคงของการทํา CPR ที่หลิงรันเป็นคนทํานั้นมีเสถียรภาพเอามากๆตราบใดที่ไม่มีแพทย์คนอื่นสามารถทําลายสถิติของเขาได้
นอกจากนี้การทํา CPR ยังเป็นความเชี่ยวชาญของแพทย์จากแผนกฉุกเฉินและภาควิชาวิสัญณีมาโดยตลอด นอกจากนี้ยังเป็นการออกกําลังกายที่รุนแรงมาก แพทย์วัยกลางคนและผู้สูงอายุที่อยู่ที่นั่นไม่เต็มใจที่จะรับความท้าทายนี้เมื่อกลุ่มของหลิงรัน อยู่ใกล้ ๆ
หลิงรันเริ่มสั่งยาแล้ว
เมื่อติดตั้งอุปกรณ์เข้าถึงหลอดเลือดดําแล้วพยาบาลจะให้ผู้ป่วยฉีดอะดรีนาลีนสองครั้งในช่วงเวลาสั้น ๆ จากนั้นหลิงรันเรียกเครื่องกระตุ้นหัวใจ 200 จูลและทําการกระแทกติดต่อกันสองครั้ง แก่ผู้ป่วย
คลื่นไฟฟ้าหัวใจซึ่งเพิ่งเชื่อมต่อกับเครื่องก็กลายเป็นปกติทันที
“เธอได้รับการช่วยเหลือแล้วหรือ” เฉินเต๋อกัว รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยเมื่อเขาดู ฉากนี้ต่อหน้าเขาดีกว่าละครโทรทัศน์
ผู้อํานวยการแผนกฮงฮัมเพลงและกล่าวว่า “เธอโชคดีมากที่เธอเป็นลมในโรงพยาบาลและบังเอิญได้พบกับหลิงรัน”
เขาอยากจะบอกว่าเธอโชคดีจริงๆที่ได้พบกับทีมแพทย์อาสาสมัครของโรงพยาบาลหยุนหัว ผู้อํานวยการแผนกฮงไม่ได้คํานึงถึงความสามารถของสาขาโรงพยาบาลไบ๋ไฮเซียงในการรักษาฉุกเฉิน
โรงพยาบาลระดับสูงในปัจจุบันและในเมืองโรงพยาบาล ทางตอนใต้ของภูมิภาคนั้นมีอยู่สองประเภทที่แตกต่างกัน แพทย์ของโรงพยาบาลเกรด A และแพทย์ของเมืองโรงพยาบาลนั้นก็แตกต่างกัน ในการเปรียบเทียบโรงพยาบาลของมณฑลซึ่งมีระดับสูงกว่ามีความน่าเชื่อถือมากกว่าอย่างน้อยก็ไม่ใช่โรงพยาบาลที่ให้บริการเฉพาะการใส่สายน้ำเกลือและการตรวจร่างกาย เท่านั้น
ไม่มีใครรู้ว่าเฉินเต๋อกัว เข้าใจหรือไม่ แต่เขาก็พยักหน้าเบา ๆ
ความคิดของเฉินเต๋อกัวได้รับผลกระทบเล็กน้อยเมื่อเขาเฝ้าดูคลื่นไฟฟ้าหัวใจที่วุ่นวายเปลียนเป็นเส้นโค้งกระโดดสีเขียวปกติ
“หมอหลิงทําการผ่าตัดตับเช่นกัน เขารู้ค่อนข้างมาก หมอสมัยนี้เก่งเรื่องเดียวหรือสองเรื่องไม่ใช่เหรอ” เฉินเต๋อกัวยังคงตรวจสอบข้อมูลบางอย่างทางออนไลน์และเขายังมีแพทย์เป็นเพื่อนที่เขาสามารถพูดคุยด้วยได้
ผู้อํานวยการแผนกฮง กล่าวเพียงว่า “หลิงรันยังเป็นเด็กเป็นไปได้อย่างไรที่เขาจะเก่งเพียงหนึ่งหรือสองอย่างนับประสาอะไรกับการที่เขาบรรลุจุดสูงสุดแล้วสําหรับทักษะบางอย่าง
“พีค? นั่นไม่ใช่เรื่องเกินจริงหรือ” เฉาซวงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ
“ถ้าไม่ใช่เพราะเขาเป็นแพทยที่ดีที่สุดตอนนี้ คุณจะอยู่ที่นี้หรือไม่” ผู้อํานวยการแผนกฮงถามว่า “คุณรู้ไหมว่าทําไมเขาถึงเปิดทางเดินหายใจเร็วขนาดนี้สําหรับการทํา CPR”
“เราไม่รู้….”
“สิ่งที่คุณต้องรู้ก็คือนี่คือ CPR เวอร์ชันของหลิงรันเข้าใจไหม? การฉีดอะดรีนาลีนในปริมาณขนาดใหญ่สามารถเปิดทางเดินหายใจได้โดยเร็วที่สุดหรือแม้กระทั่งการอัพเกรดเป็นการใส่ท่อช่วยหายใจขั้นสูงและเรื่องอื่น ๆ เป็นต้นเป็นทักษะบูรณาการทั้งหมดของหลิงรันหากไม่ใช่ในเพราะเขายังเด็กอยู่เขาสามารถเปลี่ยนสิ่งนี้ให้เป็นคู่มือ CPR ฉบับภาษาจีนได้” ผู้อํานวยการแผนกฮง พูดเกินจริงเล็กน้อยในคําพูดของเขา แต่นอกเหนือจากปัจจัยภายนอกแล้วหลิงรัน ยังมีคุณสมบัติเพียงพอที่จะให้คําแนะนําในการทํา CPR
ปัจจุบันหลิงหรันเป็นเหมือนศิลปินการต่อสู้มือฉมังที่มีศิลปะการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยม แต่ไม่มีสถานะในโลกของนักศิลปะการต่อสู้ อย่างไรก็ตามเขามีพื้นฐานที่จะตระเวนไปทั่วทุกมุมของประเทศ
หญิงสาวที่กรีดร้องข้างหน้าพวกเขาถูกยกขึ้นไปที่เตียงในโรงพยาบาลดวงตาของเธอว่างเปล่า และมีความกลัวและความตกใจอยู่ในตัว
ความกลัวตายเป็นธรรมชาติของมนุษย์
ชายที่ไม่ได้รับบาดเจ็บซึ่งเป็นพ่อของลูกชายของเธอและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บที่แขนไม่สามารถช่วยได้ แต่ปิดปากและร้องไห้
น้ำตาใสร้อนไหลอาบแก้มของเขาและกลายเป็นน้ำโคลนเมื่อหยดลงบนเสื้อผ้าของเขา พวกเขากลายเป็นเหมือนลูกบอลโคลนหลังจากน้ำตาไหลลงบนอกเสื้อของเขา …
ไม่ใช่สามีของเธอ แต่พ่อของลูกชายเธอร้องไห้อย่างหนักเมื่อไหล่ของเขาสั่น เขากัดฟันด้วยความเจ็บปวด
เฉินเต๋อกัว และ เฉาซวงสังเกตเห็นน้ำโคลนเริ่มหยดลงบนพื้น พวกเขาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ แต่ในขณะเดียวกันพวกเขาก็ไม่กล้าที่จะหัวเราะ
“พวกเขาเป็นครอบครัวเดียวกัน” เฉินเต๋อกัว กระซิบ
“เป็นเรื่องดีที่เธอรอดมาได้” เมื่อ เฉาซวงพูดเช่นนี้เขาก็หยุดก่อนที่จะพูดอีกครั้งว่า “ มันน่าทึงมากที่ได้เห็นแพทย์สองสามคนสามารถทําCPR บนพื้นได้เยี่ยมยอดขนาดนี้”
“อีกทั้งยังสามารถช่วยชีวิตคนๆหนึ่งเอาไวได้” เมื่อ เฉินเต๋อกัว กล่าวเช่นนี้เขาก็เหลือบไปมองหลิงรัน อย่างลึกซึ้งก่อนที่เขาจะกระซิบว่า “ กลับกันเถอะ”