บทที่ 504 จัดการเรียบร้อย (2)
หลังเดินทางออกจากเมืองหลิงกวนเป็นเวลากว่าชั่วยาม ในที่สุดกู้ฉังชิงและกู้เจียวก็เจอกับม้าที่พวกเขาซ่อนไว้
“จะไม่เป็นอะไรใช่ไหม” กู้ฉังชิงเอ่ยถาม
แน่นอนว่าเขาถามถึงสุขภาพร่างกายของนาง
แต่กู้เจียวดันเข้าใจผิด นึกว่าเขาถามถึงเรื่องที่หมู่บ้าน
“ทหารพวกนั้นจะเดินไปส่งอาหารตามเวลา พวกเขาไม่แม้แต่จะเข้าไปในกระโจม ทุกครั้งที่พวกเขาส่งอาหารเช้า ทหารหน่วยกล้าตายจะทำการเคาะประตูเพื่อเป็นสัญญาณว่าเขายังมีชีวิตอยู่ พวกทหารต้องการรู้แค่ว่าเขายังมีชีวิตอยู่ และไม่ได้จะถามไถ่อะไร เสี่ยวสือโถวย้ายเข้าไปในกระโจมของทหารหน่วยกล้าตายคนนั้น และจะทำหน้าที่เคาะประตูทุกเช้า”
กู้ฉังชิงเอ่ยถามต่อ “แล้วคนอื่นๆ จะไล่เขาออกไปหรือไม่”
“ถ้าพวกเขามีใจอยากจะช่วยคนในครอบครัวกันจริงๆ ก็คงไม่ทำเช่นนั้น” กู้เจียวตอบ
กู้เจียวสัญญาไว้ว่าจะช่วยเหลือครอบครัวพวกเขา อีกทั้งยังทิ้งยารักษาโรคไว้ ขอแค่พวกเขากินยาตามที่สั่ง ก็จะทำให้มีโอกาสรอดชีวิตได้
นอกจากนี้ กู้เจียวยังบอกพวกเขาว่ากองทัพตระกูลกู้มาถึงชายแดนแล้ว และคนที่ยืนอยู่บนสะพานไม้คือนายน้อยของกองทัพตระกูลกู้
ราชสำนักจะไม่ทิ้งแผ่นดินและราษฎรเพียงลำพัง
กู้ฉังชิงรู้สึกซาบซึ้งกับผลงานของน้องสาวคนนี้เป็นอย่างยิ่ง
“ต้องใช้เวลารักษานานเท่าไหร่” กู้ฉังชิงเอ่ยถาม
“เจ็ดถึงสิบวัน” กู้เจียวตอบ “ระหว่างนี้ให้เขาหาลู่ทางหลบหนีออกมาจากที่นั่น หากมีการโจมตีเกิดขึ้นต้องให้พวกเขารู้ล่วงหน้า เขาจะได้พาคนในหมู่บ้านหนีออกไปที่ที่ปลอดคน เพื่อระวังการแพร่เชื้อ”
กู้ฉังชิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและพูดว่า “คงยังไม่มีอะไรต้องกังวลสินะ”
เดิมแผนการคือโจมตีเมืองหลิงกวนก่อน ด้วยความทีเมืองหลิงกวนมีที่ตั้งทางภูมิศาสตร์พิเศษ ทำมุมกับเมืองเย่ว์กู่และเมืองเย่เฉิง หลังจากยึดเมืองได้แล้ว พวกเขาสามารถโจมตีเมืองเย่เฉิงได้จากทั้งสองด้าน
แน่นอนว่า หากเลือกโจมตีเมืองหลิงกวนก่อน พวกเขาอาจถูกกองทัพของอดีตราชวงศ์และของแคว้นเฉินบีบโจมตีได้
กู้ฉังชิงไม่กลัวว่ากองกำลังศัตรูจากทั้งสองเมืองจะร่วมมือกัน เพราะเขารู้จำนวนกองทัพของแต่ละเมืองเป็นที่เรียบร้อย เมืองหลิงกวนมีกองกำลังทหารสามหมื่นคน เมืองเย่เองก็เช่นกัน ขณะที่กองกำลังทหารของตระกูลกู้มีทั้งหมดหนึ่งแสนคน ต่อให้พวกนั้นจะร่วมมือกันเขาก็ไม่เกรงกลัว
เมืองเป่ยอยู่อีกฟากหนึ่งของเมืองเย่ ตราบใดที่พวกเขาเคลื่อนที่เร็วพอ กองทัพศัตรูจากเมืองเป่ยหยางจะไม่ยกมาอย่างรวดเร็ว
“ได้ยินมาว่าเมืองเป่ยหยางจะเพิ่มกองกำลังทหารอีกนะ” กู้เจียวเอ่ย
“มีข่าวเช่นนี้ด้วยรึ” กู้ฉังชิงขมวดคิ้ว
กู้เจียวพยักหน้า “อืม เสี่ยวสือโถวเล่าว่าตอนเขาถูกจับและถูกนำตัวไปที่ไท่โส่วฝู เขาได้ยินการสนทนาระหว่างพลทหารม้ากับแม่ทัพคนหนึ่งของแคว้นเฉิน”
เดิมแคว้นเฉินมีทหารประจำการอยู่ที่ป้อมปราการชายแดนแปดหมื่นนาย หลังจากที่พวกนั้นได้ข่าวว่ากองทหารตระกูลกู้มีกำลังพลหนึ่งแสนนาย ป๋อชินหวังจึงส่งกองกำลังหนึ่งแสนคนจากทั่วแคว้นเฉินมาเสริม
แคว้นเฉินสูญเสียกองกำลังทหารไปสองหมื่นนาย บวกกับกองกำลังที่เหลืออีกสามหมื่นนายจากพวกอดีตราชวงศ์ ทำให้ยังคงมีทหารเหลืออีกเก้าหมื่นนาย ตราบใดที่ไม่มีการระบาดของโรค แทบไม่ต้องพูดถึงว่ากองทัพของตระกูลกู้จะรับมือได้หรือไม่
แต่ถ้ากำลังเสริมหนึ่งแสนคนของแคว้นเฉินมาถึง เรื่องอาจไม่ง่ายขนาดนั้น
กู้ฉังชิงพยักหน้า “ดูเหมือนทหารสามหมื่นนายของเมืองเป่ยหยางจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่แล้วสินะ”
ปัญหาคือนายทหารหนึ่งแสนคนที่เพิ่มเข้ามาต่างหาก
กู้เจียวเอ่ยต่อ “หากทุกครั้งเราสามารถชนะได้ด้วยวิธีมากต่อน้อย ก็สามารถลดการสูญเสียทหารของตระกูลกู้ไปได้ แม้ว่ากำลังเสริมของแคว้นเฉินจะเพิ่มเข้ามา ก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสชนะเสียทีเดียว”
กู้ฉังชิงนึกในใจ ที่นางพูดมาก็มีเหตุผลแฮะ
แต่สิ่งที่กู้เจียวไม่ได้พูดออกมาก็คือ นางต้องการตามหาทหารหน่วยกล้าตายของอดีตราชวงศ์ที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดให้เร็วที่สุด มากกว่าการหาวิธีการจัดการกับกำลังเสริมแสนนายของแคว้นเฉินด้วยซ้ำ
ในเมื่อเรื่องโรคระบาดก็ได้คำตอบมาแล้ว กู้ฉังชิงจึงไม่ต้องออกไปตามหาตัวยา แล้วทหารหน่วยกล้าตายจะเข้ามาทำร้ายกู้ฉังชิงตอนไหนกันล่ะ
ทั้งสองกลับมายังเมืองเย่ว์กู่ และมุ่งหน้าไปยังค่ายทหารก่อน
ทันทีที่พวกเขามาถึงประตูค่ายทหาร ทั้งสองก็เจอะกับท่าทีที่ตื่นเต้นของผู้ว่าเฉิง
เนื้อตัวผู้ว่าเฉิงถูกปกคลุมไปด้วยเกล็ดหิมะ ดูเหมือนว่ามีหิมะตกในเมืองเย่ว์กู่หลังจากที่พวกเขาออกเดินทาง
“นายท่าน! ท่านหมอ!”
ดวงตาผู้ว่าเฉิงเปล่งประกายเมื่อได้เห็นพวกเขาเดินทางกลับมาอย่างปลอดภัย
เขารู้ตัวตนที่แท้จริงของกู้เฉิงเฟิงและกู้เจียวแล้ว โชคดีที่เขาไม่ได้ไปก่อเรื่องให้พวกเขาทั้งสอง
“มีเรื่องอันใดรึ” กู้ฉังชิงเอ่ยถาม
“เอ่อ…”
น้ำเสียงที่จริงจังทำเอาใจของผู้ว่าเฉิงเต้นไม่เป็นจังหวะ ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักว่ากู้ฉังชิงกำลังถามเขาว่าทำไมเขาถึงออกจากตำแหน่งโดยไม่ได้รับอนุญาตและมาปรากฏตัวที่นี่
เมืองเย่ว์กู่เพิ่งหมดสงครามและยังมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องดูแล ในฐานะนายอำเภอของเมือง เขาควรจะจัดการกับการตั้งถิ่นฐานใหม่ของผู้คน
“ข้าน้อยเพิ่งกลับมาจากเพิงแจกข้าวต้มขอรับ” เขาอดไม่ได้ที่จะปาดเหงื่อเย็น แต่โชคดีที่เขาฝ่าลมและหิมะไปช่วยผู้ประสบภัยตลอดบ่าย “ข้าน้อยมาที่นี่เพื่อรายงานสถานการณ์ให้ท่านขอรับ”
“ข้างนอกอากาศหนาว เข้าไปด้านในเถิด” กู้ฉังชิงเปิดม่านออกให้กู้เจียวเดินเข้าไปข้างในด้วยท่าทีอันอ่อนโยนซึ่งต่างกับเมื่อครู่นี้ราวกับคนละคน
หลังจากที่กู้เจียวเดินเข้าไป น้ำเสียงของกู้ฉังชิงก็เย็นชาอีกครั้ง “เจ้าไม่จำเป็นต้องรายงานเรื่องภายในของเจ้าให้ข้าทราบหรอก”
“เอ่อ…ขอรับ! ขอรับ!”
นายทหารกู้เปลี่ยนอารมณ์รวดเร็วเสียยิ่งกว่าเปิดหนังสือ
“ทว่ามีอีกเรื่องที่ข้าน้อยยังไม่ได้แจ้งให้ท่านได้ทราบนะขอรับ” ผู้ว่าเฉิงเอ่ยพลางทำหน้ายิ้มกริ่ม
“เรื่องอันใดรึ”
“ท่านเหล่าโหวฟื้นแล้วขอรับ!” ผู้ว่าเฉิงเอ่ยด้วยรอยยิ้มกว้าง