บทที่ 688 น้องสาว

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

บทที่ 688 น้องสาว

บทที่ 688 น้องสาว

ใบหน้าของซ่างเชียนเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก หากพลังชี่ของเขาไม่ถูกผนึก เขาจะไม่มีวันกลัวคนผู้นี้ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขาอ่อนแอกว่าคนทั่วไปด้วยซ้ำ แค่ผู้บ่มเพาะระดับหนึ่งก็สามารถฆ่าตัวเองได้ง่าย ๆ แล้ว

ทว่าซ่างหงกลับยังคงสงบเยือกเย็น เขาเป็นผู้บ่มเพาะระดับแปดที่ทรงพลัง แม้ว่าจะไม่สามารถใช้พลังชี่ได้ แต่สายตาที่ไม่ธรรมดาของเขาก็ยังคงอยู่

เขาโยนชามอาหารไปทางเด็กรับใช้โรงเตี๊ยม แล้วหยิบตะเกียบขึ้นมาแทงไปที่คอของอีกฝ่ายที่ถูกชามอาหารบดบังทัศนวิสัย

นักฆ่าในคราบเด็กรับใช้โรงเตี๊ยมเอามือกุมคอของตัวเอง แต่หลอดเลือดแดงของเขาถูกเจาะไปแล้ว เลือดพุ่งออกมาอย่างต่อเนื่อง เขาไม่อยากเชื่อ ไม่คาดคิดเลยว่าชายชราคนนี้จะเป็นฝ่ายฆ่าเขาแทน!

ในเมื่อพลังชี่ของซ่างหงถูกผนึกไว้ ดังนั้นอีกฝ่ายก็ควรจะไม่ต่างจากชายชราทั่วไป

ซูอันกลืนน้ำลาย เสือไม่มีฟันก็ยังเป็นเสือ!

ความเข้าใจในจังหวะเวลาของซ่างหงแม่นยำและฆ่าศัตรูได้ราวกับว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เมื่อพิจารณาว่าเขาได้ยั่วยุซ่างเชียนไปมากแค่ไหนแล้ว ถ้าซ่างหงตัดสินใจที่จะล้างแค้นแทนลูกชาย เขาอาจจะไม่สามารถทำอะไรได้เลย…

ซ่างหงก็หอบหายใจเช่นกัน ด้วยการถูกปิดผนึกพลังชี่ การโจมตีนั้นได้กินพละกำลังไปมาก

ทันใดนั้น หน้าต่างห้องก็ถูกเปิดออก และมีคนจำนวนมากบุกเข้ามา ทุกคนแต่งตัวเป็นเด็กรับใช้โรงเตี๊ยม อย่างไรก็ตาม กระบี่ในมือของพวกเขาทั้งหมดชี้ไปที่ซ่างหงและซ่างเชียน

ซ่างเชียนถือเป็นผู้บ่มเพาะที่ทรงพลังคนหนึ่ง เมื่อความตกใจในตอนแรกหายไป เขาก็ตอบสนองอย่างรวดเร็ว แม้ว่าพลังชี่ของตัวเองจะถูกผนึก และเขาไม่สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้เหล่านี้ได้ แต่ก็ยังสามารถใช้สิ่งต่าง ๆ ในห้องเพื่อเอาชีวิตรอดได้ แม้ว่ามันจะเป็นการต่อสู้ที่สิ้นหวังก็ตาม

เขาไม่มีเวลาสนใจพ่อของตัวเอง

การโจมตีครั้งก่อน ทำให้ซ่างหงหมดแรง เขากลิ้งหลบไปมาบนพื้นขณะที่กระบี่ของผู้โจมตีพุ่งเข้าหาเขา แต่แทบจะในทันทีที่เขาหลบพ้นกระบี่แรก กระบี่ที่สองก็ได้พุ่งมาหาอย่างฉับพลัน

เขาไม่สามารถรวบรวมกำลังได้ทันเวลาอีกต่อไป ไม่มีทางที่จะหลบเลี่ยงการโจมตีร้ายแรงนี้ได้ ทั้งหมดที่เขาทำได้คือถอนหายใจ คิดว่าคนอย่างเขาที่ใช้ชีวิตรอบคอบมาตลอดจะต้องมาตายแบบนี้…

แต่แล้วในช่วงจังหวะเข้าได้เข้าเข็ม จู่ ๆ กลับมีวัตถุบางอย่างพุ่งเข้าใส่หัวของนักฆ่าที่กำลังจะสังหารซ่างหงเข้าอย่างจัง เหตุการณ์นี้ทำนักฆ่าชะงักไปชั่วขณะ และกระบี่ของเขาก็เฉี่ยวเพียงเส้นผมของซ่างหง นักฆ่ากุมศีรษะโดยสัญชาตญาณและมองไปข้างหลัง

ซูอันยกมือทั้งสองข้างขึ้น “เจ้าจะเชื่อข้าไหมถ้าข้าบอกว่าไม่ได้ตั้งใจ”

ผู้โจมตีคนนั้นโกรธจัด เขากำลังจะเหวี่ยงกระบี่ใส่ซูอัน แต่ซ่างหงที่ฟื้นกำลังมาแล้วบางส่วนแล้วหยิบเศษชามที่แหลมคมเมื่อครู่ขึ้นมาจากพื้นแล้วนำมาปาดคอของผู้โจมตีอย่างเงียบเชียบ

ผู้โจมตีเอามือกุมคอและเดินถอยหลังกลับ ก่อนจะทรุดตัวลง

“ขอบคุณน้องชาย!” ซ่างหงหอบหายใจขณะที่เขาพยักหน้าไปทางซูอัน ด้วยความซาบซึ้ง

“ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย” ซูอันตกตะลึงเล็กน้อย แม้ว่าผู้ชายคนนี้จะดูแก่หงำเหงือกไร้เรี่ยวแรง แต่การโจมตีของเขานั้นรวดเร็วและแม่นยำมาก!

ซ่างหงไม่ได้ให้โอกาสคู่ต่อสู้ของเขาโต้ตอบแม้แต่น้อย ไม่น่าแปลกใจเลยที่แม้แต่ตระกูลฉู่ซึ่งเป็นตระกูลที่เจริญรุ่งเรืองมานับพันปี ก็เกือบจะถูกเขาคนนี้โค่นล้ม

เขาช่วยซ่างหงด้วยเหตุผลสองประการ ประการแรก ซ่างหงได้ให้โอกาสเขาที่จะหลบหนีมาก่อนโดยการหยุดอ๋องเหลียงซึ่งอาจถือได้ว่าเป็นการใช้หนี้ชีวิต เหตุผลที่สองเป็นเพราะสิ่งที่ซ่างหงได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้เกี่ยวกับความร่วมมือ

จู่ ๆ เขาก็นึกขึ้นได้ว่ากำลังมุ่งหน้าไปยังเมืองหลวง สถานที่ที่เขาไม่รู้อะไรเลย ไม่มีใครที่นั่นสักคนเดียวที่เขาสามารถพึ่งพาได้ และเขาไม่มีแม้แต่ความรู้พื้นฐานที่สุดเกี่ยวกับสิ่งที่เขาจะต้องเผชิญ สิ่งนี้ทำให้การวางแผนทุกอย่างยากมาก

ถ้าเขาสามารถขอความช่วยเหลือจากซ่างหงได้ นั่นจะช่วยแก้ปัญหาของเขาได้มากมาย การอยู่ฝ่ายเดียวกับชายชราคนนี้ไม่ใช่ความคิดที่แย่

แต่ตอนนี้เขาไม่มีเวลาคิดเรื่องนี้ หัวหน้าของกลุ่มผู้โจมตีตะโกนเสียงดัง “รีบจบงาน!

กลุ่มผู้โจมตีเคลื่อนไหวเร็วขึ้น การโจมตีรุนแรงขึ้นกว่าเดิม หนึ่งในนั้นวิ่งปรี่มาหาซูอัน

ซูอันไม่ได้คิดจะเสี่ยงชีวิต ชายหนุ่มก็ออกวิ่งทันที แม้ว่าเขาจะไม่มีสายตาที่เฉียบแหลมแบบซ่างหง แต่เขาก็ยังมีวิชาร่างก้าวทานตะวัน แม้ว่าเขาจะไม่สามารถใช้พลังชี่ของตัวเองเพิ่มได้ แต่มันก็ย่อมดีกว่าวิ่งหนีแบบธรรมดา

ในที่สุดซ่างเชียนก็ถูกคมกระบี่ เขาหลบเลี่ยงมาโดยตลอด และถึงแม้จะเฉียดฉิวอยู่หลายครั้ง เขาก็ไม่ได้รับบาดเจ็บจนถึงตอนนี้

“เกิดอะไรขึ้นกับทหารข้างนอก!” ซูอันรู้สึกหวาดกลัว แม้ว่าเวลาจะผ่านไปไม่นาน แต่ในนี้ก็มีเสียงดังมาก ไม่มีทางที่คนข้างนอกจะไม่ได้ยินอะไรเลย

ในขณะเดียวกัน แม้ว่าผู้โจมตีเหล่านี้จะดุร้าย และทุกการโจมตีของพวกเขาหวังผลถึงตาย แต่ระดับการบ่มเพาะของพวกเขาก็ไม่ได้สูงเท่าไหร่ นี่จึงเป็นเหตุผลที่ซูอันและคนอื่น ๆ ยังมีชีวิตอยู่แม้ว่าพลังชี่พวกเขาจะถูกผนึกไว้

จากนั้นซูอันสังเกตเห็นว่าสถานการณ์ของซ่างหงแย่ลงอย่างมาก อีกฝ่ายได้รับบาดเจ็บหลายแห่ง และดูเหมือนว่าใกล้จะตายเข้าทุกที

แต่แล้วในขณะที่ซูอันกำลังสับสน เงาของกระบี่เล่มหนึ่งที่เงาวับกว่าของทุกคนก็ถูกชักออกจากฝักโดยเด็กรับใช้โรงเตี๊ยมคนหนึ่งที่รูปร่างดูคุ้นเคย

ซูอันหรี่ตามองร่างของเด็กรับใช้โรงเตี๊ยมผู้นี้ที่จู่ ๆ ก็ ปรากฏตัวขึ้นซึ่งกำลังเคลื่อนไหวไปมาอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้าแลบ กระบี่ที่ยืดหยุ่นในมือของ ‘นาง’ เชือดคอของเหล่าผู้โจมตีทั้งหมดอย่างรวดเร็ว ในเวลาไม่นานนักผู้โจมตีคนสุดท้ายก็ค่อย ๆ ทรุดร่างลง

ในที่สุดเด็กรับใช้โรงเตี๊ยมผู้มาใหม่ก็เผยโฉมออกมา คนผู้นี้แต่งตัวเป็นคนรับใช้และสวมหมวกหนัง อย่างไรก็ตาม เสื้อผ้าที่หยาบกร้านไม่สามารถปกปิดรูปร่างที่สง่างามของนางได้ ด้วยคิ้วที่โค้งมน ปากเล็ก และผิวขาวผุดผ่อง เห็นได้ชัดว่าผู้หญิงคนนี้แต่งตัวเป็นผู้ชาย

เขาเคยเห็นการแต่งตัวที่ไม่เนียนแบบนี้มาเยอะมากในละครทีวีของโลกที่แล้วของเขา แต่ไม่คิดเลยว่าผู้หญิงของโลกนี้จะกล้าแต่งตัวข้ามเพศที่ไม่เนียนขนาดนี้เหมือนกัน

เมื่อคิดได้เช่นนั้น เขาก็เดินไปหานาง “ขอบคุณมหาบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ที่ช่วยชีวิตเรา น่าเสียดาย ข้าไม่ได้มีของมีค่าอะไรในตัวเลย ข้าขอกอดท่านเพื่อแสดงความขอบคุณจะได้หรือไม่?”

ขณะที่เขาพูดซูอันก็เอื้อมมือโอบไปที่ไหล่ของนาง อย่างไรก็ตาม มือของเขาถูกปัดออกอย่างแรง “ทำไมเจ้าเป็นคนพาลแบบนี้!?” นางถามพร้อมกับขมวดคิ้ว

เสียงของนางคมชัด ฟังดูไพเราะแม้ผู้เป็นเจ้าของจะกำลังโกรธก็ตาม

ซ่างเชียนดีใจมากทันทีที่เห็นนาง เขาร้องออกมา “น้องเล็ก ฆ่าผู้ชายคนนั้นซะ!”

ซูอันรู้สึกว่าจิตใจของเขานิ่งไปชั่วขณะ น้องเล็ก?

หญิงสาวหันไปทางซ่างเชียน “เขาทำอะไรท่าน?”

“ผู้ชายคนนี้รังแกพี่สะใภ้ของเจ้า!” แม้ว่าซ่างเชียนจะไม่เห็นอะไรเลย แต่เขาก็ยังโกรธอยู่เพราะว่าทั้งสองใช้รถม้าร่วมกัน

“เช่นนั้นเขาก็สมควรตาย!” ใบหน้าของหญิงสาวเย็นชา ก่อนจะชักกระบี่ออกจากฝักอีกครั้ง!