ตอนที่ 645 ความเห็นแก่ตัว

My Disciples Are All Villains

ลู่โจวใช้ความคิดในขณะที่ลูบเครา

ถ้าหากยู่ฉางตงอยู่ในดินแดนของดอกบัวสีแดงแล้ว มันคงจะยากที่จะหาตัวเขาเจอ ลู่โจวคิดกังวลถึงนิสัยที่ดื้อรั้นและไม่คิดที่จะยอมแพ้ของศิษย์คนนี้และยิ่งเป็นกังวล…

เขาถอนหายใจก่อนที่จะคิดกับตัวเอง มีเพียงศิษย์คนที่สี่เท่านั้นสินะที่จะหายตัวไปเฉยๆ ได้
ลู่โจวเปิดระบบขึ้นมาก่อนจะตรวจสอบแต้มบุญที่เหลืออยู่

แต้มบุญ: 5,603

เขาเหลือค่าความโชคดีอีก 12 แต้ม

ลู่โจวไม่คิดว่าจะซื้อการ์ดอะไรดีๆ ด้วยแต้มบุญที่เหลือได้

“ถ้าหากเป็นแบบนี้ก็มีแต่จะต้องเสี่ยงดวง

“ติ้ง! ใช้แต้มบุญ 50 ใช้ค่าความโชคดี 12 ได้รับการ์ดพลังชีวิต x12”

“ไม่เลว ต้องไปต่อ

“จับฉลากนําโชค”

“ติ้ง! ใช้แต้มบุญ 50

ได้รับการ์ดพลังชีวิต x5”

“ความพ่ายแพ้ต่อเนื่องก่อนหน้านี้จะต้องถูกแก้แค้น!”

ลู่โจวรู้สึกดี

“จับฉลากนําโชค!”

“ติ้ง! ใช้แต้มบุญ 50 ได้รับค่าโชคดี 1 แต้ม”

หลังจากนั้นลู่โจวก็จับฉลากนําโชคสิบครั้งติดต่อกัน มีเพียงค่าความโชคดีเท่านั้นที่ตัวเขาได้กลับมา

ลู่โจวขมวดคิ้ว หรือว่าโชคดีของฉันจะหมดลงแค่นี้? ต้องอีกครั้ง!”

ในขณะเดียวกัน

ภายในห้องประชุมของมณฑลเหลียง

สีวู่หยาตกใจเมื่อได้อ่านบันทึกของหลัวชีหยินจบ เขามองดูส่วนที่ถูกฉีกขาดก่อนที่จะถอนหายใจออกมา ถ้าหากได้รู้ถึงสิ่งที่ขาดหายไปได้ มันอาจจะช่วยทําให้เขาอนุมานได้อย่างแม่นย่ามากขึ้น

สีวู่หยารีบหยิบพู่กันก่อนที่จะเริ่มขีดเขียน ไม่นานนักแผนที่ที่ดูเรียบง่ายก็ปรากฏขึ้น

ในตอนนั้นเองเจียงอาเฉียนก็ได้เดินเข้ามา “ท่านกําลังวาดอะไรอยู่?”

“แผนที่”

เจียงอาเฉียนขยับเข้ามาใกล้ เมื่อมองเข้าไปในแผนที่เขาก็ตกตะลึงเล็กน้อย “แผนที่ของดินแดนหยานทั้งสองที่?”
“ไม่ใช่”

“แผนที่ด้านซ้ายจะต้องเป็นแผนที่ดินแดนหยาน ข้าจ่ามันได้…แต่แผนที่ทางด้านขวา มันไม่ใช่แผนที่ของดินแดนหยานหรอกเหรอ?” เจียงอาเฉียนถาม

สีวู่หยาชี้ไปยังบันทึกข้างๆ “ถ้าหากเจ้ามีเวลาก็ลองศึกษาบันทึกนั่นดู…บันทึกนั้นมาจากแม่นางแซ่หลัว บุคคลลึกลับที่พวกเราเฝ้าตามหา นางบอกเอาไว้อย่างชัดเจนว่าที่บ้านเกิดของนางคล้ายคลึงกับดินแดนหยาน”

เจียงอาเฉียนลูบคางก่อนที่จะเฝ้ามองแผนที่ แล้วส่วนที่ทับซ้อนกันมันคืออะไร”

“หุบเหว”

สีวู่หยาพูดต่อ “ท่านอาจารย์ได้ลงไปยังก้นบึงของหุบเหวแสนฟุตก่อนที่จะได้รับหัวใจของไปเหยามาจากที่นั่น ข้าเคยอ่านบันทึกโบราณมาก่อน ไปเหยาเป็นสัตว์ร้ายระดับสูงที่หายสาบสูญไปนานมากแล้ว แม้แต่ผู้มีพลังอวตารดอกบัวแปดกลีบก็ยังไม่กล้าที่จะต่อสู้กับมัน ที่ก้นเหวนั้นทางทิศใต้จะต้องเป็นดินแดนแห่งดอกบัวสีแดงแน่!”

“…” เจียงอาเฉียนขมวดคิ้ว ยิ่งดูแผนที่เขาก็ยิ่งรู้สึกคุ้นเคย “ข้าเคยเห็นภาพนี้มาก่อน!”

“เจ้าไม่ได้เข้าใจผิดไปหรอก…ในหอจดหมายเหตุภายในพระราชวังมีผลงานของผู้ชี้แนะองค์จักรพรรดิถูกเก็บเอาไว้ มันคือภาพร่างนั่น หลิวคู่พ่อของเจ้าเป็นผู้รู้ความลับของผู้ชี้แนะคนนั้น นั่นเป็นเหตุผลที่ทําให้เขาหมกมุ่นอยู่กับพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบ” สีวู่หยาพูด

“อย่าเอ่ยถึงเจ้านั่นเลย เจ้านั่นไม่ใช่พ่อข้า…พ่อของข้าน่ะตายไปนานแล้ว” เจียงอาเฉียนที่พูดเสร็จถอนหายใจ

สีวู่หยารู้ดีว่าเขาไม่ควรเอ่ยถึงคนตาย หลังจากนั้นเขาได้ถามออกมาด้วยความสงสัย “ยังไงซะดินแดนหยานก็ไม่อาจอยู่ได้ถ้าไร้ซึ่งจักรพรรดิ ศิษย์พี่ใหญ่ไม่ได้มีแซ่หลิว ทําไมเจ้าไม่ขึ้นครองบัลลังก์ซะล่ะ?”

“อย่าพยายามหลอกให้ข้าครองบัลลังก์เลย…” เจียงอาเฉียนส่ายหัว “ข้าไม่เคยสนใจบัลลังก์นั่น ข้าไม่เคยสนใจองค์ชายทั้งห้าหรืออะไรก็ตาม ข้าคิดว่าจ้าวยู่น่ะทําหน้าที่ได้ดีแล้ว ข้าหวังว่านางจะทําหน้าที่นั้นได้”

“มันไม่ง่ายหรอกนะที่หญิงสาวจะขึ้นครองบัลลังก์

“พอเถอะ…บอกแล้วไงว่าข้าไม่อยากครองบัลลังก์ ถ้าหากยู่เฉิงไห่กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง ข้าอยากที่จะเปลี่ยนราชวงศ์ให้ใช้แซ่ยู่ซะด้วยซ้ํา” เจียงอาเฉียนโบกมือปฏิเสธ

เมื่อได้ฟังแบบนั้นสีวู่หยาก็ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้

เจียงอาเฉียนในอดีตได้ออกจากพระราชวังมาและไม่คิดที่จะกลับไป ไฟที่เผาผลาญต่าหนักจึงเหอทําให้เจียงอาเฉียนไม่คิดที่จะกลับไป การกลับไปสําหรับเจียงอาเฉียนก็มีแต่จะทําร้ายจิตใจไปซะเปล่าๆ

เจียงอาเฉียนชี้ไปที่แผนที่ “พูดเรื่องนี้ต่อเถอะ ถ้าหากสิ่งที่ท่านพูดเป็นความจริง ผู้ชี้แนะคนนั้นก็คงจะเป็นคนจากอีกโลกสินะ? คนพวกนั้นจะต้องมีพลังเหนือกว่าพวกเราแน่ แล้วทําไมพวกเขาถึงยังไม่บุกโจมตีดินแดนหยานกันล่ะ?”

สีวู่หยายิ้มก่อนที่จะตอบกลับ “ก็เพราะความเห็นแก่ตัวนั่นแหละ”

“เห็นแก่ตัว?”

“ทุกคนต่างก็เห็นแก่ตัว ข้าเคยศึกษาสิ่งที่ผู้ชี้แนะเคยทํา ที่ดินแดนหยานไม่ใช่ทีเดียวที่เขาเดินทางไป นอกจากนี้ยังมีดินแดนทั้ง 12 แห่ง พันธมิตรของหรงซีและหรงเปยด้วย ไม่ว่าเขาจะไปที่ไหนเขาก็จะกลายเป็นผู้ที่มีอานาจอยู่เสมอ ในตอนที่เป็นผู้ชี้แนะของดินแดนหยาน จักรพรรดิหยงโชวก็เชื่อฟังเขา เขาชี้นําให้อดีตจักรพรรดิต่อสู้กับอาจารย์ข้าโดยใช้ดาบแห่งความเงียบ”

สีวู่หยาพูดต่อ “เขาเป็นผู้ที่ทรงพลังที่สุดในดินแดนของพวกเรา…”

คิ้วของเจียงอาเฉียนขมวดเข้าหากัน “ถ้าหากพูดถึงขนาดนั้นแล้ว แสดงว่าชายคนนี้จะต้องน่าขยะแขยงมากแน่…”

“ผู้ชี้แนะเจียงเหวินซูคนนี้อาจจะเป็นผู้มีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบ ปัจจุบันเขาอาศัยอยู่ที่ลั่วหลาน” สีวู่หยาพูดต่อ

“เก้ากลีบ? แล้วทําไมถึงไม่เกิดภัยพิบัติขึ้นล่ะ?”

“มีความเป็นไปได้อยู่สองอย่าง ความเป็นไปได้แรกทุกอย่างก็คือเรื่องหลอกลวง แต่มันไม่น่าจะเป็นไปได้ การปรากฏตัวของไปเหยาและเฉินกวางได้เปลี่ยนความคิด ข้าผู้มีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบอาจจะดึงดูดสัตว์ร้ายทั้งหลาย ส่วนความเป็นไปได้ที่สองผู้ชี้แนะคนนี้พยายามไม่ให้มีผู้มีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบเกิดขึ้นด้วยวิธีการบางอย่าง”

“แล้วผู้อาวุโสจีล่ะ.?” เจียงอาเฉียนถาม

สีวู่หยาใช้ความคิดไปพักหนึ่ง หลังจากนั้นเขาก็ตอบออกมา “ข้าเองก็ไม่รู้

“ท่านกําลังลังเลที่จะบอกเรื่องที่รู้รึเปล่า?” เจียงอาเฉียนถามด้วยรอยยิ้ม

“ยังเร็วเกินไปที่จะด่วนสรุป พวกเราจะได้รู้ทุกอย่างหลังจากที่อาจารย์ของข้ากลับมาจากลัวหลาน

“ท่านพูดถูกแล้วล่ะ”

ขณะเดียวกันภายในห้อง

“จับฉลากนําโชค”

“ติ้ง ใช้แต้มบุญ 50 ได้รับค่าความโชคดี 17

“อีกแค่ครั้งเดียว” ลู่โจวลูบเคราอย่างช่วยไม่ได้

ในตอนนี้ลู่โจวมีค่าความโชคดี 99 แต้ม แต้มบุญของเขาเหลือเพียงแค่ 553 เท่านั้น ลู่โจวสงสัยว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นถ้าหากค่าความโชคดีไปถึงสามหลัก

ลู่โจวไม่รีบร้อนที่จะจับฉลากนําโชค เขาได้พักไปครู่หนึ่ง ดูเหมือนว่าวันที่โชคดีสําหรับเขาก็ยังไม่สู้ดีเท่าไหร่

ครูต่อมา…

“จับฉลากนําโชค”

“ติ้ง! ใช้แต้มบุญ 50 ใช้ค่าความโชค 99 ได้รับการ์ดระเบิดจุดสุดยอด xl

“การ์ดระเบิดจุดสุดยอด การที่จะทําให้ใช้พลังสูงสุดของจีเทียนเด้ในเวลา 30 นาทีได้”

“นี่มันการ์ดหายาก ฉันจะต้องใช้มันให้คุ้มค่าที่สุด” ดวงตาของลู่โจวเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ

การ์ดระเบิดจุดสุดยอด!?

“ร้อยู่แล้วว่าจะต้องมีของที่ยอดเยี่ยมรออยู่

แม้ว่าลู่โจวจะคาดหวังถึงสมบัติล้ําค่า แต่การ์ดใบนี้ก็ไม่ได้ทําให้เขาผิดหวัง การ์ดใบนี้สําคัญสําหรับลู่โจวมาก เขาเป็นเพียงคนเดียวเท่านั้นที่รู้ว่าการ์ดใบนี้มีพลังมหาศาลมากแค่ไหน ด้วยการ์ดใบนี้แม้แต่พันธมิตร 12 ดินแดนก็ยังไม่สามารถทําอะไรเขาได้!

ลู่โจวมองดูการ์ดอย่างตื้นตันก่อนที่จะเก็บมันไป