ตอนที่ 730 น้องสามีและพี่สะใภ้ร่วมมือ

แม่ปากร้ายยุค​ 80

ตอนที่​ 730 น้อง​สามีและ​พี่สะใภ้​ร่วมมือ​

คุณปู่​ฟางและ​คุณย่า​ฟางยังคง​รับประทาน​อาหารเย็น​ตามปกติ​ ก่อน​ตอบกลับ​หลิน​ม่าย​ว่า​ฟางจั๋วเยวี่ย​ยัง​ไม่ได้​กลับมา​

แต่​เขา​โทร​บอก​ที่​บ้าน​แล้ว​ว่า​ ตนเอง​ยังคง​ยุ่ง​อยู่​กับ​งาน​ใน​โรงงาน​ และ​จะกลับ​ดึก​

บอก​ให้​ทุกคน​กิน​ข้าวเย็น​กัน​ก่อน​ ส่วน​เขา​หาอาหาร​กิน​จาก​นอกบ้าน​ได้​

หลิน​ม่าย​กะพริบตา​ รู้สึก​คล้าย​กับ​ไม่เชื่อ​เล็กน้อย​

ฟางจั๋วเยวี่ย​ชอบ​อาหาร​ที่​เธอ​ทำ​มาก​ที่สุด​

ใน​อดีต​ตราบใดที่​รู้​ว่า​เธอ​ทำอาหาร​ เขา​จะกลับบ้าน​ไม่ว่า​จะอยู่​ไกล​แค่​ไหน​ แต่​คราวนี้​เขา​เลือก​ที่จะ​ไม่กลับบ้าน​

ผู้ชาย​คน​นี้​ทำงานหนัก​มาก​ จน​แม้แต่​อาหาร​อร่อย​ที่​เธอ​ทำ​ก็​ไม่สามารถ​ดึงดูดใจ​เขา​ได้​อีกต่อไป​

หลังจาก​รับประทาน​อาหาร​แล้ว​ หลิน​ม่าย​เดิน​ขึ้นไป​ชั้นบน​เพื่อ​เข้า​ห้อง​ของ​ตัวเอง​ จากนั้น​โทรศัพท์​หา​ฟางจั๋ว​หรา​น​

น่าเสียดาย​ที่​ทั้งสอง​คุย​กัน​ได้​ไม่ถึง 10 นาที​ ฟางจั๋ว​หรา​น​ก็​ถูก​พยาบาล​ตัว​น้อย​เรียกตัว​จาก​อีก​ด้าน​หนึ่ง​ของ​สาย​

หลิน​ม่าย​ไม่มีทางเลือก​อื่น​นอกจาก​วาง​สายโทรศัพท์​ด้วย​ความขุ่นเคือง​

ราว​สอง​ทุ่ม​ ฟางจั๋วเยวี่ย​กลับ​มาถึงบ้าน​พร้อม​รอยยิ้ม​ประดับ​บน​ใบหน้า​

หลิน​ม่าย​และ​ปู่​ฟางนั่ง​อยู่​ด้านหน้า​เตาผิง​ ขณะ​เพลิดเพลิน​กับ​รายการโทรทัศน์​และ​จาน​ผลไม้​บน​โต๊ะ​

เห็น​ดังนี้​ เธอ​ก็​กล่าว​ทักทาย​ด้วย​รอยยิ้ม​ “ดู​นาย​สิ ทุกอย่าง​ใน​โรงงาน​คง​เป็นไป​ด้วยดี​สินะ​ นาย​ถึงได้​กลับมา​แบบ​หน้าชื่นตาบาน​ขนาด​นี้​”

ฟางจั๋วเยวี่ย​หัวเราะ​ “ก็​พอได้​อยู่​ โรงงาน​ผลิต​เครื่องจักร​ผลิต​ถุงพลาสติก​และ​เครื่อง​ผลิต​ถ้วยชาม​สำเร็จรูป​ได้​หลาย​ร้อย​เครื่อง​ทุก​เดือน​ ใน​ช่วงเวลา​เพียง​ไม่กี่​เดือน​ เรา​สามารถ​ขาย​เครื่องจักร​ออก​ไป​กว่า​พัน​เครื่อง​แล้ว​ โดย​มีกำไรสุทธิ​มากกว่า​หนึ่ง​ล้าน​ ผม​คง​คืนเงิน​ที่​ยืม​จาก​พี่​ได้​ใน​วันพรุ่งนี้​แล้ว​ล่ะ​”

เขา​ยิ้ม​อย่าง​รู้สึก​ผิด​ให้​คุณปู่​ฟางและ​คุณย่า​ฟาง “ปู่​ครับ​ ย่า​ครับ​ แล้ว​ผม​จะซื้อ​ของขวัญ​มาให้​ พร้อม​มอบ​ซอง​แดง​สำหรับ​วัน​ปีใหม่​ปี​นี้​ด้วย​”

คุณปู่​ฟางและ​คุณย่า​ฟางรู้สึก​ยินดี​เป็น​อย่างยิ่ง​ “ในที่สุด​หลาน​ก็​ยืนหยัด​ได้​ด้วยตัวเอง​แล้ว​ ปู่​กับ​ย่า​กังวล​แทบ​แย่​ กลัว​จริงๆ​ ว่า​หลาน​จะอยู่​อย่าง​ไร้จุดหมาย​ไป​ตลอดชีวิต​”

ฟางจั๋วเยวี่ย​ยิ้ม​อย่าง​เขินอาย​

แม้ว่า​เขา​จะมีความสามารถ​ แต่​ก็​เป็น​ชายหนุ่ม​ที่​เกียจคร้าน​และ​ไม่มีความทะเยอทะยาน​

หาก​เถาจืออวิ๋น​ไม่พูด​เตือนสติ​ว่า​อาจ​ไม่สามารถ​เลี้ยงดู​ครอบครัว​ได้​ เขา​คง​ไม่มีความคิด​ที่จะ​ทำงานหนัก​

ปรากฏ​ว่า​เงิน​คือ​ความมั่นคง​ของ​มนุษย์​จริงๆ​ ด้วย​เงินทอง​ที่​หา​มาได้​ ปู่​และ​ย่า​ของ​เขา​ก็​เริ่ม​มอง​เขา​เปลี่ยนไป​

ฟางจั๋วเยวี่ย​จับ​แก้ม​โต้​ว​โต้​ว​และ​พูด​อวดรวย​ “ตอนนี้​อา​รวย​แล้ว​นะ​ บอก​อา​สิว่า​อยากได้​อะไร​ อา​จะซื้อ​ให้​หมด​เลย​”

หนู​น้อย​ทำท่า​คิด​อย่าง​จริงจัง​ “หนู​ไม่ต้องการ​อะไร​ ถ้าคุณอา​ช่วย​หนู​ซ่อม​กล่องดนตรี​ได้​คงจะ​ดี​ กล่องดนตรี​ของ​หนู​ใกล้​พัง​แล้ว​”

หลังจาก​พูด​จบ​ หนู​น้อย​เดิน​ขึ้นไป​ยัง​ชั้นบน​เพื่อ​หยิบ​กล่องดนตรี​จาก​ใน​ห้อง​มาให้​ฟางจั๋วเยวี่ย​

ขณะที่​ฟางจั๋วเยวี่ย​กำลัง​ซ่อม​กล่องดนตรี​ หลิน​ม่าย​พูด​กับ​เขา​ว่า​ “ทั้ง​เครื่อง​ผลิต​ถ้วยชาม​สำเร็จรูป​ และ​เครื่อง​ผลิต​ถุงพลาสติก​เป็น​เครื่องจักร​ที่​มีราคา​ต่ำ​มาก​ ซึ่งเลียนแบบ​ง่าย​และ​ทำ​เงินได้​เร็ว​ นาย​ต้อง​วางแผน​ตั้งแต่​เนิ่นๆ​ เพื่อ​เปลี่ยน​โฉมโรงงาน​นะ​”

ฟางจั๋วเยวี่ย​ตอบกลับ​ขณะ​ยังคง​ซ่อม​กล่องดนตรี​ “มีบางคน​เริ่ม​ลอกเลียนแบบ​การผลิต​เครื่องจักร​ทั้งสอง​แล้ว​ ผม​ว่า​จะเปลี่ยนไป​ผลิต​โทรทัศน์​ พี่สะใภ้​คิด​ว่า​อย่างไร​ครับ​?”

ทุกวันนี้​ ไม่มีเครื่องใช้ไฟฟ้า​ใน​บ้าน​ชนิด​ใด​ขาย​ได้ดี​ไป​กว่า​โทรทัศน์​

เมื่อ​สภาพ​ความเป็นอยู่​ของ​ผู้คน​ดีขึ้น​ พวกเขา​ล้วน​ต้องการ​ความบันเทิง​

ดังนั้น​หาก​ผลิต​และ​จำหน่าย​เครื่องรับ​โทรทัศน์​ ตราบใดที่​มีคุณภาพดี​พอ​ ย่อม​สามารถ​ทำ​เงินได้​อย่าง​แน่นอน​

หลิน​ม่าย​พยักหน้า​ “ดี​เลย​ หลังจาก​ผลิต​โทรทัศน์​แล้ว​ ค่อย​ผลิต​ของใช้​ใน​บ้าน​ต่อ​ อย่างเช่น​ตู้เย็น​ เครื่องซักผ้า​ เครื่องทำน้ำอุ่น​”

ฟางจั๋วเยวี่ย​ชะงัก​มือ​และ​หันมา​จ้อง​เธอ​ด้วย​ความ​ตกตะลึง​ “พี่​กำหนด​กรอบ​ไว้​ใหญ่​เช่นนี้​ ผม​คง​ต้อง​ทำ​มัน​ให้ได้​แล้ว​ล่ะ​”

หลิน​ม่าย​ให้กำลังใจ​ “ตราบใดที่​ทุก​ย่างก้าว​อย่าง​มั่นคง​ นาย​จะสามารถ​บรรลุเป้าหมาย​ที่ตั้ง​ไว้​ได้​แน่​”

ฟางจั๋วเยวี่ย​ก้มหน้า​ลง​และ​ซ่อม​กล่องดนตรี​ต่อไป​ เขา​นิ่งเงียบ​ครู่หนึ่ง​และ​พูดว่า​ “พี่สะใภ้​ ทำไม​เรา​ไม่ร่วมมือ​กัน​ล่ะ​ หาก​มีพี่​เป็น​แกนนำ​ ผม​มั่นใจ​ว่า​จะบรรลุเป้าหมาย​ที่​พี่​กำหนด​ไว้​ให้​ผม​ได้​”

หลิน​ม่าย​มอง​เขา​ “ถ้านาย​ต้องการ​ให้​ฉัน​ลงทุน​ก็​บอก​ตรงๆ​ สิ บอก​ฉัน​มาว่า​อยาก​ให้​ฉัน​ลงทุน​เท่าไหร่​?”

ฟางจั๋วเยวี่ย​หัวเราะ​เล็กน้อย​ ก่อน​ส่งกล่องดนตรี​ที่​ซ่อม​เสร็จ​แล้ว​ให้​โต้​ว​โต้​ว​

เขา​คำนวณ​อยู่​ใน​ใจเงียบงัน​ว่า​หลิน​ม่าย​ควร​ลงทุน​เท่าไร​

หลังจาก​คำนวณ​อยู่​ครู่หนึ่ง​ เขา​ก็​พูด​ด้วย​ความ​ลำบากใจ​ “อย่าง​น้อย​สามล้าน​”

มัน​เป็น​เงิน​จำนวน​ไม่น้อย​ หลิน​ม่าย​กล่าว​ “นาย​ไม่ต้อง​คืนเงิน​ห้า​แสน​ที่​ยืม​ไป​หรอก​ นับ​มัน​เป็น​เงินลงทุน​ของ​ฉัน​ แล้ว​ฉัน​จะลงทุน​เพิ่ม​อีก​ 2.5 ล้าน​ ถ้าไม่เพียงพอ​ก็​มาบอก​ฉัน​ได้​”

ฟางจั๋วเยวี่ย​พยักหน้า​รับ​อย่าง​มีความสุข​

หลังจาก​แก้ปัญหา​เรื่อง​เงินทุน​แล้ว​ ฟางจั๋วเยวี่ย​เลือก​ชื่อ​สำหรับ​เครื่อง​โทรทัศน์​ในอนาคต​ และ​ชื่อ​ที่​เขา​คิด​คือ​เซวี่ยน​ซื่อ​

แต่​หลิน​ม่าย​ยืนยัน​ที่จะ​เปลี่ยนเป็น​เซิ่งซื่อ​

เพราะ​ในอนาคต​โรงงาน​ผลิต​เครื่อง​โทรทัศน์​ของ​พวกเขา​จะผลิต​เครื่องใช้​ใน​บ้าน​ชนิด​อื่น​ด้วย​ เช่น​ ตู้เย็น​และ​เครื่องซักผ้า​

หาก​เรียก​มัน​ว่า​เซวี่ยน​ซื่อ​ โรงงาน​ของ​พวกเขา​จะดูเหมือน​ผลิต​เฉพาะ​เครื่อง​โทรทัศน์​เท่านั้น​ ทว่า​ชื่อ​เซิ่งซื่อ​นั้น​ไม่มีปัญหา​ดังกล่าว​ อีก​ทั้ง​ยัง​เป็น​ชื่อ​ที่​มงคล​และ​จำง่าย​

เมื่อ​เห็น​ว่า​หลิน​ม่าย​พูด​อย่าง​ชัดเจน​และ​มีเหตุผล​ ฟางจั๋วเยวี่ย​จึงพยักหน้า​เห็นด้วย​

ปู่​ฟางและ​ย่า​ฟางต่าง​บอก​ให้​ฟางจั๋วเยวี่ย​ทำงานหนัก​ใน​อาชีพ​การงาน​ของ​ตัวเอง​ และ​อย่า​ปล่อย​ให้​เงินทุน​ของ​หลิน​ม่าย​สูญเปล่า​ ไม่อย่างนั้น​เขา​จะถูก​ฆ่า

ไม่นาน​ก็​เป็นเวลา​สี่ทุ่ม​ หลิน​ม่าย​จึงไป​อาบน้ำ​

เมื่อ​เธอ​อยู่​ใน​เมืองหลวง​ ทุกคืน​วัน​เสาร์​และ​อาทิตย์​เธอ​ต้องการ​นอน​อย่าง​สงบ​ แต่​ฟางจั๋ว​หรา​น​ไม่ให้โอกาส​เธอ​

ตอนนี้​เธอ​สามารถ​นอนหลับ​อย่าง​สบายใจ​ แต่กลับ​คิดถึง​ฟางจั๋ว​หรา​น​ที่​เคย​นอน​อยู่​เคียงข้าง​

ไม่ใช่ว่า​เธอ​ต้องการ​ร่วม​หลับนอน​กับ​เขา​ แต่เพียง​นึก​โลภ​ใน​อ้อมกอด​อัน​อบอุ่น​

เธอ​นอนไม่หลับ​

ฟางจั๋ว​หรา​น​ก็​นอนไม่หลับ​เช่นกัน​

ยาม​ใด​ที่​ไม่มีภรรยา​ตัว​น้อย​ที่​แสน​อ่อนหวาน​และ​นุ่มนวล​ใน​อ้อมแขน​ เขา​มัก​รู้สึก​ว่างเปล่า​ใน​หัวใจ​เสมอ​

เขา​นับ​นิ้ว​ใน​ความมืด​ วันที่​ 1 กุมภาพันธ์​ปี​นี้​เป็น​วัน​ส่งท้าย​ปี​เก่า​ของ​จีน​

อย่าง​น้อย​อีก​หนึ่ง​สัปดาห์​ ภรรยา​จะกลับ​ปักกิ่ง​พร้อมกับ​ปู่​และ​ย่า​ของ​เขา​

คาด​ว่า​อาจจะ​ใช้เวลานาน​สุด​ถึงวันที่​ 29 ของ​เดือน​ก่อนที่​พวกเขา​จะกลับบ้าน​

ช่างยาวนาน​เหลือเกิน​~

ฟางจั๋ว​หรา​น​ต้องการ​ให้​หลิน​ม่าย​และ​คนอื่นๆ​ กลับ​ปักกิ่ง​โดยเร็ว​ที่สุด​ ขณะที่​หลิน​ม่าย​ก็​ต้องการ​กลับบ้าน​โดยเร็ว​เช่นกัน​

เช้าวันรุ่งขึ้น​ หลัง​รับประทาน​อาหารเช้า​ เธอ​ออก​ไป​ที่​ศาลากลาง​

หาก​เธอ​สามารถ​รับเงิน​ค่า​โครงการ​ที่​โรงงาน​อุตสาหกรรมเบา​ค้าง​ไว้​ได้​เร็ว​มาก​เท่าไหร่​ เธอ​ก็​จะสามารถ​กลับ​เมืองหลวง​ได้​เร็ว​เท่านั้น​

เธอ​นั่ง​แท็กซี่​ไป​ที่​ประตู​ศาลากลาง​ ทันทีที่​ก้าว​ลง​จาก​รถ​ เธอ​ได้ยิน​เสียง​หนึ่ง​เรียกชื่อ​ของ​เธอ​อย่าง​ตื่นเต้น​

เธอ​หันกลับ​ไป​และ​พบ​ว่า​เป็น​ครู​หวัง​ ครู​ใน​โรงเรียนมัธยม​ปี​ที่สาม​ของ​เธอ​ ซึ่งทำให้​เธอ​ตื่นเต้น​เช่นกัน​

หลิน​ม่าย​ทักทาย​ครู​หวัง​ด้วย​รอยยิ้ม​ “บังเอิญ​จังค่ะ​ที่มา​พบ​คุณครู​ที่นี่​”

ครู​หวัง​ตอบกลับ​อย่าง​ร่าเริง​ “ช่างบังเอิญ​อะไร​เช่นนี้​? พ่อตา​และ​แม่ยาย​ของ​ครู​อาศัย​อยู่​ที่นี่​ ครู​เดินทาง​มาส่งเนื้อ​แกะ​ให้​พวกเขา​ใน​ช่วง​ปีใหม่​พอดี​”

เขา​ถาม “แล้ว​เธอ​มาทำ​อะไร​ที่นี่​? เธอ​มาหา​นายกเทศมนตรี​เหรอ​?”

“ใช่ค่ะ​” หลิน​ม่าย​พยักหน้า​ด้วย​รอยยิ้ม​

ครู​หวัง​ตระหนัก​รู้ดี​ว่า​ตอน​ไหน​ควร​รุก​ตอน​ไหน​ควร​ถอย​ เขา​จึงไม่ถามว่า​เธอ​ต้อง​การคุย​กับ​นายกเทศมนตรี​เรื่อง​อะไร​ แต่เพียง​ถามว่า​เธอ​จะอยู่​เมือง​เจียง​เฉิงกี่​วัน​

หลิน​ม่าย​งุนงง​ “ประมาณ​หนึ่ง​สัปดาห์​ค่ะ​ ทำไม​คุณครู​ถึงถามแบบนี้​ล่ะ​?”

ครู​หวัง​รู้สึก​อาย​เล็กน้อย​และ​พูดว่า​ “ครู​ไม่ได้​มีอะไร​ แค่​คิด​ว่า​ถ้าเธอ​กลับมา​อยู่​ที่​เมือง​เจียง​เฉิงนาน​ ครู​อยาก​ให้​เธอ​หา​เวลา​ไป​กล่าวสุนทรพจน์​ที่​โรงเรียน​เพื่อ​ให้กำลังใจ​รุ่นน้อง​ได้​ไหม​?”

ใน​เมื่อ​ครูประจำชั้น​ออกปาก​เชิญ หลิน​ม่าย​จึงพยักหน้า​ตกลง​

เพราะ​กลัว​ว่า​จะยุ่ง​กับ​งาน​จน​ลืม​เรื่อง​นี้​ เธอ​จึงนัดหมาย​กับ​ครู​หวัง​ว่า​จะไป​กล่าวสุนทรพจน์​ที่​โรงเรียน​เก่า​หลังจาก​ทำ​ธุระ​ใน​ศาลากลาง​เสร็จ​แล้ว​

ครู​หวัง​ตอบรับ​อย่าง​มีความสุข​ “งั้น​ครู​จะไป​รอ​เธอ​ที่​โรงเรียน​” สิ้น​เสียง​เขา​เดิน​จากไป​ทันที​

ว่าน​ถงกรุ๊ป​ของ​หลิน​ม่าย​เป็น​ผู้เสียภาษี​รายใหญ่​ที่สุด​ใน​เมือง​เจียง​เฉิง และ​เป็นที่รู้จัก​กัน​ดี​ใน​กลุ่ม​ผู้มีอำนาจ​

เธอ​ขอ​พบ​นายกเทศมนตรี​ แม้ไม่ได้​นัดหมาย​ นายกเทศมนตรี​ก็​ยินดี​ให้​เธอ​เข้าพบ​

หลิน​ม่าย​กำลัง​ลงทะเบียน​ที่​ประตู​ อดีต​ผอ.​เขต​โอว​หยาง​ซึ่งได้​เลื่อนตำแหน่ง​เป็น​กรรมการ​โอว​หยาง​มาทำงาน​และ​บังเอิญ​เห็น​เธอ​

เขา​รีบ​ขอให้​คนขับรถ​หยุด​รถ​ ก่อน​เปิด​กระจก​ยื่น​ศีรษะ​ออก​ไป​ทักทาย​หลิน​ม่าย​ “คุณ​ไม่ได้​เรียน​อยู่​ใน​เมืองหลวง​หรอก​เหรอ​? หรือว่า​นี่​กลับมา​เนื่องจาก​วันหยุด​ฤดูหนาว​?”

หลิน​ม่าย​ตอบกลับ​เขา​ด้วย​รอยยิ้ม​

กรรมการ​โอว​หยาง​ถามอีกครั้ง​ “มีเรื่อง​อะไร​หรือ​ถึงได้มา​ศาลากลาง​?”

หลิน​ม่าย​พยักหน้า​อีกครั้ง​และ​บอกกล่าว​จุดประสงค์​ใน​การ​มาที่​ศาลากลาง​โดยสังเขป​

กรรมการ​โอว​หยาง​ขมวดคิ้ว​ครุ่นคิด​พัก​หนึ่ง​จึงพูดว่า​ “ก่อน​จะไปหา​นายกเทศมนตรี​ คุณ​ไป​สำนักงาน​ของ​ผม​ก่อน​สิ”

หลังจากที่​หลิน​ม่าย​ลงทะเบียน​เสร็จ​ เธอ​จึงไป​ที่​สำนักงาน​ของ​เขา​

กรรมการ​โอว​หยาง​ชงชาให้​เธอ​พลาง​บอก​หญิงสาว​อย่าง​มีชั้นเชิง​ว่า​ นายกเทศมนตรี​รู้​อยู่แล้ว​ว่า​ผู้อำนวยการ​หู​โรงงาน​อุตสาหกรรมเบา​กำลัง​ใช้เล่ห์เหลี่ยม​และ​จงใจปฏิเสธ​จ่าย​เงิน​โครงการ​ของ​ว่าน​ถงกรุ๊ป​

หลิน​ม่าย​ถาม “แล้ว​นายกเทศมนตรี​คิด​อย่างไร​คะ​?”

กรรมการ​โอว​หยาง​ถือ​ถ้วย​ชาพลาง​กล่าว​ “พูดถึง​โรงงาน​อุตสาหกรรมเบา​แล้ว​ มัน​ช่างน่าสมเพช​จริงๆ​ สวัสดิการ​ไม่ดี​มาหลาย​ปี​ หอพัก​พนักงาน​สร้าง​ขึ้น​ครั้งแรก​ใน​ปี​ 2503 แต่​ 20 ปี​ต่อมา​หอพัก​พนักงาน​ก็​ยัง​สร้าง​ไม่เสร็จ​ ลูก​ๆ ของ​ครอบครัว​คนงาน​อาวุโส​หลาย​คน​เติบโต​จน​จะแต่งงาน​แล้ว​ แต่​พวกเขา​ยัง​ต้อง​ลำบาก​ตรากตรำ​เพราะ​ไม่มีที่อยู่อาศัย​ ถ้าไป​เยี่ยม​หอพัก​เก่า​ของ​โรงงาน​ ก็​จะรู้​ว่า​มีคนแก่​และ​คนหนุ่มสาว​จำนวนมาก​ ว่าน​ถงกรุ๊ป​ของ​คุณ​ร่ำรวย​ เงิน​โครง​กา​ร.​.. เอ่อ​… ถ้าคุณ​ไม่ทวง​ มัน​คงจะ​ช่วยเหลือ​ผู้อำนวยการ​หู​มาก​”

หลิน​ม่าย​ถามกลับ​ “ฉัน​รวย​ก็​จริง​ แต่​โรงงาน​อุตสาหกรรมเบา​ยากจน​ นั่น​คือ​เหตุผล​ว่า​ทำไม​คุณ​ถึงต้องการ​ให้​ฉัน​ช่วยเหลือ​โรงงาน​ใช่ไหม​? โรงงาน​อุตสาหกรรมเบา​ได้​เงินอุดหนุน​จาก​รัฐบาล​ แล้ว​ยัง​ไม่สามารถ​จัดสรร​ปันส่วน​ เพราะ​ผู้อำนวยการ​โรงงาน​ไร้ความสามารถ​ใน​การ​จัดการ​เอง​ไม่ใช่หรือ​? องค์กรเอกชน​ของ​เรา​ต่าง​ก็​ดิ้นรน​เพื่อ​ความอยู่รอด​ด้วยตัวเอง​ ไม่มีเงินอุดหนุน​จาก​รัฐบาล​และ​ไม่มีภาษีลดหย่อน​ แล้ว​ทำไม​รัฐบาล​ถึงพยายาม​ข่ม​องค์กรเอกชน​ของ​เรา​อยู่​ลับ​ๆ ด้วย​?”

กรรมการ​โอว​หยาง​เห็น​ว่า​หลิน​ม่าย​ไม่ใช่หญิงสาว​อ่อนหวาน​ใน​อดีต​อีกต่อไป​ แต่​เป็น​หญิงสาว​ที่​กล้าหาญ​

แม้เธอ​จะยัง​เด็ก​มาก​ แต่กลับ​มีบรรยากาศ​รอบตัว​ที่​น่าเกรงขาม​และ​ดูเหมือน​หญิงสาว​ผู้​แข็งแกร่ง​ อีก​ทั้ง​เธอ​ยัง​กล่าว​คำ​อย่าง​ไร้​ปรานี​ต่อหน้า​เขา​

เขา​รู้สึก​ไม่พอใจ​และ​ตอบกลับ​ด้วย​สีหน้า​เย็นชา​ “ผม​ทำ​สิ่งนี้​ก็​เพื่อประโยชน์ของ​คุณ​เอง​ อย่า​ไป​ฟังคำ​ของ​คนอื่น​! คน​ที่​ทำ​สิ่งยิ่งใหญ่​ต้อง​มีแบบแผน​!”

หลิน​ม่าย​เยาะเย้ย​ “บังเอิญ​จริงๆ​ ฉัน​ไม่ได้คิด​จะทำ​อะไร​ใหญ่โต​ แค่​อยาก​จะสนับสนุน​พนักงาน​ของ​ตัวเอง​ ดังนั้น​ฉัน​จะไม่ยอม​ถูก​เอาเปรียบ​แบบนี้​ ฉัน​ไม่ต้องการ​มัน​”

เธอ​ตะคอก​เสียง​เย็น​ “ถ้าคุณ​ทำ​เพื่อ​ฉัน​จริง​ คุณ​ควร​ให้​โรงงาน​อุตสาหกรรมเบา​จ่าย​เงิน​โครงการ​ที่​เป็นหนี้​ให้​ฉัน​ แทนที่จะ​บังคับ​ฉัน​เลิก​ทวง​เงิน​โครงการ​”

จากนั้น​เธอ​ลุกขึ้น​หันหลัง​เพื่อ​เดิน​จากไป​ จุดหมาย​อยู่​ที่​สำนักงาน​ของ​นายกเทศมนตรี​วัง​

แต่​เธอ​ไม่เห็น​ว่า​มีใคร​อยู่​ใน​สำนักงาน​เลย​ ยกเว้น​เพียง​ป้า​แม่บ้าน​ที่​กำลัง​ทำความสะอาด​อยู่​

หลิน​ม่าย​ถามป้า​แม่บ้าน​ “นายกเทศมนตรี​วัง​อยู่​ไห​นคะ​?”

ป้า​แม่บ้าน​เงยหน้า​ขึ้น​มอง​เธอ​ “นายกเทศมนตรี​วัง​รีบ​ออก​ไป​หลังจาก​ได้​รับโทรศัพท์​น่ะ​ค่ะ​”

หลิน​ม่าย​ถามอีกครั้ง​ “นายกเทศมนตรี​วัง​ได้​พูด​อะไร​ทิ้งท้าย​ก่อน​ออก​ไป​ไหม​คะ​?”

ป้า​แม่บ้าน​ตอบ​ด้วย​รอยยิ้ม​ “ถึงนายกเทศมนตรี​วัง​จะอยาก​บอก​ เขา​ก็​ไม่บอก​อะไร​ป้า​หรอก​ค่ะ​ เขา​มักจะ​บอก​เลขา​เสมอ​”

“แล้ว​เลขา​ของ​นายกเทศมนตรี​วัง​อยู่​ไห​นคะ​?”

“ออก​ไป​พร้อมกับ​ท่าน​นายกเทศมนตรี​”

หลิน​ม่าย​ไม่ได้​ถามอะไร​อีก​

ตอน​ที่อยู่​ด้านหน้า​ศาลากลาง​ เธอ​แสดง​ตัวตน​และ​บอ​กว่า​ต้องการ​พบ​นายกเทศมนตรี​วัง​ ยาม​ได้​โทร​หา​นายกเทศมนตรี​วัง​ทันที​ ก่อน​บอ​กว่า​เขา​ยินดี​ที่จะ​พบ​เธอ​

แต่​เวลานี้​เขา​กลับ​พา​เลขานุการ​หนีหาย​ไป​อย่าง​ไร้​ร่องรอย​

เป็นไปได้​ไหม​ว่า​กรรมการ​โอว​หยาง​จะบอก​เขา​ว่า​เธอ​มาที่นี่​เพราะ​เรื่อง​อะไร​

นายกเทศมนตรี​วัง​ไม่ต้องการ​ช่วยเหลือ​เธอ​ทวง​เงิน​โครงการ​จาก​โรงงาน​อุตสาหกรรมเบา​ ดังนั้น​เขา​จึงรีบ​ออก​ไป​ซ่อนตัว​พร้อมกับ​เลขานุการ​ และ​ขอให้​กรรมการ​โอว​หยาง​ไล่​เธอ​ออก​ไป​

ใน​เมื่อ​รัฐบาล​ไม่สามารถ​ช่วยเหลือ​ เช่นนั้น​คง​ต้อง​เปลี่ยน​วิธี​ใน​การ​ทวง​คืนเงิน​ของ​โครงการ​

เธอ​จะทวง​เงิน​โครง​การคืน​ให้ได้​ไม่ว่า​จะเกิด​อะไร​ขึ้น​

เธอ​ต้อง​ทวง​คืน​ให้ได้​ก่อน​วัน​ปีใหม่​ เพื่อให้​คนงาน​ใน​บริษัท​ได้รับ​ค่าจ้าง​และ​กลับบ้าน​ไปหา​ครอบครัว​ใน​ช่วง​วันหยุด​

…………………………………………………………………………………………………………………………

สาร​จาก​ผู้แปล​

ปัญหา​ใหญ่​แบบนี้​จะปัด​ภาระ​ให้​ม่าย​จื่อ​เหรอ​?

ไหหม่า​(海馬)