บทที่ 710 สิบแปดฝ่ามือ

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

บทที่ 710 สิบแปดฝ่ามือ

บทที่ 710 สิบแปดฝ่ามือ

ผู้หญิงทั้งสามคนจ้องไปที่ ‘ฝนโลหิต’ ที่เกิดจากดาบสีแดงเข้มจำนวนนับไม่ถ้วนที่ปกคลุมท้องฟ้า ประกายสีแดงเข้มอันโหดร้ายสะท้อนอยู่ในดวงตาของพวกนาง

ใบหน้าของพวกนางซีดเผือด พวกนางจะหลีกเลี่ยงดาบพวกนี้ได้อย่างไร?

สิ่งเดียวที่พวกนางทำได้คือ รวบรวมพลังชี่ที่เหลืออยู่และสร้างเกราะป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่จะทำได้

ทันใดนั้น ร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าพวกนาง เจิ้งตานตื่นตระหนก “อาซู หนีไป! ไม่ต้องห่วงข้า…”

การแสดงออกของเพ่ยเหมียนหมานก็อ่อนลงเช่นกัน “นางพูดถูก! ข้าพอใจแล้วที่ได้พบเจ้าที่นี่ อย่าเสียสละชีวิตของตัวเอง! ถ้าเจ้าทำอย่างนั้น ชูเหยียนจะฆ่าข้า!”

ซ่างเฉี่ยนอ้าปาก แต่ไม่มีคำพูดใดออกมา ผู้หญิงสองคนนี้น่าจะสนิทกับเขามานาน แต่นางเพิ่งเห็นหน้าเขาแค่ครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง ดังนั้นมันจึงดูเหมือนไม่เหมาะสมเท่าไหร่ที่นางจะพูดอะไรออกไป

ซูอันหัวเราะและพูดว่า “ทำหน้าห่อเหี่ยวกันทำไม? ข้ายังมีไพ่ตายอยู่!”

บนท้องฟ้าติ้งรุ่นเยาะเย้ย ไอ้เด็กน่าสมเพชนี่อยู่แค่ระดับห้า!

ความจริงที่ว่ามันอยู่ได้นานขนาดนี้ก็เป็นปาฏิหาริย์แล้ว มันจะมีไพ่เด็ดอะไรมาจัดการกับข้าได้อีก?

สามสาวตกตะลึง พวกนางไม่เชื่อว่าเขามีไพ่ตายอย่างอื่น แต่ความมั่นใจของพวกนางกลับเพิ่มมากขึ้นอย่างน่าประหลาด พวกนางเลือกที่จะไว้วางใจเขาโดยสัญชาตญาณ

ใบหน้าของซูอันไม่มีรอยยิ้มอีกต่อไป เขาแทงกระบี่ลงไปที่พื้นและเงยหน้าขึ้นเผชิญกับฝนดาบที่ร่วงหล่นมา แขนทั้งสองของเขาขยับในลักษณะแปลก ๆ จากนั้นก็ตะโกนด้วยน้ำเสียงก้องกังวาน “สิบแปดฝ่ามือสยบมังกร! มังกรผยองได้สำนึก!”

ทันทีที่สิ้นเสียงของซูอัน เสียงคำรามอันดังก้องของมังกรระเบิดออกปัดเป่าเมฆบนท้องฟ้าจนเลือนหาย และจากนั้นเพียงชั่วพริบตาร่างของมังกรแดงขนาดมหึมาก็ปรากฏขึ้นที่กลางอากาศ ร่างกายของมันทอดยาวออกไปถึงหลายจั้ง อีกทั้งยังปลดปล่อยแรงกดดันมหาศาล

ฝนโลหิตไม่นับเป็นอะไรได้เลยเมื่อเปรียบกับมังกรขนาดมหึมาซึ่งปิดกั้นฝนโลหิตเกือบทั้งหมดที่กำลังร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า

ฝนโลหิตที่เกิดจากพลังดาบอันแหลมคมแตกสลายไปอย่างรวดเร็วเมื่อสัมผัสกับเกล็ดของมังกรแดง

เมื่อฝนดาบทั้งหมดถูกขัดขวาง ซูอันก็นำศพมังกรแดงกลับคืนสู่ดวงแก้วผู้รอบรู้ทันที ก่อนจะกระแอมลำคอเบา ๆ และตะโกนอีกครั้ง “ต่อจากนี้ข้าจะแสดงให้เจ้าเห็นกระบวนท่าที่สองของสิบแปดฝ่ามือสยบมังกร ‘มังกรบินอยู่สวรรค์’!”

ติ้งรุ่นสัมผัสได้ถึงความขลังในน้ำเสียงของซูอันและท่าทางการร่ายรำฝ่ามือของซูอันก็ดูลึกล้ำแปลกตาคล้ายกับเป็นวิชาจากบรรพกาล และถึงแม้มังกรตัวนั้นจะปรากฏขึ้นมาเพียงพริบตาเดียว แต่เขามั่นใจว่ามันคือมังกรตัวจริง!

แถมจากชื่อของวิชาเพียงอย่างเดียว ก็สามารถบอกได้ว่า ‘สิบแปดฝ่ามือสยบมังกร’ นี้อาจทำให้แม้แต่มังกรยังต้องยอมจำนน เด็กคนนี้เป็นสัตว์ประหลาดอย่างแท้จริง!

แค่จนถึงป่านนี้ที่เขายังไม่สามารถเอาชนะซูอันได้ มันก็ทำให้เขาสงสัยในตัวเองมากพอแล้ว แต่ตอนนี้อีกฝ่ายยังแสดง ‘สิบแปดฝ่ามือสยบมังกร’ ออกมาอีก สิ่งนี้ทำให้เขาเริ่มหวาดกลัว

เมื่อเริ่มกลัวและคำนวณว่าตอนนี้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสอีกต่างหาก ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจไม่กล้าสู้ต่อ ติ้งรุ่นเก็บดาบแล้วหนีเอาชีวิตรอดทันที

ในฐานะนักฆ่ามืออาชีพ สิ่งสำคัญที่สุดของเขาคือการมีชีวิตอยู่ ไม่มีความระมัดระวังใดที่ถือว่ามากเกินไป นั่นคือเหตุผลที่เขาหนีเอาชีวิตรอด เขาจะรอจนกว่าตัวเองจะหายดี จากนั้นจึงค่อยตามหาซูอันเพื่อจัดการปิดบัญชีทีหลัง

ด้วยการกระโดดอย่างสุดแรงเพียงไม่กี่ครั้ง ร่างของเขาก็หายไปอย่างรวดเร็วในระยะไกล

บรรดาผู้ที่ดูเหตุการณ์ต่างแสดงสีหน้างุนงง

เกิดบ้าอะไรขึ้น? นักฆ่าที่มีชื่อเสียงที่สุด ผู้บ่มเพาะระดับแนวหน้าถูกซูอันขับไล่จนหนีไป?

ซูอันถอนหายใจด้วยความโล่งอก แน่นอนว่าการกระทำต่าง ๆ ที่แสดงออกไปนั้นมันเป็นแค่การขู่ปลอม ๆ ‘สิบแปดฝ่ามือสยบมังกร’ หรืออะไรก็ตามเป็นเพียงแค่เรื่องไร้สาระที่เขาคิดขึ้นมา และเขารู้ว่าถ้าเขาเรียกมังกรแดงออกมาแสดงอีกครั้ง ติ้งรุ่นจะต้องจับได้แน่ว่ามันเป็นแค่ซากศพ

“อาซู เจ้าช่างน่าเหลือเชื่อ!” ริมฝีปากสีแดงของเจิ้งตานอ้าค้างด้วยความตกใจ นางเป็นคนเดียวที่รู้ความจริงเบื้องหลังมังกรแดงตัวนี้ นางไม่คิดว่าเขาจะสามารถใช้ซากศพได้อย่างมีประโยชน์ขนาดนี้!

“ฮ่า ๆ เจ้าไม่ต้องตกใจขนาดนั้น ข้ายังมีไพ่ตายสำรองที่แข็งแกร่งยิ่งกว่านี้อีก” ซูอันคุยโว

เพ่ยเหมียนหมานถอนหายใจด้วยความชื่นชม “อาซู เจ้ามักจะทำให้ข้าประหลาดใจ บรรดาอัจฉริยะที่มีความสามารถคนอื่นไม่มีใครเทียบเจ้าได้เลย”

ซูอันมีความสุขราวกับอยู่บนสวรรค์ชั้นเก้า “เอาอีก ๆ คำพูดแบบนี้แหละที่ข้าชอบได้ยิน พูดอีกสิ เยอะ ๆ เลย!”

“เจ้ามันน่ารำคาญ!” ร่างกายของเพ่ยเหมียนหมานสั่นจากการหยอกล้อของเขา และดวงตาของทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะติดตามนางทุกการเคลื่อนไหว

ใบหน้าที่มีเสน่ห์ของซ่างเฉี่ยนแดงก่ำ นางสาปแช่งผู้หญิงคนนั้นในใจว่าเป็นจิ้งจอก แล้วนางก็มองที่ซูอันอย่างสงสัย “เจ้าทำได้ยังไง?”

ซูอันหัวเราะคิกคัก “อยากรู้จริง ๆ เหรอ? เรียกข้าว่าพี่ใหญ่ก่อนแล้วข้าจะบอก!”

“ฮึ่ม!” ใบหน้าของซ่างเฉี่ยนแดงซ่าน ด้วยความสัตย์จริง ถ้ามีคนไม่มากนัก นางอาจจะเรียกเขาว่าพี่ใหญ่ แต่พี่ชายตัวจริงของนางอยู่ใกล้ ๆ และทั้งสองคนชังน้ำหน้ากันขนาดนั้น นางจะยอมทำตามคำร้องขอของเขาได้อย่างไร?

ซ่างเชียนโกรธเกรี้ยวในทันที “เจ้า! หยุดแกล้งน้องสาวข้าสักที!”

ท่านยั่วยุซ่างเชียนสำเร็จ

ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 601!

ซูอันรู้สึกไม่มีความสุข “เจ้าตาบอดเหรอ? นางเป็นคนถามคำถามข้าก่อน ถ้าเจ้ายังโวยวายเหมือนคนงี่เง่า ข้าจะตบเจ้าให้ตาย!”

“เจ้า!” ซ่างเชียนโกรธมากจนแทบจะกระโจนออกไปท้าทายเขา อย่างไรก็ตาม เขาจำได้ว่าซูอันเพิ่งขับไล่ติ้งรุ่นและภาพการปรากฏตัวของมังกรที่น่าสะพรึงกลัวนั่นยังคงติดตาเขาอยู่เลย ทั้งสองสิ่งนี้ทำให้เขาไม่กล้าจนต้องกลืนคำพูดลงคอ ทว่าความขุ่นเคืองที่เขารู้สึกก็ยังไม่ได้ลดลงเลยแม้แต่น้อย

ท่านยั่วยุซ่างเชียนสำเร็จ

ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 444…444…444…

ซูอันรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ซ่างเชียนให้คะแนนความโกรธแค้นจำนวนมากในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ซึ่งทำให้อีกฝ่ายน่าเอ็นดูมากขึ้นอีกเป็นกอง

เขาช่วยเพ่ยเหมียนหมานและเจิ้งตานให้ลุกขึ้น “พวกเจ้าสองคนไม่เป็นไรอะไรใช่ไหม?”

“เราสบายดี” ผู้หญิงสองคนตอบพร้อมกันและมองหน้ากัน

ทั้งสองคนไม่ใช่คนแปลกหน้า พวกนางทั้งคู่รู้จักกันเพราะเป็นนักศึกษาที่สถาบันจันทร์กระจ่างเช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้พวกนางเพียงพยักหน้าให้กันและกันโดยไม่มีมิตรภาพลึกซึ้งให้พูดถึง

ซูอันพูดราวกับว่ารู้สึกอึดอัดใจ “พวกเจ้าหมายความว่ายังไง? สบายดีเหรอ? ดูสิ! เหมียนหมานใหญ่ เจ้ามีเลือดติดอยู่ที่หน้าอก ให้ข้าช่วยเจ้าเช็ด…”

“เดี๋ยวก็หาย!” เพ่ยเหมียนหมานผลักซูอันออกไป

ซูอันหัวเราะคิกคัก เขาหยิบยาเม็ดสองเม็ดออกมาและให้ทั้งสอง คนละหนึ่งเม็ด “นี่คือยาเม็ดคืนวิญญาณของหมอเทวะจี้ มันออกฤทธิ์ดีอยู่”

“ขอบคุณ!” ผู้หญิงสองคนเคยได้ยินชื่อเสียงของหมอเทวะจี้ ทั้งคู่จึงไม่ปฏิเสธและรับยาที่เขาเสนอ

ซ่างเฉี่ยนกระพริบตา นางค่อนข้างตกตะลึงที่ไม่มีสาว ๆ คนไหนลังเลที่จะกินยาของซูอัน

พวกนางเป็นผู้หญิงที่สวยมาก ทว่าพวกนางกลับยอมกินยาที่ไม่แน่ว่าจะมาจากหมอเทวะจี้จริงหรือเปล่าจากชายผู้นี้!

นี่หมายถึงว่าพวกนางเชื่อใจเขาจริง ๆ…

ผู้หญิงที่มีหน้าอกใหญ่ก็เรื่องหนึ่ง แต่เจิ้งตานเป็นพี่สะใภ้ของข้า…

นางหันกลับมามองซ่างเชียน โอ้ พี่ชายที่น่าสงสารของข้า!

แต่แล้วเสียงล้อเล่นของซูอันขัดจังหวะความคิดของนาง “แม่นางซ่างอยากได้เหมือนกันไหม?”