ตอนที่ 321 จับเป็นตัวประกัน
ตอนที่ 321 จับเป็นตัวประกัน
หลังจากองค์ชายรองของอาณาจักรเทียนอวี่มองมาที่นาง อวี้ชิงลั่วถึงกับหนังตากระตุกไม่หยุดจนถึงตอนนี้
หนานหนานและเด็กอีกสองคนไม่ได้มองออกไปด้านนอกแล้ว แต่ทั้งสามคนเริ่มคุยพึมพำกันภายในห้องพิเศษ
อวี้ชิงลั่วได้ยินการเคลื่อนไหวด้านนอก ก็รับรู้ได้ว่าพวกเขาคงไปกันหมดแล้ว หากกลับตำหนักอ๋องโดยใช้ถนนเส้นเล็กในเวลานี้ ก็น่าจะราบรื่นและเงียบสงบกว่ามาก
นางกดหนังตาที่ยังคงกระตุกไม่หยุด หลายวันมานี้นางก็นอนหลับเต็มอิ่มดี เหตุใดถึงได้อยู่ในสภาพอ่อนเปลี้ยเพลียแรงเช่นนี้?
นางคลึงหัวคิ้วและลุกขึ้นยืน อยากออกไปให้พ้นจากสถานที่ที่วุ่นวายแห่งนี้โดยเร็ว
“หนานหนาน ไปเถอะ” นางส่งเสียงเรียก หนานหนานรีบเงยหน้าขานตอบหนึ่งเสียง จากนั้นจึงไถลตัวลงมาจากด้านบนโต๊ะ เข้ามาจับมือของนางอย่างเชื่อฟัง
เมื่อวานเพิ่งถูกอบรมสั่งสอนไป วันนี้เขาจึงต้องรับบทเป็นลูกชายผู้แสนเชื่อฟัง ท่านแม่พูดอะไรเขาก็ต้องตอบสนองในทันที
อวี้เป่าเอ๋อร์และเย่หลานเฉิงเห็นท่าทางประจบประแจงของหนานหนาน ก็แอบปิดปากหัวเราะอย่างห้ามไม่อยู่
อวี้ชิงลั่วกลอกตาใส่หนานหนาน หลังจากสะบัดมือเล็ก ๆ ที่ติดหนึบของเขา ก็ก้าวเท้าเดินออกจากประตูห้องพิเศษเป็นคนแรก
หนานหนานบุ้ยปาก ท่านแม่เริ่มรังเกียจเขาอีกแล้ว เริ่มอีกแล้ว ใจแคบจริง ๆ ระหว่างที่คิดเช่นนี้ เขาก็เดินตามไปด้วยความไม่พอใจ
อวี้ชิงลั่วไม่ได้ก้าวเดินรวดเร็วอะไร หลังจากขึ้นมาบนรถม้า หนานหนานและเด็กอีกสองคนก็เดินตามมาติด ๆ
เหวินเทียนเห็นหนานหนานเริ่มปีนขึ้นไปด้านบนโดยไม่เหลือภาพลักษณ์ ก็อดส่ายหน้าไม่ได้ เขายื่นแขนออกไปพร้อมกับอุ้มหนานหนานขึ้นรถ ทั้ง ๆ ที่มีมือยื่นเข้ามา ทั้ง ๆ ที่สามารถกระโดดขึ้นไปด้านบนได้ แต่เขาก็ยังเสแสร้งแกล้งทำเช่นนี้อีก
เย่หลานเฉิงและอวี้เป่าเอ๋อร์ที่อยู่ด้านหลังถึงกับส่ายหน้าอย่างห้ามไม่อยู่ ก่อนจะเหยียบบนที่วางเท้าเพื่อขึ้นรถม้า
หลังจากขึ้นมาด้านบน ก็พบว่าหนานหนานกำลังซุกอยู่ในอ้อมกอดของอวี้ชิงลั่วและกำลังพูดแต่คำพูดดี ๆ ทั้งคู่ได้ยินต่างก็รู้สึกแปลกใจ อวี้ชิงลั่วก็ไม่ได้กล่าวโทษเขาแล้วมิใช่รึ? เหตุใดหนานหนานถึงทำตัวติดหนึบขนาดนี้ ราวกับ…จริงสิ ท่าทางคล้ายกับกำลังมีความคิดไม่ดีและมีเรื่องอยากจะขอร้อง
เมื่อทั้งคู่คิดถึงความเป็นไปได้นี้ ต่างก็รีบเบือนหน้าไปทางอื่นแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น
หนานหนานเงยหน้าเล็ก ๆ พร้อมกับพูดเสียงอู้อี้ “ท่านแม่ นานมากแล้วที่ข้าไม่ได้…”
“ไม่ได้” อวี้ชิงลั่วปฏิเสธโดยไม่หยุดคิด
เย่หลานเฉิงและอวี้เป่าเอ๋อร์ถึงกับประหลาดใจ หนานหนานยังไม่ทันได้พูดอะไรเลย เหตุใดถึงได้ปฏิเสธทันควันล่ะ? หรือว่าสองแม่ลูกคู่นี้ใจส่งถึงกัน ไม่ต้องพูดก็สามารถเข้าใจกันได้?
“ท่านแม่ใจร้าย” หนานหนานบุ้ยปาก เขารู้สึกไม่พอใจขึ้นมาในทันทีและไม่ได้ถลาเข้าใส่อวี้ชิงลั่วอีกต่อไป แต่กลับเอี้ยวตัวมานั่งข้าง ๆ เย่หลานเฉิงแทน
ทว่าไม่มีใครคาดคิด ยังไม่ทันได้นั่งอย่างมั่นคง จู่ ๆ รถม้าก็โคลงเคลง ทำให้ศีรษะของหนานหนานเกือบกระแทกเข้ากับจมูกของเย่หลานเฉิง โชคดีที่อวี้ชิงลั่วตาไว จึงดึงหนานหนานกลับมาได้ทัน
เพียงไม่นาน คนที่อยู่ภายในรถม้าก็ค้นพบว่าความเร็วของรถม้าเพิ่มขึ้น เพราะรถม้าโคลงเคลงรุนแรงยิ่งกว่าเมื่อครู่แล้ว
วินาทีต่อมา เสียงที่ฟังดูจริงจังของโม่เสียนก็ดังขึ้น “แม่นางอวี้ พวกเราเจอปัญหาแล้ว มีคนกำลังเพ่งเล็งมาที่รถม้าคันนี้ จับแน่น ๆ ระวังด้วยนะขอรับ”
อวี้ชิงลั่วขมวดคิ้วมุ่น หันมองเย่หลานเฉิงและอวี้เป่าเอ๋อร์ที่แม้ว่าจะหวาดกลัวแต่ก็ฝืนตัวเองให้นิ่งสงบ และหนานหนานที่กระตือรือร้นอยากลอง ก่อนจะส่งเสียง ‘อืม’ กลับไปเบา ๆ
อย่างไรก็ตาม นางยังไม่ทันได้คุ้มกันเด็ก ๆ ทั้งสามคน จู่ ๆ รถม้าก็หยุดลง เพียงไม่นานด้านนอกม่านรถก็เกิดเสียงต่อสู้อย่างดุเดือด
อวี้ชิงลั่วแง้มม่านรถ ก็พบว่ามีคนสองคนที่ปิดบังใบหน้ากำลังกวัดแกว่งดาบในมืออย่างโหดเหี้ยม และกำลังพุ่งตรงเข้าใส่เหวินเทียนและโม่เสียน
โม่เสียนแผดเสียงคำรามทุ้มต่ำ ใช้กระบี่ปัดการโจมตีของอีกฝ่าย จากนั้นก็พุ่งตัวขึ้นข้างบน ใช้โอกาสนี้พูดกับเหวินเทียนว่า “เหวินเทียน คุ้มกันนายหญิงรีบออกไปจากที่นี่”
เหวินเทียนสีหน้าตึงเครียด มองดูการต่อสู้ของทั้งสามคนปราดหนึ่ง ขบฟันแน่นและทำท่าจะฟาดแส้
ยังไม่รอให้เขาได้เคลื่อนไหว ด้านหลังก็มีคนชุดดำพุ่งตัวเข้ามาอีกหนึ่งคน สกัดกั้นการเคลื่อนไหวของเหวินเทียน
นิ้วมือของอวี้ชิงลั่วจับที่ขอบประตู สายตาจ้องมองคนเหล่านั้นที่เริ่มต่อสู้กันชุลมุน แววตาดูเคร่งขรึม
วรยุทธ์ของเหวินเทียนและโม่เสียนเป็นเช่นไรนางย่อมรู้ดี หากเป็นพวกอันธพาลธรรมดา ๆ แค่ไม่กี่กระบวนท่าก็ล้มได้แล้ว แต่ดูจากสถานการณ์ในตอนนี้ ดูเหมือนจะเป็นการยากที่จะบอกผู้ชนะในชั่วขณะนี้ ฝืมือของทั้งสามคนยอดเยี่ยมมากและอาจทำให้เหวินเทียนและโม่เสียนไม่สามารถปลีกตัวออกมาได้
อวี้ชิงลั่วหันมามองเด็กทั้งสามคน รีบยกมือขึ้นมา กำลังจะเรียกผู้พิทักษ์ทมิฬที่เย่ซิวตู๋สั่งให้คอยดูแลอยู่ข้างกายของนางออกมา
ทว่ามือขวาของนางเพิ่งจะยกขึ้น จู่ ๆ รถม้าก็สั่นสะเทือน ตามมาติด ๆ ด้วยใครบางคนที่ย่อตัวอยู่ด้านหน้ารถม้า สายตาดูเย็นชาเหี้ยมโหดกำลังจ้องหน้าของอวี้ชิงลั่ว
อวี้ชิงลั่วถึงกับสูดลมเย็นเข้าปาก ลงมือกับเขาในทันทีโดยไม่หยุดคิด
คนคนนั้นถึงกับประหลาดใจ ก่อนจะยิ้มเยาะ “ที่แท้ก็เป็นผู้มีวรยุทธ์เหมือนกัน”
อวี้ชิงลั่วพอจะฟังออก คนผู้นี้จงใจบีบเสียงให้ทุ้มต่ำและแหบพร่า
กระบวนท่าแรกของอวี้ชิงลั่วไม่สามารถโจมตีได้ ภายในใจจึงเกิดลางสังหรณ์ไม่ดี นางเพียงคนเดียวคงไม่เป็นอะไร แต่นางกลัวว่าเป้าหมายของคนคนนี้คือเด็กทั้งสามคนที่อยู่ด้านหลัง
หนานหนานมีความสามารถในการป้องกันตัวเอง แต่เย่หลานเฉิงและอวี้เป่าเอ๋อร์กลับไม่มี
เมื่อมีห่วง จึงทำให้ต้องระมัดระวังในการทำสิ่งต่าง ๆ นางไม่กล้าออกจากรถม้า ปล่อยให้เด็กทั้งสามคนปรากฏตัวตรงหน้าคนคนนี้
ทว่าผู้มาเยือนกลับแค่นเสียงเบา ๆ ก่อนจะจับแขนของนางและลากออกมาในทันที
อวี้ชิงลั่วขมวดคิ้ว ทำแค่เพียงตะโกนบอกหนานหนานด้วยความวิตกกังวล “ห้ามออกมา คุ้มกันเป่าเอ๋อร์กับหลานเฉิงให้ดี”
น้ำเสียงทุ้มต่ำของนาง ทำให้หนานหนานที่กำลังจะชะโงกหน้าออกมาเพื่อจับตัวนางหดศีรษะกลับเข้าไปอีกครั้ง คิ้วเล็ก ๆ ของเขาขมวดเข้าหากัน หันกลับมาสบตากับเย่หลานเฉิงและอวี้เป่าเอ๋อร์ ก่อนจะนั่งอยู่ในรถม้าอย่างเชื่อฟัง ทว่าดวงตาที่จากเดิมเป็นเส้นโค้ง บัดนี้กลับเปลี่ยนเป็นจริงจังผิดปกติ อีกทั้งยังฟังเสียงที่อยู่รอบข้างอย่างตั้งใจ
คนผู้นั้นที่จับตัวอวี้ชิงลั่วถึงกับตกใจเพราะเสียงตวาดทุ้มต่ำของนาง ทว่าเป้าหมายหลักของเขาคือนาง เขาจึงไม่ได้สนใจเด็กในรถที่ไม่รู้ว่าเป็นลูกเต้าเหล่าใครเหล่านั้น
เขาแค่นเยาะหนึ่งเสียง ก่อนจะอุ้มอวี้ชิงลั่วกระโดดขึ้นหลังคารถ จากนั้นก็ออกแรงใต้ฝ่าเท้า รถที่อยู่ใต้ลำตัวของพวกเขาพลันเกิดเสียง ‘แกรก ๆ ๆ’ ดังขึ้น ตามมาติด ๆ ด้วยประตูรถที่ถล่นลงพื้นและรถม้าที่ถล่มลงทั้งคัน
อวี้ชิงลั่วหรี่ตาลง ภายในใจแอบเกิดการคาดเดา
หนานหนานฟังการเคลื่อนไหวอย่างตั้งใจมาโดยตลอด หลังจากได้ยินเสียงเล็ก ๆ ดังขึ้นเหนือศีรษะ เขาก็ใช้มือทั้งสองข้างลากอวี้เป่าเอ๋อร์และเย่หลานเฉิงกระโดดลงมาจากข้าง ๆ ประตูรถม้า จากนั้นก็เลือกมุมหนึ่งเพื่อคุ้มกันพวกเขา
จนกระทั่งตอนที่เขาขมวดคิ้วหันกลับไปมองอีกครั้ง อวี้ชิงลั่วถูกคนคนนั้นจับเป็นตัวประกันกระโดดขึ้นไปยืนอยู่บนหลังคา หลังจากกระโดดอยู่สองสามหน พวกเขาก็หายตัวไป
มีเพียงเสียงของนางที่ดังจากไกล ๆ “ข้าไม่เป็นไร”
หนานหนานกระทืบเท้าแรง ๆ ค้นพบว่าคนคนนั้นดูเหมือนจะพาคนมาเป็นจำนวนมาก บนถนนที่เงียบสงัดที่พวกเขาอยู่ในตอนนี้ แม้แต่ผู้พิทักษ์ทมิฬของอวี้ชิงลั่วและฮ่องเต้ที่อยู่ที่นี่ก็ไม่สามารถสลัดให้หลุดได้
……………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ดูเหมือนคนที่มาจับตัวชิงลั่วไปจะมีฝีมือไม่ธรรมดา เป็นคนของอิอุปราชนั่นหรือเปล่านะ?
ไหหม่า(海馬)
ตอนต่อไป →