ตอนที่ 711 หมาป่าตาขาวอย่างหลินเจี้ยนกั๋วและภรรยาของเขา

แม่ปากร้ายยุค​ 80

ตอนที่​ 711 หมาป่า​ตาขาว​อย่าง​หลิน​เจี้ยนกั๋ว​และ​ภรรยา​ของ​เขา​

วัน​ต่อมา​ พายุ​หิมะ​ก็​แรง​ขึ้น​อีก​ และ​หิมะ​บน​ถนน​ก็​สูงถึงข้อเท้า​

หลิน​ม่าย​ ไม่เคย​เห็น​หิมะ​ตกหนัก​ขนาด​นี้​มาก่อน​

เมื่อ​มีหิมะ​มากเกินไป​ การ​ขับรถ​ก็​ลื่นไถล​ได้​ง่าย​

เพื่อ​ความปลอดภัย​ หลิน​ม่าย​จึงตั้งใจ​จะเดิน​กลับ​ไป​ยัง​มหาวิทยาลัย​

ฟางจั๋ว​หรา​นก​ลัว​ว่า​เธอ​จะหนาวสั่น​ จึงแต่งตัว​ให้​เธอ​เหมือน​หมี​น้อย​ก่อนที่จะ​ปล่อย​เธอ​ออก​ไป​

หลิน​ม่าย​เดิน​ไป​ไกล​ มอง​ย้อนกลับ​ไป​และ​เห็น​ฟางจั๋ว​หรา​น​ก็​ออก​ไป​ทำงาน​เช่นกัน​

ด้วย​ความตั้งใจ​ เธอ​วาด​หัวใจ​ลง​บน​พื้น​ด้วย​นิ้วเท้า​ก่อน​จะตะโกน​ได้​สุดเสียง​ “จั๋ว​หรา​น​ ฉัน​มีอะไร​จะให้​คุณ​!”

แต่​ในเวลานี้​ กลุ่ม​เด็ก​ที่​ถือ​กระเป๋านักเรียน​วิ่ง​ผ่าน​มาเหมือน​ม้าป่า​ เหยียบย่ำ​หัว​ใจรัก​ที่​เธอ​เพิ่ง​วาด​ด้วย​ปลายเท้า​จน​หมดสิ้น​

ห่าง​ออก​ไป​ราว​ยี่สิบ​เมตร​ ฟางจั๋ว​หรา​น​ถามอย่าง​งุนงง​ “อะไร​เหรอ​?”

หลิน​ม่าย​รู้สึก​ผิดหวัง​มาก​และ​พูดว่า​ “ตอนนี้​ไม่มีแล้ว​~”

สายตา​อาฆาต​ของ​เธอ​พุ่งตรง​ไป​ที่​กลุ่ม​เด็ก​เหลือขอ​ และ​พวกเขา​ก็​วิ่งหนี​ด้วย​ความตกใจ​ หนึ่ง​ใน​นั้น​ถึงกับ​ล้ม​ลง​

เมื่อ​หลิน​ม่าย​ละสายตา​จาก​กลุ่ม​เด็ก​เหลือขอ​ เธอ​ก็​เห็น​ว่า​ฟางจั๋ว​หรา​น​ได้​ออก​ไป​แล้ว​

ตรงจุด​ที่​เขา​หยุด​ตอนนี้​ มีหัวใจ​สอง​ดวง​ที่​วาด​ด้วย​ลูกศร​ที่​เจาะทะลุ​หัวใจ​

หลิน​ม่าย​รู้สึก​ว่า​ฟางจั๋ว​หรา​นพ​ยา​ยาม​ทำให้​เธอ​มองเห็น​หัวใจ​แห่ง​รัก​ที่​เขา​มีให้​เธอ​

เธอ​มาถึงมหาวิทยาลัย​อย่าง​มีความสุข​

ตอน​ใกล้​ถึงมหาวิทยาลัย​ เธอ​แวะ​ซื้อ​หนังสือพิมพ์​เพื่อ​ดู​ว่า​มีรายงาน​โดยละเอียด​เกี่ยวกับ​คดี​ของ​เจี่ยง​ชุน​นี​หรือไม่​

ข่าว​เมื่อวาน​นี้​มีเพียง​ไม่กี่​ประโยค​และ​เป็นไปไม่ได้​ที่จะ​เข้าใจ​คดี​ทั้งหมด​

เนื่องจาก​สถานีโทรทัศน์​จำกัด​เวลา​ใน​การออกอากาศ​ข่าว​ ดังนั้น​นักข่าว​จึงไม่สามารถ​ถ่ายทอด​รายละเอียด​คดี​ทั้งหมด​ได้​

แต่​คดี​ฆาตกรรม​ที่​คน​ทั้ง​ประเทศ​ให้ความสนใจ​ หนังสือพิมพ์​ จะลงข่าว​อย่าง​ละเอียด​แน่นอน​

หลิน​ม่าย​หัน​มอง​หนังสือพิมพ์​ เธอ​เห็น​ว่า​มีการ​เผยแพร่​คดี​ฆาตกรรม​ใน​พาดหัวข่าว​ และ​มีรายละเอียด​ค่อน​ข้างมาก​

อ้างอิง​จาก​บทความ​ ทั้ง​หลิน​เจี้ยนกั๋ว​และ​ซุน​กุ้ยเซียง​ต่าง​ก็​เป็น​ชาว​เจียง​เฉิง พวกเขา​เกิด​มาใน​ครอบครัว​ที่​ยากจน​มาก​

ใน​ยุค​ที่​มีการ​ยิง​ปืนใหญ่​ พ่อแม่​และ​สมาชิก​ใน​ครอบครัว​บางคน​เสียชีวิต​เพราะ​กระสุน​ และ​บางคน​อดอาหาร​จนตาย​

เด็กกำพร้า​ที่​อายุ​เพียง​ไม่กี่​ขวบ​ ตระเวน​ไป​ตาม​ถนน​เหมือน​สุนัขป่า​เพื่อ​หา​อะไร​กิน​

แต่​ใน​ยุค​นั้น​ มีคน​จำนวนมาก​ที่​ขาดแคลน​อาหาร​และ​เสื้อผ้า​ แม้ว่า​จะมีอาหาร​ตาม​ท้องถนน​บ้าง​ พวกเขา​ก็​มักจะ​ถูก​แย่งชิง​ไป​เสมอ​ ไม่เคย​ได้​รับประทาน​

เมื่อ​เห็น​ว่า​หลิน​เจี้ยนกั๋ว​และ​ซุน​กุ้ยเซียง​กำลังจะ​อดตาย​ข้าง​ถนน​ เศรษฐี​ผู้หวังดี​จึงพา​พวกเขา​มาเป็น​คนรับใช้​ใน​บ้าน​ โดย​ให้​มีหน้าที่​คอย​ดูแล​ลูกชาย​และ​ลูกสาว​ของ​เขา​

จากนั้น​ทั้งคู่​ก็​รับประทาน​อาหาร​อย่าง​อิ่มหนำสำราญ​และ​เรียนรู้​วัฒนธรรม​จาก​นาย​น้อย​และ​คุณหนู​

ใน​ปี​แห่ง​การปลดปล่อย​ ซุน​กุ้ยเซียง​อายุ​ได้​สิบ​ขวบ​ และ​หลิน​เจี้ยนกั๋ว​อายุ​สิบ​สามปี​

เพื่อให้​มีอนาคต​ที่​ดี​ ทั้งสอง​คน​ใส่ร้าย​เจ้านาย​ โดย​กล่าว​หาว่า​เจ้านาย​เอาเปรียบ​พวกเขา​อย่าง​ไร้​มนุษยธรรม​

เศรษฐี​และ​ครอบครัว​ของ​เขา​ถูก​ประณาม​ พร้อม​ถูก​ตัดสินโทษ​ว่า​ทำการ​ทารุณ​คนใช้​ เป็นเหตุให้​ทั้ง​ครอบครัว​ก็​เสียชีวิต​อย่าง​อนาถ​

อย่างไรก็ตาม​หลิน​เจี้ยนกั๋ว​และ​ซุน​กุ้ยเซียง​มีความก้าวหน้า​อย่าง​มาก​และ​ได้รับ​โอกาส​ใน​การเรียนหนังสือ​

ชื่อ​ของ​พวกเขา​ทั้งสอง​ถูก​ตั้ง​ให้​โดย​ผู้มีอำนาจ​เบื้องบน​

หลังจาก​สำเร็จการศึกษา​ ทั้งคู่​ได้​เข้าสู่​หน่วยงาน​ของ​รัฐ​

คน​หนึ่ง​กลายเป็น​นายทหาร​ฝ่าย​เสนาธิการ​ อีก​คน​กลายเป็น​พนักงาน​รับ​ชำระเงิน​ และ​ทั้งสอง​ก็​แต่งงาน​กัน​

น่าเสียดาย​ที่​พวกเขา​ทั้งสอง​เป็น​คนรัก​สบาย​และ​ไม่ชอบ​ทำงานหนัก​ เรียก​ได้​ว่า​เป็น​คน​ขี้เกียจสันหลังยาว​

เงินเดือน​นั้น​ไม่เพียงพอ​สำหรับ​พวกเขา​สอง​คน​ที่จะ​ใช้จ่าย​สุรุ่ยสุร่าย​

นับตั้งแต่​ให้กำเนิด​หลิน​สง ลูกชาย​คน​แรก​ และ​หลิน​เพ่​ย​ ลูกสาว​คน​ที่สอง​ สถานะ​ทางการเงิน​ของ​พวกเขา​ก็​ยิ่ง​ย่ำแย่​ลง​ไป​ พวกเขา​แทบ​ไม่ได้​กิน​เนื้อสัตว์​เลย​

สอง​สามีภรรยา​จึงร่วมกัน​ทำ​บัญชี​เท็จ​ยักยอก​เงิน​ส่วนกลาง​

แต่​พวกเขา​ก็​ถูก​จับได้​ในไม่ช้า​ และ​ทางการ​ก็​ไล่​พวกเขา​ออก​โดยตรง​และ​ยึด​บ้าน​ที่​จัดสรร​ให้​พวกเขา​คืน​

สอง​สามีภรรยา​กลับคืน​สู่สภาพ​ยากจน​ข้นแค้น​ แต่กลับ​ยังคง​ต้อง​เลี้ยงลูก​ที่​เกิดขึ้น​มาอีก​สอง​คน​

แม้ว่า​พวกเขา​จะทำ​ผิดพลาด​ แต่​ผู้นำ​ระดับสูง​ก็​ไม่สามารถ​เพียง​เฝ้าดู​พวกเขา​อดตาย​ เขา​จึงย้าย​ครอบครัว​นี้​ไป​ยัง​ชนบท​ใน​ฐานะ​ชาวนา​ อย่าง​น้อย​พวกเขา​ก็​มีกิน​

แต่​เมื่อ​ทั้ง​คู่คิด​ว่าการ​เป็น​ชาวนา​นั้น​ยาก​เกินไป​ พวกเขา​จึงปฏิเสธ​ที่จะ​พยายาม​

แน่นอน​ว่า​พวกเขา​ไม่อาจ​อยู่รอด​ได้​โดย​ปราศจาก​เงิน​

ซุน​กุ้ยเซียง​บอ​กว่า​ทุกครั้งที่​หล่อน​ไป​ธนาคาร​เพื่อ​เบิก​ค่าจ้าง​ของ​พนักงาน​ทุก​คนใน​โรงงาน​ หล่อน​มัก​พบ​กับ​เจียง​ชุน​ห​นี่​ เจ้าหน้าที่​บัญชี​ของ​โรงงาน​รองเท้า​หนังสือ​ฟางบ่อยครั้ง​

โรงงาน​รองเท้า​สือ​ฟางเป็น​โรงงาน​ขนาดใหญ่​ที่​มีพนักงาน​มากกว่า​แปด​ร้อย​คน​

แม้ค่าจ้าง​จะต่ำ​ในเวลานั้น​ แต่​ค่าจ้าง​ของ​คนงาน​ทุก​คนใน​โรงงาน​รวมกัน​ก็​อยู่​ที่​เจ็ด​ถึงแปด​พัน​หยวน​ ซึ่งเป็น​จำนวน​มหาศาล​ที่​ไม่อาจ​จินตนาการ​ได้​ในเวลานั้น​

ซุน​กุ้ยเซียง​สมคบคิด​กับ​หลิน​เจี้ยนกั๋ว​ และ​เมื่อ​เจี่ยง​ชุน​ห​นี่​ไป​ยัง​ธนาคาร​เพื่อ​เบิก​ค่าจ้าง​ของ​คนงาน​ทั้งหมด​ใน​โรงงาน​ พวกเขา​ก็​ทำ​การปล้น​ชิงทรัพย์​หล่อน​ทันที​

เมื่อ​ได้เงิน​แล้ว​พวกเขา​ก็​พา​ลูก​ทั้งสอง​ออกจาก​บ้าน​ไป​อยู่​ต่างเมือง​ เพื่อให้​ลูก​ทั้งสอง​มีชีวิต​ที่​ดี​ด้วย​เงิน​จำนวน​มหาศาล​นั้น​

ซุน​กุ้ยเซียง​ไม่กลัว​ว่า​ตำรวจ​จะจับได้​

แม้พวกเขา​จะรู้​สถานการณ์​ของ​เจี่ยง​ชุน​นี​ดี​ แต่​ก็​ไม่เคย​ปริปาก​พูด​

แม้ว่า​เจี่ยง​ชุน​นี​จะบอก​ตำรวจ​ว่า​ตน​ถูก​ปล้น​ แต่​หล่อน​ก็​จะไม่มีทาง​รู้​ว่า​คนร้าย​เป็น​ใคร​

พวกเขา​ต้อง​ไม่ให้​เจี่ยง​ชุน​นี​เห็น​รูปร่างหน้าตา​ของ​พวกเขา​เมื่อ​ก่อ​อาชญากรรม​

แต่​แน่นอน​ว่า​ไม่มีสิ่งใด​ปกปิด​ได้​ตลอดไป​

เมื่อ​สอง​สามีภรรยา​จู่โจมจาก​ด้านหลัง​

เจี่ยง​ชุน​นี​ถูก​ไม้ฟาด​จน​หมดสติ​ และ​เมื่อ​สอง​สามีภรรยา​ต้องการ​ที่จะ​หนี​ไป​พร้อมกับ​ค่าจ้าง​ของ​คนงาน​ใน​โรงงาน​ทั้งหมด​ที่​เพิ่ง​ปล้น​ชิงมา เจี่ยง​ชุน​นี​ก็​ตื่นขึ้น​และ​จ้องมอง​พวกเขา​ทั้งคู่​

สอง​สามีและ​ภรรยา​ตกใจกลัว​ พวกเขา​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ทุบตี​หล่อน​ด้วย​ท่อนไม้​และ​ก้อนอิฐ​จนตาย​

เมื่อ​พบ​ว่า​ตน​พลั้ง​มือ​ฆ่าคนตาย​ ทั้งคู่​ก็​ยิ่ง​หวาดกลัว​มากขึ้น​

พวกเขา​ไม่รู้​ว่า​ควร​ทำ​อย่างไร​ จึงลาก​ศพ​ไป​ยัง​สนามกีฬา​ที่​กำลัง​สร้าง​อยู่​ไม่ไกล​และ​ฝังร่าง​หล่อน​ลง​ไป​ใน​ปูนซีเมนต์​

จากนั้น​พวกเขา​ก็​วิ่ง​กลับ​ไป​ยัง​บ้านเช่า​ เก็บ​ข้าวของ​ คืน​บ้าน​ให้​กับ​เจ้าของบ้าน​แล้ว​หนี​ไป​

สอง​สามีภรรยา​ย้าย​ออกจาก​พื้นที่​แห่ง​นี้​และ​ไป​เช่าบ้าน​อยู่​ใน​หมู่บ้าน​ใน​เมือง​

การ​หลบหนี​ของ​พวกเขา​ไม่ทำให้​ผู้ใด​เกิด​ความสงสัย​เลย​

สอง​สามีภรรยา​ทำชั่ว​มามากมาย​ และ​แน่นอน​ว่า​ความยุติธรรม​ยังคง​มีอยู่​ใน​โลก​

ใน​ระหว่าง​การ​หลบหนี​ เงิน​จำนวน​มหาศาล​ที่​พวกเขา​สละ​ชีวิต​เพื่อ​คว้า​มานั้น​ถูก​หัวขโมย​ชิงไป​ได้​

คู่สามีภรรยา​ที่​ยากจน​ต้อง​พา​ลูก​ ๆ ไป​อาศัย​อยู่​ใน​หมู่บ้าน​ที่​ซึ่งพวกเขา​กลายเป็น​ชาวนา​และ​ใช้ชีวิต​อย่าง​แร้นแค้น​

พวกเขา​ต้องการ​กลับ​ไป​ที่​เมือง​เดิม​ แต่​หลังจาก​สอบถาม​ข่าวคราว​ก็ได้​รู้​ว่า​ สามีของ​เจี่ยง​ชุน​นี​เชื่อ​อย่าง​แน่วแน่​ว่า​ภรรยา​ของ​เขา​ถูก​ฆ่าตาย​ และ​กำลัง​มองหา​ผู้​กระทำความผิด​ตัวจริง​

อย่างไรก็ตาม​ หลิน​เจี้ยนกั๋ว​และ​ภรรยา​ของ​เขา​กลัว​ว่า​คดี​ฆาตกรรม​จะถูก​เปิดเผย​ ดังนั้น​พวกเขา​จึงไม่กล้า​ที่จะ​ย้าย​กลับ​ไป​ยัง​เจียง​เฉิง

หลังจากที่​เจี่ยง​ชุน​นี​หายตัว​ไป​ โรงงาน​ก็​รายงาน​ตำรวจ​ทันที​ ตำรวจ​สืบสวน​นาน​กว่า​ครึ่ง​เดือน​ แต่​ก็​ไม่มีเบาะแส​

ข่าวลือ​แพร่กระจาย​ในทันที​ โดย​บอ​กว่า​เจี่ยง​ชุน​นี​หนี​ไป​พร้อมกับ​เงิน​

สามีของ​เจี่ยง​ชุน​นี​และ​ลูก​ ๆ ต้อง​ทนทุกข์ทรมาน​กับ​ความรุนแรง​ทาง​วาจา​จาก​เรื่อง​นี้​ และ​ไม่ว่า​พวกเขา​จะไป​ที่ไหน​ก็​มัก​ถูก​ดูถูก​เสมอ​

ไม่นาน​จากนั้น​ พ่อตา​และ​แม่ยาย​ก็​ตรอมใจ​จน​เสียชีวิต​ลง​

หลังจาก​อ่าน​รายงาน​ หลิน​ม่าย​ก็​ตระหนัก​ได้​ทันที​

ไม่น่าแปลกใจ​ที่​เธอ​ทำ​เงินได้​มากมาย​ใน​ชาติที่แล้ว​ เมื่อ​เธอ​ต้องการ​ซื้อ​บ้าน​ให้​หลิน​เจี้ยนกั๋ว​และ​ซุน​กุ้ยเซียง​อยู่​หลังจาก​เกษียณอายุ​ใน​เจียง​เฉิง แต่​พวกเขา​ปฏิเสธ​ที่จะ​ย้าย​กลับ​ไป​ยัง​เจียง​เฉิงเพราะ​พวกเขา​เคย​ก่อ​คดี​ฆาตกรรม​

หลิน​ม่าย​จมอยู่​ใน​ห้วง​ความคิด​จน​จักรยาน​ชน​เธอ​ล้ม​ลง​กับ​พื้น​

หลิน​ม่าย​เงยหน้า​ขึ้น​ บุคคล​ที่​ปั่น​จักรยาน​มาชน​เธอ​เป็น​นักเรียน​มัธยมต้น​

นักเรียน​มัธยมต้น​คน​นั้น​ค่อนข้าง​สุภาพ​ เขา​ลง​จาก​จักรยาน​และ​กล่าว​ขอโทษ​กับ​หลิน​ม่าย​ด้วย​ใบหน้า​แดงก่ำ​

เขา​อ้างว่า​จักรยาน​ของ​เขา​เบรก​แตก​ จึงไม่สามารถ​ควบคุม​และ​หยุด​รถ​ได้​เมื่อ​ขี่​ลง​ทางลาด​ เป็นเหตุให้​พุ่งชน​หลิน​ม่าย​

หลิน​ม่าย​ไม่เคย​คิด​ที่จะ​มีปัญหา​กับ​นักเรียน​มัธยมต้น​คน​นี้​

เธอ​เพียง​ตักเตือน​ให้​เขา​กลับ​ไป​ซ่อม​เบรค​จักรยาน​และ​ขี่​ให้​ช้าลง​ในอนาคต​

นักเรียน​มัธยมต้น​พยักหน้า​และ​หลิน​ม่าย​ก็​ปล่อย​เขา​ไป​

ในขณะที่​หลิน​ม่าย​กำลัง​ดิ้นรน​ที่จะ​ลุกขึ้น​ด้วยตัวเอง​ มือ​ขนาดใหญ่​ก็​พลัน​ยื่น​มาตรงหน้า​เธอ​

หลิน​ม่าย​เงยหน้า​ขึ้น​และ​เห็น​ว่า​เป็น​ฉือ​เหล่​ย​

เธอ​ไม่เอื้อมมือ​ไป​จับ​เขา​ แต่​พยายาม​ตะเกียกตะกาย​ลุกขึ้น​ด้วยตัวเอง​

หลังจาก​ลุกขึ้น​แล้ว​ เธอ​กล่าว​ขอบคุณ​เขา​ด้วย​ความจริงใจ​ก่อน​จะเดิน​ต่อไป​ยัง​มหาวิทยาลัย​

ฉือ​เหล่​ย​เดิน​เคียงข้าง​เธอ​อย่าง​เป็นธรรมชาติ​พร้อม​เอ่ย​ถามถึงสาเหตุ​ที่​เธอ​ไม่ค่อย​มาพูดคุย​กับ​เขา​ตลอดเวลา​ที่ผ่านมา​

หลิน​ม่าย​บอ​กว่า​ เมื่อ​มีปัญหา​การเรียน​ เธอ​ก็​มักจะ​ถามอาจารย์​หรือ​รุ่นพี่​คนอื่น​ ๆ

หลังจากที่​ทั้งสอง​คุย​กัน​ไม่กี่​คำ​ หลิน​ม่าย​ก็​พยายาม​หา​เหตุผล​ที่จะ​จากไป​

กง​เสวี่ย​ฉิน​กำลัง​มอง​เธอ​และ​ฉือ​เหล่​ยอ​ยู่​ไม่ไกล​

…………………………………………………………………………………………………………………………

สาร​จาก​ผู้แปล​

กระทำความผิด​อาญา​ร้ายแรง​ขนาด​นี้​ สมควร​มีชีวิต​แบบ​อยู่​ไม่สู้ตาย​อะ​ จะประหาร​เลย​มัน​ก็​ดู​ตาย​เร็ว​ไป​ ให้​มีชีวิต​แบบ​ตายทั้งเป็น​นั่นแหละ​ถึงจะสาสม

มือ​เสี้ยม​มาอีกแล้ว​เหรอ​

ไหหม่า​(海馬)