บทที่ 681 ตกลงมาจากฟ้า

บ่ายวันรุ่งขึ้น

มีคนกลุ่มหนึ่งเดินออกมาจากส่วนลึกที่สุดของป่า ร่างกายเต็มไปด้วยฝุ่น ทั้งกลุ่มมีอยู่เจ็ดคน ผู้นำกลุ่มเป็นหญิงสาวใบหน้างดงาม ท่าทีสงบมั่นคง ถัดจากนางเป็นเด็กหญิงตัวน้อยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส นางกระซิบบางอย่างที่ใบหูของหญิงสาวทำให้หญิงผู้นั้นถึงกับมีรอยยิ้มออกมา

คนกลุ่มที่ว่าคือกลุ่มของถังหลี่นั่นเอง

ไม่กี่วันก่อนพวกเขาหลงติดอยู่ในค่ายกลที่ไม่อาจหาทางออกได้ ภายใต้สถานการณ์ที่สิ้นหวัง โชคดีเหลือเกินที่หวังหยูจดจำรูปแบบ และสามารถแก้ไขค่ายกลได้ จนในที่สุดจึงพาพวกเขาออกมาได้ ไม่เช่นนั้นแล้วคงจะเดินวนกันไปมาอย่างไม่รู้จบ

หลังจากออกมาแล้ว พวกเขาเดินเลาะเลียบไปตามสันเขาและป่าลึก ข้ามแม่น้ำหลายสาย ไม่ได้พบเจอผู้คนเลย

เป็นเรื่องยากมากที่จะหาจ้าวจิ่งซวนเจอได้ ท่ามกลางทิวเขาที่กว้างใหญ่เช่นนี้

“ท่านแม่ มีหมู่บ้านอยู่ด้านหน้า!” ซานเป่าตะโกนบอกมารดาอย่างตื่นเต้น ถังหลี่เห็นมาแต่ไกลเช่นกัน

พวกเขาไม่ได้เจอใครระหว่างทางมาเป็นเวลาสิบกว่าวัน นั่นหมายถึงได้ดั้นด้นมาถูกทางแล้ว!

ทันใดนั้น ถังหลี่ก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้ นางมองไปที่ผู้คนที่เดินอยู่ด้านหลังของตน

“ซ่อนตัวกันก่อน อย่าให้คนในหมู่บ้านเห็น” การมีค่ายกลโบราณจัดเอาไว้ ก็เพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลภายนอกเข้ามาถึงหมู่บ้าน สันนิษฐานว่าพวกเขาคงไม่ยินดีต้อนรับผู้อื่นเป็นแน่

ยิ่งไปกว่านั้น ก็เพื่อป้องกันไม่ให้คนจากเผ่าอู๋ซานออกไปโดนไล่ล่าจากผู้คนที่ด้านนอก มีความเป็นไปได้ที่ชาวเผ่าอู๋ซานจะเจอกับคนโลภและชั่วช้า ในที่สุดก็จะโดนจับตัวไปขายเป็นทาส ถ้าหากพวกเขาเห็นกลุ่มของถังหลี่ อาจจะอยากฆ่าคนของนางโดยไม่ฟังเหตุผลก็เป็นได้ ถังหลี่จึงรีรอที่จะดูสถานการณ์ก่อน

“ท่านแม่ ฟังสิ! มีเสียงอะไรลอยมา?” ซานเป่าเงี่ยหูฟังพร้อมกับถังหลี่

“นั่นเป็นเสียงงานเฉลิมฉลอง น่าจะเป็นงานแต่งงาน”

“ชาวเผ่าโบราณมีพิธีแต่งงานด้วยหรือ?” ดวงตาของซานเป่าเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น

“ท่านแม่ เราไปดูด้วยกันเถอะ” ถังหลี่พยักหน้า จับมือซานเป่าเดินไปหาเสียงโห่ร้องแสดงความยินดี

“ดูสิ! มีคนมากมาย” ซานเป่าชี้มือไปทางชาวบ้าน นางกวาดสายตาดูเห็นว่าบ้านหลังนี้ใหญ่กว่าบ้านหลังอื่นมากนัก มีคนมากหน้าหลายตารุมล้อมอยู่ที่หน้าประตู เสียงแสดงความยินดีดังออกมาจากที่นั่น ถังหลี่และผู้ร่วมเดินทางต่างพากันไปแอบหลังก้อนหินขนาดใหญ่ ตรงจุดนั้น นางจะมองเห็นสีหน้าของผู้คนได้อย่างชัดเจน

ถังหลี่และซานเป่าพากันซุ่มแอบมอง เสื้อผ้าของชนเผ่าโบราณแตกต่างจากภายนอก ไม่มีผ้าคลุมหน้า และบางส่วนของเสื้อผ้าทำมาจากหนังสัตว์

“ท่านแม่ เจ้าสาวอยู่ตรงนั้น!” ซานเป่าลดเสียงลง มองไปก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นเจ้าสาว เป็นเพราะชุดสีแดงที่นางสวมใส่อยู่และผมที่เกล้าหวีอย่างประณีต นางเป็นหญิงสาวที่สวยมาก

“เจ้าสาวดูไม่มีความสุขเลย?” ซานเป่าตั้งข้อสังเกต ใช่แล้ว! บนใบหน้าของเจ้าสาวไร้รอยยิ้มอย่างที่ควรจะมี ทั้งๆ ที่วันนี้เป็นวันสำคัญ แต่นางกลับทำหน้าราวกับเป็นวันตายของตน ถังหลี่มองเจ้าบ่าว พลันเกิดความเข้าใจได้ว่า เหตุใดเจ้าสาวถึงได้ไม่มีความสุข?

ใบหน้าของเจ้าบ่าวเต็มไปด้วยชั้นไขมันราวกับหมูอ้วน

เจ้าสาวและเจ้าบ่าวดูราวกับดอกไม้ที่ปักบนมูลวัว เจ้าบ่าวเดินไปจับมือเจ้าสาว แต่นางกลับมองไปรอบๆ แล้วถามบางอย่างจากเขา เจ้าบ่าวกระซิบตอบ ใบหน้าของหญิงสาวเปลี่ยนไป

“อาซวนอยู่ไหน?” เจ้าสาวพูดเสียงดังจนทำให้ผู้คนหันมามองนางเป็นตาเดียวกัน

ถังหลี่จึงเข้าใจว่า เจ้าสาวอาจจะถูกบังคับให้แต่งงาน อาซวนที่นางถามถึงอาจจะเป็นญาติหรือคนรักของเจ้าสาว เจ้าบ่าวใช้บุคคลผู้นี้มาบีบบังคับให้นางแต่งงานกับเขา

สีหน้าของเจ้าบ่าวไม่สู้ดี เขาโน้มตัวลงไปกระซิบแนบกับหูของเจ้าสาวพูดอะไรบางอย่าง หากนางไม่ฟังกลับผลักเขาออกอย่างแรง

“เจ้าโกหกข้า! เจ้าบอกว่าจะปล่อยอาซวนไป!”

“อาฮวา คนผู้นั้นเป็นคนนอกเผ่า เจ้าอยากแต่งงานกับคนนอกเผ่าหรือ?” เจ้าบ่าวพูดเสียงดัง

เจ้าสาวสิ้นหวัง นางหันหลังทำท่าจะเดินหนีจากไป แต่กลับมีคนช่วยกันยื้อยุดฉุดเอาไว้ ชายหนุ่มผู้หนึ่งท่าทางแข็งแกร่ง ใบหน้าดุร้ายวิ่งออกมาจากฝูงชน พยายามจะยื้อแย่งเจ้าสาวจากคนเหล่านั้น

“ปล่อยน้องสาวข้านะ!” เขาร้องตะโกนเสียงดังต่อสู้กับคนเหล่านั้น ชายหนุ่มผู้นี้ดุร้ายจนไม่มีใครเอาอยู่

“อาฮวา!” เสียงหนึ่งดังขึ้น อาฮวามองไปยังที่มาของเสียง มีความประหลาดใจอยู่บนใบหน้าของนาง

“อาซวน! ท่านยังไม่ตาย!”

ใบหน้าของชายหนุ่มที่ร้องเรียกนาง จมูกของเขาช้ำบวม เสื้อผ้าขาดวิ่น ดูแล้วแทบจำไม่ได้

แต่ถังหลี่กลับจำเสียงของคนผู้นั้นได้เป็นอย่างดี

นั่นจ้าวจิ่งซวน ! อาซวนคือจ้าวจิ่งซวนเองหรอกหรือ?

พยายามหาแทบตายกลับหาไม่เจอ ครั้นจะเจอก็เจอได้อย่างไม่น่าเชื่อ

ในตอนนั้นเอง มีชายวัยกลางคนท่าทางมีสง่าราศีเดินออกมา

“อาฮวาและอามู่สมรู้ร่วมคิดกับคนนอกเผ่า ทำให้เทพเจ้าโกรธ พวกเจ้ารีบจับกุมพวกเขาเอาไว้!” หลังจากเขาพูดจบ ชาวบ้านต่างกรูเข้าไปทำท่าจะจับพวกเขา

ถังหลี่ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว

“ไปช่วยองค์ชายหกกันเถอะ!” จ้าวจิ่งซวนถูกชาวบ้านจับตัวไว้แน่นจนดิ้นแทบไม่หลุด การปรากฏตัวของกลุ่มถังหลี่จึงเปรียบเสมือนอาวุธศักดิ์สิทธิ์ที่หล่นลงมาจากฟากฟ้า ช่วยเหลือเขาให้พ้นเงื้อมมือจากชาวบ้าน

“ช่วยอาฮวา กับอามู่ด้วย!” จ้าวจิ่งซวนพูดอย่างเร่งรีบ ตู้เย่รีบเข้าไปในฝูงชน ช่วยอามู่และอาฮวาออกมาจากฝูงชนที่วุ่นวาย

“หนี!” ถังหลี่ร้องตะโกน เดิมทีถังหลี่เข้าไปช่วยพยุงจ้าวจิ่งซวน แต่ต่อมานางกลับอุ้มเขาขึ้น แล้วพาวิ่งหนีไป ถังหลี่รู้สึกเหมือนว่าชาวบ้านที่วิ่งไล่ตามหลังนางเหมือนฝูงซอมบี้ในหนังที่นางเคยดูไม่ผิด

หลังจากได้ยินชาววัยกลางคนออกคำสั่ง ชาวบ้านเหล่านั้นก็ไม่ต่างจากฝูงซอมบี้ แม้ว่าพวกเขาจะตายก็ต้องจับให้ได้

ตู้เย่และองครักษ์ถูกตัดขาด พวกเขาช่วยขัดขวางชาวบ้านเอาไว้

ถังหลี่จับมือจ้าวจิ่งซวน ส่วนซานเป่าจับมืออาฮวาเอาไว้

“ตามข้ามา!” อามู่พูด

อามู่วิ่งนำหน้าพาเข้าไปในถ้ำ พวกเขาตามติดอย่างใกล้ชิด สุดท้ายแล้วก็สลัดชาวบ้านทิ้งไปได้

จ้าวจิ่งซวนนอนอยู่ในอ้อมแขนของถังหลี่

“ถังถัง โฮๆๆ” จ้าวจิ่งซวนร้องไห้อยู่ในอ้อมแขนของถังหลี่ เขาประทับใจมากที่พี่ถังมาช่วยเขาเอาไว้ได้ราวกับปาฏิหาริย์

พี่ถังถัง เก่งมาก สุดยอดจริง! เขาไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาอธิบายอารมณ์ของตนเองได้ ถังถังเป็นเสมือนเทพเจ้าที่ตกลงมาจากท้องฟ้า นางมาช่วยเขาในยามที่เขาจนตรอกและสิ้นหวังอย่างที่สุด ฉากนี้ฝังอยู่ในใจเขาไม่มีวันลืม

จ้าวจิ่งซวนร้องไห้เสียงดัง แต่แล้วเมื่อเห็นอาฮวากำลังจ้องตรงมาที่เขา ชายหนุ่มตัวแข็งทื่อไปทันที

เขาอยากเป็นลูกผู้ชายต่อหน้าอาฮวา แต่ช่างน่าอายเหลือเกินที่เขาร้องไห้จนน้ำตาไหลให้นางเห็น จ้าวจิ่งซวนผละออกจากอ้อมแขนของถังหลี่ การเคลื่อนไหวทำให้บาดแผลของเขาถูกกระทบจนแทบจะหมดสติไปเพราะความเจ็บปวด จ้าวจิ่งซวนอดไม่ได้ที่จะร้องไห้ขึ้นมาอีกครั้ง

จบกัน! ต่อไปนี้ข้าคงเป็นชายอกสามศอกในสายตาของนางไม่ได้อีกแล้ว!

…………..