ตอนที่ 713 งานเลี้ยงฉลองวันปีใหม่

แม่ปากร้ายยุค​ 80

ตอนที่​ 713 งานเลี้ยง​ฉลอง​วัน​ปีใหม่​

อีก​เพียง​สอง​วัน​จะเป็น​วันสุดท้าย​ของ​เดือน​ธันวาคม​ และ​เป็น​วันที่​นักศึกษา​ใหม่​จัดงาน​สังสรรค์​วัน​ปีใหม่​

หลัง​เลิกเรียน​ตอนบ่าย​ นักศึกษา​ส่วนใหญ่​ยัง​ไม่กิน​ข้าวเย็น​และ​ยุ่ง​วุ่นวาย​อยู่​ใน​หอพัก​

เพื่อ​ค้นหา​เสื้อผ้า​พร้อม​แต่งหน้า​ให้​ดู​สวยงาม​มาก​ที่สุด​

เนื่องจาก​หลิน​ม่าย​อาศัย​อยู่​ใน​เมืองหลวง​และ​ต้อง​กลับบ้าน​ทุก​สัปดาห์​ เธอ​จึงไม่มีเสื้อผ้า​ใน​หอพัก​มาก​นัก​

แต่​เธอ​ไม่ได้​วางแผน​ที่จะ​แต่งตัว​แบบ​จัด​เต็ม​ จึงทำ​เพียง​สวม​แจ็ก​เก​ตขน​เป็ด​และ​กางเกงยีน​เท่านั้น​

เธอ​แค่​มาพบปะ​ผู้คน​และ​ดู​การเต้นรำ​​ ไม่ต้อง​การเต้นรำ​กับ​ใคร​ มัน​จึงไม่สำคัญ​นัก​ว่า​จะสวมใส่​ชุด​อะไร​

ขณะที่​เพื่อนร่วมห้อง​กำลัง​ยุ่ง​อยู่​กับ​การ​แต่งตัว​สวย​ เธอ​กำลัง​นั่ง​กิน​อาหาร​อยู่​ใน​โรงอาหาร​

เนื่องจาก​ใกล้​วัน​ปีใหม่​ อาหาร​ที่​ขาย​จึงค่อนข้าง​ดี​ หลิน​ม่าย​เลือก​ซื้อ​ปลา​เปรี้ยวหวาน​

เป็นเวลา​นาน​แล้ว​ที่​เธอ​ไม่ได้​กิน​ปลา​ทะเล​ มัน​มีรสชาติ​ยอดเยี่ยม​เหลือเกิน​เมื่อ​ได้​ลิ้มลอง​มัน​อีกครั้ง​

เพียงแต่ว่า​เธอ​ไม่ชิน​กับ​รส​หวาน​อม​เปรี้ยว​ของ​อาหาร​

ขณะที่​กำลัง​ประเมิน​ปลา​เปรี้ยวหวาน​อยู่​ จาน​ไก่​เผ็ด​และ​หมูสามชั้น​ปรุงรส​ก็​ถูก​ยก​มาวาง​ตรงหน้า​

หลิน​ม่าย​เงยหน้า​ขึ้น​ เมื่อ​เห็น​ว่า​เป็น​ฟางจั๋ว​หรา​น​จึงรู้สึก​ประหลาดใจ​อย่าง​มาก​ “ทำไม​คุณ​ถึงมาอยู่​ที่นี่​?”

ฟางจั๋ว​หรา​น​นั่งลง​ตรงข้าม​กับ​เธอ​และ​ตัก​น่อง​ไก่​ใส่จาน​ของ​หญิงสาว​ “เพราะ​คุณ​โทร​หา​ผม​เพื่อ​บอ​กว่า​ทาง​โรงเรียน​จัด​งานเลี้ยง​ปีใหม่​คืนนี้​ ทำให้​คุณ​กลับบ้าน​ไม่ได้​ไม่ใช่หรือ​?​ดังนั้น​ผม​จึงนำ​ชุด​ไป​งานเลี้ยง​มาให้​คุณ​”

หลิน​ม่าย​กล่าว​ยิ้ม​ “คุณ​เอาใจใส่​เกินไป​แล้ว​ ฉัน​แค่​ไป​ร่วมงาน​ตามมารยาท​เอง​ค่ะ​”

ฟางจั๋ว​หรา​น​ตัก​อาหาร​เข้า​ปาก​ ก่อน​กล่าวว่า​ “สนุก​ไป​กับ​ชีวิต​นักศึกษา​ของ​คุณ​เถอะ​ หลังจาก​จบ​การศึกษา​ มัน​จะไม่มีงานเลี้ยง​แบบนี้​อีกแล้ว​”

หลิน​ม่าย​เอียง​ศีรษะ​ถาม “ฉัน​กำลังจะ​เต้นรำ​กับ​ชาย​อื่น​ คุณ​ไม่หึงหวง​เลย​หรือ​?”

“หึง​สิ” ฟางจั๋ว​หรา​นย​อม​รับ​อย่าง​ตรงไปตรงมา​ “แต่​นี่​ไม่ใช่เหตุผล​ที่จะ​จำกัด​การ​มีปฏิสัมพันธ์​ทางสังคม​ของ​คุณ​”

หลังจาก​ทั้งสอง​รับประทาน​อาหาร​เสร็จ​ ฟางจั๋ว​หรา​น​ก็​ขอตัว​กลับ​ไป​

แต่​ก่อนที่จะ​ไป​ เขา​ก็​บอก​หลิน​ม่าย​ว่า​จะมารับ​หลัง​งานเลี้ยง​เลิก​ตอนกลางคืน​

หลิน​ม่าย​กลับ​ไป​อยู่​บ้าน​เพียง​สอง​คืน​ต่อ​สัปดาห์​ เธอ​ต้อง​อยู่ร่วม​งานเลี้ยง​ฉลอง​ที่​มหา​วิ​ยา​ลัย​ ฟางจั๋ว​หรา​น​จึงยอม​ไม่ได้​ที่จะ​สูญเสีย​ผลประโยชน์​ไป​หนึ่ง​คืน​

ไม่ว่า​จะดึกดื่น​แค่​ไหน​ก็ตาม​ เขา​จะต้อง​พา​หลิน​ม่าย​กลับบ้าน​ไป​ด้วยกัน​

การ​เข้านอน​พร้อมกับ​ภรรยา​ใน​อ้อมแขน​เท่านั้น​ที่จะ​ทำให้​เขา​นอน​หลับสนิท​

หลิน​ม่าย​กลับ​ไป​ยัง​หอพัก​พร้อมกับ​กระโปรง​แคชเมียร์​ฤดูหนาว​ยาว​คุม​เข่า​และ​เสื้อคลุม​ตัว​ยาว​ที่​ฟางจั๋ว​หรา​น​นำมา​ให้​

หลังจากนั้น​เธอ​จึงเปลี่ยนเป็น​ชุด​กระโปรง​กัน​หนาว​แสน​สวย​และ​เสื้อคลุม​ขนสัตว์​ตัว​ยาว​ใน​ห้องพัก​

แม้ว่า​เธอ​จะมีสุขภาพ​ร่างกาย​แข็งแรง​ แต่​ก็​ไม่สามารถ​ต้านทาน​อุณหภูมิ​ติดลบ​หลาย​องศา​ใน​เมืองหลวง​ได้​ เวลานี้​ฟัน​ของ​เธอ​กระทบ​กัน​กึก​ๆ จาก​ความ​หนาวเย็น​

ทันใดนั้น​เธอ​เปลี่ยนใจ​ถอด​ชุด​นี้​ออก​ ก่อน​กลับ​ไป​สวม​แจ็ก​เก​ตขน​เป็ด​และ​กางเกงยีน​ จากนั้น​เอนตัว​นอน​เพื่อ​พักผ่อน​

ฉีเย​ว่​ชิงถามด้วย​ความ​งงงวย​ “เธอ​ใส่มัน​แล้ว​ทำไม​ถึงถอด​ออก​ล่ะ​? มัน​ดู​ดีมาก​เลย​นะ​”

หลิน​ม่าย​โบกมือ​ “มัน​หนาว​เกินไป​ที่จะ​ใส่ชุด​นั้น​”

ทันทีที่​พูด​จบ​เธอ​ก็​จามออกมา​โดย​ไม่ได้​ตั้งใจ​

ด้วย​สายตา​เฉียบแหลม​และ​มือ​ที่​ฉับไว​ เสิ่นอวิ้น​คว้า​ชุด​จาก​มือ​หลิน​ม่าย​ “ฉัน​ไม่กลัว​หนาว​และ​อยาก​ใส่มัน​ ขอ​ฉัน​ใส่ได้​ไหม​หลิน​ม่าย​”

“ได้​สิ” หลิน​ม่าย​ตอบรับ​อย่าง​ใจดี​

เพื่อนร่วมห้อง​คนอื่น​ไม่ได้​รบเร้า​เพื่อ​แย่งชิง​ เพราะ​มีเพียง​เสิ่นอวิ้น​เท่านั้น​ที่​มีส่วนสูง​เทียบ​เท่ากับ​หลิน​ม่าย​ ส่วน​คน​ที่​เหลือ​ล้วน​สูงเกินไป​หรือ​เตี้ย​เกินไป​

เวลา​ผัน​ผ่าน​ไป​กว่า​ครึ่ง​ชั่วโมง​ ทุกคน​แต่งตัว​และ​เตรียม​ออก​ไป​งานเลี้ยง​ปีใหม่​ด้วยกัน​

งานเลี้ยง​ถูก​จัด​ขึ้น​ใน​หอประชุม​

หลอดไฟ​ฟลูออ​เร​สเซนต์​บน​เพดาน​ถูก​ประดับประดา​ด้วย​ริบบิ้น​และ​ลูกโป่ง​หลาก​สีสัน​ ส่วนกลาง​ของ​โถงจัด​ทำเป็น​ฟลอร์​เต้นรำ​ที่​ล้ม​รอบ​ด้วย​โต๊ะ​และ​เก้าอี้​

ลูกอม​ เมล็ด​แตงโม​ และ​ถั่วลิสง​ถูก​จัดเตรียม​ไว้​แต่ละ​โต๊ะ​

แม้ว่า​สถาน​ที่จะ​จัด​ขึ้น​อย่าง​เรียบง่าย​ แต่​ก็​ไม่สามารถ​ยับยั้ง​ความ​กระตือรือร้น​ของ​เหล่า​นักศึกษา​ได้​

เวลา​หนึ่ง​ทุ่ม​ งานเลี้ยง​เต้นรำ​เริ่ม​ขึ้น​ตรงเวลา​

เหล่า​หญิงสาว​นั่ง​เรียงราย​บน​เก้าอี้​ที่​สงวน​ไว้​ ขณะ​เด็กหนุ่ม​มากมาย​เชื้อเชิญ​หญิงสาว​ที่​ชอบ​ไป​เต้นรำ​ด้วย​หน้า​แดงก่ำ​

แม้ว่า​หลิน​ม่าย​จะเป็น​สตรี​ที่​แต่งงาน​แล้ว​ แต่​ก็​มีผู้ชาย​แวะเวียน​เข้ามา​ชวน​เธอ​เต้นรำ​ด้วย​

เด็กหนุ่ม​เหล่านี้​ไม่ได้​ต้องการ​ไล่ตาม​เธอ​ฉัน​ชู้สาว​ พวกเขา​แค่​รู้สึก​ชื่นชม​และ​ต้อง​การเต้นรำ​กับ​เธอ​เท่านั้น​

หลิน​ม่าย​ขอโทษ​พวกเขา​และ​บอ​กว่า​เธอ​เต้นรำ​ไม่เป็น​

เด็กหนุ่ม​คน​หนึ่ง​เสนอ​ที่จะ​สอน​ให้​ แต่​เธอ​ก็​ปฏิเสธ​เขา​ไป​เช่นกัน​

ทุกคน​เริ่ม​รับรู้​ได้​ว่า​หลิน​ม่าย​ไม่ได้มา​งานเลี้ยง​เพื่อ​เต้นรำ​ แต่​เพื่อ​มากิน​เมล็ด​แตงโม​และ​ลูกอม​ ดังนั้น​จึงไม่มีใคร​เข้ามา​ขอ​เธอ​เต้นรำ​ด้วย​อีก​

หลิน​ม่าย​นั่ง​เงียบ​ เฝ้าดู​ชาย​หญิง​เต้นรำ​อยู่​บน​ฟลอร์​กลาง​โถง

นักศึกษา​ส่วนใหญ่​ผ่าน​การเรียนรู้​หลักสูตร​เร่งรัด​ พวกเขา​จึงเต้น​ได้​ไม่ดี​นัก​ บางครั้ง​พวกเขา​เหยียบ​เท้า​คู่​เต้นรำ​ของ​ตัวเอง​ ซึ่งทำให้​ทุกคน​หัวเราะ​ด้วย​ความขบขัน​

ในที่สุด​ก็​เป็นเวลา​สี่ทุ่ม​ และ​งานเลี้ยง​ก็​สิ้นสุดลง​

นักศึกษา​พา​กัน​เดิน​ออก​ไป​อย่าง​ไม่เต็มใจ​

หลิน​ม่าย​เดิน​ออกจาก​หอประชุม​พร้อมกับ​ฝูงชน​ ก่อน​จะเป็น​ความโกลาหล​ด้านหน้า​

เสียง​ของ​ฟางจั๋ว​หรา​น​ดัง​ผ่าน​เข้ามา​ใน​หู​ “ทำไม​คุณ​ถึงสวม​เสื้อผ้า​ของ​ม่าย​จื่อ​ภรรยา​ผม​?”

เธอ​กรีดร้อง​ขึ้น​ใน​ใจ “แย่​แล้ว​!”

ฟางจั๋ว​หรา​น​ต้อง​เห็น​เสิ่นอวิ้น​สวม​ชุด​ที่​เขา​นำมา​ให้​จน​เกิด​ความเข้าใจผิด​

เธอ​เร่งฝีเท้า​ไป​ด้านหน้า​ให้​เร็ว​ขึ้น​ กระนั้น​ก็​ดู​ไม่มีประโยชน์​นัก​

เธอ​สะดุด​เท้า​ของ​ใคร​บาง​คนจน​เซถลา​ตก​บันได​

แม้ว่า​บันได​ของ​หอประชุม​จะมีเพียง​ราว​หก​ขั้น​ แต่​พลั้งเผลอ​ตก​ลงมา​ก็​ทำให้​เจ็บตัว​ไม่น้อย​

ทันใดนั้น​ ฉือ​เหล่​ย​ที่​เดิน​อยู่​ด้าน​ข้าง​รีบ​คว้า​ตัว​เธอ​ไว้​

ในเวลาเดียวกัน​เสียง​อัน​เข้มงวด​ของ​ตู้​เจวียน​ก็​ดัง​ขึ้น​ “ฉือ​เหล่​ย​ นี่​กำลัง​ทำ​อะไร​? คำพูด​ที่​คุณ​สัญญากับ​ฉัน​ตอนนั้น​เป็น​เพียงแค่​ลมปาก​หรือ​ยังไง​?”

นักศึกษา​ที่​ยังคง​ทยอย​ออกจาก​งานเลี้ยง​ต่าง​พา​กัน​หัน​มอง​ทาง​ฉือ​เหล่​ย​เป็น​ตาเดียว​ ก่อน​เห็น​ว่า​หลิน​ม่าย​แอบอิง​อยู่​ใน​อ้อมแขน​ของ​ชายหนุ่ม​

เปลวไฟ​แห่ง​การ​ติฉินนินทา​ลุกโชติช่วง​ใน​ดวงตา​ของ​นักศึกษา​หลาย​คน​

หลิน​ม่าย​รีบ​ผละ​ออกจาก​อ้อมแขน​ฉือ​เหล่​ย​พร้อม​กล่าว​คำอธิบาย​ “เมื่อ​ครู่​ฉัน​เกือบ​ตก​บันได​ แต่​ฉือ​เหล่​ย​คว้า​ตัว​ฉัน​ไว้​ได้​ทันเวลา​ ถ้าไม่เชื่อ​ก็​ลอง​ถามพวกเขา​ได้​”

เธอ​ชี้ไป​ยัง​ผู้คน​ที่อยู่​รอบตัว​

ทุกคน​รอบตัว​ล้วน​มองเห็น​อุบัติเหตุ​ที่​เกิดขึ้น​อย่าง​ชัดเจน​

พวกเขา​จึงผงกศีรษะ​

ฟางจั๋ว​หรา​น​เดิน​มาคว้า​ข้อมือ​หลิน​ม่าย​และ​เดิน​จากไป​

“ไม่ต้อง​อธิบาย​อะไร​ให้​มากความ​ ตราบใดที่​ผม​เชื่อ​ใน​ตัว​คุณ​ ใคร​อื่น​จะคิด​อย่างไร​นั้น​ไม่สำคัญ​ คน​ที่​มีอคติ​อยู่​ใน​ใจ ย่อม​มอง​ทุกสิ่ง​อย่าง​ด้วย​อคติ​”

ตู้​เจวียน​หน้า​แดงก่ำ​กับ​คำพูด​ตำหนิ​ทิ้งท้าย​ของ​ฟางจั๋ว​หรา​น​

ฉือ​เหล่​ย​ถูก​ตู้​เจวียน​เหยียดหยาม​ใน​ที่สาธารณะ​ เขา​จึงเดินผ่าน​หญิงสาว​ไป​ด้วย​สีหน้าบูดบึ้ง​

ตู้​เจวียน​ตระหนัก​ได้​ว่า​ตน​เข้าใจผิด​ จึงรีบ​เดินตาม​ฉือ​เหล่​ย​พลาง​กล่าว​คำ​ “ฉัน​ผิด​ไป​แล้ว​ ยกโทษให้​ฉัน​เถอะ​นะ​ ทั้งหมด​เป็น​ความผิด​ของ​ฉัน​เอง​ที่​ไม่เชื่อใจ​คุณ​มาก​พอ​”

ทั้งสอง​เดิน​ออกมา​ไกล​กระทั่ง​ไม่มีคนอื่น​อยู่​รอบ​ๆ ฉือ​เหล่​ย​จึงหยุด​ฝีเท้า​ลง​

เขา​ยืน​นิ่ง​อยู่​ที่​เดิม​โดย​ไม่หัน​กลับมา​มอง​ พูด​ขึ้น​อย่าง​เหนื่อยล้า​ว่า​ “เรา​เลิกกัน​เถอะ​”

ตู้​เจวียน​คิด​ว่า​ตนเอง​ฟังผิด​ไป​ จึงถามอีกครั้ง​ “คุณ​เพิ่ง​พูดว่า​อะไร​นะ​?”

ฉือ​เหล่​ย​พูด​แต่ละ​คำ​อย่าง​แช่มช้าและ​ชัดเจน​ “ผม​พูดว่า​ เรา​เลิกกัน​เถอะ​”

ตู้​เจวีย​นรี​บ​พุ่ง​ออก​ไป​ข้างหน้า​ ยก​มือขึ้น​ชก​และ​เตะ​เขา​ “ฉัน​แค่​เข้าใจ​สถานการณ์​ผิด​ จึงทำผิด​ต่อ​คุณ​แบบ​นั้น​ ฉัน​ขอโทษ​คุณ​ไป​แล้ว​ แต่​คุณ​กลับ​ไม่ยอม​ปล่อยวาง​ แล้ว​ยัง​ไม่รักษา​สัญญาว่า​จะไม่สนใจ​หลิน​ม่าย​อีก​!”

ฉือ​เหล่​ย​ผลัก​หล่อน​ออก​ด้วย​ความ​เหลือทน​ “งั้น​ก็แล้วแต่​คุณ​แล้วกัน​ แต่​ผม​ขอ​ย้ำ​อีกครั้ง​ ผม​แค่​ชื่นชม​ใน​ตัว​หลิน​ม่าย​เท่านั้น​”

สิ้น​เสียง​กล่าว​ เขา​เดิน​จากไป​ทันที​

ตู้​เจวียน​ตะลึงงัน​ชั่วขณะ​ ก่อน​จะวิ่ง​ตาม​ฉือ​เหล่​ย​และ​ถามว่า​ “เรื่องราว​ระหว่าง​เรา​ตลอด​สามปี​สิ้นสุดลง​แบบนี้​ คุณ​ไม่รู้สึก​ปวดใจ​บ้าง​เลย​หรือ​ยังไง​!”

“ปวดใจ​สิ จะไม่ให้​ปวดใจ​ได้​ยังไง​!” ฉือ​เหล่​ยก​ล่า​ว​คำ​เสียง​เรียบ​ “แต่​ความเสียใจ​นี้​ยัง​พอ​ทน​ได้​เมื่อ​เทียบ​กับ​ความระแวง​อัน​ไร้เหตุผล​ของ​คุณ​”

ได้​ฟังดังนั้น​ ตู้​เจวียน​พลัน​รู้สึก​ว่างเปล่า​ แต่​หล่อน​ก็​ยังคง​ต้อง​การรักษา​ความสัมพันธ์​ครั้งนี้​ไว้​

หล่อน​ร่ำไห้​ร้องขอ​เขา​อย่าง​น่าเวทนา​ “ฉัน​จะไม่ระแวง​คุณ​อีก​ คุณ​ยกโทษให้​ฉัน​ได้​ไหม​?”

แต่​ไม่ว่า​จะอ้อนวอน​มาก​เพียงใด​ ฉือ​เหล่​ย​ก็​ยัง​ยืนยัน​ที่จะ​จบ​ความสัมพันธ์​

ตู้​เจวียน​กลับ​มายัง​หอพัก​ด้วย​ความรู้สึก​ว่างเปล่า​ กง​เสวี่ย​ฉิน​ถามด้วย​ความประหลาดใจ​ “นี่​เป็น​อะไร​ไป​? ทำไม​ถึงดู​โทรม​ขนาด​นั้น​?”

ตู้​เจวียน​หลั่ง​น้ำตา​ออกมา​ทันใด​ หล่อน​โผ​เข้า​กอด​กง​เสวี่ย​ฉิน​และ​พูดว่า​ “ฉือ​เหล่​ยขอ​เลิก​กับ​ฉัน​”

รอยยิ้ม​แห่ง​ชัยชนะ​พลัน​ปรากฏ​ขึ้น​ที่​มุมปาก​ของ​กง​เสวี่ย​ฉิน​

มือ​ลูบ​แผ่น​หลัง​ของ​ตู้​เจวียน​เพื่อ​ปลอบโยน​ ก่อน​ถามขึ้น​ด้วย​ความ​งุนงง​ “เอาล่ะ​ ทำไม​ฉือ​เหล่​ย​ถึงบอกเลิก​เธอ​ได้​ล่ะ​?”

จากนั้น​พลัน​ทำ​สีหน้า​คล้าย​กับ​นึก​บางอย่าง​ขึ้น​ได้​ “เป็น​เพราะ​หลิน​ม่าย​ใช่ไหม​?”

ตู้​เจวียน​ไม่ได้​ปฏิเสธ​และ​พยักหน้า​รับ​

กง​เสวี่ย​ฉิน​ถอนหายใจ​ยาว​ “แม้ว่า​หลิน​ม่าย​จะมีบุคลิก​ที่​ดี​ แต่​ความ​สวย​ที่​มากเกินไป​ก็​ไม่ดี​นัก​ เหมือนกับ​สำนวน​ที่ว่า​นารี​เป็น​เหตุ​ หาก​ไม่มีหล่อน​ ฉือ​เหล่​ย​จะเลิก​กับ​เธอ​ได้​ยังไง​!”

ตู้​เจวียน​ครุ่น​คิดถึง​เรื่อง​นี้​หลัง​ได้​รับฟัง​

หลิน​ม่าย​ถูก​ฟางจั๋ว​หรา​น​พา​เข้าไป​ใน​รถ​หลังจาก​เกิดเรื่อง​

ทันทีที่​ประตู​ปิด​ลง​ เธอ​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ถามขึ้น​ “ก่อนหน้านี้​คุณ​กำลัง​คุย​กับ​ใคร​อยู่​? เสิ่นอวิ้น​เหรอ​?”

ฟางจั๋ว​หรา​น​มัก​มารับ​หลิน​ม่าย​กลับบ้าน​เกือบ​ทุกครั้งที่​เขา​มีเวลาว่าง​ใน​วัน​เสาร์​ ดังนั้น​เขา​จึงรู้จัก​เพื่อนร่วมห้อง​เกือบ​ทุกคน​ของ​หลิน​ม่าย​

ฟางจั๋ว​หรา​นพ​ยัก​หน้า​และ​ถามด้วย​ความไม่สบายใจ​ “ทำไม​คุณ​ถึงให้​หล่อน​ยืม​เสื้อผ้า​พวก​นั้น​ล่ะ​?”

“เพราะ​ฉัน​ไม่อยาก​ใส่ มัน​หนาว​เกินไป​” หลิน​ม่าย​ขยิบตา​ให้​ฟางจั๋ว​หรา​นอ​ย่าง​ซุกซน​ “สารภาพ​มาเถอะ​ คุณ​เห็น​เสิ่นอวิ้น​เป็น​ฉัน​ใช่ไหม​ คุณ​คง​ไม่ได้​เผลอ​ทำตัว​ไม่เหมาะสม​กับ​หล่อน​ไป​หรอก​ใช่ไหม​?”

“เห็น​ผม​เป็น​คน​แบบ​นั้น​เหรอ​?” ฟางจั๋ว​หรา​น​ถามกลับ​ด้วย​สีหน้า​เคร่งขรึม​

ความจริง​แล้ว​ คราว​ที่​เขา​เห็น​เสิ่นอวิ้​นภา​ย​ใต้​แสงสลัว​ เขา​เข้าใจผิด​ว่า​หล่อน​คือ​หลิน​ม่าย​ จึงเอื้อมมือ​ออก​ไป​คว้า​มือ​ของหล่อน​

ทันทีที่​เขา​กำลัง​ลากตัว​หล่อน​ออก​ไป​ ทันใดนั้น​เขา​ได้​กลิ่นหอม​ฟุ้งของ​แป้ง​จาก​ร่างกาย​หญิงสาว​

เขา​ตระหนัก​รู้​ได้​ทันที​ว่า​หญิงสาว​ตรงหน้า​ไม่ใช่หลิน​ม่าย​

หลิน​ม่าย​ใช้ผลิตภัณฑ์​ดูแล​ผิว​ยี่ห้อ​ที่​เขา​คุ้นเคย​ กลิ่นหอม​ของ​ผลิตภัณฑ์​เหล่านั้น​ไม่เหมือนกับ​กลิ่นหอม​จาก​ร่างกาย​ของ​เสิ่นอวิ้น​

เป็น​เพราะ​กลิ่นหอม​นี้​ที่​ช่วยชีวิต​เขา​ก่อน​ตก​หน้าผา​ มิฉะนั้น​มัน​อาจ​กลายเป็น​ภาพ​ฉาก​น่าอับอาย​ที่​กลายเป็น​ที่​โจษจัน​ของ​สังคม​

…………………………………………………………………………………………………………………………

สาร​จาก​ผู้แปล​

ม่าย​จื่อ​เธอ​สร้าง​เรื่องมาก​นะ​ ทำ​พี่​หมอ​เข้าใจผิด​หนึ่ง​ แล้วก็​เป็น​ตัวเร่ง​ให้​คู่รัก​เลิกกัน​อีก​หนึ่ง​

เลิกกัน​ไป​ก็​ดีแล้ว​ล่ะ​ แสดงว่า​ชะตา​ไม่สมพงษ์​กัน​ เพราะ​ดู​ฝ่าย​หญิง​ไม่เชื่อใจ​ฝ่าย​ชาย​เลย​ แล้ว​ทำให้​เขา​เสียหน้า​ต่อ​ธารกำนัล​อีก​ ผู้ชาย​นี่​เสีย​อะไร​ก็​เสียได้​แต่​เสียเกียรติ​นี่​ยอม​กัน​ไม่ได้​

ไหหม่า​(海馬)