ตอนที่ 612 อาศัยความสามารถของตัวเอง

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 612 อาศัยความสามารถของตัวเอง

ใบหน้าของเซียวหรงเหยี่ยนเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “ที่สำคัญเจ้าเคยบอกกับข้าไว้ว่าหากเราต้องเผชิญหน้ากัน จะไม่นำความรู้สึกส่วนตัวเขามาเกี่ยวข้องเป็นอันขาด”

เมื่อได้ยินเซียวหรงเหยี่ยนกล่าวเช่นนี้ แววตาของไป๋ชิงเหยียนปรากฏรอยยิ้มขึ้นทันที หญิงสาวกล่าว “ข้าขอโทษเพราะเมื่อครู่ข้าแสดงท่าทีก้าวร้าวเกินไป ทว่า รัชทายาทของข้าองค์นี้ หากข้ากล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนไม่แข็งกร้าว เขาไม่มีทางตระหนักถึงความสำคัญของเรื่องนี้ เหมือนตอนที่ข้าเสนอให้เขาส่งกองทัพไปช่วยหรงตี๋ ข้าใช้ถ้อยคำอ่อนโยนเกินไป รัชทายาทจึงไม่เก็บเอาไปใส่ใจ!”

“ข้าเข้าใจ…” เซียวหรงเหยี่ยนมองไปรอบๆ กาย เมื่อเห็นว่าไม่มีผู้ใดอยู่ ชายหนุ่มจึงกำเชือกม้าแน่น ขยับกายเข้าไปใกล้ไป๋ชิงเหยียนอีกเล็กน้อย ดวงตาล้ำลึกมองจ้องไปยังใบหน้านวลขาวสมบูรณ์แบบของหญิงสาวนิ่ง มือใหญ่ที่หยาบกร้านและทรงพลังกุมข้อมือของไป๋ชิงเหยียนเอาไว้ ชายหนุ่มไล้นิ้วมือไปยังข้อมือเล็กเนียนละเอียดของหญิงสาว กล่าวเสียงแผ่วเบา “หากอาเป่ารู้สึกว่าเมื่อครู่ดุข้ามากเกินไป เจ้าชดใช้ให้ข้าสักนิดได้หรือไม่”

สายตาของเซียวหรงเหยี่ยนหยุดอยู่ที่ใบหูที่ได้รับบาดเจ็บของไป๋ชิงเหยียน รั้งกายของไป๋ชิงเหยียนที่ไม่ทันตั้งตัวเข้ามาแนบชิด ใบหน้าของไป๋ชิงเหยียนแดงก่ำ หญิงสาวรีบจับแขนของเซียวหรงเหยี่ยนเอาไว้แล้วผละกายออกห่างเล็กน้อยเพราะกลัวว่าผู้อื่นจะเห็น หญิงสาวกล่าวเตือนเบาๆ “เซียวหรงเหยี่ยน!”

“อย่าขยับ…” เซียวหรงเหยี่ยนขยับเข้าไปใกล้ไป๋ชิงเหยียนอีกก้าว เอื้อมนิ้วมือไปเขี่ยแป้งที่ปกปิดรอยแผลบริเวณใบหูของไป๋ชิงเหยียนออก ชายหนุ่มขมวดคิ้วแน่น ปล่อยมือจากร่างของไป๋ชิงเหยียน ล้วงหยิบยาขวดเล็กออกมาจากอก ชายหนุ่มเปิดฝาขวดยาออก ใช้นิ้วแต้มยาออกมาเล็กน้อย จากนั้นทาไปที่ใบหูของไป๋ชิงเหยียนอย่างแผ่วเบา

ไป๋ชิงเหยียนได้กลิ่นหอมของสมุนไพรจากยา “คือสิ่งใดกัน”

“นี่คือเจียวเหรินจือ ยาลับของราชวงศ์ต้าเยี่ยน รักษาแผลเป็นได้ดีมาก ทว่า ตอนแรกกลิ่นค่อนข้างฉุน ท่านแม่ของข้าจึงปรุงเจียวเหรินจือใหม่เป็นกลิ่นที่นางชอบ นางทดลองอยู่หลายครั้ง จนสุดท้ายก็ได้เจียวเหรินจือที่มีกลิ่นหอมและประสิทธิภาพดีเยี่ยมเช่นนี้ออกมา” เซียวหรงเหยี่ยนใช้นิ้วถูยาในมือจนละลาย จากนั้นทาไปที่ใบหูของไป๋ชิงเหยียนอย่างแผ่วเบา

เซียวหรงเหยี่ยนสั่งให้คนขี่ม้าเร็วกลับขอยาชนิดนี้มาจากพี่ชายของตนที่ต้าเยี่ยน

ลมพัดผ่าน ใบไม้ของต้นไม้เหนือกำแพงสูงส่งเสียงซู่ซู่

“ต่อไปต้องระวังให้มากกว่านี้ เจ้าได้รับบาดเจ็บ…ข้าก็พลอยปวดใจไปด้วย”

น้ำเสียงทุ้มของชายหนุ่มดังขึ้นท่ามกลางเสียงลมพัด ช่างมีเสน่ห์น่าฟังยิ่งนัก

ใบหูของไป๋ชิงเหยียนร้อนผ่าวขึ้นทุกที หญิงสาวไม่รู้จะตอบรับเช่นไร ยกยิ้มมุมปากขึ้นน้อยๆ อย่างไม่รู้ตัว

ไป๋ชิงเหยียนก้มหน้าลง สายตาของหญิงสาวเผลอมองไปยังผ้าคาดเอวหยกเนื้อประณีตบริเวณเอวของเซียวหรงเหยี่ยน หญิงสาวรีบเบนสายตาหนีทันที จากนั้นรับคำ “เข้าใจแล้ว!”

เมื่อเซียวหรงเหยี่ยนทายาเสร็จ ไป๋ชิงเหยียนยื่นผ้าเช็ดหน้าให้เขา วินาทีที่สองสายตาประสานกัน ใจของหญิงสาวเต้นรัวขึ้นมาทันที

“ขอบคุณ…” เซียวหรงเหยี่ยนรับผ้าเช็ดหน้าไปจากมือของไป๋ชิงเหยียน ปิดฝาขวดยาเรียบร้อย จากนั้นส่งให้ไป๋ชิงเหยียน “ทาเช้าเย็นอย่างละครั้ง”

“ขอบคุณมาก…” ไป๋ชิงเหยียนรับยาขวดเล็กมาไว้ในมือ เมื่อเห็นเซียวหรงเหยี่ยนเช็ดมือเสร็จแล้ว ทว่า กลับพับผ้าเช็ดหน้าของนางยัดใส่ในอกของตัวเอง ไป๋ชิงเหยียนจึงเงยหน้ามองเซียวหรงเหยี่ยน

“ถือเป็นของแทนคำขอโทษที่อาเป่าดุข้าเมื่อสักครู่ก็แล้วกัน” เซียวหรงเหยี่ยนยิ้มพลางจูงเชือกม้า “ไปเถิด!”

เซียวหรงเหยี่ยนมองไปยังเงาที่ทอดยาวของเขาและไป๋ชิงเหยียน เอ่ยขึ้นเสียงแผ่วเบา “แม้ครั้งนี้ข้าจะขัดขวางไม่ให้ทูตของต้าจิ้นไปยังเป่ยหรงไม่สำเร็จ ทว่า ไม่ใช่ว่าข้าจะไม่มีวิธีอื่น หากข้าทำสำเร็จ หวังว่าอาเป่าจะไม่โกรธข้า”

ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า พวกเขาทั้งสองคนอาศัยความสามารถของตัวเอง

เซียวหรงเหยี่ยนเดินไปพร้อมกับไป๋ชิงเหยียน มีคนขี่ม้าผ่านไปเป็นบางครา เซียวหรงเหยี่ยนยังคงมีท่าทีปกติตามเดิม ชายหนุ่มเอ่ยถาม “ครั้งนี้คุณหนูใหญ่ไป๋ทำไปเพื่อช่วยแก้ปัญหาให้ข้าหรือขาดแคลนเสบียงจริงๆ ขอรับ”

“แค่ช่วยองค์รัชทายาทแก้ปัญหาก็เท่านั้น!” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวกับเซียวหรงเหยี่ยนยิ้มๆ “ป้องกันเซียวเซียนเซิงยกผลกำไรทั้งหมดในครั้งนี้รัชทายาท ส่วนท่านขอเพียงทุนคืนเท่านั้น หากรัชทายาทเกิดสนพระทัยขึ้นมา คงไม่เป็นผลดีต่อต้าจิ้น”

ไป๋ชิงเหยียนยอมซื้อเสบียงอาหารจากเซียวหรงเหยี่ยนในราคาสูง ประการแรกเป็นเพราะกลัวเซียวหรงเหยี่ยนจะหาข้ออ้างไปเกลี้ยกล่อมรัชทายาทอีก ประการที่สองเพื่อช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนเสบียงของจี้ถิงอวี๋ ถือเป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว

ทั้งสองคนมีความรู้สึกดีๆ ให้กันจริงๆ ทว่า ไป๋ชิงเหยียนไม่สามารถบอกเรื่องที่จี้ถิงอวี๋ขโมยทหารใหม่ของราชสำนักมาเป็นของตัวเองให้เซียวหรงเหยี่ยนรับรู้ได้ ไป๋ชิงเหยียนแยกความรู้สึกส่วนตัวและงานออกจากกันได้อย่างชัดเจน

เซียวหรงเหยี่ยนพยักหน้ายิ้มๆ “หากคุณหนูใหญ่มาช้าอีกสักนิด รัชทายาทคงรับปากเหยี่ยนแล้ว”

“ดังนั้นหากต้าเยี่ยนต้องการครอบครองใต้หล้า ดูเหมือนว่าพวกท่านยังขาดโชคช่วยอยู่อีกสักนิด” ไป๋ชิงเหยียนแกล้งหยอก หญิงสาวเดินเอามือไขว้หลังมุ่งหน้าไปยังคุกศาลต้าหลี่พร้อมกับเซียวหรงเหยี่ยน

การถกเถียงกันต่อหน้ารัชทายาทของเซียวหรงเหยี่ยนและไป๋ชิงเหยียนในครั้งนี้ เซียวหรงเหยี่ยนเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ในสายตาของรัชทายาทเขาคือคนของแคว้นเว่ย เมื่อไป๋ชิงเหยียนและเขาเสนอความเห็นต่อหน้ารัชทายาทพร้อมกัน รัชทายาทย่อมเอนเอียงไปทางไป๋ชิงเหยียนอยู่แล้ว

เซียวหรงเหยี่ยนได้แต่ภาวนาขอให้เซี่ยสวินและเป่ยหรงยึดดินแดนของหนานหรงมาได้บางส่วนก่อนที่คณะทูตของต้าจิ้นจะเดินทางไปถึงเป่ยหรง อย่างน้อยได้ครอบครองหรงตี๋สักครึ่งหนึ่งก็ยังดี เช่นนี้ต้าเยี่ยนจะได้ครอบครองสนามม้าครึ่งหนึ่งของหรงตี๋

บางทีอาจเป็นเพราะตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้แล้ว การที่ทั้งสองคนถกเถียงกันอย่างรุนแรงเมื่อสักครู่ ไม่ได้ทำให้ทั้งคู่รู้สึกบาดหมางใจกันเลยสักนิด

“ต้าเยี่ยนและเป่ยหรงร่วมมือกันโจมตีหนานหรง เซี่ยสวินยืนหยัดขึ้นมาได้อีกครั้งเพราะต้องการแก้แค้นให้องค์หญิงหมิงเฉิงอย่างนั้นหรือ” ไป๋ชิงเหยียนถาม

“ความตายคือเรื่องปกติในสนามรบ หมิงเฉิงเดินทางไปแต่งงานเชื่อมไมตรีที่เป่ยหรง หนานหรงย่อมอยู่เฉยไม่ได้อยู่แล้ว แทนที่จะกล่าวว่าเซี่ยสวินทำไปเพื่อแก้แค้นแทนหมิงเฉิง ไม่สู้กล่าวว่าเขายืนหยัดจากความเจ็บปวดขึ้นมาอีกครั้งเพราะต้องการให้แคว้นต้าเยี่ยนแข็งแกร่งจนไม่ต้องส่งสตรีคนใดไปแต่งงานเชื่อมไมตรีอีกจะดีกว่า” เซียวหรงเหยี่ยนกล่าวอย่างจริงจัง

ไป๋ชิงเหยียนนึกไม่ถึงว่าเซี่ยสวินจะมีปณิธานที่ยิ่งใหญ่เพียงนี้ หญิงสาวถอนหายใจออกมา “ต้าเยี่ยนมีทั้งผู้นำและขุนนางที่แข็งแกร่ง แคว้นจะไม่แข็งแกร่งได้อย่างไรกัน”

เซียวหรงเหยี่ยนได้ยินคำนี้จึงชะงักฝีเท้าลง หันกลับไปมองไป๋ชิงเหยียน “หากต้าเยี่ยนมีองค์หญิงเจิ้นกั๋วที่เก่งทั้งบุ๋นและบู้เช่นนี้อยู่ พวกเราคงไร้เทียมทาน”

ไป๋ชิงเหยียนส่ายหน้า “เซียวเซียนเซิงยกย่องข้าเกินไปแล้ว”

เมื่อเดินไปยังสถานที่ที่เริ่มมีผู้คนพลุกพล่าน ไป๋ชิงเหยียนและเซียวหรงเหยี่ยนต่างเปลี่ยนหัวข้อสนทนา ไม่กล่าวถึงแคว้นต้าเยี่ยนอีก

ไม่ห่างออกไป หลิ่วรั่วฝูเดินลงมาจากรถม้าโดยใช้พัดกลมบังใบหน้า หญิงสาวเหลือบเห็นเซียวหรงเหยี่ยนและไป๋ชิงเหยียนที่เดินเคียงบ่าเคียงไหล่กันมาในทันที หลู่เป่าหวาที่มาเลือกเครื่องประดับที่หอฮวาอิ่งเป็นเพื่อนหลิ่วรั่วฟูกล่าวออกมายิ้มๆ “นั่น…องค์หญิงเจิ้นกั๋วไม่ใช่หรือ”

หอฮวาอิ่งคือร้านขายเครื่องประดับที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองหลวง แม้แต่สตรีของตระกูลสูงศักดิ์ยังต้องมาสั่งจองเครื่องประดับของหอฮวาอิ่งล่วงหน้าเกือบครึ่งปี มิเช่นนั้นจะซื้อได้เพียงเครื่องประดับที่ทำออกมาจำนวนมากของหอฮวาอิ่งเท่านั้น

ทว่า สตรีตระกูลสูงศักดิ์ผู้ใดอยากใส่เครื่องประดับซ้ำกับผู้อื่นกัน หลิ่วรั่วฟูกำลังจะแต่งงานกับเหลียงอ๋อง ท่านยายของนางจึงให้เงินนางมาสั่งทำเครื่องประดับของหอฮวาอิ่งไว้ใช้ในวันแต่งงานและเพื่อเป็นการให้หลิ่วรั่วฟูได้ออกมาผ่อนคลายจิตใจด้วย

เมื่อหลิ่วรั่วฟูได้ยินคำว่าองค์หญิงเจิ้นกั๋ว นางมองไปทางไป๋ชิงเหยียนด้วยแววตาคมกริบ ตอนนั้นเป็นเพราะไป๋ชิงเหยียน นางถึงได้อับอายขายหน้าผู้คนทั้งงานเลี้ยง กลายเป็นตัวตลกของคนทั้งเมืองหลวงเช่นนี้