ตอนที่ 653 เสี่ยงอันตราย
ภายในห้อง หลูหนิงฮว่าพันแผลให้ไป๋ชิงเหยียนเสร็จเรียบร้อย ไป๋จิ่นเซ่อพยุงไป๋ชิงเหยียนให้เอนกายพิงหมอนอิง
ไป๋ชิงเหยียนขยับร่างกายด้วยความยากลำบาก ยามหายใจรู้สึกเจ็บปวดเหมือนโดนกระชากสิ่งใดออกจากร่างกาย ช่างทรมานยิ่งนัก
ไป๋ชิงเหยียนมองดูไป๋จิ่นเซ่อที่ดวงตาทั้งสองข้างแดงก่ำ หญิงสาวยกยิ้มมุมปากที่ซีดเซียวขึ้นเล็กน้อย มองดูไป๋จิ่นเซ่อที่น้ำตาไหลพรากอย่างน่าสงสารนิ่ง หญิงสาวรู้สึกอุ่นวาบในใจ เอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาของน้องสาวออกอย่างแผ่วเบา “ขอโทษด้วย พี่ทำให้เจ้าขวัญเสียใช่หรือไม่”
ไป๋จิ่นเซ่อใช้แขนเสื้อเช็ดน้ำตาของตัวเอง ก้มหน้าที่แดงก่ำลง
ชุนเถาจุดตะเกียงหอมขับไล่กลิ่นคาวเลือดภายในห้อง ถือชาร้อนแหวกม่านเข้าไปให้ไป๋ชิงเหยียนด้วยดวงตาที่แดงก่ำ กล่าวกับหญิงสาวเสียงเบา “คุณหนูใหญ่ เซียวเซียนเซิงยังอยู่ที่ห้องรับรอง เขากล่าวว่าองค์รัชทายาททรงมีรับสั่งให้เขาอยู่ดูจนกว่าคุณหนูจะปลอดภัยถึงจะจากไปเจ้าค่ะ ท่านหมอหงไม่สามารถบอกอาการของคุณหนูใหญ่ให้เซียวเซียนเซิงรับรู้ได้จึงได้แต่ปล่อยให้เขารออยู่ที่ห้องรับรองเจ้าค่ะ”
“ชุนเถา เจ้าไปเชิญเซียวเซียนเซิงเข้ามา ข้ามีเรื่องจะสนทนากับเขา”
ไป๋จิ่นเซ่อคาดเดาความสัมพันธ์ระหว่างไป๋ชิงเหยียนและเซียวหรงเหยี่ยนได้ตั้งแต่ตอนที่ชายหนุ่มพาองครักษ์มาช่วยคุ้มกันตระกูลไป๋แล้ว เมื่อครู่ได้ยินว่าเซียวหรงเหยี่ยนเป็นคนอุ้มพี่สาวของตนเข้ามาในห้องนอน ประกอบกับที่พี่สาวของนางดูเหมือนจะไม่ปิดบังอาการบาดเจ็บของตัวเองกับเซียวหรงเหยี่ยน ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนคงไม่ธรรมดาแน่นอน
ชุนเถารับคำแล้วออกไปเชิญเซียวหรงเหยี่ยน ไป๋ชิงเหยียนกุมมือเล็กของไป๋จิ่นเซ่อไว้อย่างหลวมๆ …
“ท่านย่ายังไม่รู้เรื่องที่พี่ได้รับบาดเจ็บ พี่อยากให้เจ้าเป็นคนไปเรียนให้ท่านย่าทราบตามความจริง ครั้งนี้พี่สร้างความดีความชอบมากเกินไป พี่จำต้องวางแผนนี้ขึ้นมาเพื่อจะได้เดินทางกลับซั่วหยางได้อย่างราบรื่น บอกให้ท่านย่าไม่ต้องเป็นห่วง” ไป๋ชิงเหยียนลูบศีรษะของน้องสาวอย่างแผ่วเบา “กลับไปเปลี่ยนเครื่องแต่งกายแล้วไปที่เรือนฉางโซ่วได้หรือไม่”
ไป๋จิ่นเซ่อพยักหน้า สาวน้อยลุกขึ้นยืนขยับปลายผ้าห่มคลุมปลายเท้าให้ไป๋ชิงเหยียน “พี่หญิงใหญ่พักผ่อนนะเจ้าคะ ข้าจะไปเรียนให้ท่านย่าทราบเอง จะอธิบายให้ท่านเข้าใจ ไม่ให้ท่านย่าเป็นกังวลแน่นอนเจ้าค่ะ พี่หญิงใหญ่ไม่ต้องเป็นห่วงนะเจ้าคะ”
ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า “ไปเถิด…”
ไป๋จิ่นเซ่อพยักหน้า จากนั้นหันไปมองหลูหนิงฮว่า สาวน้อยไม่อยากให้หลูหนิงฮว่าอยู่รบกวนการสนทนาของพี่หญิงใหญ่และเซียวเซียนเซิง จึงกล่าวขึ้น “ท่านอา รบกวนท่านอาไปช่วยท่านหมอหงปรุงยาด้วยเถิดเจ้าค่ะ”
หลูหนิงฮว่าเป็นคนมีไหวพริบ หญิงสาวเข้าใจในทันทีจึงพยักหน้าและเดินจากไปพร้อมไป๋จิ่นเซ่อ
เมื่อออกมาด้านนอกก็เห็นเซียวหรงเหยี่ยนเดินตามชุนเถามาตามระเบียงทางเดิน ไป๋จิ่นเซ่อทำความเคารพเซียวหรงเหยี่ยนอย่างนอบน้อม “ขอบพระคุณที่วันนี้เซียวเซียนเซิงช่วยคุ้มครองจวนองค์หญิงเจิ้นกั๋วไว้เจ้าค่ะ ไป๋จิ่นเซ่อจะจดจำบุญคุณครั้งนี้ไว้เจ้าค่ะ”
“คุณหนูเจ็ดเกรงใจเกินไปแล้วขอรับ” เซียวหรงเหยี่ยนโค้งกายทำความเคารพกลับ
เซียวหรงเหยี่ยนเดินเข้าไปในห้อง ชายหนุ่มกำมือที่แนบข้างลำตัวแน่น เดินอ้อมฉากกั้นเข้าไปด้านใน
“ชุนเถาออกไปก่อน…” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวกับชุนเถา
ชุนเถาขมวดคิ้วแน่น นางไม่ค่อยไว้วางใจอันธพาลที่เคยล่วงล้ำเข้ามาในห้องนอนของคุณหนูใหญ่อย่างเซียวหรงเหยี่ยนผู้นี้สักเท่าใดนัก ตอนนี้คุณหนูใหญ่ของนางร่างกายอ่อนแอ ผู้ใดจะรู้ว่าเซียวเซียนเซิงผู้นี้จะรังแกคุณหนูใหญ่ของนางหรือไม่
“มิเป็นอันใด ออกไปเถิด ไปเฝ้าอยู่ที่ประตู!” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวกับชุนเถาเสียงแผ่วเบา
ชุนเถาจึงยอมเดินออกไปด้านนอกอย่างลังเล
“นั่งเถิด…” ไป๋ชิงเหยียนที่เอนกายพิงหัวเตียงส่งยิ้มให้เซียวหรงเหยี่ยนบางๆ “ครั้งนี้ต้องขอบคุณที่เซียวเซียนเซิงยื่นมือเข้าช่วยเหลือ! คนของจวนไป๋เป็นที่สังเกตง่ายเกินไป ที่สำคัญหากข้าใช้คนของตัวเอง พวกเขาอาจไม่กล้าลงมือ ไม่อาจแสดงละครฉากนี้ได้สำเร็จ”
ไป๋ชิงเหยียนกล่าวจบก็ใช้มือกุมหน้าอกพลางขมวดคิ้วออกมาเล็กน้อย หญิงสาวพยายามควบคุมจังหวะการหายใจ ไม่ให้กระทบกระเทือนบาดแผลของตัวเอง
เซียวหรงเหยี่ยนยกชาร้อนที่ชุนเถาวางไว้บนโต๊ะเล็กขึ้นมา จากนั้นนั่งลงข้างเตียงของไป๋ชิงเหยียน ยื่นถ้วยไปชิดริมฝีปากของหญิงสาว ดวงตาเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอยที่แดงก่ำ “หากข้ารู้ว่าการจัดฉากของเจ้าจะทำให้เจ้าบาดเจ็บถึงเพียงนี้ ข้าไม่มีทางรับปากแน่นอน”
ไป๋ชิงเหยียนไม่ได้เล่นตัว หญิงสาวเอื้อมมือไปกุมมือที่ยื่นถ้วยชามาชิดริมฝีปากของนางของเซียวหรงเหยี่ยน จากนั้นก้มหน้าลงจิบน้ำชาเล็กน้อย หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าตึงเครียดของเซียวหรงเหยี่ยน “หากข้าไม่ทำเช่นนี้ องค์รัชทายาทอาจเริ่มหวาดระแวงในตัวข้าขึ้นมา ฝ่าบาทอาจไม่ปล่อยให้ข้ากลับซั่วหยางอย่างราบรื่น ไม่แน่อาจพระราชทานสมรสเพื่อกักขังข้าให้อยู่ในเมืองหลวงก็ได้”
เซียวหรงเหยี่ยนนขบกรามแน่น ดวงตาล้ำลึกจนยากจะอ่านความรู้สึก
การกล่าวมากเกินไปทำให้ไป๋ชิงเหยียนหายใจไม่ค่อยสะดวก ทว่า หญิงสาวไม่กล้าหายใจแรง จึงทำได้เพียงขมวดคิ้วแน่น
“ไม่สบายตรงที่ใด ให้ข้าไปตามท่านหมอหงหรือไม่” เซียวหรงเหยี่ยนรีบวางถ้วยชาลง ทว่า ถูกไป๋ชิงเหยียนรั้งไว้เสียก่อน
ชาติที่แล้วรวมกับชาตินี้ ไป๋ชิงเหยียนยังไม่เคยเห็นเซียวหรงเหยี่ยนหวั่นวิตกเช่นนี้มาก่อน ชายหนุ่มเป็นคนสุขุมนุ่มลึกและมั่นใจในแผนการของตัวเองตลอดเวลา
“เซียวเซียนเซิง…” ไป๋ชิงเหยียนคลี่ยิ้มบางๆ ให้เซียวหรงเหยี่ยน “ท่านควรจะเชื่อใจคนของท่านถึงจะถูก ท่านสั่งพวกเขาไว้ว่าห้ามทำร้ายข้า พวกเขาย่อมระวังอยู่แล้ว”
“อาเป่า…” เซียวหรงเหยี่ยนมองไป๋ชิงเหยียนด้วยสายตาที่จริงจัง “หากเจ้าเผชิญอันตราย ข้าไม่มีทางทนดูอยู่เฉยๆ พวกเราสามารถปรึกษากันก่อนได้ คนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตาย หากเจ้าปรึกษากับข้าก่อน เจ้าอาจไม่ต้องเอาชีวิตของตัวเองไปเสี่ยงอันตรายเช่นนี้ก็ได้!”
“ได้…” ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า จากนั้นกล่าวต่อ “ครั้งนี้เรื่องเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ท่านคงมีเรื่องมากมายต้องจัดการเช่นเดียวกัน ไม่จำเป็นต้องเฝ้าข้าอยู่ที่นี่หรอก ท่านกลับไปเถิด ข้าจะพักรักษาตัวให้ดี หากมีสิ่งใดต้องการ ข้าจะส่งหลูผิงไปหาท่าน”
เซียวหรงเหยี่ยนและไป๋ชิงเหยียนยังไม่ได้หมั้นหมายกัน การที่ชายหนุ่มอยู่ที่นี่คงไม่เหมาะสมสักเท่าใดนัก
เซียวหรงเหยี่ยนพยักหน้า ขยับเข้าไปใกล้ไป๋ชิงเหยียน กล่าวอย่างพยายามควบคุมน้ำเสียง “คืนนี้ข้าจะมาเยี่ยมเจ้า…”
ไป๋ชิงเหยียนส่ายหน้า “เซียวเซียนเซิงได้โปรดเข้าตามตรอกออกตามประตูเถิดเจ้าค่ะ หากญาติผู้ใหญ่ของข้าทราบเรื่องอาจคิดว่าท่านเป็นอันธพาลได้เจ้าค่ะ”
เซียวหรงเหยี่ยนเม้มปาก “พรุ่งนี้ข้าจะมาเยี่ยมเจ้า”
ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้าอย่างไม่คิดปฏิเสธอีก “ได้เจ้าค่ะ…”
ลมหนาวชื้นจากทางด้านนอกพัดเข้ามาในห้องผ่านหน้าต่างที่เปิดออกครึ่งหนึ่ง เปลวไฟดับลงชั่วขณะจากนั้นสว่างขึ้นอีกครั้ง เปลวไฟจากตะเกียงส่องสะท้อนใบหน้าคมคายและดวงตาที่ล้ำลึกของเซียวหรงเหยี่ยน
เซียวหรงเหยี่ยนเอื้อมมือไปจับปอยผมชื้นเหงื่อที่คลอเคลียอยู่ริมใบหน้าของไป๋ชิงเหยียนไปทัดไว้ทางหลังหู สายตาหยุดอยู่ที่ริมฝีปากที่ซีดเผือดของหญิงสาว
“อาเป่า รับปากข้าว่าครั้งหน้าจะไม่เอาตัวเองไปเสี่ยงอันตรายเช่นนี้อีกแล้ว!” เซียวหรงเหยี่ยนขยับเข้าไปใกล้ไป๋ชิงเหยียนอีกเล็กน้อย น้ำเสียงทุ้มลึกแฝงไปด้วยความมีเสน่ห์และเว้าวอนเอ่ยขึ้นอย่างแผ่วเบา นิ้วมือลูบไล้ไปที่ใบหน้าของหญิงสาวอย่างเบามือ จากนั้นไปหยุดอยู่ที่ริมฝีปากของหญิงสาว
ไป๋ชิงเหยียนได้รับบาดเจ็บ เขาเจ็บปวดยิ่งกว่าตัวเองได้รับบาดเจ็บเสียอีก
ไป๋ชิงเหยียนสบตากับชายหนุ่ม ขนตาสั่นไหวเล็กน้อย ใจเต้นรัวกว่าเดิมจนบาดแผลเจ็บจนชา หญิงสาวเอื้อมมือไปจับแขนกำยำของชายหนุ่มเบาๆ จากนั้นรับคำ “อืม…”
เมื่อเห็นหญิงสาวเริ่มเขินอาย เซียวหรงเหยี่ยนเริ่มควบคุมความรู้สึกเอ่อล้นที่มีอยู่ในใจไว้ไม่ไหว
มือที่วางแนบแก้มของหญิงสาวของเซียวหรงเหยี่ยนค่อยๆ เชิดคางของหญิงสาวขึ้น กล่าวด้วยน้ำเสียงเบาหวิวอย่างรวดเร็ว “เจ้าจงจำไว้ให้ดี ไม่เพียงแต่คนในตระกูลไป๋จะเป็นห่วงเจ้า ข้าก็เป็นห่วงเจ้าเช่นเดียวกัน”