ตอนที่ 689 เผชิญหน้าตัวต่อตัว

แม่ปากร้ายยุค​ 80

ตอนที่​ 689 เผชิญหน้า​ตัวต่อตัว​

รอง​อธิการบดี​กู้​เห็น​ว่า​แม้คุณปู่​ฟางจะแต่งกาย​ด้วย​ชุด​ธรรมดา​ แต่​เขา​ก็​ดู​ไม่ธรรมดา​ ซึ่งคาดเดา​ได้​ง่าย​ว่า​ชาย​ชรา​ผู้​นี้​เป็น​ผู้มีอำนาจ​

เขา​หัวเราะ​พลาง​กล่าว​ “ไม่มีใคร​รังแก​หลิน​ม่าย​หรอก​ครับ​ ทั้งหมด​เป็น​เพียง​การ​หยอกล้อ​ของ​คนหนุ่มสาว​เท่านั้นเอง​”

หลิน​ม่าย​พูด​อย่าง​ไร้​ความปรานี​ “จ้าว​ซั่ว​หยาง​มีหัวใจ​อ่อนโยน​แบบ​นั้น​ด้วย​เหรอ​คะ​? สิ่งที่​เขา​ทำ​คือ​การ​ทำลาย​ครอบครัว​ของ​คนอื่น​และ​ต้องการ​เป็น​มือที่สาม​! โชคดี​ที่​ฉัน​กับ​จั๋ว​หรา​น​ไม่ได้​แต่งงาน​กัน​ใน​กองทัพ​ เพราะ​ไม่อย่างนั้น​เขา​จะต้อง​ถูก​พิพากษา​โทษ​ขั้น​เด็ดขาด​อย่าง​แน่นอน​ หาก​เป็น​แบบ​นั้น​ ฉัน​ก็​ไม่รู้​ว่า​ครอบครัว​ที่​แข็งแกร่ง​ของ​เขา​จะสามารถ​ปกป้อง​เขา​ได้​ไหม​”

คุณปู่​ฟางตะคอก​อย่าง​เย็นชา​เมื่อ​ได้ยิน​ “ครอบครัว​เขา​มีภูมิหลัง​ที่​แข็งแกร่ง​สินะ​ ฉัน​ควร​ทำ​อย่างไร​ดี​ บังเอิญ​ว่า​ฉัน​เป็น​คน​ชอบ​เผชิญหน้า​อะไร​แบบ​ตัวต่อตัว​เสีย​ด้วย​สิ”

เขา​หัน​ศีรษะ​มาถามหลิน​ม่าย​ “ไอ้​หนุ่ม​ที่​รังควาน​หลาน​มัน​ชื่อ​จ้าว​ซั่ว​หยาง​ใช่ไหม​?”

หลิน​ม่าย​พยักหน้า​แล้ว​พูดว่า​ “คุณปู่​ไม่ต้อง​กังวล​เกี่ยวกับ​เรื่อง​นี้​นะคะ​ ไม่ต้อง​ให้​ถึงมือ​คุณปู่​หรอก​ค่ะ​ จั๋ว​หรา​น​จะจัดการ​เอง​”

คุณปู่​ฟางกลับ​พูด​ด้วย​สีหน้า​เฉยเมย​ “ไล่​แขก​ออก​ไป​!”

สีหน้า​ของ​ผู้มาเยือน​ทั้งหมด​พลัน​หม่น​ลง​

พวกเขา​เป็น​ผู้ปฏิบัติงาน​ระดับชาติ​ใน​ระดับ​การบริหาร​ แต่​คุณปู่​ฟางกลับ​ไม่ไว้หน้า​พวกเขา​แม้เพียง​นิด​

หลิน​ม่าย​เอง​ก็​เลือก​ที่จะ​ไม่ไว้หน้า​พวกเขา​ เพราะ​เธอ​เชื่อมั่น​ใน​อำนาจ​ของ​คุณปู่​ฟาง

หลิน​ม่าย​ยิ้มเยาะ​พลาง​กล่าว​ “ปู่​และ​ย่า​ของ​ฉัน​แก่​แล้ว​ พวกเขา​ไม่ชอบ​เสียงดัง​ ท่าน​รอง​อธิการบดี​และ​ทุกท่าน​กลับ​ไป​ก่อน​เถอะ​ค่ะ​”

รอง​อธิการบดี​กู้​และ​ผู้นำ​หลาย​คน​ต่าง​เดิน​ออก​ไป​ด้วย​ความโกรธ​

พวกเขา​เป็น​ปัญญาชน​ระดับสูง​ที่​มีฐานะ​ ไม่อาจ​เป็น​เหมือน​ชาวบ้าน​ร้าน​ตลาด​ได้​ และ​พวกเขา​จะไม่จากไป​แม้ว่า​จะถูก​ขับไล่​ก็ตาม​

ก่อน​จากไป​ รอง​อธิการบดี​กู้​ก็​พูด​กับ​หลิน​ม่าย​ “ทำไม​ถึงต้อง​ทำ​อะไร​ให้​วุ่นวาย​ขนาด​นี้​? หาก​เธอ​ยืนกราน​ที่จะ​ทำ​เรื่อง​ใหญ่โต​ เธอ​จะเป็น​คน​ที่​ต้อง​ทนทุกข์ทรมาน​ที่สุด​นะ​”

หลิน​ม่าย​กระพริบตา​พลาง​กล่าว​ “ไม่มีอะไร​น่ากลัว​เลย​ค่ะ​ เรา​ทำร้าย​เขา​เพื่อ​ป้องกันตัว​ ดังนั้น​เรา​อาจ​ได้​รับโทษ​เพียง​เล็ก​น้อยหรือ​อาจ​ไม่ได้​รับโทษ​เลย​ แต่​จ้าว​ซั่ว​หยาง​รังควาน​ฉัน​มานาน​แล้ว​ เขา​ควร​ถูก​ไล่ออก​จริง​ไหม​คะ​? เหล่า​ผู้มีอำนาจ​อย่าง​ท่าน​รอง​อธิการบดี​ใน​ตอนนี้​กำลัง​พยายาม​ทำ​ทุกอย่าง​ให้​ซับซ้อน​เพื่อ​ปกปิด​ความผิด​และ​ยืนหยัด​เพื่อ​เขา​ ท่าน​รอง​อธิการบดี​กำลัง​พยายาม​ยัดเยียด​ความผิด​ทั้งหมด​ให้​กับ​ฉัน​ พวกคุณ​ไม่มีมโนธรรม​กัน​เลย​เหรอ​คะ​?”

รอง​อธิการบดี​กู้​พูด​ด้วย​ใบหน้า​เย็นชา​ “จนถึง​ตอนนี้​เธอ​ก็​ยัง​ยืนกราน​ที่จะ​ไม่รับผิด​ รอ​ให้​ครอบครัว​จ้าว​ซั่ว​หยาง​แสดงอำนาจ​ของ​พวกเขา​ก่อน​เถอะ​ เมื่อ​เวลา​นั้น​มาถึงก็​อย่า​มาอ้อนวอน​เรา​ก็แล้วกัน​!”

คุณย่า​ฟางพูด​อย่าง​เย็นชา​ “ไว้​ตอนนั้น​มาถึงค่อย​มาดู​กัน​ว่า​ใคร​จะเป็น​ฝ่าย​ที่​ต้อง​ขอร้อง​ใคร​”

หลังจากที่​ผู้บริหาร​มหาวิทยาลัย​ทุกคน​จากไป​ด้วย​ความโกรธ​ คุณป้า​พี่เลี้ยง​ก็​เข้ามา​บอ​กว่า​อาหารเย็น​พร้อม​แล้ว​

คุณย่า​ฟางโบกมือ​ “ไป​กิน​ข้าวเย็น​กัน​เถอะ​”

คุณปู่​ฟางกล่าว​ “ไป​กินกัน​ก่อน​เถอะ​ ผม​ขอ​ไป​คุย​โทรศัพท์​สัก​เดี๋ยว​”

คุณย่า​ฟางรู้​จุดประสงค์​การ​โทร​ของ​เขา​จึงกล่าว​ขึ้น​ “เรื่อง​นี้​จิ๊บจ้อย​ออก​ค่ะ​ อย่า​รบกวน​ผู้บังคับบัญชา​เลย​ แค่​ขอให้​รัฐมนตรี​ช่วย​จัดการ​ก็​พอ​”

คุณปู่​ฟางกล่าว​ “ผม​ยัง​ไม่แก่​สักหน่อย​ และ​รู้ดี​ว่า​ควร​ทำ​ยังไง​!”

เมื่อ​ฟังการ​สนทนา​ระหว่าง​ผู้อาวุโส​ทั้งสอง​ หลิน​ม่าย​ก็​เดา​ว่าการ​โทรศัพท์​ของ​คุณปู่​ฟางต้อง​เกี่ยวข้อง​กับ​จ้าว​ซั่ว​หยาง​

เธอ​เคย​ได้ยิน​จาก​ฟางจั๋ว​หรา​น​มาก่อน​ว่า​คุณปู่​ฟางมีผู้​ทรงอำนาจ​หนุนหลัง​อยู่​ แต่​ไม่เคย​คาดคิด​ว่า​เขา​จะมีอำนาจ​ถึงขั้น​เรียก​ใช้ผู้​ที่​เหนือกว่า​ได้​

ระหว่าง​คำบอกเล่า​และ​สิ่งที่​เคย​ได้ยิน​มีความแตกต่าง​อย่าง​มาก​จริงๆ​

หลิน​ม่าย​ตกใจ​มาก​ เธอ​ไม่เคย​คิด​ว่า​คุณปู่​ฟางจะเรียก​คนชั้นสูง​ได้​!

ตำแหน่ง​รัฐมนตรี​นั้น​สูงมาก​ และ​ไม่ใช่สิ่งที่​คนธรรมดา​จะเอื้อม​ถึงได้​ นับประสาอะไร​กับ​การ​ที่​ขอให้​เขา​กระทำ​สิ่งต่าง ๆ​ เพื่อ​ตัวเอง​

ทุกคน​นั่ง​ที่​โต๊ะอาหาร​และ​รอ​ราว​เจ็ด​ถึงแปด​นาที​ก่อนที่​ปู่​ฟางจะมาถึงห้อง​รับประทาน​อาหาร​ด้วย​ใบหน้า​ยิ้มแย้มแจ่มใส​

หลิน​ม่าย​รีบ​เติม​ชามข้าว​อย่าง​รวดเร็ว​และ​ส่งให้​ปู่​ฟางก่อน​ตะ​ถามด้วย​รอยยิ้ม​ “คุณปู่​ ทุกอย่าง​เรียบร้อย​หรือยัง​คะ​”

คุณปู่​ฟางพูด​อย่าง​เหยียดหยาม​ “ถ้าฉัน​จัดการ​เรื่อง​เล็กน้อย​แบบ​นั้น​ไม่ได้​ ฉัน​คงอยู่​ไป​โดย​เปล่าประโยชน์​หลาย​ปี​”

ทุกคน​กินข้าว​กัน​อย่าง​มีความสุข​

หลัง​มื้อ​อาหารเย็น​ก็​เป็นเวลา​เกือบ​หนึ่ง​ทุ่ม​แล้ว​

คุณป้า​พี่เลี้ยง​มาทำความสะอาด​โต๊ะอาหาร​ ฟางจั๋ว​หรา​น​ไป​ที่​ห้องนั่งเล่น​และ​เปิด​ทีวี​ ทุก​คนดู​ข่าว​ที่​ออกอากาศ​ด้วยกัน​

ระหว่าง​รายการ​ข่าว​ก็​มีคน​เคาะ​ประตู​ลานบ้าน​อีกครั้ง​

อา​หวง​กับ​ป้า​พี่เลี้ยง​ไป​เปิด​ประตู​ด้วยกัน​ ซึ่งอา​หวง​เอาแต่​เห่า​ราวกับ​เกลียดชัง​แขก​ผู้มาเยือน​อย่าง​มาก​

พี่เลี้ยง​เปิด​ประตู​ เห็น​ครอบครัว​หนึ่ง​และ​รอง​อธิการบดี​กู้​ยืน​อยู่​นอก​ประตู​

ครอบครัว​ของ​ทั้ง​สามคน​มาพร้อม​ของขวัญ​เต็มมือ​ และ​ของขวัญ​เหล่านั้น​ก็​ดู​มีราคา​ไม่น้อย​

คุณป้า​พี่เลี้ยง​ปิดกั้น​ผู้คน​ที่​ประตู​ลานบ้าน​และ​ตะโกน​ไป​ยัง​ห้องนั่งเล่น​ “คุณ​ท่า​นคะ​ คุณนาย​คะ​ มีแขก​มาเยือน​ค่ะ​!”

“ใคร​กัน​?” คุณย่า​ฟางลุก​เดิน​ออกจาก​บ้าน​

แม้จะไม่รู้จัก​ครอบครัว​ทั้ง​สามคน​ แต่​นาง​ก็​รู้จัก​รอง​อธิการบดี​กู้​ ดังนั้น​จึงเดา​ได้​อย่าง​รวดเร็ว​ว่า​ครอบครัว​ทั้ง​สามคน​นี้​เป็น​ใคร​

คุณย่า​ฟางกล่าว​หยอกล้อ​ “รอง​อธิการบดี​กู้​มาทำไม​คะ​? คุณ​มาที่นี่​เพื่อ​ขอโทษ​ครอบครัว​ของ​เรา​เหรอ​?”

รอง​อธิการบดี​กู้​รู้สึก​ลำบากใจ​มาก​ “ผม​โง่เขลา​ที่​อวดดี​จน​ไม่รู้​ที่ต่ำที่สูง​ ผม​พา​ครอบครัว​ของ​จ้าว​ซั่ว​หยาง​มาที่นี่​เพื่อ​ขอโทษ​หลิน​ม่าย​โดยเฉพาะ​ครับ​”

สายตา​ของ​คุณย่า​ฟางเบน​ไป​จ้องมอง​ทั้ง​สามคน​ “ครอบครัว​นี้​คือ​ครอบครัว​ของ​จ้าว​ซั่ว​หยาง​ใช่ไหม​? ท่าทาง​นี้​ไม่ธรรมดา​จริง ๆ​ ไม่น่าแปลกใจ​เลย​ที่​ลูกชาย​ของ​พวกเขา​กล้า​รังควาน​หลานสาว​ของ​ฉัน​ ทั้ง​ยัง​ต้องการ​ให้​พวกเรา​ออกมา​สารภาพ​ความผิด​และ​ขอโทษ​ด้วย​!”

พ่อแม่​จ้าว​ซั่ว​หยาง​ถูก​คุณย่า​ฟางเยาะเย้ย​ ก็​รู้สึก​อับอาย​จน​แทบจะ​แทรกแผ่นดิน​หนี​

พ่อ​ของ​เขา​พูด​พร้อม​รอยยิ้ม​ “เป็น​ซั่ว​หยาง​ที่​ไม่รู้​จับ​ที่ต่ำที่สูง​ เรา​มาที่นี่​พร้อม​ของขวัญ​เล็กน้อย​ใน​มือ​ เพื่อ​แสดง​ความเคารพ​และ​ขอโทษ​ครับ​”

สมาชิก​ทั้ง​สามของ​ครอบครัว​นำ​ของขวัญ​มาให้​คุณย่า​ฟาง

“รับ​ของขวัญ​ไป​” คุณย่า​ฟางบอก​พี่เลี้ยง​อย่าง​เฉยเมย​ จากนั้น​นาง​ก็​หันหลัง​กลับ​และ​เดิน​เข้าไป​บ้าน​

ส่วนรอง​อธิการบดี​กู้​ คุณย่า​ฟางไม่ต้อง​การคุย​กับ​เขา​อีกต่อไป​

รอง​อธิการบดี​กู้​ไม่กล้า​อวดดี​อีกต่อไป​

เขา​รู้​อยู่แล้ว​ว่า​ตัวตน​ของ​ปู่​ฟางนั้น​ไม่ธรรมดา​ และ​คุณย่า​ฟางที่​เป็น​ภรรยา​ของ​เขา​ก็​ไม่ธรรมดา​เช่นเดียวกัน​ ดังนั้น​แล้ว​เขา​จะกล้า​อวดดี​ได้​อย่างไร​?

ครอบครัว​ทั้ง​สามของ​จ้าว​ซั่ว​หยาง​มอบ​ของขวัญ​ให้​ป้า​พี่เลี้ยง​ก่อน​จะมองหน้า​กัน​และ​เดินตาม​เข้าไป​ใน​ลานบ้าน​

ป้า​พี่เลี้ยง​และ​อา​หวง​หยุด​พร้อมกัน​

อา​หวง​เอาแต่​เห่า​ใส่ครอบครัว​ของ​จ้าว​ซั่ว​หยาง​ ป้า​พี่เลี้ยง​กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​ “ขอโทษ​นะคะ​ คุณผู้หญิง​ไม่อนุญาต​ให้​พวกคุณ​เข้า​บ้าน​ค่ะ​”

ครอบครัว​ทั้ง​สามของ​จ้าว​ซั่ว​หยาง​ไม่มีทางเลือก​นอกจาก​ต้อง​หยุด​ฝีเท้า​

รอง​อธิการบดี​กู้​เกลี้ยกล่อม​ “ไป​กัน​เถอะ​”

สถานะ​ของ​คุณปู่​ฟางนั้น​ไม่ธรรมดา​ หาก​เขา​โกรธเคือง​ขึ้น​มาทุกอย่าง​จะไม่จบ​ลง​ด้วยดี​อย่าง​แน่นอน​

เขา​ให้​ของขวัญ​หลาย​พัน​หยวน​แทน​คำขอโทษ​ แต่กลับ​ไม่มีโอกาส​แม้ได้​พบ​คุณปู่​ฟาง นับประสาอะไร​กับ​การขอร้อง​ให้​เขา​ปล่อย​ตระกูล​จ้าว​ไป​

แม้พ่อ​จ้าว​และ​แม่จ้าว​จะไม่เต็มใจ​ แต่​พวกเขา​ก็​ไม่กล้า​ที่จะ​ผลีผลาม​ ดังนั้น​จึงจากไป​พร้อมกับ​รอง​อธิการบดี​กู้​อย่าง​สิ้นหวัง​

สีหน้า​ของ​จ้าว​ซั่ว​หยาง​พลัน​ซีดเซียว​

หาก​เขา​รู้​ว่า​ปู่​ของ​หลิน​ม่าย​เป็น​คนใหญ่คนโต​ที่​เกษียณอายุ​ เขา​ก็​คง​ไม่กล้า​ยั่วยุ​หลิน​ม่าย​

ระหว่างทาง​กลับ​ พ่อ​จ้าว​และ​แม่จ้าว​เอาแต่​บ่น​ใส่จ้าว​ซั่ว​หยาง​

พวกเขา​ต่าง​ด่าทอ​ลูกชาย​ตัวเอง​ที่​ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง​ ทำให้​ตระกูล​ของ​พวกเขา​ต้อง​เผชิญ​กับ​หายนะ​

เมื่อ​หนึ่ง​ชั่วโมง​ก่อน​จะเดินทาง​ไป​ยัง​บ้าน​ของ​ตระกูล​ฟาง ทันทีที่​อาหารเย็น​แสน​อร่อย​ของ​พวกเขา​วาง​บน​โต๊ะ​ พ่อ​จ้าว​ก็ได้​รับโทรศัพท์​จาก​ผู้บังคับบัญชา​

ผู้บังคับบัญชา​ด่าทอ​พ่อ​จ้าว​อย่าง​รุนแรง​โดย​บอ​กว่า​ลูกชาย​ของ​เขา​อาจหาญ​อย่าง​มาก​ที่​กล้า​ยั่วยุ​หลานสาว​ของ​ท่าน​ผู้บังคับบัญชา​ฟาง เขา​ต้องการ​ให้​ถูก​ไล่​ออกจาก​มหาวิทยาลัย​หรือ​อย่างไร​?

พ่อ​จ้าว​เหงื่อ​แตก​พลั่ก​ทันทีที่​ถูก​ด่าทอ​

หลังจาก​วางสาย​ เขา​ขอให้​ภรรยา​เตรียม​ของขวัญ​ทันที​ และ​ขอร้อง​ให้​รอง​อธิการบดี​กู้​พา​ครอบครัว​ทั้ง​สามคน​ไป​ยัง​บ้าน​ของ​ตระกูล​ฟางเพื่อ​ขอโทษ​หลิน​ม่าย​

เนื่องจาก​พวกเขา​ไม่เห็น​คุณปู่​ฟาง สมาชิก​ทั้ง​สามใน​ครอบครัว​ของ​จ้าว​ซั่ว​หยาง​จึงไม่สบายใจ​ และ​สงสัย​ว่า​เขา​จะจัดการ​กับ​ตระกูล​จ้าว​ของ​พวกเขา​อย่างไร​

……..

หลังจาก​ดู​ข่าว​ที่​ออกอากาศ​ทาง​โทรทัศน์​แล้ว​ หลิน​ม่าย​ก็​ตัดสินใจ​หยิบ​เอกสาร​ที่​เสิ่น​เสี่ยว​ผิง​ส่งแฟกซ์​จาก​เจียง​เฉิงมาให้​เธอ​

ฟางจั๋ว​หรา​นก​อด​เธอ​จาก​ด้านหลัง​ และ​จูบ​อย่าง​อ่อนโยน​บน​ผม​และ​หลัง​คอ​ของ​เธอ​ มือ​ของ​เขา​ก็​ลูบไล้​ไป​ตาม​ร่างกาย​ของ​หลิน​ม่าย​อย่าง​กระสับกระส่าย​

หลิน​ม่าย​ผลัก​เขา​ออก​ไป​ใน​ตอนแรก​ แต่​รส​สัมผัส​แห่ง​การ​จูบ​และ​มือ​อัน​อ่อนนุ่ม​ของ​เขา​ทำให้​เธอ​หัวใจ​ร้อนรุ่ม​จน​แทบ​ละลาย​

หลิน​ม่าย​ยอมจำนน​ต่อ​ชะตากรรม​ของ​ตน​ ปล่อย​ให้​ฟางจั๋ว​หรา​น​อุ้ม​เธอ​ขึ้น​บน​เตียง​ ปล่อย​ทุกอย่าง​ให้​เป็นไป​ใน​แบบ​ที่​ควรจะเป็น​…

และ​ก็​เป็น​อีก​ค่ำคืน​ที่​เหนื่อยล้า​

หลิน​ม่าย​ร่วมรัก​กับ​ฟางจั๋ว​หรา​น​เป็นเวลา​หลาย​ชั่วโมง​และ​หลับสนิท​ และ​ตื่นนอน​ใน​เวลา​แปด​นาฬิกา​ของ​เช้าวันอาทิตย์​

เธอ​รีบ​กิน​อาหารเช้า​และ​ขับรถ​ไป​ยัง​สำนักงาน​ใน​เมืองหลวง​

เธอ​โทร​ไป​ที่​สำนักงาน​ปักกิ่ง​เมื่อวาน​นี้​และ​จัด​การประชุม​ใน​วันนี้​เพื่อ​ฟังรายงาน​การทำงาน​

สิ่งที่​หลิน​ม่าย​มุ่งเน้น​คือ​การเขียน​คำโฆษณา​ของ​แฟรนไชส์​และ​การ​ส่งเสริม​การลงทุน​

การเขียน​คำโฆษณา​จัดทำ​โดย​แผนก​วางแผน​ของ​สำนักงานใหญ่​ ซึ่งทำให้​หลิน​ม่าย​รู้สึก​พึงพอใจ​มาก​หลังจาก​ได้​อ่าน​

เธอ​ขอให้​ผู้จัดการทั่วไป​ของ​สำนักงาน​ปักกิ่ง​ใช้โฆษณานี้​เพื่อ​จูงใจและ​เชื้อเชิญ​นักลงทุน​ให้​เข้าร่วม​ธุรกิจ​ของ​เธอ​

นอกจากนี้​ เธอ​ยัง​บอก​ผู้จัดการทั่วไป​ด้วยว่า​ ตน​จะเช่าหรือ​ซื้อ​ร้านค้า​ขนาดใหญ่​ใน​พื้นที่​ที่​คน​พลุกพล่าน​ให้ได้​มาก​ที่สุด​ภายใน​ครึ่ง​เดือน​ และ​วางแผน​ที่จะ​ใช้เปิด​สาขา​ร้าน​เปา​ห่า​วชือ​

แม้ว่า​ร้าน​ซาลาเปา​ที่​เธอ​เปิด​หน้า​มหาวิทยาลัย​จะขาย​เพียง​ซาลาเปา​เท่านั้น​

แม้ราคา​ซาลาเปา​จะค่อนข้าง​แพง​ แต่​ด้วย​ไส้ซาลาเปา​สูตร​ใหม่​ที่​โจว​ฉาย​อวิ๋น​คิดค้น​ถูก​เพิ่ม​เข้ามา​ ไม่ว่า​จะเป็น​ผู้อาศัย​ใน​บริเวณ​ใกล้เคียง​หรือ​นักศึกษา​ของ​มหาวิทยาลัย​ก็​ต่าง​แห่​กัน​มาซื้อ​อย่าง​ไม่ขาดสาย​

แสดงว่า​ซาลาเปา​ของ​เธอ​เป็นที่ยอมรับ​ของ​คนใน​เมืองหลวง​

การ​เปิด​ขาย​ร้านอาหาร​บริเวณ​หน้า​มหาวิทยาลัย​ชิงหวา​และ​มหาวิทยาลัย​ปักกิ่ง​เป็น​การทดลอง​ตลาด​ที่​ดี​ที่สุด​ และ​จะได้​รู้​ทันที​ว่า​อาหาร​ของ​พวกเขา​นั้น​อร่อย​หรือไม่​

เพราะ​อาหาร​ใน​โรงอาหาร​ของ​มหาวิทยาลัย​นั้น​อร่อย​และ​มีราคา​ถูก​

นักศึกษา​ส่วนใหญ่​ใน​ยุค​นี้​ค่อนข้าง​มัธยัสถ์​ พวกเขา​จะไม่กิน​อาหาร​ที่​มีราคาแพง​ นับประสาอะไร​กับ​การ​ใช้เงิน​จำนวนมาก​เพื่อ​ซื้อ​ขนม​หรือ​ของกิน​เล่น​ที่​ร้าน​หน้า​มหาวิทยาลัย​!

แต่​พวกเขา​เต็มใจ​ซื้อ​ซาลาเปา​ของ​หลิน​ม่าย​ ซึ่งหมายความว่า​ซาลาเปา​ของ​เธอ​อร่อย​และ​มีรสชาติ​ดี​จน​พวกเขา​ไม่สนใจ​ราคา​

………………………………………………………………………………………………………………………….

สาร​จาก​ผู้แปล​

ให้​มัน​รู้​ไป​ว่า​ใคร​ใหญ่​กว่า​ ทีนี้​จะมากวนใจ​ม่าย​จื่อ​อีก​ไหม​ตือ​โป๊ยก่าย​

ไหหม่า​(海馬)