บทที่ 641 การสอบเข้ามหาวิทยาลัยสิ้นสุดลงแล้ว

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ

บทที่ 641 การสอบเข้ามหาวิทยาลัยสิ้นสุดลงแล้ว

บทที่ 641 การสอบเข้ามหาวิทยาลัยสิ้นสุดลงแล้ว

หลาย ๆ คนในหมู่บ้านยังไม่เข้าใจว่าทำไมหัวหน้าซูถึงแยกครอบครัวออกมา

นโยบายเหมารวมสมบัติเกิดขึ้นแล้วนะ ทุกครอบครัวจะมีแรงใจในการทำงานมากขึ้น และสัมผัสได้ถึงชีวิตดี ๆ เพียงแค่เอื้อมเอง

ยิ่งตอนนี้เห็นเถียนเสี่ยวเหอทำสัญญารับช่วงต่อฟาร์ม ชีวิตพวกเขาจะต้องโบยบินขึ้นเป็นแน่

แต่หัวหน้าซูกลับขอแยกครอบครัวออกมาเสียอย่างนั้น หรือกลัวลูกชายคนโตจะเอาเปรียบคนเล็ก?

แม้แต่ภรรยาลูกชายของเขายังคิดเช่นนั้นเหมือนกัน

เพราะงั้นชีวิตครอบครัวเขาจึงผ่านไปอย่างวุ่นวาย

*****

กระทั่งสองสามีภรรยาเดินทางมาถึงเมืองหลวง โรงงานที่เสี่ยวเถียนจะเปิดยังสร้างไม่เสร็จเลย ไหนจะต้องหาพื้นที่เพาะพันธุ์อันกินเวลาอีก

พวกเขาจึงมอบหมายให้คนไว้ใจได้ช่วยหาสถานที่ เพราะงั้นเหล่าต้าและภรรยาจึงมีเวลาว่าง

เราทำงานมาครึ่งค่อนชีวิตก็จริง แต่พอมีเวลาว่างกลับยุ่งอยู่ดี

หลังจากปรึกษาเสร็จ หวังเซียงฮวาช่วยงานที่หออีหมิง ส่วนสามีไปช่วยฝั่งหรงฟา

ยิ่งได้รู้ว่าหลี่หลินหลินเป็นคู่ครองของลูกชาย คนเป็นแม่พอใจอย่างยิ่ง

เด็กสาวผู้นี้ต่างจากคนในหมู่บ้าน เธอทั้งสง่างามและเงียบขรึม

ทั้งฝีมือการทำอาหารยังใช้ได้ ถึงเวลาที่ใช้ในการเรียนรู้จะสั้นไปหน่อยแต่ดีกว่าเหลียงซิ่วอีก

อนาคตคงสามารถเลี้ยงชีพตัวเองได้แล้วล่ะ

เดิมทีหลี่หลินหลินยังกังวลอยู่เลยว่า ว่าที่แม่สามีจะเป็นคนเรื่องมาก แต่ไม่นึกเลยว่าท่านจะเป็นมิตรมาก ตอนที่ได้สนทนากัน ความไม่สบายในใจค่อย ๆ เลือนหายไป

ส่วนฝั่งผู้เป็นแม่ที่รู้เรื่องลูกซื้อบ้านและรอแต่งงานหลังเรียนจบ จึงมีเป้าหมายจะช่วยทำความสะอาดให้

แต่ทั้งสองกลับบอกไม่จำเป็นต้องทำขนาดนั้น แค่ทำเหมือนปกติเป็นพ่อ เธอจึงยอมล่าถอยไป

ชีวิตอันวุ่นวายผ่านไปอย่างรวดเร็ว พริบตาเดียวก็ถึงเวลาสอบเข้ามหาวิทยาลัย

คราวนี้คนที่บ้านตั้งความหวังไว้สูงว่าเด็ก ๆ จะทำได้

พวกเขายังอยู่ในวัยมัธยมต้นอยู่เลย อายุน้อยกว่าเด็กวัยสอบเข้าถึงหลายปี โดยเฉพาะเสี่ยวเถียนที่อายุปีนี้แค่ 13 เท่านั้น

ถึงทุกคนจะรู้ชัดอยู่แล้วว่าพวกเขาเรียนเก่ง แต่ก็ยังอดห่วงไม่ได้

พอถึงเวลา คุณย่าซูให้คนไปส่งที่หน้าประตูโรงเรียนโดยเฉพาะ

วันนี้อากาศร้อน เราจึงนำน้ำบ๊วยสมุนไพรและน้ำถั่วเขียวไปให้ด้วย

เสี่ยวลิ่วเสี่ยวจิ่วผู้ทำหน้าที่ถืออาหารสับสนเหลือเกิน

ทำไมตอนเราสอบถึงไม่เห็นทำแบบนี้ให้บ้าง?

ก็เห็นกันอยู่ว่าปีที่แล้วแดดแรงขนาดไหนน่ะ!

สามวันแห่งการสอบผ่านไปในพริบตา เสี่ยวเถียนสงบมาก อะไรที่ควรทำก็ได้ทำไปหมดแล้ว อันที่เธอไม่มีคราบความเป็นนักเรียนสอบเข้าด้วยซ้ำ

ว่าก็ว่าเถอะ ขนาดพี่ชายอีกสองคนยังเหมือนได้รับอิทธิพลมาจากน้องเลยสงบไม่ต่างกัน

ทุกคนแปลกใจกันมาก

เสี่ยวเถียน “พวกเราเพิ่งจะอายุเท่าไรเองคะ? ถึงรอบนี้สอบไม่ผ่านเราก็กลับไปเรียนมัธยมอีกสักปีก็ได้ค่ะ ตอนนั้นคงถึงวัยสอบเข้าแล้วด้วย มีอะไรต้องกลัวกัน?”

ก็จริง!

อันที่จริงเหตุผลที่เสี่ยวเถียนไม่สนใจเพราะช่วงที่ผ่านมาได้รับแบบทดสอบจากระบบห้องสมุดเยอะมากเลย

แถมระบบร้านค้ายังมีฟังก์ชันใหม่ด้วย ซึ่งแบบทดสอบพวกนั้นสามารถก๊อบปี้ได้ โดยแลกกับแต้มไม่เท่าไรเอง

เสี่ยวเถียนทำออกมาสามชุด ให้ตัวเองและพี่ชายอีกสองคนเพื่อกระตุ้นให้พวกเขาได้ฝึกไว้อย่างครอบคลุม

หลังจากทำแบบนี้มาเป็นระยะเวลาสองเดือน พวกเราสอบกันอย่างราบรื่นมาก

เมื่อเสร็จสิ้นในส่วนนี้ ในที่สุดเสี่ยวเถียนก็มีสมาธิให้ห่วงเรื่องก่อสร้างโรงงานเสียที

เราพบสถานที่แห่งหนึ่งในเขตชานเมืองด้านตะวันตก มันเป็นโรงงานปล่อยร้างมานานแล้ว

ต้องขอบคุณเครือข่ายของคุณปู่คุณย่าบุญธรรม เลยทำให้เราพบสถานที่แห่งนั้น

ตอนแรกเราตั้งใจจะซื้อโรงงานสำเร็จรูปเลย แต่ฝ่ายนั้นไม่เต็มใจขายไม่ก็ตั้งราคาสูงไป มันจึงไม่สำเร็จเสียที

ผู้อาวุโสทั้งสองคิดจะซื้อที่ดินเพื่อสร้างขึ้นเองด้วย แต่เพราะนโยบายของรัฐในยามนี้จึงเป็นเรื่องยากที่จะทำได้

สุดท้ายต้องขอบคุณฉืออี้หย่วนที่แนะนำไว้ว่า หากซื้อโรงงานหลังโทรมตรงนั้นเราจะได้ราคาถูก แถมไม่ต้องเสียเงินกับการสร้างใหม่เยอะด้วย

เราจึงมุ่งตามความคิดนี้ทันที มันก็สะดวกกว่ามากเพราะหลายปีที่ผ่านมามีโรงงานหลายแห่งปิดตัวเพียบเลย

เป็นเพราะผลกระทบจากสภาพแวดล้อมจึงไม่มีใครอยากซื้อโรงงานเก่า ๆ เลย จึงเป็นผลให้ถูกปล่อยทิ้งไว้

ถึงจะขอซื้อมาลำบากแต่เราได้มาในราคาไม่สูงสักนิด

เป็นเพราะความสามารถของอวี่รุ่ยหยวน

ถึงแกจะทำงานด้านวรรณกรรมและศิลปะ แต่เธอไม่มีนิสัยหัวสูงนัก ทั้งยังต่อรองราคาเก่งอีกต่างหาก

พวกเรารวมตัวกันไปและเราก็สามารถเจรจาเอามันมาได้ แถมราคายังต่ำกว่าที่คาดไว้ด้วย

มันไม่ได้มีแค่โรงงานเเดียว แต่มีถึงสอง

ตามเป้าหมายเสี่ยวเถียนเลย เธออยากได้โรงงานใหม่และพื้นที่เพาะพันธุ์ใหม่

เรื่องนี้ถามพ่อใหญ่แม่ใหญ่แล้วทั้งสองว่าอยากจะทำเอง เสี่ยวเถียนจึงใช้วิธีร่วมธุรกิจมาจัดการ

แต่พวกท่านบอกว่าตนไม่มีเงินขนาดนั้น

สุดท้ายเสี่ยวเถียนก็เป็นคนจ่ายให้

บ้านทรุดโทรมมาก เด็กสาวจ้างคนมาซ่อมแซมและตกแต่งใหม่

ส่วนเรื่องพื้นที่เพาะพันธุ์ง่ายมาก เพียงไม่นานก็เป็นอันเสร็จ ส่วนลูกหมูกับลูกเจี๊ยบก็เอามาลงแล้วด้วย

เมื่อทั้งสองได้กลับไปทำงานที่แสนคุ้นเคยต่างก็มีความสุขมาก

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือตอนนี้เราหาเงินได้มากกว่าตอนทำในกองชุมชนเสียอีก

เสี่ยวเถียนใจกว้างอยู่แล้ว เธอให้พ่อแม่รับผิดชอบเรื่องพื้นที่เพาะพันธุ์ โดยใช้ระบบเงินเดือนมาจ่าย

คู่สามีภรรยาสามารถแบ่งไปได้ 20% ของกำไรสุทธิ

พวกเขามีพื้นฐานอยู่แล้ว จึงรู้ดีกว่าการทำฟาร์มให้ดีมีแต่จะทำกำไรได้มากเท่านั้น

20% ไม่ใช่น้อย ๆ นะ

ส่วนการดำเนินการเรื่องโรงงานแปรรูปจะช้าลงหน่อย

ตั้งแต่ที่เสร็จสิ้นการสอบ โครงหลักของโรงงานยังไม่เสร็จสมบูรณ์ดีเลย

เสี่ยวเถียนคำนวณเงินในมือ เราเหลืออยู่ไม่เยอะแล้ว

หลังจากนี้ต้องติดตั้งอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องอีก ขัดสนเหลือเดิน

คาดว่าคงไม่สามารถช่วยโรงงานทำกำไรได้

เด็กสาวเดินทางไปตลาดขายของเก่าเพื่อหาเงินมาเติม

ด้วยโชคที่มีจึงหาของดีมาได้สองชิ้น เธอได้รับเงินมาอีกสองหมื่น ซึ่งถือได้ว่าประสงค์ตามความเร่งด่วนเลย

แต่จะพึ่งพาแค่ของพวกนี้มันไม่พอหรอกนะ ต้องหารายได้เพิ่มอีกด้วย

เราจึงนัดแนะกันว่าจะเดินทางไปหรงเฉิง

คุณย่าซูรู้สึกว่าเรื่องที่เสี่ยวเถียนจะเปิดโรงงานมันยากสำหรับเด็กสาวไปหน่อย

ส่วนทางด้านเหล่าต้าเหมือนเช่นเคย รับผิดชอบเรื่องพื้นที่เพาะพันธุ์ ได้เงินเดือนรวมกำไรอีก 20%