บทที่ 699 หวังหยูถูกจับ
หวังหยูเลือกที่จะมาที่นี่ด้วยความสิ้นหวัง ไม่ว่าจะประสบความสำเร็จหรือล้มเหลวก็ตามเขาไม่มีความตั้งใจที่จะจากไป เขาเดิมพันว่าธิดาเทพจะเชื่อเขา
แต่น่าเสียดายที่การเดิมพันนั้นผิดพลาด ความหวังสุดท้ายที่ริบหรี่ของเขาได้สูญหายไป
เขาไม่สามารถช่วยเหลือเผ่าอู๋ แม้กระทั่งสกุลเยว่หรือล้างแค้นให้อาจารย์และบิดามารดาของเขาได้ เขาเป็นคนไร้ประโยชน์
ทันใดนั้นชายวัยกลางคนสวมชุดคลุมสีดำสวมหน้ากากเดินเข้ามา เป็นอู๋เจี๋ยนั่นเอง เขามองหวังหยู เห็นเด็กหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ยืนตัวตรงเผชิญหน้ากับเขาด้วยท่าทางไม่กลัวเกรง
“ลูกศิษย์ของอู๋โม่ไป๋หรือ?”
น้ำเสียงเย็นชาของอู๋เจี๋ยดังขึ้น อย่างที่เขาคาดเอาไว้ ศิษย์ของอู๋โม่ไป๋ผู้นี้โตแล้วจริงๆ เขาเป็นคนพิเศษดูกล้าหาญและแตกต่างจากผู้อื่น
เขาเก่งกว่าอู๋คูมากนัก น่าเสียดาย…
ที่จริงแล้วเขาได้รับจดหมายของอู๋คูตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว ในจดหมายบอกเล่าถึงเรื่องที่อู๋หลี่ยังมีชีวิตอยู่ และเขาอาจจะเดินทางมายังเมืองเย่วเฉิง หลังจากที่ได้รับข่าวเขาไม่ได้รีบร้อนที่จะตามหาตัวแต่อย่างใด เขาคิดว่าอู๋หลี่จะต้องแอบมาหาธิดาเทพอย่างแน่นอนและก็เป็นตามที่เขาคาดคิดเอาไว้ไม่ผิด
เขาก็แค่รอ..อู๋เจี๋ยมองธิดาเทพ
“ท่านธิดาเทพได้เวลาที่ท่านต้องกลับวิหารเพื่อไปพักผ่อนแล้ว”
“ตกลง” ธิดาเทพลุกขึ้นยืนราวกับไม่ใส่ใจเหตุการณ์ตึงเครียดตรงหน้าระหว่างอู๋เจี๋ยและหวังหยู ท่าทีของนางไร้เดียงสา
“ท่านพ่อมด ท่านจำสัญญาที่ให้ไว้กับข้าได้หรือไม่?” นางทวงถาม
อู๋เจี๋ยพยักหน้า
“ข้าจำได้” ธิดาเทพมีความสุข ในที่สุดนางก็ออกไปเที่ยวเล่นได้แล้ว ความทุกข์รมานในวันนี้ไม่ได้สูญเปล่าไปเสียทีเดียว
“ส่งธิดาเทพกลับไปพักผ่อนที่วิหารก่อนเถอะ” หลังจากเขาออกคำสั่ง บ่าวรับใช้เดินเข้ามาที่ด้านข้างของเด็กสาวจากนั้นจึงพานางออกไปจากห้อง หวังหยูจ้องมองจนกระทั่งนางหายลับไปจากสายตาของตน ธิดาเทพไม่ได้หันกลับมามองเขาและไม่แสดงความวิตกกังวลในตัวเขาเลย
ธิดาเทพที่เขาจะต้องเป็นผู้ปกป้อง ได้กลายเป็นพวกเดียวกับฆาตกรไปเสียแล้ว หรือนี่จะเป็นชะตากรรมของเผ่าอู๋
ประตูวิหารปิดลงเหลือเพียงเขากับอู๋เจี๋ยเท่านั้น
หวังหยูมองอู๋เจี๋ย
“ท่านอา ในตอนนั้นอาจารย์ของข้าปฏิบัติกับท่านดีมาก เหตุใดท่านถึงได้โหดร้ายยิ่งนัก อำนาจนี้เป็นสิ่งที่ยั่วยวนใจมากหรือ?”
อู๋เจี๋ยหัวเราะแน่นอนว่าอำนาจนั้นย่อมเป็นที่ดึงดูดใจอยู่แล้ว
“มารดาของข้าเป็นคนนอกเผ่า หลังจากให้กำเนิดข้านางเลือกที่จะฆ่าตัวตายเพื่อช่วยชีวิตข้าเอาไว้ แต่ดวงตาที่เหยียดหยามนั้นยังคงอยู่ พวกเขากีดกันข้า หัวเราะเยาะข้า ราวกับข้าเป็นเพียงแมลงวันแมลงหวี่ที่อยู่ในความมืด พร้อมที่จะโจมตีข้าได้ตลอดเวลา ข้าถูกเหยียบย่ำจนเกือบตาย ต่อมาข้าได้ถูกเลือกให้เป็นพ่อมด พวกเขาจึงได้มองข้าเปลี่ยนไป ข้าจึงไม่อยากเป็นแค่พ่อมดธรรมดาๆ หากแต่ข้าต้องการจะเป็นพ่อมดศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย ข้าจะต้องทำให้คนที่ดูถูกข้าก้มหัวให้ข้าให้ได้ ข้ามาที่วิหารด้วยความทะเยอทะยานที่ยิ่งใหญ่เพียงเพื่อที่จะพบว่า..”
เขายังจำได้ว่าในครั้งแรกเมื่อมาถึงวิหารเขาเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นและคาดหวัง เขาได้เห็นอู๋โม่ไป๋เป็นครั้งแรก ชายหนุ่มรูปงามในชุดเสื้อคลุมสีขาวรายล้อมไปด้วยผู้คน รอยยิ้มบนใบหน้าราวกับแสงตะวันที่สาดส่อง หากเปรียบเทียบเขากับอู๋โม่ไป๋แล้ว เขาดูจะมืดมนมากกว่า
“ใครๆ ก็ชอบอู๋โม่ไป๋ ข้าทำได้แค่ยืนอยู่ตรงมุมห้อง ไม่มีใครสังเกตเห็นข้าเลย แม้แต่ธิดาเทพก็ชอบอู๋โม่ไป๋มาก นางชอบหยอกล้อเขา แต่ไม่เคยชายตาแลข้าเลยด้วยซ้ำ ตอนนั้นข้าเข้าใจแล้วว่าตำแหน่งพ่อมดศักดิ์สิทธิ์ย่อมเป็นของเขา เป็นตัวข้าที่คิดเพ้อฝันไปเองว่าข้าจะมีโอกาสคว้าตำแหน่งนั้นเอาไว้ได้”
“อู๋โม่ไป๋ดีต่อข้ามาก แม้ใครๆ จะไม่ชอบข้า ปฏิเสธข้า เขาเป็นคนเดียวที่พูดคุยกับข้า เวลาผู้อื่นรังแกข้า เขาช่วยเหลือทุกครั้ง แต่นั่นเป็นแค่เศษทานที่เขาให้ข้าเท่านั้น เขาไม่ได้ไยดีข้าจริงๆ หรอก เป็นแค่การแสดงน้ำใจดีมีเมตตาของเขาเท่านั้น”
“สุดท้ายแล้วธิดาเทพก็เลือกอู๋โม่ไป๋ให้เป็นพ่อมดศักดิ์สิทธิ์ ข้าถูกส่งกลับไปยังสกุลเหยา เปลี่ยนไปเป็นเหยาเจี๋ยเช่นเดิม หลังจากที่ข้ากลับมายังสกุลเหยาชีวิตข้าราวกลับดิ่งลงเหว พวกเขาหัวเราะเยาะข้า รังแกข้าอย่างน่าไม่อาย …”
อู๋เจี๋ยอิจฉาอู่โม่ไป๋ เหตุใดอู่โม่ไป๋ถึงได้โดดเด่นเป็นประกายเช่นนี้ หากไม่มีเขาแล้ว ตำแหน่งพ่อมดคงจะตกเป็นของอู๋เจี๋ย เขาเกลียดธิดาเทพ เหตุใดถึงได้เห็นแค่อู๋โม่ไป๋อยู่ในสายตา ไม่เคยเหลียวแลใครเลย เขาไม่มีทางเลือกนอกจากจะไขว่คว้ามันด้วยตัวเองจึงได้วางแผนก่อความวุ่นวายขึ้นเมื่อสิบปีที่แล้ว เขาต้องพึ่งตัวเองเพื่อจะกลายเป็นพ่อมดศักดิ์สิทธิ์ด้วยตัวเองให้ได้
“หลังจากที่ข้าได้กลายเป็นพ่อมดศักดิ์สิทธิ์แล้ว หลายสิ่งหลายอย่างได้เปลี่ยนไปจริงๆ สกุลเหยาไม่กล้ารังแกข้าอีกต่อไป พวกเขาเคารพข้า บูชาข้า ขอร้องข้า คนที่ดูถูกข้าก็แทบคลานเข่าเข้ามาหาที่แทบเท้า ชีวิตและความตายของเขาล้วนเป็นข้าเอ่ยปากแค่เพียงคำเดียวเท่านั้น ฮ่าๆๆๆ” เขาเงยหน้าขึ้นหัวเราะเสียงดังก้องด้วยความพึงพอใจ ภูมิใจในตนเอง หวังหยูมองเขาอย่างเย็นชา
“อาจารย์ของข้าเป็นคนใจดี คิดดี มีความซื่อสัตย์มาตลอด แต่เป็นจิตใจโสมมของเจ้า ทำให้เจ้าคิดร้ายกับเขา เขาไม่สมควรแสดงความเมตตาของเขาที่มีต่อเจ้าเลย ไม่จำเป็นเลยสักนิด!”
“อู๋เจี๋ย เจ้าคิดว่าเจ้าเหนือกว่า ควบคุมทุกอย่างไว้ในกำมือได้ ในขณะที่เจ้าเพลิดเพลินกับอำนาจ เจ้าก็กลัวการลงโทษจากเทพเจ้า เจ้าบีบบังคับผู้คนในเผ่าอู๋ รีดเก็บภาษี สร้างวิหาร อู๋เจี๋ยเจ้าคิดว่าเจ้าสร้างวิหารเพิ่มมากมายแล้วเทพเจ้าจะให้อภัยเจ้า ยกโทษกับการก่อกบฏของเจ้าหรือ?”
“ไม่! พระเจ้าจะลงโทษเจ้า !”
เสียงหัวเราะของอู๋เจี๋ยหยุดชะงักลง เขามองหวังหยูพลันตระหนักได้ว่าอู๋หลี่ช่างน่ารำคาญใจเหมือนกับอู๋โม่ไป๋อาจารย์ของเขา เขาจำได้ว่าเขาเห็นอู๋โมไป๋ครั้งสุดท้ายเมื่อสิบปีก่อน แม้ชีวิตจะแขวนไว้บนเส้นด้าย ทว่าชายผู้นั้นยังคงนั่งอยู่อย่างสง่างาม ปรายตามองเขาอย่างสงบ
“เป็นเจ้าเองหรือ?”
“เจ้ารู้ว่าเป็นข้า?”
“ข้าได้ทำนายดวงชะตาของข้าเอาไว้แล้ว หายนะของเผ่าอู๋กำลังจะมาเยือน ข้าจะต้องตายในวันนี้” อู๋โม่ไป๋พูดอย่างสงบ
“น้องชายเป็นเจ้าจริงๆ”
“พี่ชาย การทำนายของท่านทำให้ข้ามั่นใจมากขึ้น” อู๋เจี๋ยตอบเขา สายตาของอู๋โม่ไป๋เบนไป “อีกสิบปีต่อมา การเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้น หายนะจะสูญสิ้น” เขาหันมามองอู๋เจี๋ยอีกครั้ง เอ่ยว่า
“น้องชาย เจ้าทรยศต่อพระเจ้า ในที่สุดพระเจ้าจะลงโทษ!” อู๋เจี๋ยจำประโยคนี้ได้จากความทรงจำของเขา คำพูดของอู๋โม่ไป๋และอู๋หลี่เหมือนกันทุกประการ
อู๋เจี๋ยมองอู่หลี่ ตัวแปรที่ว่าคืออู๋หลี่งั้นหรือ? อู๋โม่ไป๋คิดหรือว่าลำพังลูกศิษย์เขาเพียงคนเดียวจะเปลี่ยนชะตาของเผ่าอู๋ได้ ถ้าเช่นนั้นเขาจะประหารชีวิตอู๋หลี่ ตัวแปรผู้นี้ต่อหน้าคนเผ่าอู๋ทั้งหมด! เขาหวังว่าอู๋โม่ไป๋ที่อยู่บนท้องฟ้าจะเบิกตาดูให้ดีๆ อู๋หลี่ตายแล้ว! มาดูกันสิว่าใครจะทำลายหายนะนี้ลงได้
“มานี่! มาจับอู๋หลี่ลูกศิษย์ของคนทรยศอู๋โม่ไป๋ เขาตั้งใจจะลอบสังหารธิดาเทพ จับเขา!” อู๋เจี๋ยตะโกนสั่ง คนกลุ่มหนึ่งกรูกันเข้ามาจับหวังหยูเอาไว้
“พาเขาไปยังแท่นบูชา!”
การสักการะและบูชายังไม่เสร็จสิ้นพิธี ยังเหลืออีกขั้นตอนหนึ่งนั่นคือการสังเวยสิ่งมีชีวิต ผู้คนยังพากันรอดูการสังเวยอยู่อย่างหนาตา
ถังหลี่และคนอื่นๆ ยังคงยืนอยู่ที่เดิม พวกเขามีสีหน้าหวาดวิตก เวลาผ่านไปราวกับเนิ่นนานหลายวัน พวกเขาพากันอธิษฐานขอให้หวังหยูเกลี้ยกล่อมธิดาเทพได้ เพื่อที่นางจะได้ยืนอยู่บนแท่นบูชาและเปิดโปงอู๋เจี๋ย
เมื่อผู้เฒ่าเยว่เห็นหวังหยูโดนพาตัวออกมา ใบหน้าของนางซีดลง อาหลี่ถูกจับได้! สกุลเยว่สิ้นสุดแล้ว นางกลอกตาเป็นลมล้มพับไปทันที
…………
————————————————