ตอนที่ 684 แม่ไป๋ตื่นจากหลับไหล(2)
หลินม่ายกระพริบตา ไม่ว่าอย่างไรศาสตราจารย์ผู้นี้ก็จะบีบบังคับให้เธอทำตามความปรารถนาของเขาให้ได้อย่างนั้นเหรอ?
แต่สิ่งที่เธอพูดคือความจริง ตราบใดที่ประตูห้องปิดลง เขาก็จะรุนแรงยิ่งกว่าสัตว์ร้าย
ศาสตราจารย์ในคืนนี้ดิบเถื่อนราวสัตว์ร้าย หลินม่ายไม่เพียงใบหน้าแดงก่ำ แต่เธอยังรู้สึกเร่าร้อนไม่น้อย
เมื่อลืมตาตื่นในเช้าวันรุ่งขึ้น เธอก็อายเกินกว่าจะมองไปยังฟางจั๋วหราน
จนกระทั่งหลังอาหารเช้า เธอจึงค่อย ๆ กลับมาเป็นปกติ
ฤดูใบไม้ร่วงนั่นอากาศแจ่มใสและเป็นเวลาที่ดีที่จะเดินเล่น หลินม่ายจึงชวนเขาไปเดินเล่นยังพระราชวังต้องห้าม
ตั้งแต่คุณย่าฟางและคนอื่นๆ มาถึงเมืองหลวง ทั้งครอบครัวก็ยังไม่ได้ไปเที่ยวด้วยกันเลย!
คุณย่าฟางกล่าวอย่างลังเล “ไม่ไปเยี่ยมแม่ของเธอเหรอ?”
“หล่อนพ้นขีดอันตรายแล้ว มีอะไรให้ดูอีกคะ?” หลินม่ายพูดอย่างไร้เยื่อใย
ไม่ต้องพูดว่าแม่ไป๋พ้นขีดอันตรายเลย ถึงยังไม่พ้นขีดอันตรายเธอก็จะไม่ไปเยี่ยม
แม่ไป๋โหดร้ายกับเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่รู้สึกเมตตาต่อแม่ไป๋เป็นธรรมดา
ไม่ว่าจะเป็นความรักในครอบครัวหรือมิตรภาพก็ตาม ความเสมอภาคเท่านั้นคือหนทางที่ดีที่สุดที่จะอยู่ร่วมกันได้
เพราะเห็นแก่ความรักที่มีต่อพ่อและพี่น้องตระกูลไป๋ เมื่อวานนี้เธอจึงช่วยจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้กับแม่ไป๋ ซึ่งถือเป็นความกรุณาที่ยิ่งใหญ่ของเธอที่มีต่อแม่ไป๋แล้ว
คุณย่าฟางถามเพียงว่าหลินม่ายต้องการไปเยี่ยมแม่ไป๋หรือไม่ แต่ไม่ได้คิดจะเกลี้ยกล่อมเธอให้ทำเช่นนั้น
ทั้งห้าขับรถไปยังพระราชวังต้องห้าม
พระราชวังต้องห้ามนั้นยิ่งใหญ่ งดงาม โอ่อ่า และน่าเคารพนับถือ
มันเหมือนกับมหากาพย์อันยิ่งใหญ่ที่ทำให้หัวใจของผู้คนพลุ่งพล่าน และเหมือนกับซิมโฟนีระดับชาติอันไพเราะที่ทำให้ผู้คนตื่นเต้นเร้าใจ
เมื่อครอบครัวของหลินม่ายใช้เวลาร่วมกันอย่างสนุกสนานในพระราชวังต้องห้าม แม่ไป๋กลับนั่งอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลและหวังว่าพ่อไป๋กับหลินม่ายจะมาเยี่ยมหล่อน
แต่จนถึงสิบโมงเช้า พ่อไป๋และหลินม่ายก็ไม่ได้ปรากฏตัว
เมื่อคืนที่ผ่านมาแม่ไป๋ได้ยินว่าฟางจั๋วหรานจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้หล่อน จึงคิดว่าหลินม่ายให้อภัยหล่อนแล้ว แต่ไม่คาดคิดว่าจะเป็นการคิดไปเอง
แม่ไป๋จึงค่อนข้างไม่พอใจหลินม่าย แม้จะรู้ว่าตนเองผิด แต่ทำไมหลินม่ายจึงไม่ยอมอภัยให้กับแม่แท้จริงอย่างหล่อนล่ะ!
พี่น้องไป๋เหยียนทั้งสาม กับคุณตาหลัวและคุณยายหลัวผู้ลากสังขารอันชราภาพเพื่อนำอาหารมากคุณค่าทางโภชนาการไปให้กับแม่ไป๋ในตอนเช้า ล้วนได้เห็นท่าทางครุ่นคิดของแม่ไป๋
คุณยายหลัวโกรธมากและตำหนิแม่ไป๋ด้วยเสียงต่ำ “ทำไมแกถึงมีหน้ามาตำหนิม่ายจื่ออีก? ลืมสิ่งที่ตัวเองทำกับม่ายจื่อแล้วหรือไง? แกปฏิบัติต่อม่ายจื่ออย่างเลวร้าย แต่กลับคาดหวังให้ม่ายจื่ออภัยให้ ทำไมถึงเป็นคนหน้าด้านขนาดนี้?”
แม่ไป๋พึมพำ “เพราะฉันเป็นแม่แท้ ๆ ของหล่อน…”
คุณตาหลัวหัวเราะเยาะ “ก็รู้นี่ว่าตัวเองเป็นแม่แท้ ๆ ของหล่อน แต่กลับเหยียบย่ำหล่อนนับครั้งไม่ถ้วนเพราะนังงูพิษไป๋ซวง ม่ายจื่อเองก็คงรู้สึกแย่ที่แม่ของตัวเองเห็นลูกสาวบุญธรรมดีกว่าลูกสาวแท้ ๆ! แกไม่พอใจม่ายจื่อ แต่กลับต้องการให้ม่ายจื่อพึงพอใจในตัวแกอย่างนั้นเหรอ? อย่าคิดว่าตัวเองเหนือกว่าลูกสิ แกปฏิบัติต่อม่ายจื่ออย่างไรไว้ก็สมควรรับผลจากการกระทำของตัวเอง!”
แม่ไป๋ถูกพ่อแม่ดุด่าว่าอย่างรุนแรง จึงถามเสียงแผ่วเบา “ทำไมหมิงหยวนไม่มาหาฉันเลย?”
คุณตาและคุณยายหลัวต่อว่าแม่ไป๋อีกครั้ง
พวกเขาบอกว่าหล่อนทำลายหัวใจของพ่อไป๋ถึงแก่น แต่กลับต้องการพบเขาหลังฟื้นจากวิกฤตอย่างนั้นเหรอ ฝันไปเถอะ!
การที่เขาพาลูก ๆ เดินทางมาเยี่ยมและจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้เมื่อวานก็ถือเป็นน้ำใจอันดีที่สุดแล้ว
ไป๋เซี่ยอดไม่ได้ที่จะต่อว่าแม่ไป๋อย่างรุนแรง
ในเมื่อหล่อนยังไม่คิดยกโทษให้กับคนอื่น แล้วทำไมคนอื่นต้องยกโทษให้กับหล่อนด้วย!
แม่ไป๋ถูกพ่อแม่และลูกทำให้ขายหน้า
ไป๋เหยียนกลัวว่าแม่ไป๋จะถูกกระตุ้นโดยสิ่งที่ไป๋เซี่ยและตายายพูดจนทำให้หัวใจวายอีกครั้ง แต่หล่อนไม่สามารถต่อว่าตายาบของตนได้ จึงทำเพียงดุไป๋เซี่ยให้หุบปาก ส่วนไป๋เซี่ยก็หุบปากอย่างไม่เต็มใจ
เมื่อเห็นว่าแม่ไป๋แสดงท่าทางสำนึกผิด คุณตาและคุณยายหลัวก็หยุดตำหนิหล่อน
คุณยายหลัวพูดอย่างจริงจัง “แกทำร้ายหมิงหยวนและม่ายจื่อมากเกินไป หากต้องการกลับไปคืนดีกับพวกเขา แกต้องชดเชยให้กับพวกเขาและทำให้พวกเขาเต็มใจยอมรับแก อย่าคิดว่าเพราะแกเป็นแม่ ม่ายจื่อจึงต้องให้อภัย ม่ายจื่อผ่านทั้งช่วงเวลาที่ดีและร้ายเพียงลำพังตลอดชีวิตที่ผ่านมา หล่อนไม่เคยพึ่งพาแกแม้แต่ครั้งเดียว แกอาจไม่รู้ว่าม่ายจื่อเป็นประธานของว่านถงกรุ๊ป เป็นผู้ประกอบการเอกชนคนหนึ่งเลยทีเดียว”
เมื่อเห็นท่าทางประหลาดใจและมึนงงของแม่ไป๋ นางจึงเอ่ยถามอีกครั้ง “ไม่เคยได้ยินชื่อว่านถงกรุ๊ปใช่ไหม? แต่แน่นอนว่าแกต้องรู้จักร้านเสื้อผ้าจิ่นซิ่ว ร้านนั้นน่ะเป็นหนึ่งในเครือว่านถงกรุ๊ปเชียวนะ”
แม่ไป๋ตกตะลึง “ม่ายจื่อ… หล่อนเก่งถึงขนาดนั้นเลยเหรอ?”
ไป๋เซี่ยกล่าวด้วยความภาคภูมิใจ “แน่นอนสิครับ! ไม่มีเด็กคนไหนในตระกูลไป๋ของเราที่ไม่โดดเด่น แต่ไป๋ซวง ลูกสาวแสนล้ำค่าของแม่กลับสอบเข้าวิทยาลัยไม่ได้ด้วยซ้ำ แถมยังต้องใช้เงินยัดหล่อนเข้ามหาวิทยาลัยด้วย!”
ความรู้สึกมากมายบอกไม่ถูกปรากฏในใจแม่ไป๋
หล่อนโง่เขลานักที่เพิกเฉยต่อลูกสาวแท้ๆ ผู้ยอดเยี่ยมของตน และยืนกรานที่จะปฏิบัติต่อไป๋ซวงอย่างดี
หล่อนคิดว่าตราบใดที่ตนให้ความรักความอบอุ่นกับไป๋ซวง หล่อนจะเติบโตเป็นเด็กที่ดีอย่างแน่นอน
หล่อนต้องการให้พ่อไป๋และคนอื่น ๆ มองไป๋ซวงด้วยความชื่นชมและเข้าใจถึงเจตนาดีของหล่อน
แต่ความจริงกลับตบหน้าหล่อนอย่างแรง
ลูกของงูพิษอย่างไรก็ยังเป็นงูพิษ เปลี่ยนแปลงไม่ได้
ไป๋เหยียนกลัวว่าแม่ไป๋จะถูกกระตุ้น หล่อนจึงดุไป๋เซี่ยอีกครั้ง
คุณยายหลัวยังคงเกลี้ยกล่อมแม่ไป๋ต่อไป “แกเคยคิดว่าแกกับหมิงหยวนเป็นคู่สามีภรรยาที่อยู่ด้วยกันไปแก่เฒ่าก็จริง แต่ตอนนี้แกทำผิดต่อเขา จะให้ทุกอย่างเป็นไปเหมือนเคยไม่ได้ อย่าลืมสิ แกกับเขาหย่ากันแล้ว!”
ในที่สุดนางก็ตบมือแม่ไป๋เบาๆ “แกใช้ชีวิตของตัวเองให้ดีๆ เถอะ”
หลังจากพูดจบ คุณยายหลัวก็เก็บชาม ตะเกียบ กระติกน้ำร้อน และจากไปพน้อมกับคุณตาหลัว
ไป๋เหยียนส่งผู้อาวุโสทั้งสองออกจากวอร์ดและพูดกับพวกเขา “วันนี้ตากับยายไม่ต้องลำบากมาเยี่ยมแม่ที่โรงพยาบาลแล้วก็ได้นะคะ ฉันจะจัดอาหารกลางวันและอาหารเย็นให้แม่เอง”
คุณตาหลัวและคุณยายหลัวพยักหน้าเห็นด้วย
พวกเขาแก่มากแล้ว หากต้องเข้าโรงพยาบาลวันละสามรอบเกรงว่าร่างกายจะรับไม่ไหว
ไป๋เหยียนกลับไปยังวอร์ดและบอกให้ไป๋ลู่ดูแลแม่ไป๋ให้ดี จากนั้นหล่อนก็กลับไปทำอาหารกลางวันที่มีประโยชน์สำหรับแม่ไป๋
สำหรับไป๋เซี่ย หล่อนไม่ได้สั่งให้เขารับผิดชอบอะไรเลย
เนื่องจากไป๋เซี่ยไม่ได้สนิทกับแม่ไป๋ตั้งแต่เด็ก จึงไม่น่าเชื่อถือที่จะคาดหวังให้เขาดูแลแม่ไป๋อย่างดี
ไม่นานหลังจากที่ไป๋เหยียนจากไป ไป๋เซี่ยก็จากไป โดยบอกว่าเขาจะไปซื้อผลไม้ให้แม่ไป๋
เขาได้ยินคนพูดว่าการรับประทานผลไม้จะเป็นผลดีต่อผู้ป่วยโรคหัวใจ
เหลือแต่ไป๋ลู่ที่เฝ้าอยู่หน้าเตียงพยาบาลของแม่ไป๋
ไป๋ลู่จับมือแม่ไป๋พลางกล่าว “แม่ อย่ามองว่าพี่ชายไม่สนใจแม่นะคะ ถึงภายนอกเขาจะดูเย็นชา แต่จริงๆ แล้วเขารักแม่มาก ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ออกไปซื้อผลไม้ให้แม่หรอกค่ะ”
แม่ไป๋รู้สึกละอายใจมากขึ้นเรื่อย ๆ
ไป๋ลู่คุยกับแม่ไป๋อยู่พักหนึ่ง จากนั้นก็รู้สึกอยากเข้าห้องน้ำ จึงผละออกจากวอร์ด
ทันทีที่หล่อนเดินออกจากวอร์ด ไป๋ซวงก็ย่องเข้ามาเหมือนหัวขโมย
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
พี่หมอกินดุกินโหดจังค่ะ ลูกแฝดมาได้แล้วมั้ง
อย่างที่พ่อแม่กับลูกพูดน่ะนะ ทำไม่ดีกับม่ายจื่อไว้เยอะจะมาให้ม่ายจื่ออภัยให้ง่ายๆ มันไม่ได้ค่ะแม๊
ยัยไป๋ซวงหล่อนจะทำอะไรแม่บุญธรรม ไม่ได้ดั่งใจเลยจะลอบมาทำร้ายเหรอ
ไหหม่า (海馬)