ตอนที่ 1301 หัวใจอันบริสุทธิ์ (2) / ตอนที่ 1302 หัวใจอันบริสุทธิ์ (3)
ตอนที่ 1301 หัวใจอันบริสุทธิ์ (2)
แม้แต่จวินอู๋เสียเองก็ไม่สามารถอธิบายได้ว่าทำไมนางถึงมีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างรุนแรงเมื่อเห็นเสี่ยวเจว๋ที่มีโลหิตอยู่เต็มตัว นางยอมรับแล้วว่าเป็นปกติของโลกนี้ที่ดำเนินไปตามกฎปลาใหญ่กินปลาเล็ก และตัวนางเองก็เล่นตามกฎเดียวกันนี้มาตลอด
ชนะเป็นเจ้า แพ้เป็นโจร ตั้งแต่โบราณจนถึงปัจจุบัน มีเพียงผู้แข็งแกร่งที่แท้จริงเท่านั้นที่จะได้หัวเราะเป็นคนสุดท้าย
คนอ่อนแอมักจะเป็นเหยื่อมาตลอดในประวัติศาสตร์
แม้ว่านางจะรู้ดีอยู่แล้ว แต่นางก็ยังรู้สึกว่าภาพเสี่ยวเจว๋ที่เปื้อนโลหิตเต็มตัวนั้น นางทนดูไม่ได้จริงๆ
เด็กคนนั้นควรมีชีวิตที่ปราศจากความกังวล
เพราะเขาเป็นคนที่หายาก จึงทำให้คนยิ่งรักและห่วงใยเขามาก
แต่ตอนนี้ มีคำถามสำคัญค้างคาอยู่ในใจของจวินอู๋เสีย
เสี่ยวเจว๋ในตอนนี้ ยังเป็นคนเดียวกับฮ่องเต้น้อยที่นางรู้จักในตอนแรกอยู่หรือเปล่า
เด็กที่อ่อนโยนอย่างนั้น จะไปอาละวาดฆ่าคนจากผลของโลหิตแดงได้จริงๆ หรือ
จวินอู๋เสียไม่อาจแน่ใจได้ว่าเสี่ยวเจว๋ในตอนนี้ได้สูญเสียความทรงจำก่อนหน้าของเขาไปทั้งหมด แม้ว่าการกระทำและการพูดของเขาจะถูกจำกัดเอาไว้แค่รูปแบบที่เรียบง่ายที่สุด และไม่สามารถเข้าใจคำที่ซับซ้อนเกินไปได้ การกระทำส่วนใหญ่ของเขาเป็นไปโดยสัญชาตญาณ
แต่สัญชาตญาณนั้นมาจากจิตสำนึกของฮ่องเต้น้อยเอง หรือว่ามาจากหยกสงบวิญญาณกันแน่
จวินอู๋เสียพยายามที่จะรักษาจิตวิญญาณของเด็กน้อยที่ทำให้ผู้คนใจละลายคนนั้น ไม่ใช่วิญญาณที่ถูกสร้างขึ้นมาจากไหนก็ไม่รู้
เมื่อจวินอู๋เสียไม่พูดอะไร ฟ่านจัวกับคนอื่นๆ ก็รู้สึกว่าพวกเขาไม่ควรพูดอะไรอีก ทุกคนจึงพากันนั่งเงียบ
ข้างในรถม้า เสี่ยวเจว๋ถอดเสื้อผ้าเปื้อนโลหิตออกเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าชุดใหม่แล้ว แต่เขาก็ไม่ได้ออกจากรถม้าทันที เขานั่งกอดเข่าซ่อนตัวอยู่ตรงมุมด้านในรถม้า ดวงตาของเขาดูเศร้าและเสียใจมาก
แม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจอะไรหลายๆ อย่าง แต่เขาก็ยังรู้สึกได้
พี่ชายตัวเล็กไม่ชอบ
เสี่ยวเจว๋ไม่กล้าออกไปข้างนอก ไม่กล้ามองตาจวินอู๋เสีย เขากลัว แต่ไม่รู้ว่ากลัวอะไร น้ำตาของเขาไหลออกมาจากดวงตากลมโตอย่างเงียบๆ ไหลลงมาตามใบหน้าและหยดลงบนคอเสื้อของเขาโดยไม่มีใครสังเกตเห็น
ในป่าเงียบสนิท ไม่มีใครพูดเลยสักคน
หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง จวินอู๋เย่าก็กลับมาพร้อมเยี่ยซาและเยี่ยเม่ยที่ตามหลังเขามา ไม่มีร่องรอยโลหิตอยู่บนตัวพวกเขาเลยสักนิด แต่กลิ่นคาวโลหิตที่ยังลอยอยู่ในอากาศทำให้ทุกคนรู้ว่าพวกเขาออกไปทำอะไรมา
“ข้าทำให้พวกเจ้าต้องรอแล้ว” จวินอู๋เย่าพูดพร้อมกับหยุดอยู่ห่างจากจวินอู๋เสียสามก้าว เขาอยากเข้าไปกอดนาง แต่จำได้ว่าเด็กน้อยของเขาไม่ชอบกลิ่นโลหิตที่ยังติดอยู่บนเสื้อผ้าของเขา
จวินอู๋เสียมองจวินอู๋เย่าและพยักหน้าเล็กน้อย ใบหน้าเล็กๆ นั้นดูเหมือนอย่างที่เคยเป็นตามปกติ แต่จวินอู๋เย่าก็ยังจับได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ
สายตาของจวินอู๋เย่ากวาดมองไปที่หัวใจซึ่งถูกโยนทิ้งไว้บนหญ้าและเห็นรอยเท้าเล็กๆ ที่ทิ้งไว้บนพื้นหญ้า มุมปากของเขาโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มโดยไม่ได้ตั้งใจ
“เกิดอะไรขึ้น เด็กนั่นทำอะไรให้เจ้าโกรธอย่างนั้นหรือ”
จวินอู๋เสียส่ายหน้า แต่ครู่ต่อมานางก็พูดว่า “เขาเจตนาดี แต่ข้าไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้”
จวินอู๋เย่าหัวเราะเบาๆ และพูดว่า “เจ้าไม่อยากให้มือเด็กนั่นเปื้อนโลหิตใช่หรือไม่เล่า”
จวินอู๋เสียพยักหน้า
“เสี่ยวเสียเอ๋อร์ เจ้านี่น่าสนใจจริงๆ…เจ้ากังวลอะไรอยู่ กังวลว่าเด็กนั่นจะไม่ใช่ฮ่องเต้น้อยที่เจ้าเคยรู้จัก กังวลว่าการชอบฆ่าแบบนี้มาจากวิญญาณที่ไม่คุ้นเคยใช่หรือไม่” เสียงของจวินอู๋เย่าเต็มไปด้วยความรื่นเริง แต่เขาเดาความคิดของจวินอู๋เสียในขณะนั้นได้ถูกต้องทั้งหมด
ตอนที่ 1302 หัวใจอันบริสุทธิ์ (3)
ความเงียบของจวินอู๋เสียทำให้จวินอู๋เย่ายิ่งแน่ใจว่าตัวเองเดาถูก หายากที่จะได้เห็นจวินอู๋เสียแสดงสีหน้าท่าทางเช่นนี้เพื่อคนอื่น เขารู้ได้ในทันทีว่าเสี่ยวเจว๋มีความสำคัญกับจวินอู๋เสีย ที่นางพูดเอาไว้ก่อนหน้านี้ เกรงว่าจะนางจะเห็นเด็กน้อยนั่นเป็น ‘น้องชาย’ ของนางจริงๆ
“โลหิตแดงถูกสร้างขึ้นตามแบบมารโลหิตของเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิ มารโลหิตเป็นสิ่งที่สร้างดินแดนเทพมาร ทั่วทั้งสามโลกชั้นกลาง ไม่มีใครกล้าหาเรื่องกองทัพราตรี เจ้ารู้หรือไม่ว่าทำไม” จวินอู๋เย่าถาม
“เพราะความแข็งแกร่งของพวกเขา” จวินอู๋เสียตอบ
จวินอู๋เย่ายิ้มและพูดว่า “ใช่ และไม่ใช่”
เขานั่งลงข้างๆ จวินอู๋เสีย และตอนนี้จวินอู๋เสียก็ไม่ได้สนใจเรื่องกลิ่นโลหิตที่ติดเสื้อผ้าเขา
“แม้ว่ากองทัพราตรีจะแข็งแกร่งมาก แต่คนไม่ได้กลัวพวกเขาแค่เพราะความแข็งแกร่งอย่างเดียว แต่เป็นสัญชาตญาณกระหายโลหิตในตัวพวกเขาต่างหาก ปกติพวกเขาจะเป็นแค่กลุ่มนักสู้ที่แข็งแกร่ง แต่เมื่อไรก็ตามที่พวกเขาเจอเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิ ความกระหายโลหิตในตัวพวกเขาก็จะถูกกระตุ้นขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้ มันมาจากความจงรักภักดีที่ฝังอยู่ในจิตวิญญาณของพวกเขา และเมื่อมันเกิดขึ้น ผลของมารโลหิตในร่างพวกเขาก็จะทำให้พวกเขากลายเป็นฝูงปีศาจที่ปีนขึ้นมาจากขุมนรก”
กองทัพราตรีภักดีต่อเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิเพียงคนเดียวเท่านั้น พวกเขาไม่สนใจความขัดแย้งในสามโลกชั้นกลาง พวกเขาอยู่เพื่อปกป้องคนเพียงคนเดียว
“โลหิตแดงไม่ใช่ของที่สมบูรณ์ แต่ส่วนใหญ่แล้วมันก็เหมือนกับมารโลหิตมาก ถึงจะเป็นความจริงที่ว่าวิญญาณของฮ่องเต้น้อยถูกสังเวยไป แต่หยกสงบวิญญาณก็สามารถใช้แก่นวิญญาณที่เหลืออยู่ของเขาได้ พร้อมๆ กับพยายามหาวิญญาณที่หายไปของเขาเพื่อซ่อมแซมให้คืนสภาพเดิม เจ้าไม่ต้องกังวลว่าวิญญาณในตัวเด็กคนนั้นจะเป็นคนอื่น เพราะเขายังคงเป็นเขา ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง แต่เนื่องจากวิญญาณของเขาเสียหายหนักมาก เขาจึงไม่สามารถบอกได้ว่าอะไรถูกอะไรผิด อะไรคือความจริงหรือโกหก เขาตอบสนองไปตามสัญชาตญาณเท่านั้น และถ้าข้าเดาไม่ผิด การที่เจ้าช่วยเขาเอาไว้ก่อนหน้านี้ได้ทิ้งความประทับใจเอาไว้ให้เขาอย่างลึกซึ้ง”
“ถึงตอนนั้นวิญญาณของเขาจะเสียหายหนักมาก แต่สิ่งที่เขาเห็นยังคงทิ้งร่องรอยจางๆ เอาไว้ ตอนนี้คนเดียวที่เด็กนั่นเชื่อใจก็คือเจ้า เจ้าในสายตาเขา ก็เหมือนกับเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิในสายตาของกองทัพราตรี” จวินอู๋เย่าหันหน้าไปและเห็นคิ้วที่ขมวดกันของจวินอู๋เสียค่อยๆ คลายลง ในแววตาของเขาก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
เยี่ยซากับเยี่ยเม่ยนิ่งเงียบ ทั้งสองก้มหน้าลง
ไม่มีใครเข้าใจความหมายของคำพูดจวินอู๋เย่าได้ดีไปกว่าพวกเขา สัญชาตญาณที่มาจากส่วนลึกในจิตวิญญาณของพวกเขาเป็นสิ่งที่ไม่มีใครสามารถทำลายได้ และคนอื่นก็ทำให้พวกเขาระเบิดพลังออกมาแบบนี้ไม่ได้ มีเพียงเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิคนเดียวเท่านั้นที่พวกเขาจงรักภักดี
มันเป็นสิ่งที่พวกเขาเองก็ไม่สามารถควบคุมได้
เมื่อพวกเขาเห็นว่าเสี่ยวเจว๋มีปฏิกิริยาอย่างไร พวกเขาก็เข้าใจทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นกับเสี่ยวเจว๋ จวินอู๋เย่าให้โลหิตของเขากับเสี่ยวเจว๋ แต่เขาไม่ได้ฝังตราของเขาเอาไว้ในจิตวิญญาณของเด็กน้อย นายท่านคงเดาว่าฮ่องเต้น้อยรู้สึกสำนึกในบุญคุณของจวินอู๋เสีย จึงได้ส่งเด็กน้อยให้มาอยู่ข้างกายจวินอู๋เสีย
มารโลหิตไม่เคยนำมาใช้กับเด็ก เนื่องจากจิตใจของเด็กนั้นอ่อนแอ ยากที่จะควบคุมสัญชาตญาณที่มารโลหิตกระตุ้นขึ้นมา ยิ่งไปกว่านั้น เดิมทีเสี่ยวเจว๋ก็ไม่ได้โดนมารโลหิต แต่เป็นโลหิตแดง…
โลหิตแดงเป็นของเลียนแบบ อย่างไรก็ไม่เสถียรเหมือนมารโลหิตที่เป็นต้นฉบับ
แม้ว่าจวินอู๋เย่าจะให้โลหิตของเขากับเสี่ยวเจว๋หลังโดนโลหิตแดงไปแล้วก็ตาม แต่โลหิตแดงก็ยังไม่สามารถให้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์เหมือนมารโลหิตได้