บทที่ 663 ดูถูกเวยเวยอย่างนั้นรึ

องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที!

ในขณะที่​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​กำลัง​พยายาม​ทำความเข้าใจ​กับ​สถานการณ์​ที่เกิด​ขึ้นอยู่​นั้น​ ​สองเมือง​ที่​เหลือ​ต่าง​ก็​เปลี่ยนตัว​ผู้ขับ​ไล่​วิญญาณ​ร้าย​ที่จะ​ลง​ประลอง​เสร็จ​เป็น​ที่​เรียบร้อย

 

 

 

จักรวรรดิ​จ้าน​หลง​เป็น​ผู้พ่ายแพ้​ไป​ใน​ยก​แรก

 

 

 

แต่​เมื่อ​เทียบ​กับ​ตอนแรก​ ​เหล่า​เสนาบดี​กลับ​ไม่ได้​มีท​่า​ทาง​หมดหวัง​กัน​อีกต่อไป​ ​แทนที่จะ​เป็น​เช่นนั้น​ ​ใบหน้า​ของ​พวกเขา​กลับ​สว่างไสว​ไป​ด้วย​ความหวัง

 

 

 

แม้กระทั่ง​ขุนนาง​ทั้งสอง​คนที​่​เคย​คุกเข่า​ขอร้อง​ให้​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋​ยพิ​จาร​ณา​การ​แต่งงาน​ทางการเมือง​ใหม่​อีกครั้ง​ก็​ยัง​มีสาย​ตา​ที่​เปลี่ยนไป​จาก​เดิม

 

 

 

สายตา​ของ​ทุกคน​จับจ้อง​ไป​ที่​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย

 

 

 

“​หึ​”​ ​ใครคนหนึ่ง​หัวเราะ​ขึ้น​มา​เสียง​เบา​ ​หนึ่ง​ใน​ผู้ขับ​ไล่​วิญญาณ​ร้าย​ของ​เมือง​เซ​วี​ยน​หยวน​ลุกขึ้น​จาก​เก้าอี้​ไม้​ ​เสื้อคลุม​ของ​เขา​สะบัด​อยู่​รอบตัว​ ​เขา​มี​ใบหน้า​รูป​เหลี่ยม​และ​เครื่อง​หน้า​คมเข้ม​ ​ทั่ว​ร่าง​ของ​เขา​แผ่​บรรยากาศ​แห่ง​ความเยือกเย็น​ออกมา​ ​”​พระ​ชายา​สาม​อย่า​ได้คิด​จะ​ดูถูก​เมือง​เซ​วี​ยน​หยวน​เพียง​เพราะ​ท่าน​รู้​วิธี​ร่าย​คาถา​เก้า​อักขระ​นะ​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​ ​กระหม่อม​คิด​ว่ายัง​เร็ว​เกินไป​หน่อย​ที่​ท่าน​จะ​คุยโว​โอ้อวด​เช่นนั้น​ ​อย่า​ลืม​ว่า​ท่าน​เพิ่งจะ​แพ้​ไป​”

 

 

 

ทันทีที่​เขา​พูด​จบ​ ​ใครคนหนึ่ง​ก็​อุทาน​ขึ้น​ด้วย​ความตกใจ​ว่า​ ​”​พวกเรา​ดูกระ​บี่​ที่อยู่​บน​หลัง​เขา​สิ​!​”

 

 

 

“​นั่น​มัน​ไม้​จาก​ต้น​ท้อ​แดง​มิใช่​รึ​ ​มัน​คือ​อะไร​กัน​”​ ​เสนาบดี​หลาย​คน​ไม่เข้าใจ

 

 

 

เด็กหนุ่ม​ตอบ​เสียง​เบา​ว่า​ ​”​สี​ของ​กระบี่​ไม้​ท้อ​เป็น​สิ่ง​ที่​บอก​ถึง​ความสามารถ​ใน​การขับไล่​วิญญาณ​ของ​ผู้ขับ​ไล่​วิญญาณ​ร้าย​ ​ยิ่ง​กระบี่​มีสี​สด​เท่าใด​ก็​หมายความว่า​เขา​กำจัด​วิญญาณ​มามาก​เท่านั้น​ ​หลังจาก​ถึง​จำนวน​ที่​กำหนด​ ​คน​คน​นั้น​อาจจะ​สามารถ​อัญเชิญ​ยมทูต​จาก​ยมโลก​ออกมา​ได้​เลย​ด้วยซ้ำ​”

 

 

 

ความกังวล​ก่อนหน้านี้​ของ​ชายหนุ่ม​กำลังจะ​กลายเป็น​จริง​เพราะ​คนที​่​กำลัง​เดิน​เข้ามา

 

 

 

พลัง​ที่​สั่งสม​มาจาก​การฝึกฝน​หลาย​ต่อ​หลาย​ปี​ที่​หลั่งไหล​ออกมา​จาก​เขา​ย่อม​ไม่ใช่​ความผิดพลาด

 

 

 

เหล่า​เสนาบดี​ไม่เข้าใจ​เหมือนกัน​ว่า​ทำไม​จู่ๆ​ ​พวกเขา​ก็​รู้สึก​เหมือน​หายใจ​ลำบาก​ทันทีที่​คน​คน​นี้​ปรากฏตัว​ขึ้น

 

 

 

ดวงตา​ของ​เขา​ดูรา​วกับ​จะ​สามารถ​ชี้​เป็น​ชี้​ตาย​ได้

 

 

 

สถานการณ์​ดูจะ​พลิกผัน​กลับกลาย​เป็น​เลวร้าย​ยิ่งกว่า​ที่​เคย​!

 

 

 

และ​อีก​อย่าง​…

 

 

 

“​เขา​สามารถ​อัญเชิญ​ยมทูต​จาก​ยมโลก​มา​ได้​อย่างนั้น​หรือ​?​!​”​ ​บน​โลก​นี้​มี​คนที​่​สามารถ​ทำ​เช่นนั้น​ได้​ด้วย​หรือ

 

 

 

เด็กหนุ่ม​พยักหน้า​ด้วย​สีหน้า​เคร่งเครียด​ ​”​มัน​เป็น​อาคม​ขับไล่​วิญญาณ​ร้าย​ชั้นสูง​ ​ข้า​เคย​เห็น​ผู้อาวุโส​ใช้​มัน​เพียง​ครั้ง​เดียว​เท่านั้น​ ​ผู้อาวุโส​กล่าว​ไว้​ว่า​ถ้า​ผู้ขับ​ไล่​วิญญาณ​ร้าย​ที่​ไม่มี​คุณสมบัติ​เหมาะสม​พยายาม​อัญเชิญ​ยมทูต​และ​ควบคุม​มัน​ไม่อยู่​ ​เขา​จะ​ต้อง​ถูก​ลาก​ลง​ไป​ใน​ยมโลก​และ​จะ​ไม่มีวัน​ได้​กลับมา​ยัง​โลก​มนุษย์​อีก​”

 

 

 

“​ยมทูต​พวก​นั้น​จำเป็น​สำหรับ​คุ้มกัน​ผนึก​ขับไล่​วิญญาณ​ร้าย​หรือเปล่า​”​ ​เสนาบดี​ถาม​อย่าง​เป็นกังวล

 

 

 

หลังจาก​คิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​เด็กหนุ่ม​คน​นั้น​จึง​ตอบ​ว่า​ ​”​วิญญาณ​อาฆาต​บาง​ตน​จำเป็นต้อง​มีย​มทูต​พาก​ลับ​ไป​ที่​ยมโลก​ ​เพราะ​เรา​ไม่​สามารถ​กำจัด​มันต​รง​ๆ​ ​ได้​ ​ไม่อย่างนั้น​ปราณ​แห่ง​ความเคียดแค้น​ที่​หลงเหลือ​อยู่​จะ​ส่งผล​กระทบ​ต่อ​ผนึก​ได้​”

 

 

 

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​เลิก​คิ้ว​ ​สรุป​ว่ายก​นี้​พวกเขา​คิด​ที่จะ​อัญเชิญ​ยมทูต​ออกมา​หรือ​ ​ยมทูต​ที่ว่า​กัน​ว่า​เป็น​ผู้รักษาประตู​ของ​ยมโลก​นั่น​น่ะ​หรือ

 

 

 

นาง​ไม่เคย​เห็น​พวก​มัน​ด้วยตัวเอง​มาก​่อน

 

 

 

แล้ว​…​ ​นาง​จะ​อัญเชิญ​มัน​ออกมา​ได้​อย่างไร​…

 

 

 

นาง​ยัง​ไม่เคย​เรียน​คาถา​อัญเชิญ​นั้น​เลย​ด้วยซ้ำ

 

 

 

‘​เจ้า​สามารถ​พูด​ทุกอย่าง​ได้​ตามใจ​ปรารถนา​’​ ​น้ำเสียง​อัน​คุ้นเคย​ดัง​ขึ้น​ข้าง​หู​นาง​อีกครั้ง​ ​น้ำเสียง​ของ​เขา​เนิบ​ช้า​และ​ทุ้ม​ลึก

 

 

 

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ส่งเสียง​ใน​ลำคอ​อย่าง​เกียจคร้าน​ ​‘​เช่นนั้น​ข้า​จะ​ลอง​พูด​อะไร​เท่​ๆ​ ​ออกมา​ก็แล้วกัน​’

 

 

 

‘​เท่​หรือ​’​ ​องค์​ชาย​ประหลาดใจ​กับ​คำ​นั้น

 

 

 

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ตอบ​อย่าง​หน้า​ชื่นตา​บาน​ว่า​ ​‘​ก็​อย่างเช่น​ ​ความตาย​เอ๋ย​จง​ฟื้น​คืน​!​’​ ​อย่างไร​สิ่ง​ที่​ออกมา​ก็​คง​เป็น​พวก​ภูตผี​วิญญาณ​อยู่ดี

 

 

 

ทันทีที่​นาง​พูด​จบ​ ​เทพพิทักษ์​ผืนดิน​ตัว​น้อย​ก็​ปรากฏ​ขึ้น​มาจาก​ความว่างเปล่า​ ​ไม่มีใคร​สามารถ​มองเห็น​มัน​ได้​นอกจาก​นาง

 

 

 

เทพพิทักษ์​ผืนดิน​ตัว​น้อย​แบก​ขนม​ดอก​กุ้ยฮ​วา​ไว้​บน​หลัง​ ​คำพูด​ของ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ทำให้​มัน​หยุด​เดิน​ทันที​ ​มัน​กล่าว​ทักทาย​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ด้วย​ความเคารพ​ว่า​ ​”​คารวะ​มหาเทพ​ธิดา​และ​มหาราชา​”

 

 

 

เขา​เรียก​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋ย​ที่อยู่​หลัง​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ว่า​มหาราชา

 

 

 

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​กระแอม​ ​”​ส่วน​เจ้า​คือ​”

 

 

 

“​วิญญาณ​แห่ง​ผืนดิน​”​ ​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋ย​ตอบ​อย่าง​เยือกเย็น​ ​”​พวกเขา​กลายเป็น​เทพ​เพราะ​ได้รับ​การ​สักการะ​จาก​ผู้คน​อย่างสม่ำเสมอ​”

 

 

 

เทพพิทักษ์​ผืนดิน​รู้สึก​กลัว​เมื่อ​ได้ยิน​คำพูด​ของ​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋ย​ ​”​มหาราชา​และ​มหาเทพ​ธิดา​มีสิ​่ง​ใด​ให้​ข้า​รับใช้​หรือ​ขอรับ​”

 

 

 

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ทน​เห็นภาพ​ชาย​ชรา​ตัวสั่น​อยู่​ตรงหน้า​ไม่ไหว​ ​นาง​จึง​เอ่ย​อย่าง​นุ่มนวล​ว่า​ ​”​ไม่มี​อะไร​หรอก​ ​เจ้า​กลับ​ไป​ได้​แล้ว​ล่ะ​”

 

 

 

“​ขอรับ​”​ ​เทพพิทักษ์​ผืนดิน​ดู​โล่งใจ​อย่างมาก​ ​มัน​รีบ​หายตัว​กลับ​ลง​สู่​พื้นดิน

 

 

 

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ยิ้มกริ่ม​ ​”​องค์​ชาย​ดู​สิว​่า​ท่าน​น่ากลัว​เพียงใด​”

 

 

 

“​นอกจาก​ข้า​จะ​เป็น​คน​น่ากลัว​แล้ว​ ​ข้า​ยัง​เป็น​คน​เจ้า​คิด​เจ้า​แค้น​อีกด้วย​”​ ​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋ย​เปลี่ยน​ท่านั​่ง​ ​แล้ว​พูด​ช้าๆ​ ​ว่า​ ​”​คืนนี้​เรา​มา​ลอง​ทดสอบ​ทฤษฎี​ที่ว่า​นี้​กัน​ดูดี​ไหม​”

 

 

 

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ ​:​ ​…

 

 

 

ผู้อาวุโสซ​วี​อู๋​สังเกตเห็น​ว่า​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​เอาแต่​ก้มหน้า​มอง​พื้น​ ​เขา​จึง​ยิ้ม​ออกมา​ ​”​มี​อะไร​หรือ​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​ ​หรือว่า​พระ​ชายา​สาม​เกิด​อยาก​เปลี่ยนใจ​ให้​ใคร​มา​ลง​แข่ง​แทน​”

 

 

 

“​ผู้อาวุโส​”​ ​ซง​เจิ​้​งอ​วี​้​เอ๋อร​์​เอ่ย​เสียง​เบา​ ​”​ไม่​แปลก​หรอก​เจ้าค่ะ​ว่า​เหตุใด​พระ​ชายา​สาม​จึง​คิด​เช่นนั้น​ ​อย่างไร​สิ่ง​ที่​พวกเรา​พูดถึง​กัน​อยู่​ก็​คือ​การอัญเชิญ​ยมทูต​ ​หาก​คน​ผู้​นั้น​ไม่​ระวัง​ ​วิญญาณ​ของ​พวกเขา​อาจ​ถูก​พราก​ไป​ได้​ ​ยมทูต​เหล่านั้น​ล้วนแต่​อารมณ์ร้าย​ยิ่งนัก​”

 

 

 

แน่นอน​ว่า​ผู้รักษาประตู​ยมโลก​ย่อม​อารมณ์ร้าย​เป็นธรรมดา

 

 

 

พวกเขา​เอง​ก็​เป็น​ภูตผี​ ​ดังนั้น​จึง​สามารถ​สั่งการ​พลัง​แห่ง​ความตาย​ได้

 

 

 

แม้แต่​ผู้ขับ​ไล่​วิญญาณ​ร้าย​ก็​ยัง​วิ่งหนี​เมื่อ​เห็น​พวกเขา​ ​ประการ​แรก​เป็น​เพราะ​พวกเขา​กลัว​ว่า​พลัง​หยาง​ของ​ตัวเอง​จะ​ได้รับ​ผลกระทบ​จาก​พวกเขา​ ​ประการ​ที่สอง​เป็น​เพราะ​พวกเขา​กลัว​ว่าย​มทูต​จะ​คลุ้มคลั่ง​ขึ้น​มา

 

 

 

ยมทูต​ที่อยู่​ใน​อาการ​คลุ้มคลั่ง​น่าสะพรึงกลัว​ยิ่งกว่า​วิญญาณ​ที่​คลุ้มคลั่ง​เป็น​ไหน​ๆ​ ​คนที​่​สบตา​กับ​พวกเขา​ไม่เคย​มี​ใคร​รอด​กลับมา

 

 

 

ว่า​กัน​ว่า​เรา​ไม่​ควร​ขัดขวาง​ยมทูต​ใน​ระหว่าง​ที่​พวกเขา​กำลัง​พาวิญ​ญาณ​กลับ​สู่​ยมโลก

 

 

 

แต่​นี่​เป็น​เพียง​เวลา​เดียว​ที่​มนุษย์​จะ​สามารถ​อัญเชิญ​ยมทูต​ออกมา​ได้

 

 

 

ดังนั้น​ผู้​อัญเชิญ​จึง​ต้อง​เลือก​ลงมือ​ใน​เวลา​อัน​เหมาะสม​และ​แม่นยำ

 

 

 

มิฉะนั้น​ ​เมื่อย​มทูต​ตน​นั้น​รู้​ว่า​ตัวเอง​ถูก​อัญเชิญ​มาที​่​อื่น​อย่างกะทันหัน​ใน​ระหว่าง​พาวิญ​ญาณ​กลับ​ยมโลก​ละ​ก็​ ​ใน​สมอง​ของ​พวกเขา​จะ​มี​ความคิด​อยู่​เพียง​ความคิด​เดียว​เท่านั้น

 

 

 

นั่น​ก็​คือ​การกำ​จัด​เรา​!

 

 

 

ทุกครั้งที่​ยมทูต​ขึ้น​มาบน​โลก​คน​เป็น​ ​พวกเขา​จะ​ต้อง​กลับ​ยมโลก​ไป​พร้อมกับ​วิญญาณ​หนึ่ง​ดวง​ ​นี่​คือ​กฎ

 

 

 

ก็​เหมือนกับ​ทฤษฎี​ที่ว่า​ถ้า​ราชา​แห่ง​นรก​ต้องการ​ให้​ใคร​สัก​คน​สิ้นใจ​ก่อนเที่ยง​คืน​ ​คน​คน​นั้น​จะ​ไม่มีวัน​ได้​เห็น​แสงอาทิตย์​ใน​วัน​ถัดไป​

 

 

 

นี่​จึง​เป็นสาเหตุ​ที่​ทำให้​ผู้ขับ​ไล่​วิญญาณ​คน​นั้น​จำเป็นต้อง​มี​ความสามารถ​มาก​พอที่​จะ​อัญเชิญ​และ​ส่งตัว​ยมทูต​กลับ​ไป​ได้

 

 

 

ยันต์​สีเหลือง​เป็น​สิ่งจำเป็น​สำหรับ​ผู้ขับ​ไล่​วิญญาณ​ทุกคน

 

 

 

เมื่อ​เลือด​ถูก​หยด​ลง​บน​แผ่น​ยันต์​ ​อาคม​จะ​เปลี่ยน​ยันต์​แผ่น​นั้น​ให้​กลายเป็น​วิญญาณ​อาฆาต​ ​และ​นี่​คือ​หนทาง​ใน​การ​ตบตา​ยมทูต

 

 

 

แต่​ถ้าหาก​เกิด​ความผิดพลาด​ขึ้น​ใน​กระบวนการ​นี้​ ​ยมทูต​จะ​เกิด​อาการ​คลุ้มคลั่ง​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​และ​ทุกคน​ย่อม​รู้ดี​ว่า​หลังจากนั้น​จะ​เกิด​อะไร​ขึ้นกับ​ผู้​อัญเชิญ

 

 

 

เมื่อ​ได้ยิน​คำพูด​ของ​ผู้อาวุโสซ​วี​อู๋​และ​ซง​เจิ​้​งอ​วี​้​เอ๋อร​์​ ​เด็กหนุ่ม​ก็​ยิ่ง​รู้สึก​กังวล​ ​เขามอง​ไป​ทาง​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​แล้ว​บอกว่า​ ​”​พระ​ชายา​สาม​ ​ให้​กระหม่อม​ลง​แข่ง​แทน​เถิด​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

 

 

 

แม้​ฝีมือ​ของ​เขา​จะ​ต่ำกว่า​มาตรฐาน​ ​แต่​เขา​ก็​ยัง​เป็น​ผู้ขับ​ไล่​วิญญาณ​ร้าย​ของ​จักรวรรดิ​จ้าน​หลง​ ​หน้าที่​ใน​เบื้องต้น​ของ​เขา​คือ​การปกป้อง​ผู้ปกครอง​ของ​ตัวเอง​!

 

 

 

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​มอง​เขา​อีกครั้ง​ ​เด็ก​คน​นี้​ยัง​เด็ก​นัก​ ​นาง​ลูบ​ศีรษะ​เขา​ ​และ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​”​ไม่ต้อง​ห่วง​ ​ข้า​จัดการ​ได้​”

 

 

 

เมื่อ​ได้ยิน​เช่นนี้​ ​ซง​เจิ​้​งอ​วี​้​เอ๋อร​์​ก็​พูด​ขึ้น​มา​อีกครั้ง​ด้วย​ท่าทาง​อ่อนโยน​ว่า​ ​”​พระ​ชายา​สาม​คง​คิด​ว่าการ​อัญเชิญ​ยมทูต​เป็นเรื่อง​ง่ายดาย​กระมัง​ ​เซ​วี​ยน​ปิง​ ​ถ้า​เกิด​อะไร​ขึ้นกับ​พระ​ชายา​สาม​ ​เจ้า​ต้อง​ช่วย​นาง​นะ​ ​เข้าใจ​ใช่ไหม​”

 

 

 

มอง​ทีแรก​อาจ​ดูเหมือนว่า​นาง​กำลัง​แสดง​ความเป็นห่วง​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย

 

 

 

แต่​เวลานี้​เมื่อ​นาง​พูด​เช่นนี้​ออกมา​ ​มัน​กลับ​ฟัง​ดูเหมือน​กับ​นาง​มั่นใจ​ว่า​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​จะ​ต้อง​พ่ายแพ้

 

 

 

ผู้ขับ​ไล่​วิญญาณ​ร้าย​นาม​ว่า​เซ​วี​ยน​ปิง​ถอนหายใจ​ยาว​ ​”​องค์​หญิง​ยังคง​มี​เมตตา​เหมือนเช่น​เคย​ ​แต่​ใช่​ว่า​ทุกคน​จะ​ซาบซึ้ง​กับ​ความ​ใจดี​นั้น​!​”

 

 

 

ระหว่าง​ที่​พูด​ ​เซ​วี​ยน​ปิง​ก็​เหลือบมอง​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ไป​พร้อมกัน

 

 

 

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​เลิก​คิ้ว​อีกครั้ง​ ​สอง​คน​นี้​เอาแต่​พูด​เอง​เออ​เอง​ราวกับว่า​ตัวเอง​ชนะ​แล้ว​ ​ช่าง​น่าสนใจ​จริงๆ

 

 

 

“​คนเมือง​เซ​วี​ยน​หยวน​ล้วนแต่​ช่าง​…​”​ ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​พยายาม​สรรหา​คำพูด​มาบร​รยา​ยพ​วก​เขา​ ​แต่​นาง​ก็​ไม่​สามารถ​หาคำ​ที่​ฟัง​ดู​สุภาพรื​่น​หู​ใด​มาบร​รยาย​ได้

 

 

 

ขณะที่​นาง​กำลัง​คิด​อยู่​นั้น​ ​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋​ยก​็​ขัด​นาง​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​เนิบนาบ​…