บทที่ 670 เผ่าปีศาจ

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

บทที่ 670 เผ่าปีศาจ

บทที่ 670 เผ่าปีศาจ

“ทำไมพวกเจ้าถึงยังยืนเฉย? ช่วยกันรับอาหารเข้ามาเร็วเข้า!” เขาตำหนิผู้ใต้บังคับบัญชาทันทีเพื่อซ่อนความเขินอายของตัวเอง

อวิ๋นอวี้ชิงยิ้ม “ไม่จำเป็นหรอกท่านผู้บัญชาการหวง ข้าจะให้สาวใช้ของข้าเดินนำเข้าไปมอบให้คนของท่านทุกคนเพื่อไม่ให้ทุกคนต้องออกจากพื้นที่ของตัวเอง”

“นี่…” หวงฮุ่ยฮงลังเล สิ่งนี้ขัดกับกฎความปลอดภัย ตอนนี้นอกจากตัวเขาเองแล้ว มีเพียงอ๋องเหลียงและหลิวเหย่าเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปข้างใน

อย่างไรก็ตาม ขณะที่จ้องมองรอยยิ้มที่สวยงามของอวิ๋นอวี้ชิง เขาพบว่ามันยากที่จะปฏิเสธ อีกทั้งสิ่งที่นางพูดก็มีเหตุผลเช่นกัน ด้วยเหตุนี้เขาจึงปล่อยให้พวกนางเข้าไปข้างใน

นอกจากนี้ นางคือพระชายาอู๋ที่ทั้งงดงามและอ่อนโยน ที่มาพร้อมกับกลุ่มสาวใช้ก็เท่านั้น มันคงจะไม่เป็นไรใช่ไหม?

“แจกจ่ายอาหารให้ทหาร” อวิ๋นอวี้ชิงสั่งสาวใช้หลังจากพวกนางเข้าไปในเรือน

ในห้องขังใกล้เคียง ซ่างเชียนเหลือบมองพระชายาอู๋ผ่านซี่กรงขังก่อนจะถอนหายใจ แม้แต่เสียงของนางก็ไพเราะมาก…แค่ได้ยินเสียงของนางร่างกายของเขาถึงกับอ่อนปวกเปียกเลยทีเดียว!

เฮ้อ สามีของนางต้องโชคดีแค่ไหนกันที่สามารถได้สัมผัสร่างกายที่สมบูรณ์แบบของนางได้ทุกเมื่อที่ต้องการ และได้ยินคำบอกรักอันอบอุ่นของนาง?

ขณะเดียวกัน ในห้องถัดไปซ่างหงดูสงบกว่าลูกชายของเขา พระชายาอู๋เป็นสตรีที่งดงามล่มเมืองก็จริง แต่นางไม่ได้ดึงดูดคนที่มีอายุและจิตใจที่แข็งแกร่งเช่นเขาได้

แต่มีอย่างอื่นที่กระตุ้นความอยากรู้ของเขาแทน อ๋องอู๋ดูกระตือรือร้นเกินไปเกี่ยวกับเรื่องเล็กน้อยทั้งหมดนี้ ทำไมพระชายาอู๋ต้องมาแจกจ่ายอาหารด้วยตัวเอง? มันช่างน่าแปลก…

แน่นอนว่าคนที่เยือกเย็นที่สุดคือไม่ใช่ใครอื่นนอกจากซูอัน เขากำลังนอนเอนกายอยู่บนเตียง เฝ้ามองดูพระชายาอู๋ซึ่งกำลังสั่งงานสาวใช้ของนาง ชายหนุ่มเดาะลิ้น รูปลักษณ์ของนางนี่ช่างเย้ายวนจริง ๆ!

แม้ว่านางจะแต่งกายค่อนข้างมิดชิด แต่เครื่องแต่งกายเหล่านั้นก็ไม่อาจซ่อนส่วนโค้งเว้าที่มีเสน่ห์ของนางได้เลย และเมื่อรวมกับใบหน้าที่งามล่มเมืองและกลิ่นอายอันบริสุทธิ์ของนาง ไม่น่าแปลกใจเลยที่ผู้คนแทบทั้งหมดจะหลงใหล

พระชายาอู๋พูดกับหวงฮุ่ยฮงว่า “พวกนักโทษควรกินอะไรด้วยหรือไม่? ชะตากรรมของพวกเขาช่างน่าสังเวชอยู่แล้ว เราไม่ควรปล่อยให้พวกเขาอดอาหารเช่นกัน ข้าให้คนใช้ของข้าเตรียมของบางอย่างสำหรับพวกเขามาด้วย”

หวงฮุ่ยฮงถอนหายใจ “พระชายาไม่เพียงแต่งามเลิศเพียงอย่างเดียว แต่จิตใจของท่านช่างสูงส่งอีกด้วย”

เขาพยักหน้าให้ลูกน้องของตัวเองหยิบอาหารที่สาวใช้นำมาไปให้พวกนักโทษ ยังคงเป็นการดีที่สุดถ้านักโทษไม่ได้ติดต่อกับบุคคลภายนอกโดยตรง

ลูกน้องของเขานำเข็มเงินออกมาเพื่อทดสอบอาหาร เมื่อตรวจพบว่าไม่มีพิษ พวกเขาจึงผ่อนคลายขึ้นอีกเล็กน้อย

พระชายาอู๋แสร้งทำเป็นไม่สังเกตเห็น นางเพียงถามด้วยรอยยิ้มว่า “หืม? ทำไมทหารบางคนถึงไม่กินอาหาร? อาหารไม่เป็นที่ชื่นชอบหรือเปล่า? ข้าควรให้ครัวเตรียมอย่างอื่นหรือไม่ท่านผู้บัญชาการหวง?”

“ไม่จำเป็น” หวงฮุ่ยฮงกล่าวและอธิบายทันที “มันเป็นกฎที่เราปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เราจะไม่กินอาหารจากแหล่งที่มาเดียวกันพร้อม ๆ กันเพื่อเป็นการป้องกันสิ่งที่ไม่คาดฝัน การทำเช่นนี้จะทำให้เราทุกคนไม่ได้รับผลกระทบหากอาหารมีปัญหาไปทั้งหมด”

เขาอดไม่ได้ที่จะเสริมอย่างกระอักกระอ่วนว่า “ได้โปรดยกโทษให้เราด้วยพระชายา ไม่ใช่ว่าเราสงสัยท่านแต่นี่เป็นกฎเหล็กที่เข้มงวดของเรา”

“ข้าเข้าใจ เป็นข้าเสียมารยาทเอง” พระชายาอู๋ยิ้ม “ไม่น่าแปลกใจเลยที่ทูตยุทธ์เสื้อแพรมักถูกยกให้เป็นกลุ่มยอดฝีมือที่ไม่มีใครเทียบได้”

“พระชายาชมเกินไปแล้ว” แม้ว่าหวงฮุ่ยฮงและคนอื่น ๆ จะสวมหน้ากาก แต่เสียงของพวกเขาก็ยังเต็มไปด้วยความสุข

ตามคำกล่าวโบราณว่า วิวที่สวยงามสามารถทำให้คนลืมความหิวได้ เหล่าทหารอดไม่ได้ที่จะชื่นชมสาวงามที่อยู่ตรงหน้าพวกเขา

ในเวลาเดียวกัน พวกเขาอิจฉาหวงฮุ่ยฮงอย่างไม่น่าเชื่อ หัวหน้าของพวกเขามีโอกาสพูดคุยกับนางได้อย่างใกล้ชิด!

หัวใจของหวงฮุ่ยฮงเต้นแรง กลิ่นหอมที่ชวนลุ่มหลงแผ่กระจายออกจากตัวนางทำให้เขายิ่งรู้สึกคลั่งไคล้นางมากขึ้นทุกที

“หืม?”

หวงฮุ่ยฮงในที่สุดก็ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติ ทูตยุทธ์เสื้อแพรทุกคนต้องผ่านการฝึกฝนที่เข้มงวด และเคยชินกับการยั่วยวนของเพศตรงข้าม ในบางครั้ง สาวงามถูกใช้เป็นกับดักน้ำผึ้งเพื่อล่อลวง หากมีคนใดตกเป็นเหยื่อ พวกเขาจะถูกปลดออกจากตำแหน่งทันที

ทูตยุทธ์เสื้อแพรทุกคนล้วนเป็นทหารผ่านศึกที่แข็งกระด้าง ตัวเขาเองก็เป็นหัวหน้าด้วย ดังนั้นจิตใจของเขาน่าจะแข็งแกร่งกว่าทูตยุทธ์เสื้อแพรคนอื่นมาก

พระชายาอู๋สวยมากจนเกือบจะเหมือนเทพธิดา แต่ก็ไม่มีเหตุผลที่เขาจะรู้สึกคลั่งไคล้อะไรขนาดนี้

ในขณะนั้นก็มีเสียงตุ้บตั้บ และทหารหลายนายล้มลงกับพื้น

“ศัตรูโจมตี!” ความหนาวเย็นไหลผ่านร่างกายของเขา หวงฮุ่ยฮงรีบดึงโซ่เกี่ยววิญญาณออกมา และเตรียมส่งเสียงผ่านกระแสพลังชี่ติดต่อกับอ๋องเหลียงและคนอื่น ๆ

แต่ทันใดนั้น ดวงตาสีม่วงคู่หนึ่งก็ล่องลอยเข้ามาในสายตาเขาโดยไม่รู้ตัว

เขาไม่เคยเห็นดวงตาที่สวยงามเช่นนี้มาก่อน พวกมันดูคล้ายกับดวงตาของพระชายาอู๋ แต่แทนที่จะมีกลิ่นอายที่บริสุทธิ์ของพระชายาอู๋ ดวงตาเหล่านี้กลับมีกลิ่นอายของการยั่วยวนที่อธิบายไม่ได้

มันไม่ใช่แค่เขา ทุกคนสามารถเห็นดวงตาคู่งามนี้กันทุกคน!

พระชายาอู๋และสาวใช้ของนางดูเหมือนจะหายตัวไปจากสายตาของพวกเขาโดยสิ้นเชิง สิ่งเดียวที่เหลือคือดวงตาสีม่วงคู่นั้นที่งดงามแต่แฝงไปด้วยอันตรายยิ่งยวด

ภายในส่วนลึกของดวงตาคู่นั้นค่อย ๆ เกิดเป็นภาพมายาที่ดูคล้ายกับวังวนอันไร้สิ้สุด ทุกคนที่ได้รับผลกระทบจู่ ๆ ก็สูญเสียเหตุผล และไม่สามารถควบคุมตัวเองได้

“เผ่าปีศาจ!” หวงฮุ่ยฮงมีประสบการณ์มากกว่าคนอื่น เขารู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในทันที แต่ก็สายเกินไปแล้ว ร่างกายของเขาหยุดเชื่อฟังอย่างสมบูรณ์ การดิ้นรนต่อสู้ของเขายาวนานกว่าคนอื่น แต่ท้ายที่สุดการมองเห็นของเขาก็เลือนรางและดับลงไปในความมืดมิด

ซูอันเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดซึ่งมันทำให้จิตใจของตัวเองเต้นระส่ำอย่างบ้าคลั่ง เขาเพิ่งจะนึกชื่นชมร่างของพระชายาอู๋เมื่อวินาทีที่แล้ว!

จากนั้นจู่ ๆ ดวงตาสีม่วงแปลกประหลาดกลับโผล่มาปรากฏแก่สายตาของเขาอย่างกับผีหลอก!