บทที่ 690 แลกเปลี่ยนตัวตน

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

บทที่ 690 แลกเปลี่ยนตัวตน

บทที่ 690 แลกเปลี่ยนตัวตน

อ๋องเหลียงรู้สึกสับสน “ท่านหมายถึงอะไร?”

“เป็นคนของท่านที่เรียกพวกเราไปหารือเกี่ยวกับแผนการเดินทาง!” หวงฮุ่ยฮงกล่าว น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความหมายที่ซ่อนเร้น

อ๋องเหลียงสูดลมหายใจ “ผู้บัญชาการหวงโปรดระวังคำพูดด้วย! ข้าส่งใครไปเรียกท่านตอนไหน ข้าเดินตรวจตราไปตรงโน้นตรงนี้ตลอดเวลา หลายคนเป็นพยานได้ เรื่องที่เกิดขึ้นนี้มันเป็นเพราะท่านประมาทเลินเล่อต่างหาก ท่านจะโทษข้าได้ยังไง!?”

หลิวเหย่าทำหน้าที่เป็นคนกลาง “เราทุกคนเป็นพวกเดียวกันหมด! ตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือเราควรช่วยกันสืบสวนเรื่องที่เกิดขึ้น แทนที่จะโทษพวกเดียวกันเอง!”

หวงฮุ่ยฮงมองสอดส่ายสายตาไปทั่วทั้งบริเวณ แต่ไม่พบคนที่มาเรียกตัวเขาก่อนหน้านี้ ซึ่งเขาคิดว่าคงไม่ได้เป็นคนผู้นั้นอีกแน่

แม้ว่าเขาจะรู้ว่าคนที่เรียกเขาเป็นหนึ่งในลูกน้องของอ๋องเหลียง แต่เขาก็ไม่มีหลักฐานใด ๆ เป็นชิ้นเป็นอัน ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงกลืนคำพูดลงคอ

ซ่างหงมองดูทุกอย่างดำเนินไปพร้อม ๆ กับรอยยิ้มจาง ๆ ที่มุมริมฝีปากของเขา

หวงฮุ่ยฮงสอบปากคำนักโทษทั้งสามเป็นการส่วนตัว

ทั้งสามไม่ได้ปิดบังเรื่องราวที่เกิดขึ้น ยกเว้นการปรากฏตัวของซ่างเฉี่ยน

เมื่อทุกคนออกไปแล้ว ซ่างหงก็พยักหน้าอย่างขอบคุณต่อซูอัน “ขอบคุณ”

ซูอันยิ้ม “ข้าไม่ได้อยากจะโอ้อวด แต่ท่านควรรู้ไว้ว่าข้าคือชายที่อ่อนโยนต่อเหล่าสตรีมาโดยตลอด แน่นอนว่าข้าไม่อยากให้นางถูกตามล่า”

ซ่างเชียนพ่นลมหายใจอย่างหงุดหงิด “เจ้าอย่าลามปามน้องสาวของข้า! อะไรก็ตามที่อยู่ในใจของเจ้า มันเป็นเพียงแค่ความเพ้อฝัน น้องสาวของข้าทั้งสวยและฉลาด นางปฏิเสธผู้ชายหลายคนซึ่งดีกว่าเจ้ามากมาแล้ว!”

ซูอันเลิกคิ้วขี้น “ก่อนหน้านี้ข้าไม่มีความคิดเกี่ยวกับนางเลยจริง ๆ แต่หลังจากได้ยินเจ้าพูด… อืม…ข้าเริ่มสนใจนางบ้างแล้วแหละ มันคงจะเยี่ยมน่าดู ถ้าข้าได้น้องสาวของเจ้ามา?”

“เจ้า!” ซ่างเชียนคำรามอย่างโกรธเกรี้ยว

ท่านยั่วยุซ่างเชียนสำเร็จ

ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 515!

ซ่างหงอดไม่ได้ที่จะส่ายหัว สองคนนี้เข้ากันไม่ได้จริง ๆ

อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่เรื่องที่เขาสนใจในตอนนี้ เขาเพิ่งสังเกตเห็นหวงฮุ่ยฮงเดินเข้ามาและเขาก็ใช้โอกาสนี้พูดว่า “ผู้บัญชาการหวงข้ามีเรื่องอยากจะขอคุยด้วยเป็นการส่วนตัว”

หวงฮุ่ยฮงขมวดคิ้ว แต่เขายังคงพาซ่างหงไปที่ห้องส่วนตัว “ท่านซ่างต้องการจะคุยกับข้าเรื่องอะไร?”

น้ำเสียงของเขาไม่ดีเท่าไหร่นัก การสูญเสียผู้ใต้บังคับบัญชาไปถึงสองคนทำให้เขาอารมณ์ไม่ดีอย่างเห็นได้ชัด

ซ่างหงไม่ได้สนใจน้ำเสียงของอีกฝ่าย เขาพูดอย่างใจเย็น “มีคนในกองกำลังคุ้มกันของเราสมรู้ร่วมคิดกับผู้โจมตีเหล่านั้น”

หวงฮุ่ยฮงยิ้มเย้ย “นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว แต่ท่านซ่างมีหลักฐานหรือไม่?”

ซ่างหงส่ายหัว “พวกมันล้วนเป็นจิ้งจอกเฒ่าในวงการการเมือง จะมีหลักฐานเหลือทิ้งไว้มัดตัวพวกมันได้ยังไง?”

หวงฮุ่ยฮงดูอารมณ์เสียเล็กน้อย “แล้วท่านจะมาบอกอะไรข้าตอนนี้?”

ซ่างหงกล่าวว่า “แม้ว่าตอนนี้ข้าจะเป็นนักโทษ แต่ข้ายังคงภักดีและอุทิศตนให้กับฝ่าบาทเสมอ ในตอนนี้ คน ๆ เดียวที่ข้ามั่นใจที่สุดในกลุ่มเราว่ายังภักดีต่อฝ่าบาทก็คือผู้บัญชาการหวง”

หวงฮุ่ยฮงขมวดคิ้ว “ท่านซ่างพยายามจะพูดอะไรกันแน่?”

ซ่างหงกล่าวว่า “ซูอันมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อองค์จักรพรรดิ แต่มีหนอนอยู่ในกลุ่มของเรานี้ ข้าไม่เชื่อว่าผู้บัญชาการหวงจะสามารถพาเขาไปที่เมืองหลวงได้อย่างปลอดภัย”

หวงฮุ่ยฮงเริ่มเงียบ มันเป็นความจริง เขาเองก็เริ่มสงสัยเหมือนกัน ทูตยุทธ์เสื้อแพรจะไม่มีปัญหาใด ๆ ในการป้องกันการโจมตีโดยตรงจากฝ่ายตรงข้ามขององค์จักรพรรดิ ทว่าศัตรูของพวกเขากลับเล่นสกปรก และมีบุคคลในกลุ่มที่สมรู้ร่วมคิดกับศัตรู เขารู้สึกไร้อำนาจเมื่อเผชิญกับเรื่องทั้งหมดนี้

“ท่านซ่างมีข้อเสนอแนะอะไรงั้นเหรอ?” หวงฮุ่ยฮงจำได้ว่าซ่างหงคือผู้ที่เต็มไปด้วยอุบายอันแยบยล เขาจึงขอคำปรึกษาอย่างอ่อนน้อมถ่อมตน

ซ่างหงกล่าวว่า “ลองใช้วิธีที่แตกต่างออกไป อย่างเช่น ลูกชายของข้าอายุใกล้เคียงกับซูอัน ให้พวกเขาแลกเปลี่ยนเสื้อผ้าและตัวตนกัน ด้วยวิธีนี้ หากศัตรูเข้ามาหาซูอันได้สำเร็จ มันก็จะแค่จับลูกชายของข้าไปเท่านั้น”

หวงฮุ่ยฮงตกตะลึง “นั่นจะไม่ทำให้ลูกชายของท่านตกอยู่ในอันตรายงั้นเหรอ?”

ซ่างหงตอบกลับ “ข้ายังคงจงรักภักดีต่อองค์จักรพรรดิเสมอมา เนื่องจากข้ารู้ว่าตอนนี้ฝ่าบาทห่วงสวัสดิภาพของซูอันมากแค่ไหน ข้าย่อมเต็มใจจะแบ่งปันความกังวลของพระองค์ด้วยความเต็มใจ และแน่นอน อีกเหตุผลที่ข้าทำเช่นนี้ก็เพื่อชดใช้ความผิดของตนเองโดยเสนอความช่วยเหลือบางส่วนด้วยตัวของข้า เมื่อเราไปถึงเมืองหลวงและองค์จักรพรรดิทรงทราบถึงการกระทำของข้า พระองค์อาจปฏิบัติต่อข้าอย่างไม่โหดร้ายนัก”

ในตอนแรกหวงฮุ่ยฮงสงสัยซ่างหงอยู่บ้าง แต่ครึ่งหลังของคำอธิบายทำให้เขาพึงพอใจอย่างเต็มที่ “ท่านซ่างซื่อสัตย์ต่อราชวงศ์โจวยิ่งนัก โปรดอย่ากังวล เมื่อเราไปถึงเมืองหลวง ข้าจะรายงานความเสียสละของท่านต่อองค์จักรพรรดิอย่างแน่นอน”

ความปลอดภัยของซูอันเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้เขากังวลมากที่สุด เขาไม่สนใจหรอกว่าซ่างเชียนจะมีชีวิตอยู่หรือตายไป แน่นอนว่าหากพวกเขาไปถึงเมืองหลวงอย่างปลอดภัย การช่วยเหลือตระกูลซ่างก็เป็นไปได้อย่างแน่นอน

“ขอบคุณ ผู้บัญชาการหวง” ซ่างหงยิ้ม อันที่จริงการที่เขาเสนอแผนการนี้นั้นเขาไม่ได้คาดหวังว่าจะได้รับการพิจารณาจากจักรพรรดิหรืออะไรทำนองนั้น เขาเข้าใจดีว่าจักรพรรดิเย็นชาเพียงใด เขาถูกทอดทิ้งแล้ว และไม่มีอะไรอื่นที่จะเปลี่ยนความคิดของจักรพรรดิได้

สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องไปถึงเมืองหลวงอย่างปลอดภัย ซ่างหงไม่ค่อยกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของตัวเอง แต่กังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของลูกชายมากกว่า เนื่องจากเขามีลูกชายเพียงคนเดียว ด้วยอายุปัจจุบันของเขา เขาจะไม่สามารถมีทายาทได้อีกหากซ่างเชียนเสียชีวิต

ลูกสาวของเขาสามารถเดาความตั้งใจของเขาได้ ซึ่งเป็นสาเหตุที่นางให้ข้อเสนอแนะนี้แก่เขาก่อนจะจากไป

ทั้งพ่อและลูกสาวรู้ดีว่ามีหลายคนในเมืองหลวงที่ต้องการจะฆ่าเขาและซ่างเชียน แม้ว่าซ่างเฉี่ยนจะคอยปกป้องพวกเขาจากเงามืด แต่นางก็ไม่มั่นใจว่าจะรับประกันความปลอดภัยได้อย่างสมบูรณ์ตลอดการเดินทางที่ยาวนานนี้

ในทำนองเดียวกัน หลายคนต้องการตัวซูอัน แต่พวกเขาแทบทั้งหมดปรารถนาในวิชาวัฏจักรหงส์อมตะซึ่งหมายความว่าพวกเขาจะไม่ฆ่าซูอันอย่างแน่นอน สิ่งนี้จะรับประกันได้ว่าซ่างเชียนจะมีชีวิตอยู่แม้จะถูกจับไปขณะสวมบทบาทเป็นซูอัน และจะซื้อเวลาให้กับซ่างเฉี่ยนได้มากพอที่จะให้ความช่วยเหลือ

เช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อซูอันรู้ว่าเขากำลังจะต้องแลกเปลี่ยนตัวตนกับซ่างเชียน เขาก็ปฏิเสธอย่างราบเรียบ

แต่มีหรือที่หวงฮุ่ยฮงจะสนใจ เขาพ่นลมหายใจก่อนจะกล่าวอย่างหนักแน่น “นี่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเจ้า! จงเปลี่ยนเสื้อผ้าซะ”