ตอนที่ 725 ใครวางยาพิษ?
การแข่งขันประกวดชิงรางวัลจิ่นซิ่วมาถึงครึ่งทางแล้ว และคืนวันที่ 17 จะเป็นรอบรองชนะเลิศ ผู้เข้าแข่งขันครึ่งหนึ่งจะถูกคัดออก
ผู้ชมหลายคนกังวลเกี่ยวกับการแข่งขันรอบนี้ โดยหวังว่าผู้เข้าแข่งขันที่ตัวเองให้กำลังใจจะผ่านเข้ารอบ
หลินม่ายอยู่ในเมืองหลวงต่ออีกหนึ่งวันสำหรับรอบรองชนะเลิศนี้
มีหลายสิ่งหลายอย่างในเมืองเจียงเฉิงรอให้เธอกลับไปจัดการ หากไม่ใช่เพราะเป็นการแข่งขันรอบรองชนะเลิศ หลินม่ายคงบินกลับไปเมืองเจียงเฉิงนานแล้ว
ในเช้าวันที่ 17 หลินม่ายไปยังสำนักงานเขตปักกิ่งเป็นครั้งแรกเพื่อประชุมและเตรียมการสำหรับการทำงานในเมืองหลวง
เหตุผลหลักคือการขอให้ผู้จัดการทั่วไปจัดกำลังคน เพื่อซื้อหน้าถนนที่คล้ายกันสองแห่งทุกๆ สามกิโลเมตรในพื้นที่ที่จอแจของเมืองหลวง
มีทั้งหมด 20 กลุ่ม นั่นคือจำเป็นต้องมีอาคาร 40 หลัง และหลินม่ายมีข้อกำหนดให้มีซุ้มประตูในทุกอาคารไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่
ผู้บริหารทุกคนล้วนขาดทุน
หลินม่ายเคยพูดเกริ่นมาก่อนแล้วว่าจะต้องใช้เงินจำนวนมากในการลงทุนเพิ่มสาขาร้าน ซึ่งจะส่งผลต่อการพัฒนาของบริษัท แต่ตอนนี้… พวกเขาจะซื้อร้านจำนวนมากได้อย่างไร?
เมื่อพวกเขาถามไถ่ หลินม่ายเพียงขอให้พวกเขาทำตามคำสั่ง
หลังจากกินข้าวเที่ยงและพักผ่อนที่บ้านสักพัก หลินม่ายไปยังสตูดิโอบันทึกรายการโทรทัศน์ การแข่งขันรอบรองชนะเลิศกำลังเดินไปอย่างเต็มรูปแบบ
ผู้เข้าแข่งขันล้วนประหม่า ขณะที่ยืนอยู่บนเวลาพร้อมตั้งสมาธิกับการแข่งขัน
ผู้เข้าแข่งขันที่ยังไม่ถึงคิวของตัวเองกำลังเตรียมตัวอยู่ใต้เวที พยายามรักษาสภาพร่างกายและจิตใจให้พร้อมที่สุด
กู่เยี่ยนกำลังบิดเอวของหล่อนอยู่ใต้เวที เมื่อเห็นหลินม่าย หล่อนพลันยิ้มทักทายอย่างสดใส
มันไม่ง่ายเลยที่กู่เยี่ยนจะผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศหลังพบเจออุปสรรคมากมาย หลินม่ายจึงพูดให้กำลังใจหล่อนสองถึงสามคำ
กงเสวี่ยฉินถูกคัดออกในการแข่งขันรอบที่แล้ว และพลาดรอบรองชนะเลิศ
แต่วันนี้หล่อนยังคงมาที่สตูดิโอ ซึ่งเธอเดินทางมาพร้อมกับตู้เจวียน
หล่อนคอยสนับสนุนตู้เจวียนในการแข่งขันเพื่อให้ได้เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ
ตู้เจวียนพยักหน้ารับเคร่งขรึม แต่ดวงตายังคงจับจ้องไปยังเวที
ขณะมองดูการแสดงของผู้เข้าแข่งขันบนเวที ในใจของหล่อนเต็มไปด้วยความกังวล
ผ่านไปครึ่งทางของตารางการแข่งขัน ผู้เข้าแข่งขันทุกคนที่ผ่านเข้ารอบมาถึงปัจจุบันล้วนยอดเยี่ยมมาก
ในบรรดาผู้เข้าแข่งขันเหล่านี้ นอกจากชื่อของหล่อนในฐานะหญิงสาวผู้มีความสามารถ หล่อนก็ไม่ได้มีความโดดเด่นกว่าคนอื่นเลย และยังไม่มั่นใจว่าตัวเองจะผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศได้
ขณะที่ตู้เจวียนตกอยู่ในความคิด กงเสวี่ยฉินสะกิดหล่อนด้วยข้อศอก “ดูสิ หลินม่ายมาแล้ว!”
ตู้เจวียนเงยหน้าขึ้นมอง หล่อนเห็นว่าหลินม่ายกำลังทักทายผู้เข้าแข่งขันขณะรายล้อมไปด้วยเจ้าหน้าที่สถานีโทรทัศน์หลายคน
หลินม่ายยิ้มทักทายอย่างเป็นมิตรและพูดให้กำลังใจ ทำให้ผู้เข้าแข่งขันล้วนดีใจเป็นอย่างยิ่ง
ตู้เจวียนมองใบหน้าที่ยิ้มแย้มของอีกฝ่าย รู้สึกว่าหล่อนดูเสแสร้งยิ่งนัก ก่อนจะหันศีรษะไปด้านข้างโดยไม่มองหลินม่ายอีก แล้วนับประสาอะไรกับการพูดคุยกับเธอ
ด้วยผู้คนจำนวนมากในสถานีโทรทัศน์ หลินม่ายจึงไม่ได้สังเกตเห็นตู้เจวียน
แต่ถึงแม้จะสังเกตเห็นอีกฝ่าย หลินม่ายก็เกียจคร้านเกินกว่าจะเข้าไปทักทาย
เธอไม่ใช่แม่ของตู้เจวียน ถ้าตู้เจวียนอารมณ์เสียขึ้นมา มันก็ไม่ใช่หน้าที่ที่เธอต้องไปเกลี้ยกล่อม
หลินม่ายรับชมการแสดงของผู้เข้าแข่งขันบนเวทีสักพัก ก่อนตัดสินใจกำลังจะเดินออกไป
พรุ่งนี้เธอต้องเดินทางกลับไปยังเมืองเจียงเฉิง คุณปู่ฟาง คุณย่าฟาง และโต้วโต้วอยากให้เธอกลับไปยังเมืองเจียงเฉิง ดังนั้นเธอต้องกลับไปเตรียมตัวให้พร้อม
ทันทีที่หันหลังกลับ เธอได้ยินรองผู้กำกับเรียกผู้เข้าแข่งขันกลุ่มที่ 7 เพื่อเตรียมพร้อม มันถึงเวลาที่พวกเธอจะได้ขึ้นเวลาเพื่อแข่งขันแล้ว
ผู้เข้าแข่งขันกลุ่มที่ 7 ยกมือขึ้นและพูดว่า “รายงานผู้กำกับ ฉันไม่เห็นตู้เจวียนเลยค่ะ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลินม่ายพลันชะงักฝีเท้า
รองผู้กำกับโกรธทันที “เกิดอะไรขึ้นกับตู้เจวียน? หายตัวไปในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้เนี่ยนะ? รีบออกตามหา ดูว่าหล่อนอยู่ที่ไหน”
สมาชิกในทีมปฏิเสธที่จะแยกย้ายกันออกไป
ถึงเวลาที่พวกหล่อนต้องขึ้นแสดงในอีกไม่ถึง 10 นาที หากไปหาตู้เจวียนตอนนี้ ความเหน็ดเหนื่อยอาจส่งผลต่อการแสดง
เมื่อเห็นเช่นนี้ รองผู้กำกับต้องจัดเจ้าหน้าที่ออกตามหาตู้เจวียน
ในเวลานี้กงเสวี่ยฉินลุกขึ้นยืนและบอกทุกคนว่า ตู้เจวียนปวดท้องกะทันหันและไปเข้าห้องน้ำ
รองผู้กำกับกระทืบเท้าอย่างกระวนกระวาย “ตั้งแต่วันแรกที่เข้าร่วมการแข่งขัน ทางเราบอกกล่าวหลายครั้งให้ทุกคนใส่ใจเรื่องสุขอนามัยของอาหารการกินในวันแข่งขันและอย่ากินของแปลกจนมีอาการท้องเสีย แต่บางคนกลับยังเพิกเฉยต่อคำสั่งของนี้!”
ตู้เจวียนกระวีกระวาดกลับเข้ามาท่ามกลางเสียงบ่นของรองผู้กำกับ
แต่ขณะที่กำลังจะขึ้นเวที หล่อนก็เกิดปวดท้องขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งมันเจ็บปวดจนหล่อนทนไม่ไหว
หล่อนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากวิ่งไปที่ห้องน้ำอย่างสิ้นหวัง
โชคดีที่ไม่ใช่การถ่ายทอดสด ดังนั้นรองผู้กำกับจึงต้องสั่งระงับการบันทึกรายการสำหรับตู้เจวียน
แต่หลังจากครึ่งชั่วโมง อาการท้องร่วงของตู้เจวียนไม่ดีขึ้นเลย และหล่อนก็ไม่สามารถขึ้นแสดงบนเวทีในสภาวะเช่นนี้ได้
กระนั้นทุกคนจะเสียเวลาเพื่อหล่อนคนเดียวไม่ได้
รองผู้กำกับตัดสินใจจัดกลุ่มที่เจ็ดให้ถ่ายทำเป็นกลุ่มสุดท้ายชั่วคราว และขอให้ถ่ายทำกลุ่มอื่นก่อน
หลินม่ายจัดเตรียมเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ ทันทีที่ตู้เจวียนออกจากห้องน้ำ แพทย์ได้ฉีดยาแก้ท้องเสียชนิดพิเศษให้กับหล่อน
ยาชนิดนี้สามารถหยุดอาการท้องเสียได้ภายใน 15 นาที
อย่างไรก็ตามหลังจากผ่านไป 15 นาที ยาชนิดพิเศษไม่ได้ออกฤทธิ์ในร่างกายตู้เจวียน ขณะที่หล่อนยังคงวิ่งไปที่ห้องน้ำไม่หยุด
หลินม่ายถามเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ว่าเกิดอะไรขึ้นด้วยความงงงวย
แพทย์คนหนึ่งตอบว่า “ยาแก้ท้องร่วงชนิดพิเศษนี้มีไว้สำหรับอาการท้องเสียที่เกิดจากแบคทีเรียเท่านั้น ผู้เข้าแข่งขันได้รับยาพิเศษนี้แต่กลับไม่ได้ผล ซึ่งแสดงว่าอาการท้องเสียของหล่อนไม่ได้เกิดจากแบคทีเรีย”
หลินม่ายพูดสิ่งที่คิด “อาจเป็นอาการท้องเสียที่เกิดจากการกินของไม่ดีหรือเปล่า?”
แพทย์ส่ายหัว “ผมไม่คิดอย่างนั้น จากประสบการณ์ของผม หล่อนน่าจะได้รับยาระบายโดยไม่ได้ตั้งใจ ในกรณีนี้ไม่จำเป็นต้องรักษา เพียงดื่มน้ำร้อนมากๆ แล้วรอให้ยาระบายหมดฤทธิ์”
ตู้เจวียนไม่ได้โง่เขลา หล่อนจะเผลอกินยาระบายโดยไม่ได้ตั้งใจได้อย่างไร
หลินม่ายนึกถึงความเป็นไปได้ อาจมีใครบางคนให้ยาระบายแก่หล่อนโดยที่หล่อนไม่รู้ตัว
คนที่ให้ยาระบายกับตู้เจวียนอาจเป็นหนึ่งในผู้แข่งขัน
หลินม่ายพบเห็นสถานการณ์เช่นนี้มากมายบนอินเทอร์เน็ตในชีวิตที่แล้ว ผู้เข้าแข่งขันจะทำทุกสิ่งอย่างที่ทำได้เพื่อกำจัดคู่แข่งออกจากเกม
เธอเกลียดชังคนเลวแบบนี้ที่วางแผนร้ายกับคนอื่นลับหลังมากที่สุด
เธอต้องค้นหาผู้เข้าแข่งขันคนนั้นให้ได้ ไม่ว่าอีกฝ่ายจะทำคะแนนดีในการแข่งขันแค่ไหน เธอก็ต้องไล่หล่อนออก
แม้เธอจะไม่สามารถรับประกันได้ 100% ว่าการประกวดชิงรางวัลจิ่นซิ่วนั้นโปร่งใสและยุติธรรม แต่เธอก็พยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้เกิดความเท่าเทียม มิฉะนั้นจะไม่ยุติธรรมกับผู้เข้าแข่งขันรายอื่น
ตามที่แพทย์กล่าวว่าไม่จำเป็นต้องรักษา ตราบใดที่ฤทธิ์ยาระบายหมดลง อาการท้องร่วงจะหยุดลงเองตามธรรมชาติ
หลังจากฤทธิ์ของยาระบายในร่างกายของตู้เจวียนหมดลง หล่อนจึงไม่มีอาการท้องร่วงอีก กระนั้นก็หมดแรงเกินกว่าจะเข้าร่วมการแข่งขัน
ตู้เจวียนนั่งอยู่ใต้เวที ขณะรับชมการแสดงของผู้เข้าแข่งขันบนเวทีด้วยความขุ่นเคืองใจ
หล่อนไม่ได้คิดจะเข้าร่วมการประกวดชิงถ้วยจิ่นซิ่วตั้งแต่แรก แต่เป็นเพราะกงเสวี่ยฉินบังคับให้มาด้วยกัน
แต่หลังจากผ่านเข้ารอบทีละขั้นจนถึงปัจจุบัน จิตใจของหล่อนก็เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง กระทั่งต้องการที่จะก้าวต่อไป
หากคว้าชัยชนะมาได้ย่อมดีที่สุด แล้วยังได้รับเงินรางวัล 30,000 หยวน
และยังสามารถพิสูจน์ให้คนทั้งประเทศเห็นว่า เด็กสาวจากชิงหวาไม่เพียงเก่งด้านวิชาการ แต่ยังมีเสน่ห์อย่างมากเมื่อเดินเฉิดฉายบนเวที
โดยไม่คาดคิด หล่อนไม่ได้แพ้คู่แข่ง แต่กลับท้องเสียด้วยอุบัติเหตุ
สิ่งนี้ทำให้หล่อนไม่เต็มใจ แต่ก็ไร้ซึ่งพลังทำสิ่งใด
กงเสวี่ยฉินที่คอยอยู่เคียงข้างและดูแลหล่อนเสมอ พลันเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผ่านทางสายตา
หล่อนแสร้งทำเป็นกังวลและพูดว่า “ฉันคิดว่าร่างกายเธอขาดน้ำ ฉันจะเอาน้ำร้อนมาให้แก้วหนึ่ง”
ตู้เจวียนพยักหน้าอย่างขอบคุณ
กงเสวี่ยฉินลุกขึ้นมองหาแก้วน้ำของหญิงสาว แต่หลังจากค้นหาหลายครั้งก็ไม่พบ
หล่อนถามตู้เจวียน “เธอวางแก้วน้ำไว้ที่ไหน ทำไมฉันหาไม่เจอเลย?”
ตู้เจวียนชี้ไปยังโต๊ะเครื่องแป้งพลางกล่าวอย่างสงสัย “ฉันวางมันไว้ตรงนั้น ทำไมมันถึงหายไปได้?”
พนักงานที่ดูแลห้องแต่งตัวพูดกับตู้เจวียนว่า “หัวหน้าหลินสั่งให้คนนำแก้วน้ำของคุณไปตรวจที่โรงพยาบาล”
ตู้เจวียนงุนงง “ทำไมหล่อนถึงต้องเอาแก้วน้ำของฉันไปตรวจที่โรงพยาบาลด้วย?”
เจ้าหน้าที่กล่าว “หล่อนสงสัยว่ามีคนใส่ยาระบายลงไปในแก้วน้ำของคุณ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณท้องเสียอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นหล่อนจึงต้องการส่งแก้วน้ำของคุณไปตรวจที่โรงพยาบาล”
ตู้เจวียนรู้สึกสะเทือนใจเล็กน้อยเมื่อได้รับฟัง หล่อนกระซิบกับกงเสวี่ยฉิน “เธอมักบอกว่าหลินม่ายใจร้ายกับฉัน แต่ฉันคิดว่าหล่อนใจดีกับฉันมากนะ ถ้าหล่อนปฏิบัติกับฉันไม่ดีจริงๆ หล่อนจะเอาแก้วน้ำไปตรวจสอบอย่างละเอียดทำไมว่ามีใครวางยาฉันหรือเปล่า?”
ในเวลานี้หัวใจกงเสวี่ยฉินกำลังยุ่งเหยิง
หล่อนไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่า หลินม่ายจะสงสัยว่าตู้เจวียนได้รับยาระบาย และถึงกับส่งแก้วน้ำของหล่อนไปตรวจสอบ
แม้ว่าตัวหล่อนจะล้างแก้วน้ำของตู้เจวียนครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ก็กลัวว่าอาจยังมียาระบายหลงเหลืออยู่ในแก้วน้ำของตู้เจวียน
หล่อนและตู้เจวียนนั้นตัวติดกันตลอด หากการทดสอบพบว่ามีส่วนผสมของยาระบาย หล่อนจะกลายเป็นผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่ง
แล้วหล่อนจะหนีจากที่นี่ได้อย่างไร?
กงเสวี่ยฉินกำลังครุ่นคิดถึงวิธีการรับมือ จนไม่ทันได้สนใจฟังคำพูดของตู้เจวียน
หล่อนพูดขึ้นว่า “ฉันนึกขึ้นได้ว่ามีเรื่องต้องไปจัดการ และคงอยู่กับเธอไม่ได้”
โดยไม่รอให้ตู้เจวียนตอบ หล่อนรีบจากไปทันที
ปล่อยให้ตู้เจวียนจ้องมองหล่อนเดินจากไปพลางครุ่นคิด
กว่าครึ่งชั่วโมงต่อมา โรงพยาบาลก็ส่งผลตรวจแก้วน้ำกลับมา
แก้วน้ำได้รับการทำความสะอาดอย่างตั้งใจ และไม่พบส่วนประกอบของยาระบาย
หลินม่ายขอให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบทันที เพื่อดูว่ามีใครเห็นคนทำความสะอาดแก้วน้ำของตู้เจวียนไหม
ตู้เจวียนพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ไม่จำเป็นต้องตรวจสอบ กงเสวี่ยฉินเป็นคนเทน้ำและล้างแก้วของฉันเอง”
หลินม่ายค่อนข้างประหลาดใจเมื่อได้ยินสิ่งนี้
เธอนึกว่าเป็นผู้เข้าแข่งขันในรอบรองชนะเลิศที่วางแผนกำจัดตู้เจวียนซึ่งเป็นคู่แข่ง
แต่ไม่คาดคิดว่าจะเป็นฝีมือของกงเสวี่ยฉิน
หล่อนตกรอบไปนานแล้ว จึงไม่ได้ผลประโยชน์อะไรที่จะกำจัดตู้เจวียน แล้วยังเป็นเพื่อนสนิทของตู้เจวียน แต่กลับพยายามขัดขวางหล่อน
เพื่อนสนิทแบบนี้ร้ายกาจเกินไป
ตกรอบไปแล้ว แต่ไม่อยากเห็นเพื่อนได้ดี จึงลากเพื่อนซี้ลงน้ำไปด้วยกัน
เนื่องจากไม่ใช่การปองร้ายระหว่างผู้เข้าแข่งขัน แต่เป็นปัญหาส่วนตัวของตู้เจวียน หลินม่ายจึงเลิกติดตามเรื่องราว
ตู้เจวียนคิดไม่ออกว่าทำไมกงเสวี่ยฉินถึงวางแผนร้ายกับหล่อน ตั้งแต่อดีตทั้งสองไม่เคยเป็นศัตรูกันมาก่อน และในช่วงไม่กี่วันมานี้ก็ไม่มีเรื่องขุ่นเคืองใจกัน และยังคงเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน
หล่อนกลับไปหอพักด้วยความเคืองขุ่น และอยากถามกงเสวี่ยฉินว่าเกิดอะไรขึ้น แต่กลับไม่มีใครเห็นหล่อนที่หอพักเลย
หลังจากตู้เจวียนถามไถ่ หล่อนก็พบว่ากงเสวี่ยฉินได้เชิญฉือเหล่ยไปยังสวนสุ่ยมู่ชิงหวา
หล่อนรู้สึกงุนงง กงเสวี่ยฉินไม่เคยติดต่อฉือเหล่ยเป็นการส่วนตัว แล้วทำไมหล่อนถึงขอให้เขาไปยังสวนสุ่ยมู่ชิงหวากัน?
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
แรงมาก เลิกคบไปเลยนะเพื่อนแบบนี้ หลังจากนี้คงตาสว่างแล้วนะ
ไหหม่า(海馬)