บทที่ 702 ลูกหมาที่โง่เขลา
บทที่ 702 ลูกหมาที่โง่เขลา
“จ้างข้าเหรอ?” ติ้งรุ่นตกตะลึง “เป้าหมายของข้ามักจะร้องขอชีวิตหรือร่ำไห้หมดอาลัยตายอยาก การได้พบเป้าหมายเช่นเจ้าที่ต้องการทำธุรกิจกับข้าเป็นสิ่งที่หายากมาก อันที่จริงข้าเป็นนักฆ่า หากเจ้าสามารถจ่ายค่าจ้างให้ข้าได้ แน่นอนว่าเจ้าสามารถมอบหมายงานให้ข้าได้”
“เช่นนั้นก็ดี” ซูอันกล่าว “เจ้าคิดค่าจ้างเท่าไหร่?”
ติ้งรุ่นหัวเราะคิกคัก “มันพูดยาก! ราคาย่อมแตกต่างไปตามความยากง่ายของเป้าหมาย ทั้งระดับการบ่มเพาะและสถานะทางสังคมของเป้าหมายล้วนเป็นปัจจัยของราคาที่ข้าจะเรียก แน่นอน ข้าจะไม่มีทางเรียกราคาถูก ๆ ไม่ว่าเป้าหมายจะต่ำต้อยแค่ไหนก็ตาม แต่ตามปกติแล้วข้าไม่เคยถูกจ้างวานให้สังหารเป้าหมายที่ต่ำต้อยเพราะด้วยชื่อเสียงของข้า เหล่าผู้คนที่จ้างวานข้าย่อมมอบหมายแต่งานยาก ๆ มาให้อยู่แล้ว”
“เช่นนั้นข้าขอจ้างวานให้เจ้าฆ่าคนที่จ้างเจ้ามาฆ่าข้า!” ซูอันเอ่ยกลับ
ดวงตาของติ้งรุ่นหรี่ลง “นี่คือสิ่งที่เด็กอย่างเจ้าคิดได้สินะ แต่ข้าเกรงว่ามัน…”
“ข้าจะให้ค่าจ้างพิเศษแก่เจ้า” ซูอันกล่าวต่อไป “ข้าจะจ่ายให้เจ้าสองเท่าของที่คน ๆ นั้นจ่าย”
ติ้งรุ่นลังเล “ข้าควรจะเป็นคนซื่อสัตย์…”
“สามเท่า!” ซูอันพูดต่อ
ตาของติ้งรุ่นเป็นประกาย “ดี! ข้าตกลง!”
ซ่างเชียนตกตะลึงอย่างสมบูรณ์ เรื่องไร้สาระแบบนี้ก็มีด้วย?
อย่างที่คาดไว้ สมองของเจ้าเด็กคนนี้มันไวจริง ๆ! ต่อไปมันอาจจะดีกว่าถ้าข้าไม่ไปยุ่งกับมันอีก
เฮ้อ…แต่ข้าคงจะมีชีวิตไม่เกินวันนี้ด้วยซ้ำ ข้าจะยังคิดเกี่ยวกับเรื่องของอนาคตอีกทำไม?
ติ้งรุ่นมองซูอัน “แต่ข้าจะแน่ใจได้ยังไงว่าเจ้ามีเงินมากขนาดนั้น? เจ้ากำลังจะตาย ดังนั้นข้าต้องการแค่เงินที่เจ้ามีติดตัวอยู่ในตอนนี้ และอย่าบอกให้ข้าวิ่งไปหาที่ซ่อนเงินของเจ้า ข้าจะไม่ตกหลุมพรางง่าย ๆ”
เห็นได้ชัดว่าเขาเคยประสบเรื่องแบบนี้มาก่อนซึ่งทำให้เขาระมัดระวังมากขึ้น
“ข้ามีเงิน แต่ข้าจะให้เจ้าทีหลัง อย่างน้อยข้าก็สามารถอยู่ได้นานขึ้นอีกหน่อย” ซูอันพูดพร้อมกับหัวเราะเบา ๆ
ติ้งรุ่นส่ายหัว “เชื่อข้า บางครั้งการอยู่นานเกินไปมันแย่ซะยิ่งกว่าการหลุดพ้นในทันที”
“ข้าจะมีชีวิตอยู่ต่อไป” ซูอันตอบ
“ถ้าอย่างนั้นข้าจะฆ่าพวกเขาก่อนและเหลือเจ้าเป็นคนสุดท้าย” ติ้งรุ่นหันไปทางซ่างหงและคนอื่น ๆ “ขออภัยท่านซ่าง”
จากนั้นด้วยแสงระยิบระยับ คลื่นของพลังดาบก็พาดผ่านพ่อและลูกชาย
แต่ซ่างหงไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา ทันใดนั้นเขาก็จับโซ่เหล็กในมือขึ้นมาและก้าวไปข้างหน้าเพื่อรับการโจมตีครั้งนี้ โซ่ปะทะเข้ากับพลังดาบ เสียดสีจนเกิดประกายไฟ
การปะทะนี้ส่งผลให้คลื่นพลังดาบของติ้งรุ่นแตกกระจายแยกออกไปบริเวณโดยรอบ ทำลายรถม้าจนแหลกเป็นชิ้น ๆ
“เจ้าปลดผนึกของเจ้าสำเร็จแล้วงั้นเหรอ?!” มือของติ้งรุ่นวางอยู่บนด้ามจับดาบราวกับว่ามันไม่เคยออกจากฝัก
ซ่างหงมองร่างของหวงฮุ่ยฮงที่อยู่ไม่ห่าง จากนั้นเขาก็พูดพร้อมกับถอนหายใจ “ต้องขอบคุณผู้บัญชาการหวงที่ปลดผนึกให้ข้าก่อนที่เขาจะหมดลมหายใจ”
ติ้งรุ่นนึกขึ้นได้ว่าหวงฮุ่ยฮงยื่นมือไปทางด้านข้างรถม้าซึ่งซ่างหงยืนอยู่ ย้อนกลับไปในตอนนั้น เขาคิดว่าอีกฝ่ายที่กำลังจะตายกำลังพยายามจะคว้าอะไรบางอย่าง แต่ตอนนี้เขารู้ว่าอีกฝ่ายกำลังปลดผนึกให้ซ่างหง
“เฮอะ ๆ การพูดพล่ามทั้งหมดก่อนหน้านี้ก็เพื่อซื้อเวลาสำหรับการฟื้นตัวงั้นเหรอ?” ติ้งรุ่นเบนสายตาไปมองซูอันและหัวเราะอย่างเย็นชา เขาไม่นึกเลยว่าจะโดนเด็กคนหนึ่งหลอกเอาแบบนี้
ซ่างหงยิ้มให้ซูอันด้วยสีหน้าพึงพอใจ “ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะรู้สถานการณ์ได้เร็วขนาดนี้ ปฏิกิริยาของเจ้าเร็วจนถึงขนาดทำให้แม้แต่ตัวข้าเองก็ต้องตกตะลึง”
ท้ายที่สุดหวงฮุ่ยฮงมีเวลาเพียงพอที่จะปลดผนึกให้เขาเพียงคนเดียว นี่คือเหตุผลที่ไม่มีใครควรจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
“ข้าก็แค่เดาเอา” ซูอันยิ้ม จากนั้นเขาก็หันไปมองติ้งรุ่น “แต่ยังไงซะ ข้อเสนอของข้ายังคงอยู่เช่นเดิม ถ้าท้ายที่สุดพวกข้าต้องตายจริง ๆ เจ้าก็ยังต้องช่วยข้าฆ่าผู้จ้างวานที่จ้างให้เจ้ามาฆ่าข้า”
ติ้งรุ่นเยาะเย้ย “ค่อนข้างฉลาดดีนี่ ทุกอย่างยังคงเป็นไปตามแผนของเจ้า”
สีหน้าของซ่างเชียนดูยินดีและเขาก็ร้องออกมาทันที “ท่านพ่อ ปลดผนึกให้ข้าด้วย!”
น่าแปลกที่ซ่างหงไม่ตอบ เขายังคงจ้องมองติ้งรุ่นต่อไป
ซูอันพ่นลมหายใจ “อยู่เงียบ ๆ ก็ไม่มีใครว่าเจ้าเป็นใบ้! นักรบเงินสดผู้นี้ไม่ใช่ธรรมดา แค่เขาสะกิดเจ้าก็ตายแล้ว! ความสนใจของพ่อเจ้าอยู่ที่คู่ต่อสู้ในตอนนี้และไม่อาจเสียสมาธิได้ แต่เจ้ากลับเอาแต่เห่าเหมือนลูกหมาที่โง่เขลา!”
ซ่างเชียนจ้องมองอย่างว่างเปล่าครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น อย่างไรก็ตาม คำพูดของซูอันยังคงทำให้เขาโกรธ ฮึ่ม! รอจนกว่าพ่อข้าจะกำจัดติ้งรุ่นได้ ข้าจะถลกหนังเจ้าทั้งเป็น!
—
ท่านยั่วยุซ่างเชียนสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 792!
—
ซูอันเพิกเฉย ความสนใจของเขาอยู่ที่การต่อสู้อย่างสมบูรณ์
ติ้งรุ่นยังคงค่อนข้างสงบ “ข้าได้ยินมาว่าท่านซ่างเป็นผู้บ่มเพาะระดับแปด เช่นนั้นข้าคงต้องขอคำชี้แนะบ้างสักสองสามอย่าง”
ซ่างหงตอบกลับด้วยน้ำเสียงจริงจัง “เจ้าค่อนข้างมีชื่อเสียง ข้าเคยได้ยินเกี่ยวกับผู้บ่มเพาะระดับแปดที่ตายด้วยน้ำมือของเจ้า ดังนั้นผู้บ่มเพาะระดับแปดอีกคนอย่างข้าไม่ควรเป็นปัญหามากเกินไปที่เจ้าจะรับมือ”
“นั่นก็ถูก แต่ท่านก็ยังคงเป็นผู้บ่มเพาะระดับแปด ซึ่งยังเป็นเป้าหมายที่ยาก ข้าจะต้องขอเงินพิเศษจากนายจ้างเมื่อข้ากลับไป” ดาบของติ้งรุ่นถูกชักออกจากฝักก่อนที่คำพูดสุดท้ายจะออกจากริมฝีปากของเขา
เขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วจนไม่มีใครเห็นวิถีของดาบ ทุกคนแทบไม่รู้สึกถึงความเย็นเยียบของคมดาบที่ปรากฏออกมา
ซ่างหงเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้อย่างเต็มที่แล้ว เขากวัดแกว่งโซ่ตรวนที่หักแล้วในมือพร้อมกับเคลื่อนตัวไปรับการโจมตี โซ่และกุญแจมือที่ทูตยุทธ์เสื้อแพรใช้คร่ากุมนักโทษล้วนทำมาจากเหล็กนิล ซึ่งความแข็งแกร่งที่เป็นเลิศของมันทำให้สามารถใช้ทดแทนอาวุธได้ในยามคับขันเช่นนี้
ทั้งสองปะทะกัน คราวนี้ติ้งรุ่นไม่ได้เก็บดาบเข้าฝึกอีกต่อไปซึ่งทำให้ซูอันและคนอื่น ๆ มองเห็นดาบทั้งเล่มได้ชัดเจน