บทที่ 706 แม่ทัพผู้ห้าวหาญ

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

บทที่ 706 แม่ทัพผู้ห้าวหาญ

บทที่ 706 แม่ทัพผู้ห้าวหาญ

ซูอันใช้วิชาร่างก้าวทานตะวันอย่างต่อเนื่องเพื่อหลบเลี่ยง โดยสุ่มใช้จ้าววายุหนึ่งหรือสองครั้ง ติ้งรุ่นใช้พลังดาบไปมากกว่าสิบครั้ง แต่ก็ยังไม่ถูกตัวซูอัน

เป็นไปได้ยังไงเนี่ย!? ทุกคนเต็มไปด้วยความคิดเดียวกัน ซูอันได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างเห็นได้ชัด แต่ทำไมเขากลับไม่แสดงอาการอ่อนแรงเลย? แถมดูเหมือนว่าเขาจะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยซ้ำ!

ความเร็วของซูอันเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนหลายเท่า

ติ้งรุ่นไม่สามารถรักษาความสงบภายในใจได้อีกต่อไป เขาล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำอีกเพื่อจัดการกับไอ้เด็กเหลือขอคนนี้!

ติ้งรุ่นเพิ่มความถี่ของพลังดาบเข้าไปอีก หลายครั้งที่การโจมตีอยู่ใกล้มากจนเฉือนชายเสื้อของซูอัน

ในขณะที่ติ้งรุ่นกำลังจดจ่ออยู่กับซูอัน จู่ ๆ ก็ปรากฏเงาพุ่งออกมาจากกลุ่มต้นไม้ใกล้เคียงแล้วไปหยุดอยู่ข้างซ่างเชียนและมอบขวดยาแก่เขา ก่อนจะปลดผนึกของเขาและเจิ้งตาน “พี่ใหญ่ โปรดอุ้มท่านพ่อและพี่สะใภ้ เราหนีกันเถอะ!”

นางคือซ่างเฉี่ยน การเลือกเวลาของนางนั้นยอดเยี่ยมมาก ตอนนี้ติ้งรุ่นพุ่งความสนใจทั้งหมดไปที่ซูอัน

ซูอันร้องออกมาเมื่อเขาเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น “เฮ้! นี่เป็นวิธีที่เจ้าปฏิบัติต่อคนที่ช่วยชีวิตพ่อและพี่ชายของเจ้างั้นเหรอ?”

ซ่างเฉี่ยนตอบด้วยเสียงหัวเราะ “นายน้อยซู ข้าคงต้องขอรบกวนเจ้าช่วยซื้อเวลาให้พวกเราอีกหน่อย โปรดช่วยพวกข้าอีกสักครั้ง!”

จากนั้นนางจึงพาพ่อ พี่ชาย และพี่สะใภ้ออกไป

พวกเขาทั้งหมดเป็นผู้บ่มเพาะที่ทรงพลัง ดังนั้นจึงสามารถใช้ประโยชน์จากความซับซ้อนของภูมิประเทศรอบตัวหลบหนีได้เป็นอย่างดี

ต่อให้ติ้งรุ่นจะพยายามติดตามพวกนางอีกครั้ง แต่ก็คงต้องใช้เวลาพอสมควร พ่อของนางหายจากอาการบาดเจ็บบ้างแล้ว และพวกนางอาจจะยังมีความหวังในการล้มติ้งรุ่นได้หากทุกคนร่วมมือกัน

แน่นอนว่าทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้เพราะการเสียสละของซูอัน อย่างไรก็ตาม ครอบครัวของนางสำคัญที่สุด ซูอันเป็นเพียงคนแปลกหน้า นางจึงไม่รู้สึกผิดที่ทิ้งเขา

ซ่างเชียนรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ทำไมเขาจะไม่เห็นด้วยกับแผนการนี้? เขาอุ้มซ่างหงและจับแขนเจิ้งตาน ก่อนจะรีบออกวิ่ง

แต่แล้วจู่ ๆ เจิ้งตานก็ผลักมือของซ่างเฉี่ยนออกและพุ่งไปหาติ้งรุ่นพลางรวบรวมธาตุน้ำที่อยู่ภายในต้นไม้โดยรอบควบแน่นเป็นลูกศรน้ำแล้วยิงใส่เป้าหมาย

ซ่างเฉี่ยนตกตะลึง นางมองดูเจิ้งตานที่อยู่ในชุดเจ้าสาวจากนั้นมองไปที่ซูอันในชุดเจ้าบ่าวแล้วหันกลับมาเผชิญหน้าพี่ชายของนาง “พี่ชาย เกิดอะไรขึ้นระหว่างท่านกับพี่สะใภ้!?”

ซ่างเชียนมองน้องสาวของเขาโดยไม่พูดอะไร

เขาก็ตกตะลึงเช่นกัน เขาคิดว่าซูอันเป็นคนที่กลั่นแกล้งเจิ้งตานมาโดยตลอด และนางถูกบังคับให้ทำตามคำสั่งของอีกฝ่าย

นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นเนี่ย? ไอ้สารเลวซูอันนี้ใช้อุบายชั่วร้ายกับนางอย่างแน่นอน!

ท่านยั่วยุซ่างเชียนสำเร็จ

ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 734!

มีเพียงซ่างหงที่ส่ายหัวพร้อมกับถอนหายใจ เขามีประสบการณ์ผ่านโลกมามากและรู้ดีว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น…

ใบหน้าของเจิ้งตานแดงก่ำ นางรู้ดีว่าการกระทำของนางได้เปิดโปงตัวเองจนหมด การละทิ้งภาพลักษณ์ที่ยึดถือมาหลายปีทำให้นางรู้สึกกระอักกระอ่วน แต่นางก็พยายามหาเหตุผลให้ตัวเอง “เขาเคยช่วยชีวิตข้ามาก่อน ดังนั้นข้าไม่สามารถดูเขาตายได้!”

นางรู้ว่าเหตุผลนี้ค่อนข้างจะเกินจริงไปหน่อย แต่อย่างน้อยที่สุด มันจะเป็นคำอธิบายที่ทำให้ครอบครัวของคู่หมั้นพอใจ

แต่น่าเสียดายในช่วงเวลาที่ลูกศรน้ำของนางไปถึงเป้าหมาย ติ้งรุ่นเพียงพ่นลมหายใจก่อนจะยกมือขึ้นและบีบลูกศรด้วยกำมือเปล่า ลูกศรน้ำที่รุนแรงระเบิดเป็นละอองน้ำและหมดพิษสง เนื่องจากช่องว่างขนาดใหญ่ของระดับการบ่มเพาะ การโจมตีของเจิ้งตานจึงไม่เพียงพอที่จะทำลายการป้องกันของติ้งรุ่นได้

และต่อมา ด้วยการสะบัดมือเพียงลวก ๆ ของเขา ติ้งรุ่นก็ควบแน่นละอองน้ำที่กระจัดกระจายขึ้นมาใหม่และส่งมันพุ่งกลับเข้าหาเจิ้งตานอย่างไร้ความปรานี

นางพยายามอย่างเต็มที่ที่จะหลบเลี่ยงแต่ก็ยังถูกโจมตี นางกระอักเลือดออกมาเต็มปากแล้วทรุดตัวลงกับพื้น

ติ้งรุ่นโบกมืออย่างไร้กังวล ใบไม้ที่ปลิวว่อนไปในอากาศรวมตัวกันเป็นลูกศรสีเขียว และยิงตรงไปที่เจิ้งตานด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อ และไม่มีทางที่นางจะสามารถหลบเลี่ยงมันได้ในสภาพที่บาดเจ็บเช่นนี้

เสียงลูกศรอันน่าสะพรึงกลัวที่พุ่งผ่านอากาศดังก้องไปในระยะไกล และมันง่ายที่จะจินตนาการว่ามันจะรุนแรงแค่ไหนจากเสียงของมัน ถ้าหากเจิ้งตานโดนเข้าไปก็ต้องตายอย่างแน่นอน

ติ้งรุ่นตระหนักได้ชัดเจนว่าเขาเสียเวลามากเกินไป ในที่สุดเขาก็หมดความอดทน และตัดสินใจที่จะยุติสิ่งต่าง ๆ โดยเร็วที่สุด

ซ่างเชียนมีสีหน้าลังเลใจ คู่หมั้นของเขาเป็นสาวงามอย่างแท้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรูปลักษณ์ของนางซึ่งทั้งสง่างามและรักนวลสงวนตัว เขายังไม่ได้ลิ้มรสของนาง ดังนั้นเขาจึงไม่เต็มใจที่จะปล่อยให้อะไรเกิดขึ้นกับภรรยาที่งดงามของเขา

แต่หากพวกเขากำลังเผชิญกับสถานการณ์อื่น เขาคงจะกระโดดเข้าไปช่วยเหมือนแม่ทัพผู้ห้าวหาญ น่าเสียดายที่ติ้งรุ่นนั้นแข็งแกร่งเกินไป ความแตกต่างระหว่างการบ่มเพาะของพวกเขาก็มากเกินไป เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ใช่คู่มือของอีกฝ่าย

การเป็นแม่ทัพผู้ห้าวหาญย่อมไม่คุ้มหากต้องทิ้งชีวิตของตัวเอง!

การอยู่รอดคือทุกสิ่ง! ตราบใดที่เขารอดชีวิต เขาจะสามารถเล่นอะไรก็ได้กับเหล่าสาวงามในเมืองหลวง

นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมหลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาจึงพาซ่างหงวิ่งต่อไป

เจิ้งตานดูเหมือนจะไม่สนใจกับปฏิกิริยาของคู่หมั้นมากนัก แทนที่จะคร่ำครวญเกี่ยวกับเรื่องนี้ นางกลับถอนหายใจด้วยความโล่งอก นางรู้ว่านางทำให้ตระกูลซ่างผิดหวัง แต่การเลือกของซ่างเชียนก็ช่วยให้นางตัดสินใจได้

ทันใดนั้นร่างหนึ่งก็ปรากฏตัวต่อหน้านางและโอบนางไว้ในอ้อมแขน สกัดกั้นการโจมตีที่ร้ายแรงด้วยแผ่นหลังอันไร้การป้องกันของตนเอง

เจิ้งตานตกตะลึงและเต็มไปด้วยความหวาดกลัวเมื่อนางสัมผัสได้ถึงอ้อมกอดที่คุ้นเคยและอบอุ่นนี้ นางโอบเขาไว้ในวงแขนและกรีดร้อง “อาซู!”

เลือดทะลักออกจากปากของซูอันและร่างกายของเขาก็อ่อนแรงทันที การโจมตีครั้งนี้ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างเห็นได้ชัด

ถ้าไม่ใช่เพราะการแบ่งเบาสองเท่าของวิชาปฐมบทแรกเริ่มซึ่งทำให้ร่างกายของเขาแข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก เขาคงตายไปแล้วหลายครั้ง

ถึงอย่างนั้นตอนนี้มันก็ถึงขีดจำกัดของเขาแล้ว ซูอันฝืนยิ้มออกมา “ดูสิว่าเราใส่เสื้อผ้าคู่กันแล้วน่ามองขนาดไหน ต่อให้ต้องตายไปเราก็ไปด้วยกัน”

ติ้งรุ่นหันไปมองตระกูลซ่างทั้งสามคนที่กำลังหลบหนีเขาสูดลมหายใจ “พวกเจ้าคิดว่าจะหนีไปได้เหรอ? ฝันไปเถอะ!”

ทั้งซูอันและเจิ้งตานต่างก็ไม่อยู่ในสภาพที่จะหนีไปได้ไกลแล้ว ดังนั้นติ้งรุ่นจึงตัดสินใจที่จะจัดการกับคนอื่น ๆ ก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้หนีไป เขาไม่ต้องการใช้เวลาสองสามวันถัดไปเพื่อค้นหาเป้าหมายที่เหลือ

เขาใช้ธาตุสายฟ้า ดังนั้นความเร็วจึงเป็นจุดแข็งของเขา เพียงพริบตาเขาก็ปรากฏตัวต่อหน้าซ่างเชียน