ตอนที่ 650 น่าสะพรึง

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 650 น่าสะพรึง

รัชทายาทรีบกุมมือเปื้อนเลือดของไป๋ชิงเหยียนไว้ กล่าวเสียงร้อนรน “องค์หญิงเจิ้นกั๋วอดทนไว้ก่อนนะ คนของเราใกล้ปราบพวกกบฏพวกนั้นได้หมดแล้ว เราจะรีบไปตามหมอหลวงหวงมารักษาเจ้า!”

หากไป๋ชิงเหยียนไม่ผลักเขาออก คนที่โดนธนูดอกนั้นเสียบเข้าที่อกคงเป็นเขา รัชทายาทจะไม่รู้สึกขอบคุณไป๋ชิงเหยียนได้อย่างไรกัน

ไป๋ชิงเหยียนกัดถุงเลือดที่ซ่อนไว้ในปากจนแตก อ้าปากเตรียมกล่าวสิ่งใดออกมา ทว่า ยังไม่ทันกล่าวเลือดสดก็ทะลักออกมาจากปากเสียก่อน

“องค์หญิงเจิ้นกั๋ว!” เฉวียนอวี๋ร้องตะโกนด้วยความหวาดกลัว เขาขบกรามแน่นฝืนหยัดกายขึ้น ใช้ชายเสื้อเช็ดน้ำตาของตัวเองออก

“องค์ชาย บ่าวจะแบกองค์หญิงเจิ้นกั๋วเองพ่ะย่ะค่ะ พวกเรารีบพาองค์หญิงเจิ้นกั๋วไปที่จวนไป๋เถิดพ่ะย่ะค่ะ จวนองค์หญิงเจิ้นกั๋วมีท่านหมอหงอยู่ เขาต้องช่วยองค์หญิงเจิ้นกั๋วได้แน่พ่ะย่ะค่ะ”

“องค์ชาย!” ไป๋ชิงเหยียนกุมมือรัชทายาทแน่น กล่าวด้วยความยากลำบาก “หากครั้งนี้หม่อมฉันไม่รอดชีวิต องค์ชายทรงจำไว้ไห้ดีว่าห้ามปล่อยให้ค่ายผิงอันตกอยู่ในมือของผู้อื่นเด็ดขาดนะเพคะ แม้เสี่ยวซื่อจะยังเด็กและขาดประสบการณ์ ทว่า นางคือทายาทของตระกูลไป๋ นางเรียนรู้ตำราพิชัยสงครามมาตั้งแต่เล็ก วันหน้านางต้องกลายเป็นแม่ทัพที่เก่งกาจแน่เพคะ! องค์ชายส่งแม่ทัพที่มีประสบการณ์ไปควบคุมดูแลกองทัพผิงอันร่วมกับเสี่ยวซื่อได้เพคะ ประการแรกนางจะได้ฝึกฝนประสบการณ์ อีกประการจะได้มั่นใจว่ากองทัพผิงอันจะไม่ตกไปอยู่ในมือของผู้อื่นเพคะ”

“นี่ไม่ใช่เวลากล่าวเรื่องพวกนี้นะ!” ดวงตาของรัชทายาทแดงฉาน “พวกเราไปจวนไป๋ก่อนเถิด”

จู่ๆ ด้านนอกก็เกิดเสียงสู้รบอย่างรุนแรงขึ้นอีกครั้ง เฉวียนอวี๋มองออกไปด้านนอกแวบหนึ่ง

“องค์ชาย มีคนมาช่วยพวกเราแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”

“องค์ชาย!” ไป๋ชิงเหยียนกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ดวงตาแดงฉานจ้องไปทางรัชทายาทนิ่ง จากนั้นกล่าวต่อ “บางอย่าง หากไม่กล่าวตอนนี้ หม่อมฉันกลัวว่าจะไม่มีโอกาสได้กล่าวอีก ฝ่าบาทพระวรกายอ่อนแอ ทรงมอบงานเมืองให้องค์ชายดูแล องค์ชายต้องฟังคำแนะนำของหลู่เซียงให้มาก หลี่เม่าคือคนถ่อย ทว่า เรามีวิธีรับมือกับคนถ่อยเช่นเดียวกัน ฟางเหล่าย่อมเข้าใจเรื่องนี้ดีเพคะ! ไม่ว่าอย่างไร ก่อนที่องค์ชายจะได้ขึ้นครองราชย์ องค์ชายต้องกุมอำนาจทางทหารไว้ในมือให้ได้มากที่สุด ฟ่านอวี๋ไหวสามารถรับตำแหน่งหัวหน้ากองกำลังรักษาพระองค์ได้ ส่วนฝูรั่วซี บัดนี้ฝ่าบาทถอดตำแหน่งของฝูรั่วซีออกหมดแล้ว องค์ชายรอเวลาอีกสักพัก จากนั้นแสดงความเมตตาต่อฝูรั่วซี ให้เขารับตำแหน่งหัวหน้าหน่วยตรวจเมือง ฝูรั่วซีย่อมซาบซึ้งในบุญคุณขององค์ชายและยินดีติดตามรับใช้องค์ชายไปจนตายแน่เพคะ หากวันหน้ามีสงคราม ฝูรั่วซีจะกลายเป็นดาบคมขององค์ชายทันทีเพคะ”

รัชทายาทพยักหน้ารัว แม้แต่แม่ทัพดุดันของต้าเหลียงอย่างกู้ซ่านไห่ยังเสียชีวิตลงด้วยน้ำมือของฝูรั่วซี รัชทายาทไม่สงสัยในความเก่งกาจของฝูรั่วซีแม้แต่น้อย “เราจะจำไว้!”

“ฟางเหล่าซื่อสัตย์และรอบคอบ ทว่า วิสัยทัศน์ไม่กว้างไกลนัก เขาไม่ค่อยมองภาพรวม หากมีเรื่องสำคัญ องค์ชายควรพิจารณาคำแนะนำของฟางเหล่าให้ดีนะเพคะ”

“เราจะจำไว้!”

ไป๋ชิงเหยียนกล่าวอย่างยากลำบาก หญิงสาวถอนหายใจออกมาอย่างแรง จากนั้นกล่าวต่อ “องค์ชาย หากครั้งนี้หม่อมฉันไม่รอด ไม่สามารถช่วงวางแผนให้องค์ชายและอยู่รับใช้องค์ชายต่อไปได้แล้ว องค์ชายต้องรักษาพระวรกายให้ดีนะเพคะ แม้หนทางในการครอบครองบัลลังก์จะเต็มไปด้วยอันตราย ทว่า องค์ชายอย่าทรงหวาดกลัว อย่าลืมเหล่าขุนนางผู้จงรักภักดีขององค์ชายนะเพคะ!

“ไม่มีทาง!” รัชทายาทขบกรามแน่น เขารวบรวมความกล้าขึ้นมา “เฉวียนอวี๋! แบกองค์หญิงเจิ้นกั๋วขึ้นหลัง ที่นี่อยู่ไม่ไกลจากจวนองค์หญิงเจิ้นกั๋ว พวกเราจะบุกออกไป!”

บัดนี้เซียวหรงเหยี่ยนพาองครักษ์ไป๋บุกมาช่วยแล้ว

เมื่อองครักษ์ลับที่กำลังต่อสู้กับองครักษ์จวนรัชทายาทท่ามกลางสายฝนเห็นกลุ่มของเซียวหรงเหยี่ยนขี่ม้าเข้ามา เขารีบตะโกนเสียงดังลั่น “ถอย! กำลังเสริมของพวกมันมาแล้ว รีบกลับไปคุ้มกันจวิ้นจู่ออกจากเมืองหลวง เร็ว!”

สิ้นเสียง องครักษ์ลับต่างพากันถอยทัพทันที “ถอย รีบคุ้มกันจวิ้นจู่ออกจากเมือง เร็ว!”

“องค์ชาย ด้านนอกตะโกนถอยทัพแล้วพ่ะย่ะค่ะ” เฉวียนอวี๋ที่เพิ่งแบกองค์หญิงเจิ้นกั๋วขึ้นหลังกล่าวด้วยความตื่นเต้นจนแทบร้องไห้ออกมา

รัชทายาทพยักหน้า “เช่นนั้นรออีกสักพักค่อยออกไป องค์หญิงเจิ้นกั๋ว…อดทนไว้ก่อนนะ!”

ธนูแทงเข้ากลางอก แม้ไม่ได้ถูกจุดสำคัญ ทว่า เมื่อรวมกับความเจ็บปวดบริเวณแขนก่อนหน้านี้ทำให้หญิงสาวเจ็บปวดจนแทบขาดใจ ไป๋ชิงเหยียนไม่ได้แสร้งทำสีหน้าเจ็บปวดแต่อย่างใด

หากต้องการให้รัชทายาทเชื่อ การแสดงครั้งนี้ต้องสมจริง หากไม่มีเลือด ไม่มีการลอบสังหารที่น่าสะพรึงเช่นนี้ เรื่องนี้คงไม่สำเร็จ

ไม่เข้าถ้ำเสือจะได้ลูกเสือได้อย่างไร

ต้องยอมแลกถึงจะได้มาในสิ่งที่อยากได้ ไป๋ชิงเหยียนไม่เชื่อเรื่องความโชคดี

“จวิ้นจู่อย่างนั้นหรือ!” รัชทายาทขบกรามแน่น “จวิ้นจู่อย่างนั้นสินะ…”

จวิ้นจู่ผู้นี้จะเป็นผู้ใดไปได้อีก

นอกจากหนานตูจวิ้นจู่…ยังมีจวิ้นจู่คนใดอยากสังหารรัชทายาทอย่างเขาอีก!

เหลียงอ๋องกล่าวว่าตัวเองไม่รู้เรื่องใดๆ ทั้งสิ้น ขอเพียงรัชทายาทอย่างเขาเสียชีวิตลง โอรสของเสด็จพ่อที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้วก็เหลือเหลียงอ๋องคนเดียวเท่านั้น!

หากเหลียงอ๋องไปอ้อนวอนขอชีวิตต่อหน้าเสด็จพ่ออีกครั้ง ไม่แน่ว่าเหลียงอ๋องอาจถือโอกาสนั้นปลงพระชนม์เสด็จพ่อและขึ้นครองบัลลังก์เอง

หลิ่วรั่วฟูช่างวางแผนได้ดีเสียจริง! นางไม่รีบร้อนหนีออกจากเมืองทันทีที่กองทัพหนานตูพ่ายแพ้เพราะต้องการส่งคนมาลอบสังหารเขาอย่างนั้นสินะ!

ไม่แน่การที่เหลียงอ๋องแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องราวทั้งหมดหลังจากที่เสียนอ๋องเสียชีวิตลงอาจเป็นแผนการของพวกเขาตั้งแต่แรกแล้วก็ได้

รัชทายาทเดือดดาลขึ้นทันที

เซียวหรงเหยี่ยนก้าวลงจากหลังม้า เมื่อเห็นเลือดสดหน้าประตูที่ปิดสนิทของโรงสุรา ชายหนุ่มกำหมัดแน่น ตอนที่ไป๋ชิงเหยียนนำทัพผิงอันสองหมื่นนายบุกเข้าไปในวังหลวง องครักษ์ลับของเซียวหรงเหยี่ยนกลับไปรายงานชายหนุ่มว่าไป๋ชิงเหยียนต้องการให้พวกเขาร่วมจัดฉากทำให้หญิงสาวได้รับบาดเจ็บหนัก หญิงสาวจะได้กลับซั่วหยางได้อย่างปลอดภัย

เยว่สือไม่อาจปรากฏกายได้ เซียวหรงเหยี่ยนจึงสั่งให้พลธนูที่ฝีมือดีที่สุดของเขาเป็นคนลงมือ เขากำชับแน่นหนาว่าห้ามทำร้ายจุดสำคัญของไป๋ชิงเหยียนเด็ดขาด ทว่า เมื่อเห็นกองเลือดที่น่าสะพรึงตรงหน้า มือที่กำดาบของเซียวหรงเหยี่ยนจึงสั่นอย่างควบคุมไม่ได้

เซียวหรงเหยี่ยนยืนอยู่หน้าประตูโรงสุรา ตะโกนเข้าไปด้านในเสียงดังลั่น “องค์ชาย กระหม่อมเซียวหรงเหยี่ยน หรงเหยี่ยนพาองครักษ์ไป๋มาช่วยแล้วพะย่ะค่ะ องค์ทรงชายปลอดภัยดีหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ!”

“หรงเหยี่ยน! รีบเปิดประตูเร็ว!” รัชทายาทกล่าวอย่างตื่นเต้น

ไป๋ชิงเหยียนที่อยู่บนหลังของเฉวียนอวี๋เงยหน้าขึ้นอย่างยากลำบาก นางมองเห็นประตูโรงสุราถูกเปิดออกอย่างพร่ามัว เซียวหรงเหยี่ยนที่เปียกชื้นไปทั้งร่างยืนกำดาบนิ่งอยู่หน้าประตู ร่างแข็งแกร่งกำยำร่างนั้นทำให้ไป๋ชิงเหยียนนึกถึงร่างของชายหนุ่มในชุดนักรบที่ยืนอยู่กลางสงครามอย่างองอาจในชาติที่แล้ว

“หรงเหยี่ยน!” รัชทายาทเอ่ยเรียก

เซียวหรงเหยี่ยนจ้องไปยังร่างของไป๋ชิงเหยียนที่ถูกเฉวียนอวี๋แบกอยู่บนหลังนิ่ง หัวใจของเขาถูกบีบรัดอย่างแรงจนแทบหายใจไม่ออก

เซียวหรงเหยี่ยนรีบก้าวเท้าเข้าไปในโรงสุรา มองตรงไปทางไป๋ชิงเหยียนนิ่ง โยนดาบยาวของตัวเองให้เยว่สือ จากนั้นสั่งเสียงเครียด “รีบไปบอกให้ท่านหมอหงเตรียมพร้อม คุณหนูใหญ่ถูกธนูยิง!”

“ขอรับ” เยว่สือไม่รอช้า รีบขึ้นไปบนหลังม้าแล้วมุ่งหน้ากับไปยังจวนไป๋ทันที

เซียวหรงเหยี่ยนรับร่างของไป๋ชิงเหยียนมาจากเฉวียนอวี๋ เมื่อเห็นร่างโชกเลือดของหญิงสาว เขาพยายามข่มโทสะที่มีในใจ ไม่หันไปมองรัชทายาท “องค์ชาย ขออภัยที่เสียมารยาทพ่ะย่ะค่ะ!”

เซียวหรงเหยี่ยนกล่าวจบก็อุ้มร่างของไป๋ชิงเหยียนออกไปจากโรงสุราอย่างรวดเร็ว จากนั้นก้าวขึ้นไปบนหลังม้า มือหนึ่งกอดร่างของไป๋ชิงเหยียนไว้แน่น อีกมือบังคับบังเหียนม้า มุ่งหน้าไปยังจวนไป๋อย่างรวดเร็ว

รัชทายาทได้สติจึงหันไปมองแผ่นหลังของเฉวียนอวี๋ที่เต็มไปด้วยรอยเลือดอันน่าสะพรึง ไม่รู้ว่าเหตุใดเขาถึงรู้สึกหวาดหวั่นขึ้นมาเช่นนี้