บทที่ 686 ให้บทเรียน
บทที่ 686 ให้บทเรียน
อันที่จริงเขาวางแผนที่จะกำจัดซูอันตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แต่ตอนนี้เมื่อภรรยาของเขาเริ่มมีใจให้อีกฝ่าย มันก็ยิ่งทำให้ความตั้งใจของเขาเข้มข้นขึ้นเท่านั้น
“สำหรับปัญหาที่เจ้าสองคนกังวล มันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร เจ้าสองคนสามารถแกล้งทำเป็นว่ามาจากฝ่ายของราชันฉีในเวลาที่เจ้าติดต่อคนเหล่านั้น ทุกคนต่างรู้กันดีอยู่แล้วว่าลุงของข้าเป็นคนที่ไม่อยากให้พ่อของข้าได้รับชีวิตนิรันดร์มากที่สุด!”
รอยยิ้มของอ๋องอู๋ทำให้คนมองรู้สึกหนาวเล็กน้อย เขามีคู่แข่งหลักสองคนที่ขวางทางขึ้นสู่ราชบัลลังก์ คนแรกคือราชันฉี และคนที่สองคือรัชทายาท รัชทายาทอ่อนแอมากจนแทบไม่สมควรได้รับการพิจารณา คนที่เขากลัวที่สุดก็คือราชันฉี ท่านลุงที่เขาเคารพนับถือ
ดวงตาของชุนปู้ฉีเป็นประกาย “อย่างที่คาดไว้ ท่านอ๋องของข้าเฉลียวฉลาดนัก! ข้าจะพยายามหาทางเอง!”
หลังจากที่ทั้งสองจากไปแล้ว อ๋องอู๋ไปหาภรรยาของเขาด้วยความโกรธเคือง แต่เมื่อไปถึงนางกลับไม่ยอมให้เขาเข้าไปในห้องของนาง “ข้าเหนื่อยแล้ว โปรดกลับไปเถอะ”
สีหน้าของอ๋องอู๋มืดหม่น อย่างไรก็ตาม วันนี้เขาก็ได้ทำให้นางผิดหวัง เขาจึงไม่กล้าที่จะเซ้าซี้นางอีกต่อไป และทำได้แค่กลับไปที่ห้องของตัวเอง แล้วก็เลือกสาวใช้หน้าตาสะสวยคนหนึ่งติดตามไปปรนนิบัติด้วย
ฉากในจินตนาการต่าง ๆ ที่เขาสร้างขึ้นในหัวเกี่ยวกับภรรยาและซูอัน ทำให้เขารู้สึกอารมณ์พลุ่งพล่าน ส่วนนั้นของเขาตั้งโด่อย่างฮึกเหิม
หลายนาทีต่อมา สาวใช้ก็จัดเสื้อผ้าของนางให้เรียบร้อยตามเดิมและจากไป
จากนั้นอ๋องอู๋จึงเปิดเคล็ดวิชาวัฏจักรหงส์อมตะและเริ่มฝึกฝน เขาจ่ายราคามหาศาลสำหรับสิ่งนี้ ดังนั้นจึงต้องฝึกฝนมันให้คุ้มค่า
วันถัดมา…
อ๋องเหลียงและหลิวเหย่ามีความสุขตลอดทั้งคืน ดังนั้นพวกเขาจึงหลับไปตลอดจนถึงเที่ยงวัน
เมื่อเตรียมการเดินทางเสร็จแล้ว พวกเขาก็กล่าวคำอำลาอ๋องอู๋ คราวนี้อ๋องอู๋ไม่ได้รั้งพวกเขาไว้ และพาพวกเขาเคลื่อนขบวนออกจากคฤหาสน์
ระหว่างทาง อ๋องเหลียงก็ถอนหายใจ “สองวันก่อนผิวของพระชายาดูซีดเล็กน้อย แต่วันนี้นางดูดีขึ้นมาก คงผ่านการบำรุงมาอย่างดี”
อ๋องเหลียงไม่รู้เลยว่าคำพูดเอ่ยชมธรรมดา ๆ ของตนเองกระทบใจของอ๋องอู๋อย่างรุนแรง อ๋องอู๋หันกลับไปจ้องมองซูอันที่อยู่ใกล้ ๆ เขากำหมัดไว้ในแขนเสื้อแน่นจนแม้แต่เล็บก็ยังเกือบจะเจาะเข้าไปในผิวหนังของเขา
—
ท่านยั่วยุจ้าวเหยียนสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 666…666…666…
—
ซูอันตกใจอย่างมากเมื่อเขาเห็นคะแนนความโกรธแค้นที่หลั่งไหลเข้ามา เจ้าเป็นคนผลักไสภรรยาของตัวเองมาให้ข้าเอง แล้วจะมาโกรธแค้นข้าทำไม? ทำไมเจ้าไม่โกรธตัวเอง!
เฮ้อ…โลกนี้เต็มไปด้วยไอ้พวกเวรตะไลจริง ๆ…
อันที่จริง ข้าไม่รังเกียจที่จะชนกันสักตั้ง แล้วข้าจะสอนบทเรียนดี ๆ ให้เอง!
ซูอันอดไม่ได้ที่จะมองไปที่อวิ๋นอวี้ชิง และเมื่อเห็นว่านางแอบมองเขาเช่นกัน เขาจึงยิ้มและขยิบตาให้นาง
อวิ๋นอวี้ชิงหน้าแดงและหันหน้าหนีไป
ทั้งร่างกายและจิตใจของนางหมดแรง พูดตามตรง นางไม่ต้องการออกมาด้วยเลย แต่เมื่อนางคิดว่านี่อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่นางจะได้เจอซูอัน นางก็ออกมาพร้อมกับความรู้สึกแปลก ๆ ในใจ
การแลกเปลี่ยนสายตาของทั้งสองไม่ได้หลุดพ้นจากการสังเกตของอ๋องอู๋ และความโกรธของเขาก็ทวีขึ้นเรื่อย ๆ
—
ท่านยั่วยุจ้าวเหยียนสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 1024!
—
อย่างไรก็ตาม อ๋องอู๋ก็ทำได้แค่แสร้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น และยังคงสนทนากับอ๋องเหลียง หลิวเหย่า และคนอื่น ๆ ต่อไป
ในที่สุดทั้งสองกลุ่มก็ต้องแยกทางกันหลังจากที่ออกจากเมืองไปแล้ว
ขณะที่รถม้าของซูอันกำลังเคลื่อนที่ผ่านนาง อวิ๋นอวี้ชิงก็ส่งเสียงผ่านกระแสพลังชี่ให้เขา “ดูแลตัวเองด้วย”
ซูอันหัวเราะเมื่อเขารู้สึกถึงความเศร้าโศกของการพลัดพรากจากน้ำเสียงของนาง “เมืองแผ่นฟ้าอุดรเป็นสถานที่ที่ดี ทิวทัศน์ไม่เพียงสวยงามเท่านั้น แต่ผู้คนก็เช่นกัน ข้าจะกลับมาอีกแน่นอน! ฮ่า ๆ”
ใบหน้าของอวิ๋นอวี้ชิงเปลี่ยนเป็นสีแดง นางรู้ว่าเขาพูดขึ้นมาลอย ๆ ให้นางได้ยิน เพื่อเป็นการย้ำเตือนคำมั่นว่าจะกลับมาหานาง อย่างไรก็ตาม นางไม่เชื่อว่าซูอันจะมีชีวิตรอดจากการเดินทางครั้งนี้
แต่ทว่า คนอื่น ๆ ที่ไม่รู้เรื่องต่างพากันทำหน้าทำตาแปลกประหลาด เจ้าแค่ผ่านมาในฐานะนักโทษ เจ้ามีความทรงจำดีอะไรถึงอยากจะกลับมาที่นี่อีกรอบ?
มีเพียงอ๋องอู๋เท่านั้นที่เข้าใจความหมายเบื้องหลังสิ่งที่ซูอันพูด ใบหน้าหล่อเหลาของเขาบิดเบี้ยวทันที เจตนาฆ่าในตัวเขาเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ
—
ท่านยั่วยุจ้าวเหยียนสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 444!
—
หวงฮุ่ยฮงปิดหน้าต่างรถม้าของซูอันด้วยความรำคาญ “หุบปาก เจ้าเป็นนักโทษแล้วจะกลับมาได้ยังไง?”
ผู้คนรอบตัวพวกเขาต่างประสานเสียงกันหัวเราะเยาะเย้ยซูอันที่ประเมินตัวเองสูงเกินไป
ซูอันไม่สนใจ พวกลูกกระจ๊อกเหล่านี้ไม่รู้ว่าข้าสนุกกับที่นี่มากแค่ไหน!
“มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเจ้ากับพระชายาอู๋?” เจิ้งตานใช้นิ้วเขียนบนโต๊ะในรถม้า นางอยู่ข้าง ๆ ซูอัน และสังเกตเห็นการแลกเปลี่ยนสายตาของพวกเขา
ซูอันยิ้ม เขาเริ่มเขียนบนโต๊ะเช่นกัน “จะมีอะไรได้อีก นางคงไม่อาจต้านทานใบหน้าที่หล่อเหลาของข้า และตกหลุมรักข้าหมดหัวใจ”
เจิ้งตานกลอกตา
เชื่อเจ้าข้าก็ออกลูกเป็นลิงแล้ว!
พระชายาอู๋มีสถานะสูงส่งดั่งเทพธิดา ทำไมคนอย่างนางถึงจะมาสนใจเจ้าด้วย?
นางอาจสงสัยอยู่บ้างหากพวกเขาถูกขังอยู่ในจวนอ๋องอู๋นานกว่านี้ แต่พวกเขาอยู่ในจวนอ๋องอู๋เพียงสองวันและถูกขังอยู่ในเรือนนั้นตลอดเวลาโดยไม่เห็นหน้าพระชายาอู๋ด้วยซ้ำ จะมีอะไรเกิดขึ้นระหว่างซูอันและพระชายาอู๋ได้อย่างไร?
เจิ้นตานค่อย ๆ ถอนหายใจเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ นี่นางคงคิดมากเกินไป
ซ่างหงรู้สึกมึนงง เขารู้สึกราวกับว่าได้ลืมอะไรบางอย่างไป แต่ไม่สามารถเข้าใจได้ว่ามันคืออะไร
ซ่างเชียนเป็นคนเดียวที่ยังคงจ้องมองผู้หญิงในเสื้อคลุมจิ้งจอกขาว ขณะที่ระยะทางระหว่างเขากับนางห่างกันมากขึ้นเรื่อย ๆ เขาถอนหายใจ ในโลกนี้จะมีผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบเช่นนี้อีกได้อย่างไร? เขาอิจฉาอ๋องอู๋อย่างไม่น่าเชื่อ
…
ในขณะที่แต่ละคนมีความคิดของตัวเอง ขบวนก็มุ่งหน้าไปทางเหนือ และมาถึงเมืองเล็ก ๆ เมืองหนึ่ง ท้องฟ้าเริ่มมืดลงแล้ว อ๋องเหลียงจึงสั่งให้หยุดที่เมืองนี้
เมืองนี้มีโรงเตี๊ยมเพียงแห่งเดียว ลูกน้องของอ๋องเหลียงจึงรีบจองห้องทั้งหมดอย่างรวดเร็ว แน่นอน ราชองครักษ์ส่วนใหญ่ต้องประจำการอยู่นอกเมือง
เนื่องจากขาดแคลนห้องพัก ซูอันจึงไม่สามารถมีห้องของตัวเองได้ เขาต้องอยู่ร่วมห้องกับซ่างหงและซ่างเชียน
ภายในห้อง แทบจะในทันทีที่ซ่างเชียนเห็นซูอันเดินเข้ามา ใบหน้าของเขาก็แดงก่ำไปด้วยความโกรธ
ซูอันสังเกตเห็นว่าซ่างเชียนกำลังทำหน้าทำตาขึงขังคล้ายจะกระโจนใส่เขาอยู่ตลอดเวลา เขาจึงพูดอย่างไม่พอใจว่า “เจ้านี่มันเนรคุณจริง ๆ”