ตอนที่ 1247 ตอนที่ 1248 เปรียบพลังวิญญาณขั้นสีม่วงกับข้า (2)

ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร

ตอนที่ 1247 เปรียบพลังวิญญาณขั้นสีม่วงกับข้า (1) / ตอนที่ 1248 เปรียบพลังวิญญาณขั้นสีม่วงกับข้า (2)
ตอนที่ 1247 เปรียบพลังวิญญาณขั้นสีม่วงกับข้า (1)

ฮ่องเต้รัฐจิ้วรู้มาตลอดว่าผู้อาวุโสหวงมีพลังวิญญาณขั้นสีม่วง แต่ไม่เคยเห็นเขาต่อสู้เลย ตอนนี้จวินเสียนั่งอยู่ในท้องพระโรง มีองครักษ์อยู่แค่ไม่กี่คน ต่อให้เป็นฮ่องเต้รัฐเหยียน เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วงโดยไม่มีกองทัพทหารกล้าล้านคนอยู่ด้วย ก็เป็นแค่คนอ่อนแอเท่านั้น!

ฮ่องเต้รัฐจิ้วแทบทนรอไม่ไหวที่จะได้เห็นหัวของจวินเสียหลุดออกจากบ่า!

ถ้าจวินเสียตายที่นี่วันนี้ รัฐเหยียนก็จะเกิดความโกลาหลวุ่นวาย ตอนนั้นเขาก็แค่นั่งรอรับผลประโยชน์จากมัน!

พลังวิญญาณขั้นสีม่วงส่องแสงสว่างจ้าอยู่ตรงหน้าจวินอู๋เสีย แต่นางก็ยังนั่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยท่าทางหยิ่งผยอง ใบหน้าที่วางอยู่บนฝ่ามือไม่ขยับแม้แต่นิด ดวงตานิ่งสงบเหมือนน้ำนิ่ง สายตาเย็นชามองไปที่ผู้อาวุโสหวงที่ยังมีแสงพลังวิญญาณขั้นสีม่วงเปล่งออกจากร่าง

“พลังวิญญาณขั้นสีม่วง” จวินอู๋เสียเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง นั่นเป็นปฏิกิริยาที่มากที่สุดของนางแล้ว

ผู้อาวุโสหวงตอบด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน

ฮ่องเต้รัฐจิ้วใช้โอกาสนั้นแผดเสียงหัวเราะพร้อมกับพูดว่า “ฮ่องเต้รัฐเหยียน ข้าไม่ได้จัดฉากวางกับดักเจ้านะ ไม่มีใครบอกให้เจ้าไปเป็นศัตรูกับผู้อาวุโสหวง คนที่แข็งแกร่งอย่างผู้อาวุโสหวงไม่ใช่คนที่เด็กน้อยอย่างเจ้าจะหักหน้าได้ตามใจชอบ”

“คนที่แข็งแกร่ง” จวินอู๋เสียหลุบตาลงเล็กน้อย “แล้วไง ก็แค่พลังวิญญาณขั้นสีม่วง”

คำพูดของจวินเสียทำให้ผู้อาวุโสหวงขมวดคิ้วเข้าหากัน เขารู้สึกว่าท่าทางสงบนิ่งของจวินเสียนั้นแปลกมาก เนื่องจากถึงแม้ว่าพลังขั้นสีม่วงจะเป็นเรื่องธรรมดาในสามโลกชั้นกลาง แต่ในสามโลกเบื้องล่างนั้นมันหายากอย่างถึงที่สุด แต่ปฏิกิริยาของเด็กหนุ่มคนนี้สงบเกินไป ผู้อาวุโสหวงจึงอดรู้สึกไม่ได้ว่ามันค่อนข้างแปลกไปหน่อย

ดูเหมือนฮ่องเต้รัฐจิ้วไม่ได้สังเกตความผิดปกตินี้ และคิดว่าจวินเสียแค่วางมาดทำเป็นกล้าหาญ เขาตั้งตารอให้ผู้อาวุโสหวงจัดการสั่งสอนมารยาทให้เจ้าเด็กนั่น

“แค่พลังวิญญาณขั้นสีม่วง คำพูดพวกนั้นไม่หยิ่งเกินไปหน่อยหรือ ที่ข้ารู้มา ดินแดนในโลกนี้ไม่ได้พบเจอผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วงมาเกือบศตวรรษแล้ว ยกเว้นเวินซินหันผู้อาวุโสกิตติมศักดิ์ของสำนักศึกษาเฟิงหัวซึ่งเป็นผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วงเพียงคนเดียวในช่วงนี้ ฮ่องเต้รัฐเหยียนไม่ประทับใจพลังวิญญาณขั้นสีม่วง หรือว่าเจ้าเคยเห็นผู้อื่นที่มีพลังวิญญาณขั้นสีม่วง” ฮ่องเต้รัฐจิ้วกลัวว่าผู้อาวุโสหวงจะไม่โกรธมากพอ จึงพยายามปลุกปั่นใส่ไฟเข้าไปอีก

จวินอู๋เสียชำเลืองมองเขาอย่างเย็นชา

“พลังวิญญาณขั้นสีม่วงแข็งแกร่งมากหรือ”

น้ำเสียงของนางเฉยเมยไม่สนใจเหมือนกับถามเรื่องดินฟ้าอากาศไปอย่างนั้นๆ

“ดูเหมือนเจ้าจะชอบพลังวิญญาณขั้นสีม่วงมาก อย่างนั้นก็ดี…” จวินอู๋เสียเริ่มพูดพร้อมกับที่มุมปากโค้งขึ้นเล็กน้อย นางเชิดหน้านิดหนึ่งและโบกมือข้างที่เป็นอิสระให้กลุ่มคนที่ยืนอยู่ข้างหลังนาง

“ถ้าฮ่องเต้รัฐจิ้วเป็นกบในกะลา พวกเจ้าก็ช่วยแง้มกะลาให้เขาเห็นหน่อยว่าพลังวิญญาณขั้นสีม่วงมันเป็นอย่างไร”

คำพูดของจวินอู๋เสียทำให้ฮ่องเต้รัฐจิ้วมึนงง ขณะที่เขากำลังสับสนอยู่นั่นเอง ในเจ็ดคนที่ยืนอยู่ข้างหลังจวินเสีย แสงพลังวิญญาณขั้นสีม่วงก็เปล่งออกมาจากร่างของคนหกคน!

แสงสีม่วงสว่างจ้าไปทั่วทั้งท้องพระโรง!

ยกเว้นชายชราหน้าเศร้า ผู้เยาว์ห้าคนและบุรุษผู้มีใบหน้าเย็นชาที่อยู่ด้านหลังของจวินอู๋เสียล้วนเป็นผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วงทั้งหมด!

ฮ่องเต้รัฐจิ้วตกใจจนเกือบตกจากบัลลังก์ มงกุฏหยกบนหัวเขาเอียงกระเท่เร่ ขณะที่เขาจ้องมองด้วยสายตาเหลือเชื่อ ไม่สามารถทำใจเชื่อได้ว่าจวินเสียได้พาผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วงถึงหกคนมากับเขาด้วย!

เป็นไปได้อย่างไรกัน!

ผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วงนั้นหายากมากจนเกือบเป็นแค่ตำนานในสามโลกเบื้องล่าง ฮ่องเต้รัฐจิ้วคิดว่าจวินเสียช่างไม่กลัวและบ้าบิ่นมากที่พาคนเข้ามาในเมืองหลวงรัฐจิ้วพร้อมเขาแค่เจ็ดคน ความเป็นชายหนุ่มเลือดร้อนทำให้เขาคิดอะไรไม่รอบคอบ ใครจะไปคิดว่าคนที่จวินเสียพามาไม่ใช่แค่องครักษ์ธรรมดา แต่เป็นผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วงทั้งกลุ่ม!

ตอนที่ 1248 เปรียบพลังวิญญาณขั้นสีม่วงกับข้า (2)

ก็สงสัยอยู่ว่าทำไมจวินเสียถึงกล้าวางอำนาจกลางท้องพระโรงวังหลวงของรัฐจิ้ว ที่แท้ก็เป็นเพราะผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วงหกคนที่ยืนอยู่ข้างหลังเขามาตลอดนั่นเอง!

มีองครักษ์ขั้นเทพคอยคุ้มกันอยู่แบบนี้ ใครจะแตะต้องเขาได้

ฮ่องเต้รัฐจิ้วยิ้มไม่ออกอีกต่อไป เขามองผู้ใช้พลังวิญญาณหกคนที่ยืนอยู่ข้างหลังจวินเสีย แล้วคิดย้อนกลับไปถึงคำพูดทั้งหมดที่เขาพูดไปเมื่อครู่ เขาอยากจะกลืนคำพูดพวกนั้นกลับเข้าไปเสียเหลือเกิน!

ถึงจะมีผู้อาวุโสหวงอยู่ด้วย แต่ผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วงหนึ่งคนจะไปสู้กับผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วงหกคนได้อย่างไร

ฮ่องเต้รัฐจิ้วที่เต็มไปด้วยความรู้สึกยินดีปรีดาอยู่เมื่อครู่ก็กลายเป็นลูกเจี๊ยบตัวน้อยที่กำลังหวาดกลัว มือของเขาเริ่มสั่นระริก

เขาหันไปมองผู้อาวุโสหวงอย่างร้อนรน แต่ปฏิกิริยาของผู้อาวุโสหวงทำให้เขาสิ้นหวังมากกว่าเดิม

สีหน้าตกตะลึงของผู้อาวุโสหวงไม่ได้น้อยไปกว่าฮ่องเต้รัฐจิ้วเลย และสิ่งที่เขารู้จากภาพนั้นยังมากกว่าสิ่งที่ฮ่องเต้รัฐจิ้วเห็นเสียอีก

พลังวิญญาณขั้นสีม่วงในสามโลกชั้นกลางนั้นพบเห็นได้ทั่วไป ทุกคนที่อายุถึงเกณฑ์จะสามารถใช้วิธีพิเศษเพื่อยกระดับพลังขึ้นไปเป็นพลังขั้นสีม่วงได้ชั่วคราว จากคนทั้งหกที่อยู่ข้างหลังจวินเสีย ผู้อาวุโสหวงเห็นได้ว่ามีห้าคนที่ใช้วิธีนั้นเพิ่มพลังของตัวเอง แม้ว่าผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วงที่ใช้วิธีนี้เลื่อนระดับพลังของตัวเองจะไม่สามารถต้านทานผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วงที่แท้จริงได้ แต่ถ้าอยู่ในสถานการณ์หนึ่งต่อห้า ต่อให้เป็นผู้ใช้พลังขั้นวิญญาณสีม่วงที่แท้จริงก็คงไม่รอดเมื่อถูกโจมตีพร้อมกัน

สิ่งที่ทำให้ผู้อาวุโสหวงตกใจจริงๆ ก็คือบุรุษร่างสูงที่มีใบหน้าเย็นชาแข็งกระด้างคนนั้น

พลังวิญญาณขั้นสีม่วงบนร่างของบุรุษคนนั้นรุนแรงมากเป็นพิเศษ แม้แต่เขาก็ต้องยอมรับว่าพลังของบุรุษคนนี้เหนือกว่าตัวเขาเองมาก!

เดิมทีเขาอยากใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วงของเขาทำให้พวกมดแมลงของสามโลกเบื้องล่างหวาดกลัว แต่ผู้อาวุโสหวงกลับถูกตบหน้าฉาดใหญ่หกครั้งรวด!

ต่อให้กันบุรุษร่างสูงออกไปได้ แต่แค่ผู้เยาว์ห้าคนก็มากเกินกว่าที่เขาจะรับมือได้แล้ว

ความหยิ่งผยองหดหายไปในทันที ปากของผู้อาวุโสหวงกระตุกเล็กน้อย

“ไม่ทราบว่าสหายมาจากตำหนักไหนอย่างนั้นหรือ ไม่คิดเลยว่าท่านจะร่วมมือกับรัฐเหยียน” ผู้อาวุโสหวงไม่ใช่คนโง่ ผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วงที่แข็งแกร่งขนาดนี้ เป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นคนของสามโลกเบื้องล่าง และวิธีการเพิ่มระดับขั้นพลังวิญญาณชั่วคราวนั่นก็ไม่มีใครในสามโลกเบื้องล่างรู้ ไม่ว่าจะเป็นบุรุษคนนั้นหรือผู้เยาว์ทั้งห้า ทุกคนล้วนมาจากสามโลกชั้นกลางอย่างแน่นอน!

เมื่อคิดถึงข้อเท็จจริงที่ว่าตำหนักมังกรสวรรค์ได้ร่วมมือกับรัฐจิ้วเพื่อค้นหาและเปิดสุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิ ผู้อาวุโสหวงก็รู้ทันทีว่าคนพวกนี้ต้องมาจากตำหนักอื่น และเป้าหมายของพวกเขาก็คงอยู่ที่สุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิเช่นกัน รัฐเหยียนเป็นรัฐที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในสามโลกเบื้องล่าง การที่พวกเขาจะถูกเลือกก็สมเหตุสมผลอย่างยิ่ง

เยี่ยซาและคนอื่นๆ ไม่ตอบสนอง สีหน้าของผู้อาวุโสหวงจึงยิ่งไม่น่าดูเข้าไปอีก

จวินอู๋เสียยังคงเอามือเท้าคางขณะมองสีหน้าที่เปลี่ยนไปของผู้อาวุโสหวงอย่างสงบนิ่งและไม่สะทกสะท้าน

“อะไร เจ้าไม่ได้ประกาศหรือว่าจะสั่งสอนข้าน่ะ ข้านั่งรออยู่นานแล้ว ตกลงจะไม่ทำแล้วหรือ”

ผู้อาวุโสหวงโกรธจัดจนแทบกระอักโลหิต เขาหรี่ตามองฮ่องเต้รัฐเหยียนด้วยความโกรธ อยากจะเอาฝ่ามือทุบใบหน้านั้นเต็มทน

ไร้ยางอาย! !

พาผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วงมาหกคน แล้วขอให้คน ‘สั่งสอน’ เนี่ยนะ ใครจะกล้า

กลัวว่าก่อนที่เขาจะได้แตะปลายเสื้อของจวินเสีย เขาก็คงถูกผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วงที่อยู่ข้างหลังฮ่องเต้หนุ่มเตะกระเด็นออกไปนอกท้องพระโรงแล้วน่ะสิ!

ไม่ว่าผู้อาวุโสหวงจะคับข้องใจมากแค่ไหน เขาก็ไม่กล้าพูดอะไรออกไปตอนนี้หรอก