บทที่ 514 สังหารเทียนหลัง

สามีข้าคือขุนนางใหญ่

บทที่ 514 สังหารเทียนหลัง

การจัดการกับยอดฝีมืออย่างเทียนหลังจะใช้ไม้แข็งไม่ได้ ยามนี้นางกำลังของนางฟื้นตัวได้ไม่ถึงครึ่ง แม้แต่องครักษ์หลงอิ่งนางยังสู้ไม่ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเทียนหลังเลย

ต้องชิงไหวชิงพริบ

เพียงแต่กู้เจียวคิดไม่ถึงว่าความระแวดระวังของเทียนหลังจะสูงขนาดนี้ นี่ไม่ใช่ชัยภูมิที่เอื้อประโยชน์ที่สุดในแผนการของกู้เจียว นางเคยเห็นแผนที่ของเมืองหลิงกวน หากไปตามทางนี้อีกสามลี้ก็จะเป็นหุบผาชัน

หุบผาชันนั่นต่างหากที่เป็นสนามรบที่นางจะจัดการกับเทียนหลัง

น่าเสียดายที่เทียนหลังรู้ตัวไวเกินไป

ชัยภูมิยามนี้ไม่เอื้อประโยชน์ต่อกู้เจียวเลย เพราะมันโล่งกว้างเกินไป แต่ช่างเหมาะแก่เทียนหลังในการสังหารลูกกระต่ายอย่างกู้เจียวยิ่งนัก

เทียนหลังไม่ถามสักนิดว่ากู้เจียวเป็นใคร เขาใช้ท่าไม้ตายท่าที่สองกับนางทันที

กู้เจียวไม่แน่ใจว่าเขาพูดไม่ได้หรือคร้านจะพูดกันแน่ เขามองไปยังแววตากู้เจียวที่เต็มไปด้วยความไม่แยแส

ก็จริง จากฝีมือของเขา เขาเป็นหมาป่าโตเต็มวัยตัวหนึ่ง ส่วนกู้เจียวอย่างมากก็เป็นได้แค่ลูกหมาป่าเท่านั้นแหละ

กลัวนางเสียที่ไหน

กระบวนที่สองของเทียนหลังไม่ได้โจมตีไปยังทวนพู่แดงของกู้เจียวอีก ในเมื่อเขาถูกใจอาวุธของนาง ก็ไม่ไปทำลายมันอีกแล้ว เขาแทงลำคอกู้เจียวโดยตรงแทน นึกไม่ถึงว่าเขากะจะฟันหัวกู้เจียวให้ขาดสะบั้นลงมา!

วิธีการเช่นนี้ ช่างอวดดีเกินไปแล้ว!

กู้เจียวใช้ทวนยาวขวางไว้ ต้านการโจมตีเขาเป็นครั้งที่สอง!

เทียนหลังหรี่ดวงตาเย็นเยียบลง คิดไม่ถึงว่าลูกหมาป่าตัวนี้จะมีฝีมือทีเดียว

กู้เจียวจำได้ตลอดว่าอาจารย์เคยบอกนางว่า การป้องกันที่ดีที่สุดในโลกก็คือการโจมตี นางจะเอาแต่รออยู่กับที่ให้เทียนหลังทุบนางอย่างเดียวไม่ได้ นางต้องทุบเทียนหลังด้วย

มือขวานางโบกทวนพู่แดงขึ้น ฟันไปยังใบหน้าของเทียนหลัง มือซ้ายจับเข็มฉีดยาที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อไว้อย่างแนบเนียนไม่ให้สังเกตเห็น

นิ้วโป้งดันปลอกเข็มฉีดยาออก ชั่วขณะที่เข้าใกล้เทียนหลังก็ปักลงบนลำคอของเขาทันที!

เทียนหลังสวมเกราะตลอดร่าง มีเพียงลำคอ สองมือและดวงตาเท่านั้นโผล่ออกมาด้านนอก เห็นได้ชัดว่าลำคอเขาเป็นจุดที่ลงมือได้ง่ายกว่า

หมู่นี้ฝีมือของกู้เจียวฟื้นฟูขึ้นอย่างต่อเนื่อง พัฒนากว่าตอนอยู่ที่เมืองหลวงมาก มือกู้เจียวว่องไวราวรอบกายถูกหยุดเวลา

ไม่มีใครรู้ว่ามือซ้ายและขวาของนางคล่องแคล่วพอๆ กัน นางถนัดทั้งซ้ายและขวา ความถนัดของนางคือสิ่งที่นางอยากให้คนอื่นเห็น

คงต้องบอกว่ามือของนางนั้นว่องไวมาก ถึงขั้นที่เทียนหลังคิดไม่ถึงว่านางจะใช้อาวุธลับกับตน

ทว่าเทียนหลังก็ไม่ใช่ไก่อ่อน

ชั่วขณะที่หัวเข็มปักลงลำคอเขา เขาก็เกิดปฏิกิริยาขึ้นทันที โดยการใช้ฝ่ามือฟาดกู้เจียวกระเด็น

กู้เจียวไถลไปกับพื้นหิมะด้านหลังหลายสิบก้าว จนกระทั่งนางปักทวนพู่แดงลงพื้นลึกจึงได้หยุดไถล!

เข็มฉีดยาก็กระเด็นไปด้วยเช่นกัน

เสียดายจัง

นั่นเป็นยาชาชั้นดีเชียวนะ

ให้สู้น่ะทำได้ แต่เปลืองยาน่ะไม่ได้เด็ดขาด

กู้เจียวโกรธมาก

นางหอบหายใจยืดตัวขึ้น เดินไปเก็บเข็มฉีดยาที่โดนฟาดกระเด็นขึ้นมา แล้วโจมตีเทียนหลังอีกหนโดยไร้ลูกไม้ใดๆ!

เทียนหลังฟาดกู้เจียวกระเด็นไปพร้อมเข็มฉีดยาอีกครา

ครานี้กู้เจียวไม่ได้โชคดีเหมือนคราแรกแล้ว นางกระแทกลงพื้นหิมะอย่างแรง ผ่านไปพักใหญ่ก็ยังลุกไม่ขึ้น

เทียนหลังคิดว่านางตายแล้ว จึงเดินมาเก็บของรางวัลหลังศึกของตัวเองอย่างทวนพู่แดง

คิดไม่ถึงว่ากู้เจียวจะใช้มือดันพื้นน้ำแข็งเย็นเยียบ เผยแววตาโหดเหี้ยมออกมา พร้อมกับคว้าเข็มฉีดยาบนพื้นปักไปที่เทียนหลังอย่างไม่ลดละ!

เทียนหลังรำคาญขึ้นมาแล้ว หลังจากฟาดกู้เจียวกระเด็นอีกหน เขาก็กะจะไปเหยียบอาวุธลับนั่นให้เละ ค่อยกระทืบสมองกู้เจียว ทางที่ดีให้สมองกู้เจียวเละไปกับพื้นเลยยิ่งดี!

กู้เจียวล้มลงบนพื้นหิมะพร้อมกับทวนพู่แดง นางกุมหน้าอกไว้ ฝืนข่มกลิ่นคาวเลือดในลำคอ พลางถลึงตามองเทียนหลังอย่างเย็นชา

เทียนหลังเดินมาอีกข้าง ยกเท้ากระทืบเข็มฉีดยาอย่างแรง!

ทว่าในขณะนั้นเอง สิ่งที่คาดไม่ถึงก็เกิดขึ้น

ชั่วขณะที่เข็มฉีดยาเละนั้น จู่ๆ เทียนหลังก็ถูกระเบิดจากใต้ฝ่าเท้าจนกระเด็น!

กู้เจียวหยักยกมุมปากอย่างเย็นชา

คิดจริงๆ หรือว่าจะฉีดยาใส่อีก

รู้จักกับตัวจุดระเบิดหน่อยเป็นไง

การทำตัวจุดระเบิดนั้นไม่ง่าย ซ้ำการเก็บรักษาก็ยาก พอมันสั่นสะเทือนก็จะระเบิดทันที หากเขย่าก่อนปล่อย คนแรกที่เสียชีวิตอาจเป็นกู้เจียวเอง

อีกอย่าง ตัวจุดระเบิดที่นางทำขึ้นก็แตกต่างกับตัวจุดระเบิดของชาติก่อนด้วย ในแง่ของพลังนั้นอ่อนกว่ามาก อย่างไรเสียนางก็สกัดไนโตรกลีเซอรีนจากยาในกล่องยาใบน้อยมา ระดับความบริสุทธิ์และปริมาณอาจจะไม่มากพอ

จึงได้มาแค่หลอดเดียว

ซ้ำตัวนางเองก็ไม่เคยทดสอบอานุภาพมันเสียด้วย

ทว่าดูจากคราบเลือดเกลื่อนทั่วร่างเทียนหลังแล้ว ดูเหมือนจะมีอานุภาพไม่น้อยทีเดียว

แข็งแกร่งกว่าไข่มุกเพลิงดำ

เทียนหลังล้มลงกับพื้นหิมะ เกราะเขาถูกระเบิดกระจุยไปแล้ว หมวกก็กระเด็นกระดอนเช่นกัน ทั่วทั้งร่างมองไม่ออกว่าตรงไหนบาดเจ็บบ้าง เพราะเลือดอาบท่วมตัวไปหมด

เขากำลังจะขยับตัว หากแต่อานุภาพของตัวจุดระเบิดรุ่นเลียนแบบนี้คงจะรุนแรงและค่อนข้างสูงไปหน่อย เขาจึงตัวสั่นน้อยๆ เนิ่นนานก็ยังลุกไม่ขึ้น

เยี่ยม จะใช้จังหวะตอนเจ้าล้ม เอาชีวิตเจ้าแล้วกัน!

กู้เจียวคว้าทวนพู่กันขึ้นมา ข่มความปวดแปลบทั่วร่างเอาไว้พลางเดินไปหาเทียนหลัง

ไม่ใช่ว่านางไม่คิดมาก่อนที่จะใช้ตัวจุดระเบิดกับเทียนหลังไปเลย แต่นางไม่แน่ใจว่าเทียนหลังจะเลือกหลบหรือไม่ หากเขาคิดจะหลบ เช่นนั้นไม่ว่านางจะทำอย่างไรก็ระเบิดไม่โดนเขาแน่

ดังนั้นจึงต้องหลอกล่อให้เขามาจุดระเบิดทำลายตัวเองแทน

เพื่อให้เขาติดกับ กู้เจียวจึงกดเข็มฉีดยาไว้แรงโดยไม่คิดชีวิตตอนที่ชูเข็มฉีดยาขึ้น ยามนี้จึงหมดเรี่ยวหมดแรงไปไม่น้อย

กู้เจียวเดินมาตรงหน้าเทียนหลัง หอบกระชั้นมองเขา “แต่ว่า…ข้ายังมีแรงที่จะฆ่าเจ้าอยู่”

เอ่ยจบนางก็กัดฟันชูทวนพู่แดงขึ้น แล้วแทงหัวใจเทียนหลังอย่างแรง!

จะว่าช้าก็ช้าจะว่าไวก็ไว เทียนหลังที่เดิมทีหน้ามืดตาลายเพราะโดนระเบิดจู่ๆ ก็คว้าทวนยาวของกู้เจียวเอาไว้โดยอาศัยสัญชาตญาณยามเจอวิกฤต!

เขาดึงลงมาอย่างแรง!

ร่างกายกู้เจียวที่เดิมทีก็ไร้เรี่ยวแรงอยู่แล้วแทบจะล้มถลาไปข้างหน้าอย่างควบคุมไม่ได้

เทียนหลังยกมืออีกข้างบีบคอนางไว้

ดวงตาแดงฉานของเขาทำให้เขาดูเหมือนสัตว์ยักษ์เหี้ยมโหดตัวหนึ่ง

เพียงแต่เขาลืมไปว่ากู้เจียวก็เป็นสัตว์น้อยที่โหดเหี้ยมเช่นกัน!

กู้เจียวไม่ได้เอื้อมไปจับมือเขาที่บีบคอตัวเองเลยสักนิด นางกลับพลิกมือ เข็มฉีดยาของจริงร่วงลงมาบนกลางมือนาง

นางใช้ความเร็วดุจสายฟ้าฟาดนั้นยกมือขึ้นปิดหูปักเข็มลงบนไหล่เขาทันที!

คราวนี้ไม่ใช่ยาชา

แต่เป็นนิวโรทอกซิน[1]!

มันสามารถทำให้ศูนย์กลางประสาทของร่างกายมนุษย์เป็นอัมพาตได้อย่างสมบูรณ์ในช่วงเวลาสั้นๆ ทำให้กล้ามเนื้อเป็นอัมพาตและแขนขาชา ก่อนจะค่อยๆ สูญเสียความสามารถในการหายใจด้วยตัวเองไป สุดท้ายก็จะขาดอากาศตาย

นี่เป็นนิวโรทอกซินพิเศษของสถาบันวิจัย เร็วกว่านิวโรทอกซินในท้องตลาดหลายเท่า คนธรรมดาจะเห็นผลในสามวินาที เขาเป็นยอดฝีมือ กู้เจียวให้เขาสิบวิเลย

ทว่าสิบวินาทีผ่านไปแล้ว

เขาก็ยังยืนตรงนิ่งอย่างดื้อรั้นได้อยู่!

แรงที่เขาบีบคอกู้เจียวไม่มีทีท่าว่าจะลดลงเลยสักนิด

เพียงเพราะได้รับบาดเจ็บ เขาก็ใช้เรี่ยวแรงเท่าเดิมไม่ได้แล้ว แต่ถึงกระนั้น เขาก็ยังเอาแต่บีบอยู่อย่างนั้น และกู้เจียวก็หายใจไม่ออกเช่นกัน

ยาชนิดนี้มีอยู่เข็มเดียวเสียด้วย ใช้หมดก็ไม่มีอีกแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้นต่อให้มีอีก ยามนี้กู้เจียวก็หยิบไม่ได้แล้ว

กู้เจียวตัดสินใจควักลูกตาเขาโดยตรง คิดไม่ถึงว่าเขาจะเลือกทิ้งทวนพู่แดงของกู้เจียว แล้วใช้มืออาบเลือดสกัดจุดกู้เจียวอย่างรวดเร็ว

มือที่กู้เจียวเอื้อมมาควักลูกตาเขาชะงักค้างกลางอากาศ

ประโยคหนึ่งลอยเข้ามาในหัวกู้เจียว

จบเห่แล้ว

จะฆ่าจะแกงก็คงต้องแล้วแต่เขาแล้วล่ะ

เทียนหลังโยนกู้เจียวลงกับพื้นหิมะ เขาไม่ได้ไปหยิบทวนพู่แดงบนพื้น แต่ก้มลงชักกริชสั้นในรองเท้าแทน

นิวโรทอกซินเริ่มออกฤทธิ์แล้ว ดวงตากู้เจียวขยับไหว เห็นมือที่เขาถือกริชเริ่มสั่นเทาไม่หยุด

เขาอาจจะไม่มีแรงแทงนางแล้วก็ได้

เทียนหลังแทงไม่ได้แล้วก็จริง แต่เขาปาดคอได้

กริชเล่มนี้ฟันเหล็กเหมือนฟันโคลน เพียงเป่าผมใส่คมกริชก็ขาดสะบั้นได้ เขานั่งลงข้างกายกู้เจียว เล็งกริชจ่อลำคอกู้เจียวอย่างสั่นเทา

กู้เจียวรู้สึกถึงไอเย็นเยียบบนลำคอ

คมกริชใกล้จะฟันโดนลำคอนุ่มของนางแล้ว

ทว่าในขณะนั้นเอง ในที่สุดนิวโรทอกซินในร่างกายเทียนหลังก็ออกฤทธิ์เต็มที่เสียที มือเขาสั่นหนัก กริชร่วงลงข้างหูกู้เจียว ตัวเขาก็ล้มลงบนร่างกู้เจียวด้วย

กู้เจียว “…”

เทียนหลังล้มพาดลงบนตัวกู้เจียว โดยที่หัวเขาทิ่มคว่ำหิมะ

หนักเอาการทีเดียว

ไม่รู้ว่าเมื่อใดที่เกล็ดหิมะลอยจากท้องฟ้าอีกครั้ง มันตกไม่หนักแต่คลอเคล้ามากับลมเหนือกลับเย็นเยียบยิ่งนัก พัดผ่านใบหน้าแล้วราวกับโดนมีดฟัน

กู้เจียวโดนสกัดจุด นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นหิมะขยับไม่ได้

นิวโรทอกซินทำให้การหายใจเทียนหลังชาดิก สุดท้ายเขาจึงกลายเป็นศพร่างแข็งเย็นเยียบ

ทว่าร่างกายกู้เจียวก็เริ่มแข็งขึ้นมาแล้วเช่นกัน

นางทอดมองเกล็ดหิมะเต็มฟากฟ้า ทอดมองนภากว้างไกลสุดลูกหูลูกตา สดับฟังลมหนาวพัดผ่านข้างหู ค่อยๆ แข็งจนไร้ความรู้สึกทีละนิด

คงต้องบอกว่าราชบุตรเขยช่างเลือกเส้นทางนี้ได้ดียิ่งนัก นอกจากนางแล้วก็ไม่มีใครหาที่นี่พบเลย

ทุ่งหิมะกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา จะมีผู้ใดเห็นเงาร่างเล็กๆ สองร่างที่นอนอยู่บนพื้นหิมะบ้าง

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าใด จากเกล็ดหิมะน้อยๆ ก็กลายเป็นหิมะเม็ดโต

คราบเลือดบนพื้นและลมหายใจถูกเกล็ดหิมะเม็ดโตกลบมิด ผืนหิมะบางปกคลุมร่างของนางและเทียนหลังไปด้วย

[1] นิวโรทอกซิน สารที่เป็นพิษต่อระบบประสาท