ตอนที่ 1251 ค่าชดเชย (2) / ตอนที่ 1252 ค่าชดเชย (3)
ตอนที่ 1251 ค่าชดเชย (2)
ฮ่องเต้รัฐจิ้วตัวสั่นพลางร้องไห้อยู่ในใจ เขาเขียนค่าชดเชยทุกรูปแบบที่เขาสามารถนึกได้ลงไปแล้ว แต่จวินเสียก็ยังไม่พอใจ “อย่างนั้น…อย่างนั้นท่านบอกมาเถอะว่า…แบบไหนถึงจะพอ”
จวินอู๋เสียยกมือขึ้นเล็กน้อย เฟยเยียนที่ยืนอยู่ข้างหลังก็ก้าวมาข้างหน้าและดึงเอาแผ่นหนังที่เขียนค่าชดเชยเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้ว ส่งให้กับฮ่องเต้รัฐจิ้ว
ฮ่องเต้รัฐจิ้วกวาดตามองเอกสารฉบับนั้น แล้วเขาก็ตกใจจนเกือบตกจากบัลลังก์
เขาเบิกตากว้างจ้องมองจวินเสียอย่างไม่อยากจะเชื่อ มือที่กำแผ่นหนังสั่นจนเกือบจะหัก
“ท่าน…ท่าน…นี่ล้อเล่นใช่หรือไม่”
จวินอู๋เสียหัวเราะอย่างเย็นชาและพูดว่า “เจ้ามีค่าพอให้ข้าล้อเล่นด้วยหรือ”
ฮ่องเต้รัฐจิ้วหน้าซีดเผือด เขากลืนน้ำลายเสียงดัง แววตาสิ้นหวัง “นี่…ไม่มากไปหรือ…นี่เท่ากับบอกให้ข้ามอบรัฐจิ้วครึ่งหนึ่งเป็นค่าชดเชยเลยนะ!”
ในบรรดาเงื่อนไขที่ระบุไว้ในค่าชดเชยที่เฟยเยียนส่งไปให้นั้น สิ่งที่ทำให้ฮ่องเต้รัฐจิ้วตกใจมากที่สุดก็คือข้อความที่เขียนเรื่องการยกดินแดนของรัฐจิ้วให้ จวินอู๋เสียจัดการยกดินแดนรัฐจิ้วครึ่งหนึ่งให้กับรัฐชีเพื่อเป็นค่าชดเชย
ดินแดนอันกว้างใหญ่ที่รัฐจิ้วครอบครองนั้นเป็นรองแค่รัฐเหยียนเท่านั้น แล้วจู่ๆ จะให้ตวัดพู่กันทีเดียวมอบดินแดนครึ่งหนึ่งให้ไปแบบนั้น ถ้ายกดินแดนให้รัฐชีไป รัฐเล็กๆ อย่างรัฐชีก็จะยกระดับขึ้นมาเป็นรัฐที่ยิ่งใหญ่อันดับต้นๆ ทันที ยิ่งกว่านั้นฮ่องเต้รัฐจิ้วก็ไม่รู้ว่าจวินเสียจงใจทำหรือเปล่า แต่ทุกเมืองที่มีชื่ออยู่ในแผ่นหนังคือเมืองที่มีความเจริญรุ่งเรืองมากที่สุดในรัฐจิ้ว ซึ่งไม่เพียงมีทรัพยากรธรรมชาติมากมายเท่านั้น แต่ยังเป็นเมืองที่ร่ำรวยมากที่สุดด้วย ถ้าเขายกเมืองพวกนั้นให้จริงๆ เศรษฐกิจครึ่งหนึ่งของรัฐจิ้วจะล่มทันที
แถมยังมีการชดเชยทางการเงินที่ทำให้ฮ่องเต้รัฐจิ้วอ่านแล้วรู้สึกอยากตายขึ้นมา!
นี่ไม่ใช่แค่ยกดินแดนเป็นค่าชดเชยเท่านั้น!
นี่มันเท่ากับสั่งให้เขาเอารัฐจิ้วทั้งรัฐใส่พานเงินถวายให้รัฐชีเลย!
ข้อตกลงการชดเชยนี้ ต่อให้ตีเขาให้ตาย ฮ่องเต้รัฐจิ้วก็ไม่มีวันตกลงที่จะลงนามเด็ดขาด!
“มากไปหรือ” ดวงตาของจวินอู๋เสียเปลี่ยนเป็นเย็นเยียบทันที
“สิ่งนี้สามารถแลกกับชีวิตทหารรัฐชีหลายแสนคนที่ตายไปได้หรือไม่ แลกกับชีวิตของประชาชนผู้บริสุทธิ์ของรัฐชีที่ตายไปด้วยไฟสงครามได้หรือเปล่า เพียงพอจะชดเชยให้กับคนจำนวนนับไม่ถ้วนที่ต้องพลัดบ้านพลัดถิ่นระหกระเหินร่อนเร่ไปอย่างสิ้นหวังได้หรือไม่ ถ้าเจ้าไม่อยาก ข้าก็จะไม่บีบบังคับเจ้า เจ้าก็แค่คืนชีวิตผู้คนทั้งหมดที่ตายไปด้วยไฟสงครามที่เจ้าจุดขึ้นมาเสีย คืนมาให้ครบทุกคน เมืองทั้งหลายที่โดนทำลายพังพินาศไปก็คืนสภาพมันให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมด้วย แล้วเจ้าก็ไม่ต้องลงนามในเอกสารชดเชยนั้นก็ได้” จวินอู๋เสียพูดด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นเป็นพิเศษ
นางเชื่อว่าคนทั้งรัฐชีอยากได้คนในตระกูลของพวกเขากลับคืนมาอย่างปลอดภัยมากกว่าอยากได้ที่ดินและเงินทองพวกนี้อย่างแน่นอน
ฮ่องเต้รัฐจิ้วรู้สึกเหมือนมีบางอย่างมาจุกอยู่ที่ลำคอของเขา ทำให้เขาพูดอะไรไม่ออก เมืองสามารถสร้างใหม่ได้ แต่คนที่ตายไปแล้วพวกนั้น จะทำให้กลับมามีชีวิตเหมือนเดิมได้อย่างไร
จวินเสียเสนอทางเลือกที่ไม่มีทางออกให้เขาทั้งสองทางชัดๆ เลย!
ทางหนึ่งคือการชดเชยที่เขายอมรับไม่ได้ ส่วนอีกทางก็เป็นสิ่งที่เขาไม่มีปัญญาทำได้…
“มีทางเลือกที่สามหรือไม่” ฮ่องเต้รัฐจิ้วยังไม่ยอมแพ้ เขาไม่เข้าใจว่าทำไมจวินเสียถึงพยายามช่วยรัฐชีมากขนาดนี้ ฮ่องเต้หนุ่มคนนี้ต้องการอะไรกันแน่
จวินอู๋เสียตอบด้วยรอยยิ้มเย็น “มี”
ดวงตาของฮ่องเต้รัฐจิ้วเป็นประกาย เขาเงยหน้าขึ้นทันที แววตาเต็มไปด้วยความคาดหวังขณะมองไปที่จวินเสีย
“รัฐเหยียนจะบุกโจมตีรัฐจิ้ว และชื่อของรัฐจิ้วจะหายไปจากโลกใบนี้”
คำพูดของจวินอู๋เสียตัดความหวังของฮ่องเต้รัฐจิ้วไปอย่างสมบูรณ์…
ฮ่องเต้รัฐจิ้วคอตก เขามองไปที่แผ่นหนังที่ระบุเงื่อนไขการชดเชยเอาไว้ ร่างของเขาสั่นระริก ริมฝีปากซีดจนเขียว
หลังจากได้เห็นความแข็งแกร่งของกลุ่มคนที่ยืนอยู่ข้างหลังจวินเสีย และรัฐจิ้วได้สูญเสียทหารในกองทัพไปหนึ่งล้านคนจากสงคราม พวกเขายังจะหวังได้อีกหรือว่าจะมีโอกาสต่อสู้กับทหารม้าติดอาวุธของรัฐเหยียนได้ ความแข็งแกร่งที่แตกต่างกันระหว่างสองรัฐ บัดนี้เป็นช่องว่างกว้างใหญ่ที่ทำให้เขาไม่มีทางเลือก! ไม่มีทางอื่นให้เลือกได้เลย!
“ข้าตกลง…”
ตอนที่ 1252 ค่าชดเชย (3)
ฮ่องเต้รัฐจิ้วสิ้นหวังอย่างถึงที่สุด เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเลือกหนทางเดียวที่ถูกมอบให้ นั่นคือยกรัฐครึ่งหนึ่งให้กับรัฐชี อย่างน้อยรัฐจิ้วก็ยังอยู่
เขาร่างราชโองการด้วยมือที่สั่นเทา การลากเส้นแต่ละครั้งก็คือการเฉือนหัวใจของเขา
เขาใช้อำนาจอันยิ่งใหญ่ของรัฐจิ้วข่มขู่และบีบบังคับรัฐเล็กๆ มาโดยตลอด ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าวันหนึ่งเขาจะโดนกรรมตามสนองเข้าให้ ได้ลิ้มรสชาติแบบเดียวกับที่เขาทำกับคนอื่น
เมื่อพูดถึงอำนาจกดขี่ รัฐจิ้วจะไปเทียบกับรัฐเหยียนได้อย่างไร
ขณะที่ฮ่องเต้รัฐจิ้วกำลังจะประทับตราฮ่องเต้ลงบนพระราชโองการ จวินอู๋เสียก็พูดขึ้นว่า “เดี๋ยว”
ฮ่องเต้รัฐจิ้วเงยหน้าขึ้น ดวงตามีประกายแห่งความหวัง
แต่คำพูดต่อมาของจวินเสียก็ทำให้ฮ่องเต้รัฐจิ้วตกลงสู่หุบเหวแห่งความสิ้นหวัง!
“หนี้ที่ต้องชำระยังไม่หมด” จวินอู๋เสียพูดพลางหรี่ตา
“อะไร…หมายความว่าอย่างไร” ฮ่องเต้รัฐจิ้วตกใจ
“ยัง…ยังไม่พออีกหรือ ข้าให้รัฐจิ้วครึ่งหนึ่งเป็นค่าชดเชยให้รัฐชีแล้วนะ นั่นมันยิ่งกว่าเกินพอเลยไม่ใช่หรือ” ฮ่องเต้รัฐจิ้วเกือบตะโกนออกมา แต่ด้วยความกลัวและความสิ้นหวังทำให้เขาถามออกมาเสียงต่ำ
จวินอู๋เสียยิ้มเย็นชาและกล่าวว่า “หนี้รัฐชีเรียบร้อยแล้ว ต่อไปก็ถึงคราวของรัฐเฉียว”
“อะไรนะ!” ฮ่องเต้รัฐจิ้วตาโต ไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เพิ่งได้ยิน
รัฐเฉียว
รัฐเฉียวเกี่ยวอะไรด้วย!
จวินอู๋เสียโบกมืออย่างเกียจคร้าน ชายชราที่ยืนเงียบๆ อยู่ข้างหลังมาตลอดก็เดินออกไปกลางท้องพระโรง
“อยากพูดอะไรกับฮ่องเต้รัฐจิ้ว พูดไปให้หมด” จวินอู๋เสียกล่าว
ชายชราคนนั้นเงยหน้าขึ้นช้าๆ ดวงตาที่มองไปยังฮ่องเต้รัฐจิ้วเต็มไปด้วยความเกลียดชังอย่างลึกซึ้ง สายตานั้นราวกับว่าชายชราคนนี้ไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าฉีกคนที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ออกเป็นพันๆ ชิ้น
“เจ้า ยังจำได้หรือไม่ว่าข้าเป็นใคร” เสียงที่อดกลั้นของชายชราดังขึ้นในท้องพระโรง
ฮ่องเต้รัฐจิ้วจ้องมองชายชราตรงหน้าด้วยสายตาประเมิน เขาพยายามเค้นความทรงจำเกี่ยวกับอีกฝ่าย แต่นึกอย่างไรก็นึกไม่ออก
“ใคร…เจ้าเป็นใคร ข้าไม่เคยพบเจ้ามาก่อน…”
หลังจากที่ชายชราได้ยินเช่นนั้น เขาก็เงยหน้าหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง เสียงหัวเราะนั้นเต็มไปด้วยความโศกเศร้าเสียใจ
“ใช่แล้ว เจ้าเป็นฮ่องเต้ผู้สูงส่งและยิ่งใหญ่แห่งรัฐจิ้ว จะจำขุนนางต่ำต้อยจากรัฐเล็กๆ ที่อยู่ห่างไกลจากบุรุษแดนของเจ้าได้อย่างไร ก็ไม่น่าแปลกใจที่เจ้าจำหน้าข้าไม่ได้ แต่สำหรับข้า ข้าไม่มีวันลืมหน้าเจ้าไปชั่วชีวิต!” เสียงหัวเราะของชายชราหยุดลงอย่างกะทันหัน เขาหรี่ตาพร้อมกัดฟันแน่น เอ่ยคำพวกนี้ออกมา
“ปีนั้น เจ้าได้พาทหารเข้าไปในรัฐเฉียวของเรา แล้วใช้กำลังทหารข่มขู่ เปลี่ยนฮ่องเต้รัฐเฉียวให้เป็นอะไรก็ไม่รู้ คนก็ไม่ใช่ ผีก็ไม่ใช่! ข้าไม่มีวันลืมใบหน้าที่น่ารังเกียจของเจ้า! เจ้าจำข้าไม่ได้ก็ช่าง ข้าจะบอกให้เจ้ารู้เอง! ข้าคือราชครูของรัฐเฉียว! รัฐเฉียวที่ฮ่องเต้สององค์ของเราถูกเจ้าเปลี่ยนให้เป็นอะไรบางอย่างที่ไม่ใช่คนไม่ใช่ผีนั่นไง!” ราชครูเหอคำรามออกมาเหมือนปีศาจที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังและแค้นเคือง ดวงตาแดงก่ำจ้องมองใบหน้าซีดขาวของฮ่องเต้รัฐจิ้วเขม็ง
“รัฐเฉียวรู้ว่าตัวเองเป็นรัฐเล็กๆ และอ่อนแอ มีประชากรน้อย จึงไม่กล้าต่อสู้แย่งชิงอะไรกับรัฐอื่น ไม่ว่ารัฐจิ้วต้องการอะไรเราก็ยอมทุกอย่าง แต่เจ้าก็ยังไม่ยอมละเว้นพวกเรา! หลังจากเปลี่ยนฮ่องเต้องค์ก่อนให้เป็นตัวประหลาดที่ไม่ใช่คนไม่ใช่ผีแล้ว เจ้าก็ยังเปลี่ยนฮ่องเต้องค์นี้ของเราให้เป็นเด็กที่ไร้ชีวิตจิตใจ ทหารองครักษ์ทุกคนของเราถูกฆ่าตายในเมืองหลวงรัฐจิ้วนี้ด้วย! หนี้โลหิตที่เพิ่มไม่หยุดนี้ เจ้าเป็นผู้ก่อแต่เพียงผู้เดียว! เอาชีวิตของฮ่องเต้องค์ก่อนของเราคืนมา! เอาฮ่องเต้องค์นี้ของเราคืนมา! เอาชีวิตคนดีๆ จากรัฐเฉียวของเราคืนมา!!!” ราชครูเหอตะโกนใส่ฮ่องเต้รัฐจิ้วราวกับเป็นคนบ้า ความเกลียดชังที่ถูกกดเอาไว้หลายปีท่วมท้นจนถึงสวรรค์ แต่เพราะรัฐของพวกเขาเล็กเกินไป เขาจึงได้แต่เก็บมันเอาไว้ ไม่กล้าปล่อยให้มันปะทุออกมา ในที่สุดเขาก็มีโอกาสระบายมันออกมาแล้ว!