บทที่ 643 ปรมาจารย์หวนคืน ร่างสิ้นวิญญาณสลาย!

ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

บทที่ 643 ปรมาจารย์หวนคืน ร่างสิ้นวิญญาณสลาย!

ถึงแม้บรรพจารย์ซานชิงจะต้านครึ่งอริยะเผ่าเพลิงกัลป์ไว้ได้ แต่ก็ไม่สามารถสังหารครึ่งอริยะเหล่านี้ได้เช่นกัน

หัวหน้าเผ่าเพลิงกัลป์กางสี่แขนออก ตะโกนด้วยน้ำเสียงโกรธเกรี้ยว “ลูกหลานแห่งเผ่าเพลิงกัลป์! จงถ่ายทอดดวงชะตามหามรรคให้บรรพชนอย่างข้าซะ!”

เสียงของเขามิได้แว่วอยู่ในสนามรบเท่านั้น แต่ได้ยินกันทั่วทั้งแดนเซียน สั่นสะเทือนแก้วหู

สิ่งมีชีวิตนับล้านของเผ่าเพลิงกัลป์พากันสละดวงชะตาของตน ลำแสงสายแล้วสายเล่าลอยออกมาจากร่างของพวกเขา ทั้งหมดพุ่งตรงไปหาหัวหน้าเผ่าเพลิงกัลป์ เป็นฉากอันตระการตา ส่องแสงพร่างพราวท่ามกลางอวกาศอันมืดมิด

เนื่องจากหัวหน้าเผ่าเพลิงกัลป์ถอยร่นออกไปอยู่นอกแดนเซียน บรรพจารย์ซานชิงจึงทำอันตรายเขาไม่ได้

บรรพจารย์ซานชิงขมวดคิ้ว

เหล่าครึ่งอริยะแห่งแดนเซียนได้พักหายใจเพียงครู่เดียวก็เข้าจู่โจมอีกครั้ง ไม่อาจปล่อยให้หัวหน้าเผ่าเพลิงกัลป์แข็งแกร่งขึ้นได้

….

ความแข็งแกร่งทรงพลังของบรรพจารย์ซานชิงเลื่องลือไปทั่วแดนเซียนอย่างรวดเร็ว ทำให้สรรพสิ่งต่างโล่งใจขึ้นมา โชคดีที่แดนเซียนยังมีผู้แข็งแกร่งระดับนี้อยู่

หานเจวี๋ยจับตามองการต่อสู้อยู่ตลอด ทำให้การฝึกบำเพ็ญล่าช้าลง

เป็นเช่นนี้ต่อไปคงไม่ได้เรื่อง

หานเจวี๋ยหยิบหนังสือแห่งความโชคร้ายออกมาอย่างเงียบเชียบ ถอนหายใจพลางเอ่ยว่า “เจ้าแดนต้องห้ามอันธการออกกอบกู้โลกอีกครั้ง แต่ชื่อเสียงคุณความดีกลับตกเป็นของพวกเจ้าเหล่าอริยะ แต่ความผิดบาปกลับมาตกอยู่ที่ข้า เฮ้อ”

บนโลกนี้ไหนเลยจะมีผู้กอบกู้โลกที่เก็บตัวเช่นข้าอยู่!

หานเจวี๋ยเริ่มสาปแช่งเต้าปู้หวัง

ห้าวันต่อมา

อายุขัยของหานเจวี๋ยเริ่มลดลง ผ่านไปแค่ห้าวัน ศึกที่ชายขอบแดนเซียนมีผู้บาดเจ็บล้มตายนับไม่ถ้วน แรงกรรมสูงท่วมฟ้า

ครึ่งอริยะของเผ่าเพลิงกัลป์เริ่มนำกำลังกระจายตัวบุกโจมตี ส่งผลให้บรรพจารย์ซานชิงไม่อาจรับมือกับศัตรูทั้งหมดได้ มีสิ่งมีชีวิตเผ่าเพลิงกัลป์กลุ่มหนึ่งบุกเข้าสู่แดนเซียนได้ ผู้นำกลุ่มคือครึ่งอริยะคนหนึ่ง มีต้าหลัวใต้สังกัดกว่าห้าสิบคน

แดนเซียนโกลาหลใหญ่แล้ว!

เหล่าอริยชนต่างก็ปวดหัวยิ่ง ขวัญกำลังใจของเผ่าเพลิงกัลป์แกร่งกล้าเกินไปแล้วจริงๆ แข็งแกร่งกว่าสรรพสิ่งในแดนเซียน แต่ละคนโจมตีเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง ตราบใดที่ยังมีลมหายใจอยู่ ก็จะสู้ไม่ยอมถอย!

หานเจวี๋ยไม่ได้สนใจแดนเซียน สายตาจับจ้องหน้าต่างค่าสถานะและกล่องจดหมายของตนอย่างเอาเป็นเอาตาย

หนึ่งล้านล้านปี!

สิบล้านล้านปี!

ร้อยล้านล้านปี!

ห้าร้อยล้านล้านปี!

[เต้าปู้หวังศัตรูของท่านมรรคจิตได้รับความเสียหาย เนื่องจากคำสาปแช่งของท่าน]

ทำต่อไป!

ในเมื่อจะสาปทั้งที เช่นนั้นก็ต้องเอาให้ตายในคราเดียว เอาให้สะเทือนไปทั่วแดนเทพหวนปัจฉิมได้จะดีที่สุด!

แววตาหานเจวี๋ยโหดเหี้ยม ทุ่มพลังสาปแช่ง

แปดร้อยล้านล้านปี!

หนึ่งพันล้านล้านปี!

สองพันล้านล้านปี!

[เต้าปู้หวังศัตรูคู่อาฆาตของท่านดวงชะตายุ่งเหยิง ดวงวิญญาณได้รับความเสียหาย เนื่องจากคำสาปแช่งของท่าน]

[เต้าปู้หวังศัตรูคู่อาฆาตของท่านเผชิญกับการโจมตีจากปรมาจารย์ลัญจกรสรวงสหายของท่าน ได้รับบาดเจ็บสาหัส]

หืม

ปรมาจารย์ลัญจกรสรวงกลับมาแล้วหรือ

หานเจวี๋ยหยุดมือทันที ในเมื่อปรมาจารย์ลัญจกรสรวงออกโรง เช่นนั้นเขาก็ไม่จำเป็นต้องสิ้นเปลืองอายุขัยอีก

เขาทอดสายตามองออกไป นอกมรรคาสวรรค์ ห้วงอวกาศบริเวณที่เต้าปู้หวังซ่อนอยู่พังทลาย อัสนีฟ้าบุพกาลอันไร้ขอบเขตแลบแฉลบแปลบปลาบ ขณะกลิ่นอายของเต้าปู้หวังเลือนหายไปอย่างรวดเร็ว เขาก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันยิ่งใหญ่ไร้ขอบเขตอีกสายหนึ่ง

ปรมาจารย์ลัญจกรสรวง!

ปรมาจารย์ลัญจกรสรวงกลับมาในช่วงเวลาที่มรรคาสวรรค์ตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน!

จอมอริยะเสวียนตูก็สังเกตเห็นเรื่องนี้เช่นกัน พลันโบกแขนเสื้อ ทำลายล้างฐานทัพของเผ่าเพลิงกัลป์ที่อยู่นอกเขตมรรคาสวรรค์โดยตรง

สิ่งมีชีวิตมากมายหลายล้านของเผ่าเพลิงกัลป์สลายเป็นเถ้าธุลี ไร้ซึ่งกำลังจะต้านทาน

เหล่าสิ่งมีชีวิตที่จะสิ้นชีพเป็นลำดับถัดไปมองเถ้าธุลีที่ล่องลอยอยู่ตรงหน้า พลันตกอยู่ในความสิ้นหวัง

ความสิ้นหวังไม่ได้ดำเนินอยู่นานนัก ไม่ถึงสามลมหายใจ สิ่งมีชีวิตจำนวนหลายล้านของเผ่าเพลิงกัลป์ก็ล้มตายดับสูญ ไม่เหลือแม้แต่เสี้ยววิญญาณ เห็นได้ชัดว่าจอมอริยะเสวียนตูลงมือด้วยความโกรธเกรี้ยว หลังอดทนมานาน

ภายในแดนเซียน

หัวหน้าเผ่าเพลิงกัลป์ที่ยังอยู่ระหว่างต่อสู้สัมผัสถึงบางอย่างได้ ก็หันกลับไปทันที สองเนตรของเขาแดงฉานในทันใด

“ไม่…”

หัวหน้าเผ่าเพลิงกัลป์เปล่งเสียงคำรามลั่น เขาตวัดหอกยาวทั้งสี่เล่มอย่างรวดเร็ว คลื่นเพลิงนับไม่ถ้วนถาโถมเข้าใส่เหล่าผู้บำเพ็ญแดนเซียน

มิใช่แค่เขา ผู้ทรงพลังคนอื่นๆ ของเผ่าเพลิงกัลป์ก็สังเกตเห็นสถานการณ์ของแนวหลังแล้วเช่นกัน

“เผ่าเพลิงกัลป์ไร้หนทางหลบหนีแล้ว ทันทีที่ออกไป พวกเราจะเผชิญกับการสังหารหมู่จากอริยะ!”

“ลูกหลานเอ๋ย! พวกเราทำได้เพียงสู้ให้ถึงที่สุด!”

“เผ่าเพลิงกัลป์แข็งแกร่งไม่ย่นย่อ ไม่หวั่นเกรงความตาย!”

“ฆ่า…”

หัวหน้าเผ่าเพลิงกัลป์ตะโกนกร้าว ระเบิดพลังออกมา สั่นสะเทือนไปทั่วแดนเซียน!

แดนเซียนอันกว้างใหญ่ไพศาลสั่นไหวอย่างรุนแรง ราวกับวันสิ้นโลกมาเยือน!

บรรพจารย์ซานชิงแค่นเสียง วาดมือเป็นวง เงาเทพใหญ่ยักษ์สามร่างปรากฏขึ้นเบื้องหน้าเขา ต่างถือกระบี่ตนละเล่ม ตวัดกระบี่ฟันออกไป ปราณกระบี่สีเขียว ดำและขาว ทั้งสามสีระเบิดขึ้นมา เนืองแน่นล้นหลาม ท่วมทับหัวหน้าเผ่าเพลิงกัลป์

เหล่าผู้ทรงพลังแดนเซียนสัมผัสได้ว่าเผ่าเพลิงกัลป์ที่อยู่นอกมรรคาสวรรค์ถูกอริยะกำราบแล้ว ต่างก็ฮึกเหิมขึ้นมา ฮึดสู้ศึกอย่างสุดกำลังกันอีกครั้ง

หานเจวี๋ยกำลังจดจ่ออยู่กับกล่องจดหมาย

น่าเสียดาย!

เต้าปู้หวังแค่บาดเจ็บสาหัส ไม่ได้ถูกสังหาร!

ปรมาจารย์ยังอ่อนด้อยอยู่บ้าง ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะสังหารคนผู้นี้ไม่ได้ หานเจวี๋ยเสียอายุขัยไปถึงสองพันล้านล้านปีเชียวนะ!

หานเจวี๋ยรู้สึกหดหู่ใจขึ้นเรื่อยๆ

ไม่ได้การแล้ว

ต้องกำจัดเต้าปู้หวังให้ได้ในครั้งเดียว

ถึงแม้ระดับความเกลียดชังสองดาวจะไม่นับว่าสูงนัก แต่คนผู้นี้จ้องจะทำลายล้างมรรคาสวรรค์อยู่ตลอด หากมรรคาสวรรค์ล่มสลาย หานเจวี๋ยก็ตกอยู่ในอันตรายแล้ว

หานเจวี๋ยหยิบหนังสือแห่งความโชคร้ายออกมา สาปแช่งต่อ

ห้าวันต่อมา

อายุขัยของหานเจวี๋ยเริ่มลดลง ในเวลาเดียวกันนี้ เผ่าเพลิงกัลป์กลายเป็นม้าตีนปลายแล้ว

สิ่งมีชีวิตเผ่าเพลิงกัลป์ที่เหลือรอดอยู่ระดับต่ำสุดคือเซียนทองต้าหลัว เหลืออยู่ไม่ถึงสามร้อยคน

พวกเขาไร้หนทางหลบหนี ทำได้เพียงสู้จนตัวตาย

ทางทิศเหนือของแดนเซียน ปฐพีแดงฉานด้วยเลือดเนื้อ ท้องนภามีพิรุณโลหิตพร่างพรม

หัวหน้าเผ่าเพลิงกัลป์ยืนอยู่เหนือปฐพี ตระหง่านดุจขุนเขา สูงเสียดเหนือมวล เขาถูกผู้ทรงพลังแห่งแดนเซียนปิดล้อมไว้ แม้แต่ตัวตนที่อยู่เพียงระดับเทพยังกล้าออกมาปิดล้อมเขาไว้เช่นกัน

หัวหน้าเผ่าเพลิงกัลป์มีโลหิตอาบทั่วร่าง หอบหายใจอย่างหนัก สองเนตรแดงฉานเปี่ยมด้วยความโกรธแค้น

“เผ่าเพลิงกัลป์…แพ้แล้ว…”

หัวหน้าเผ่าเพลิงกัลป์โศกศัลย์อยู่ในใจ

ทางฝั่งแดนเซียนเมื่อทราบว่าได้รับชัยชนะ แต่ละคนก็ปรีดายิ่ง ถากถางเผ่าเพลิงกัลป์กันอย่างบ้าคลั่ง

“อาศัยแค่พวกเจ้าก็คิดจะบุกตีแดนเซียนแล้วหรือ”

“เผ่าเพลิงกัลป์อันใด ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย”

“เฮอะ อริยะที่คุ้มกะลาหัวพวกเจ้าไปไหนแล้วล่ะ หนีไปแล้วหรือ”

“น่าสมเพช คิดจริงๆ น่ะหรือว่าพวกเจ้าแค่เผ่าเดียวก็สามารถทำลายล้างมรรคาสวรรค์ได้”

“ตัดหัวเขาเสียบประจานไว้ที่ชายขอบแดนเซียนเถิด ใช้ตักเตือนเผ่าพันธุ์เหล่านั้นที่ซุกซ่อนอยู่ในฟ้าบุพกาล!”

….

แม้ศึกครานี้จะสั้นนัก แต่แดนเซียนก็ได้รับความเสียหายไม่น้อยไปกว่าเผ่าเพลิงกัลป์เลย สูญเสียสิ่งมีชีวิตไปอย่างน้อยๆ หลักหมื่นล้าน เพลิงโทสะสูงท่วมฟ้าเปี่ยมล้นอยู่ในหัวใจของผู้เข้าร่วมศึกทุกคน

ต่อให้เผ่าเพลิงกัลป์ยอมจำนนก็ไม่มีประโยชน์!

เผ่าเพลิงกัลป์ก็ไม่คิดจะยอมจำนนเช่นกัน!

ไกลออกไป ต้าซั่นเทียนเอ่ยถาม “บรรพจารย์ ไยไม่สังหารเขาอีก”

ครึ่งอริยะคนอื่นๆ ก็เห็นด้วยกับคำพูดของเขา ไม่เข้าใจว่าบรรพจารย์ซานชิงรออะไรอยู่

บรรพจารย์ซานชิงไม่ตอบคำถาม เพียงจ้องมองหัวหน้าเผ่าเพลิงกัลป์อย่างสงบ

หัวหน้าเผ่าเพลิงกัลป์พลันเอ่ยด้วยรอยยิ้มหม่นหมอง “ใช่แล้ว! สังหารสิ! มาดูกันว่าข้าจะลากเหล่าต้าหลัวที่น่าสมเพชลงหลุมไปด้วยกันได้สักกี่ราย!”

หลังจากตระหนักถึงสถานการณ์ในปัจจุบัน หัวหน้าเผ่าเพลิงกัลป์กลับไม่รู้สึกกดดันเลย

เผ่าเพลิงกัลป์กำลังจะล่มสลาย ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เขาต้องกังวลอันใดอีกเล่า

ผู้ทรงพลังเผ่าเพลิงกัลป์คนอื่นๆ ก็เผยสีหน้าเด็ดเดี่ยวเช่นกัน

ศึกครานี้ไม่มีตัวแปรอื่นใดอีก

สุดท้ายเผ่าเพลิงกัลป์ก็ต้องล่มสลายสิ้นเผ่าพันธุ์อยู่ดี!

ร่างของหัวหน้าเผ่าเพลิงกัลป์ถูกผนึกให้กลายเป็นยอดเขายักษ์สูงนับล้านจั้งลูกหนึ่ง ใช้เตือนใจชนรุ่นหลัง

อีกด้านหนึ่ง

หานเจวี๋ยยังคงทุ่มเทสาปแช่งเต้าปู้หวัง

อีกไม่ช้าอายุขัยของเขาจะถูกหักไปครบหนึ่งพันล้านล้านปีแล้ว!

[เต้าปู้หวังศัตรูคู่อาฆาตของท่านมรรคจิตแตกสลาย กายเนื้อพังทลาย เนื่องจากคำสาปแช่งของท่าน]

ทำต่อไป!

ยังไม่ถึงขั้นร่างสิ้นวิญญาณสลาย!

หานเจวี๋ยกัดฟันยืนหยัดต่อไป

อายุขัยเขาลดทอนลงอีกหนึ่งพันล้านล้านปี!

[เต้าปู้หวังศัตรูคู่อาฆาตของท่านวิญญาณแตกสลาย พลังมรรคกระจัดกระจาย เนื่องจากคำสาปแช่งของท่าน มหามรรคโศกาอาลัย]

เมฆอัสนีซัดตลบไปทั่วนภาสรวงสวรรค์ ราวกับท้องฟ้ากำลังร่ำไห้

………………………………………………………………