บทที่ 629 คนที่เธอหามา

บทที่ 629 คนที่เธอหามา

“เสี่ยวเถียนฉันตามหาเธอแทบแย่ ตั้งแต่ทางจากบ้านเธอมาถึงโรงเรียนเลย”

หลี่ว์หรูหยารีบร้อนวิ่งมาเบื้องหน้าซูเสี่ยวเถียนโดยไม่ได้สนใจมองคนอื่น

ความเย็นชาบนใบหน้าของซูเสี่ยวเถียนถูกเก็บกลับมา เธอยิ้มและพูด “หัวหน้าหลี่ว์ทำไมคุณถึงมาที่นี่หรือคะ? รีบร้อนขนาดนี้มีเรื่องเร่งด่วนอะไรหรือเปล่าคะ”

“บ่ายวันนี้พวกเราได้รับสายจากบริษัท Fessenger ว่าคุณออกัสจะมาเจรจาธุรกิจกับโรงงานของพวกเราสุดสัปดาห์นี้ คุณหนูคริสติน่าก็เชิญคุณให้ไปเข้าร่วมด้วยครับ”

ซูเสี่ยวเถียนยิ้มพลางถาม “คุณออกัสกับคริสติน่าจะมาหรือคะ? ดีเลยค่ะหนูมีเรื่องจะขอให้พวกเขาช่วยอยู่พอดี”

อวี๋ซีเยว่ที่อยู่ด้านข้าง ตอนที่ได้ยินคำเรียกว่าคุณออกัสและคุณหนูคริสติน่าก็ตกตะลึงเป็นอย่างมาก

ออกัสและคริสติน่าสองชื่อนี้ล้วนไม่ถือว่าเป็นชื่อที่แปลกประหลาด

แต่ชื่อ Fessenger เป็นชื่อตระกูลหนึ่งในประเทศเยอรมนี

ในฐานะที่อวี๋ซีเยว่ใช้ชีวิตอยู่ประเทศเยอรมนีมาหลายปี แน่นอนว่าเธอต้องรู้ว่าออกัสคือใคร นั่นคือคนที่กุมอำนาจของตระกูลนี้!

อวี๋ซีเยว่ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่านี่เป็นแค่ละครฉากหนึ่ง กิจการใหญ่อย่าง Fessenger จะมาร่วมธุรกิจกับโรงงานในประเทศนี้ได้อย่างไร? ถูกต้องอวี๋ซีเยว่ดูถูกโรงงานในประเทศเหล่านี้

ในความเข้าใจของเธอต่างประเทศล้วนดีทั้งนั้น ในประเทศเป็นแค่สถานที่ทุรกันดารจะคุ้มค่าพอให้นักธุรกิจต่างชาติเห็นในสายตาหรือ?

ยิ่งไปกว่านั้นผู้ที่กุมอำนาจของตระกูล Fessenger จะมารู้จักกับซูเสี่ยวเถียนที่เป็นสาวบ้านนอกคนหนึ่งแบบนี้ได้ยังไง

คิดดูแล้วก็เป็นไปไม่ได้

พูดได้ว่าความคิดของคนในเมื่อตัดสินไปแล้ว ต่อให้ความจริงนับไม่ถ้วนมาวางอยู่ตรงหน้าอย่างชัดเจน เธอก็ไม่เปลี่ยนความคิด

“นี่คือคนที่เธอหามาหรือ?”

สีหน้าของอวี๋ซีเยว่ไม่น่าดูเป็นอย่างมาก

ผู้หญิงคนนี้ช่างเป็นเด็กหญิงที่เจ้าแผนการนัก

เด็กคนนี้จะไม่เก็บเธอไว้ข้างกายฉืออี้หย่วนต่อไปเด็ดขาด ถ้าปล่อยให้เธออยู่ข้างกายฉืออี้หย่วนต่อไป เธอจะต้องเสียลูกชายคนนี้ไปแน่!

“อะไรนะคะ?” เห็นได้ชัดว่าซูเสี่ยวเถียนไม่เข้าใจความคิดของอวี๋ซีเยว่

“คนนี้เธอหามาสินะ เธอรู้ว่าฉันมาจากเยอรมนีเลยจะใช้ชื่อนี้มาหลอกฉัน ทำให้ฉันมองเธอเปลี่ยนไปสินะ?”

อวี๋ซีเยว่คิดว่าความคิดของตัวเองล้วนไม่มีผิดแม้แต่น้อย!

ต้องเป็นแบบนี้แน่นอน

นอกจากความเป็นไปได้นี้เธอก็คิดเหตุผลอื่นไม่ออกแล้ว

สายตาที่เธอมองซูเสี่ยวเถียนอำมหิตอยู่ไม่น้อย

เด็กคนนี้ต้องใจลูกชายของตัวเองจริง ๆ ก็ถูกเพราะอี้หย่วนยอดเยี่ยมเป็นที่สุด จะทำให้พวกเด็กสาวหลงใหลก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้

ยิ่งไปกว่านั้นเด็กสาวคนนี้ยังรู้แล้วว่า ครอบครัวของเขานอกจากอี้หย่วนล้วนอยู่ต่างประเทศ

ได้ยินว่าไม่กี่ปีมานี้คนในประเทศล้วนอยากไปก้าวหน้าที่ต่างประเทศ ชัดเจนว่าเด็กสาวคนนี้ก็มีความคิดเช่นนี้

หลังจากคิดมากมายใบหน้าเหยียดหยามของอวี๋ซีเยว่ก่อนหน้านี้ก็ปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง

“เหตุผลนี้ของเธอจะห่วยเกินไปแล้ว เธอคิดว่าฉันจะเชื่อว่าคุณออกัสมาทำธุรกิจกับพวกเธอหรือ? น่าขำซะจริง!”

อวี๋ซีเยว่คิดว่าแม้แต่บริษัทที่เธออยู่ตอนนี้ ถ้าอยากจะเข้าหาผู้มีอิทธิพลอย่างตระกูล Fessenger ก็ยังไม่ง่ายเลย

ใบหน้าของหลี่ว์หรูหยามองผู้หญิงที่ไม่รู้จักคนนี้อย่างมึนงง ไม่เข้าใจว่าผู้หญิงคนนี้หมายความว่าอย่างไร

ทุกคำที่เธอพูดเขาล้วนฟังเข้าใจ แต่ทำไมถึงฟังไม่เกี่ยวข้องกันเลย?

อะไรคือเหตุผลห่วย ๆ?

เห็นได้ชัดว่าพวกเขาแค่พูดเรื่องจริง

ซูเสี่ยวเถียนหัวเราะพรืดออกมาเสียงหนึ่ง

“คุณอวี๋เรื่องที่คุณทำไม่ได้ อย่าคิดว่าคนอื่นก็ต้องทำไม่ได้ด้วยสิคะ?”

หลังซูเสี่ยวเถียนพูดจบ ก็ไม่ได้สนใจอวี๋ซีเยว่ที่ในสมองมีรูโหว่อีก

เธอหันกลับไปยิ้มพลางพูดกับหลี่ว์หรูหยา “ไม่เจอกันนานแล้วฉันคิดถึงคริสติน่าจริง ๆ คุณออกัสกับคุณหนูคริสติน่าจะมาถึงวันเสาร์หรือคะ?”

“ใช่ครับ พวกเขาจะมาถึงสนามบินเช้าวันเสาร์ตอนเก้าโมงครับ”

“คุณจะไปรับพวกเขาหรือคะ?”

“ใช่ครับ หัวหน้าโรงงานคนอื่นติดธุระจึงจัดให้ผมไปรับคุณออกัสกับคุณหนูคริสติน่า “ ท่าทางของหลี่ว์หรูหยาเป็นมิตรเป็นอย่างมาก

แต่น้ำเสียงเช่นนี้ของหลี่ว์หรูหยาทำให้อวี๋ซีเยว่รู้สึกว่าเป็นเพียงละครฉากหนึ่ง

ถ้าชายตรงหน้าเป็นหัวหน้าโรงงานจริง ทำไมต้องแสดงท่าทีเคารพเด็กสาวคนหนึ่งด้วย

“หัวหน้าหลี่ว์ หลังจากคุณไปรับพวกเขาแล้วเชิญพวกเขาไปกินอาหารกลางวันที่หออีหมิงด้วยนะคะ!”

ซูเสี่ยวเถียนไม่คิดจะโต้เถียงเรื่องนี้กับอวี๋ซีเยว่อีก จึงพูดคุยเรื่องการต้อนรับกับหลี่ว์หรูหยา

ผู้หญิงคนนี้คิดเอาเองว่าคนที่กลับมาจากต่างประเทศสูงส่งกว่าคนอื่น!

อาจเป็นเพราะอยู่ที่ต่างประเทศแล้วมีความคิดของทาสบริษัทฝังหัว คิดว่าคนต่างชาติสูงส่งกว่า ดังนั้นลูกจ้างของคนต่างชาติจึงสูงส่งกว่าเช่นกัน!

พูดกับคนแบบนี้ไปนับเป็นการดูถูกสติปัญญาโดยแท้

หลี่ว์หรูหยารีบพยักหน้า “ผมเชื่อว่าคุณออกัสและคุณหนูคริสติน่าจะต้องพอใจที่ได้ไปกินอาหารที่หออีหมิงแน่ครับ!”

ตั้งแต่ต้นเขารู้อย่างแจ่มแจ้งอยู่แล้วว่าสองพี่น้องชอบหออีหมิงมากแค่ไหน

ทางด้านนี้มีคนที่ชัดเจนเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคนที่ยืนฟังอยู่ด้านข้างจะแจ่มแจ้ง

คำที่ว่าคนที่อยู่ในเกมจะมองได้ไม่ชัดเจน แต่คนที่อยู่นอกเกมจะมองเห็นได้แจ่มชัด บางครั้งก็ราวกับไม่ถูกต้องไปเสียทั้งหมด

อวี๋ซีเยว่คิดว่าคำพูดของสองคนนี้ไร้เหตุผลขึ้นเรื่อย ๆ

ร้านอาหารซอมซ่อแบบนั้นคุณออกัสจะไปชายตามองได้อย่างไร?

เธอยิ้มหยันมองการแสดงของซูเสี่ยวเถียนและหลี่ว์หรูหยาอยู่ด้านข้าง

“คุณช่วยบอกพวกเขาให้หน่อยนะคะว่าปีนี้ฉันต้องเข้าร่วมการสอบเข้ามหาวิทยาลัย ทำให้ไม่สามารถลาหยุดได้จึงไม่อาจไปรับพวกเขาได้ ต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่ง” ซูเสี่ยวเถียนตอบ

เธอรู้ว่าถ้าตัวเองบอกว่าจะไปรับคริสติน่า คริสติน่าจะต้องมีความสุขเป็นอย่างมาก

แต่เธอต้องเข้าเรียนจริง ๆ

อีกไม่กี่เดือนต้องเข้าร่วมการสอบเข้ามหาวิทยาลัย ครูประจำชั้นฮวางเหวินป่ายมีคำสั่งไม่อนุญาตให้นักเรียนลาหยุด

แม้แต่ซูเสี่ยวเถียนที่เรียนเก่งที่สุดในห้องก็ยังไม่สามารถลาหยุดได้

เพียงแค่นึกถึงท่าทีของคุณครูฮวางเธอก็รู้สึกพูดคำว่าลาหยุดสองพยางค์นี้ไม่ออก

“คุณหนูคริสติน่าเข้าใจแน่ครับ” คุณหนูคริสติน่าชอบซูเสี่ยวเถียน และปฏิบัติกับเธอเหมือนเป็นน้องสาวคนหนึ่ง เป็นธรรมดาที่จะไม่กล่าวโทษเธอเรื่องนี้

แต่หลี่ว์หรูหยาก็รู้สึกเสียดายจริง ๆ ที่ซูเสี่ยวเถียนไม่สามารถไปรับสองพี่น้องออกัสได้

“เสี่ยวเถียนโปรเจกต์ความร่วมมือครั้งนี้ของพวกเราจะออกมาเป็นอย่างไรก็ต้องพึ่งคุณแล้ว”

หลี่ว์หรูหยานึกถึงความร่วมมือระหว่างทั้งสองฝ่ายครั้งแรก คิดว่าแม้ซูเสี่ยวเถียนจะไม่สามารถไปต้อนรับได้ แต่เพราะอีกฝ่ายมาถึงช่วงสุดสัปดาห์พอดี ซูเสี่ยวเถียนจึงสามารถตามไปอีกวันได้ก็ผุดยิ้มขึ้นมา

ซูเสี่ยวเถียนยิ้มบาง “ในเมื่อพวกเขามาแล้วก็ไม่อาจให้กลับไปมือเปล่าได้ค่ะ!”

การร่วมธุรกิจก่อนหน้านี้ไม่ได้ใหญ่นัก สำหรับบริษัทอย่าง Fessenger นับว่าเล็กน้อยมาก แต่ครั้งนี้พวกเขาติดต่อมาก่อน อีกทั้งออกัสยังเดินทางมาประเทศจีนเป็นพิเศษจะต้องมีแผนใหม่แน่นอน

ซูเสี่ยวเถียนมีเหตุมีผล ออกัสในฐานะนักธุรกิจเป็นไปไม่ได้ที่จะทำอะไรสักอย่างโดยไร้เหตุผล ถึงอย่างไรก็ไม่น่าจะมาเพื่อคุยเรื่องเก่า ๆ อยู่แล้ว