บทที่ 695 คนร้ายเป็นคนแก่! รื้อคดีใหม่ทั้งหมด! (2)

องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที!

“​เอ๋​?​”​ ​จาง​อวี​้​สับสน​งุนงง​เสีย​จน​อ้าปากค้าง​ ​ทั้งหมด​ที่​เขา​ทำ​ก็​แค่​เอ่ยถึง​เงา​ของ​คน​คนเดียว​เท่านั้น​ ​แต่​นาง​กลับ​รู้​แล้ว​หรือว่า​คนร้าย​คือ​ใคร

เสนาบดี​ประจำ​กรม​ขุนนาง​ก็​งง​ไม่​แพ้​กัน​ ​เขา​หันไป​ทาง​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ ​แล้ว​ถาม​เสียง​เบา​ว่า​ ​”​พระ​ชายา​สาม​ ​กระหม่อม​คิด​ว่า​เงา​ที่ว่า​นี้​เป็น​เพียงแค่​การ​พูดจา​ไร้สาระ​ของ​จาง​อวี​้​เท่านั้น​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​ ​คนเรา​จะ​มี​หนอก​อยู่​บน​หลัง​ได้​อย่างไร​”

“​คน​คน​นี้​ไม่ได้​มี​หนอก​จริงๆ​ ​อยู่​บน​หลัง​ ​แต่​เวลา​คน​หลัง​ค่อม​อยู่​ใน​ที่​มืด​ ​เงา​ของ​เขา​จะ​ดูเหมือน​คนที​่​มี​หนอก​อยู่​บน​หลัง​”​ ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ตอบ​เรียบๆ

แต่​เสนาบดี​ประจำ​กรม​ขุนนาง​รู้​ว่านี​่​ไม่ใช่​สิ่ง​ที่​ใคร​จะ​สามารถ​คิดออก​ได้​ง่ายๆ​ ​คนที​่​คิดออก​จะ​ต้อง​เป็น​คนที​่​หัว​เร็ว​อย่างมาก​!

เสนาบดี​ประจำ​กรม​ขุนนาง​เผลอ​หัน​มอง​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ด้วย​ความชื่นชม​ยิ่งกว่า​เดิม​ ​เขา​เอ่ย​ขึ้น​อย่าง​ตื่นเต้น​ว่า​ ​”​กระหม่อม​จะ​สั่ง​ให้​คนเขียน​ประกาศ​จับ​เดี๋ยวนี้​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​ ​ชาย​หลัง​ค่อม​ทุกคน​ใน​เมืองหลวง​จะ​ต้อง​ถูกจับ​!​”

“​ไม่จำเป็น​”​ ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​หมุนตัว​กลับมา​ ​สายตา​ของ​นาง​ค่อยๆ​ ​เคลื่อน​ไป​หยุด​อยู่​ที่​เสนาบดี​ประจำ​กรม​ขุนนาง​ ​”​คนร้าย​ไม่ใช่​ผู้ชาย​”

“​ไม่ใช่​ผู้ชาย​หรือ​”​ ​ดวงตา​ของ​เสนาบดี​เบิก​กว้าง​ ​”​เป็นไปได้​อย่างไร​”​ ​พวกเขา​สืบ​คดี​นี้​มานา​นก​ว่า​สาม​วัน​ ​และ​สิ่ง​แรก​ที่​พวกเขา​ทำ​คือ​การ​ตั้ง​ข้อสันนิษฐาน​ว่า​ผู้ต้องสงสัย​เป็น​ผู้ชาย​ ​อย่างไร​คนที​่​หายตัว​ไป​ก็​ล้วนแต่​เป็น​ผู้หญิง​ ​แต่​ทำไม​ทันทีที่​พระ​ชายา​สาม​เข้ามา​ทำ​คดี​นี้​ ​นาง​ถึง​ได้​บอกว่า​คนร้าย​ไม่ใช่​ผู้ชาย​ล่ะ​ ​นี่​พวกเขา​มา​ผิดทาง​หรือ

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​พูด​ต่อ​อย่างใจ​เย็น​ว่า​ ​”​ไม่มี​สิ่งใด​ที่​เป็นไปไม่ได้​ ​ส่วนใหญ่​เวลา​คนเรา​แก่ตัว​ขึ้น​ก็​มักจะ​หลัง​ค่อม​ด้วยกัน​ทั้งนั้น​”

“​พระ​ชายา​ ​ท่าน​หมายความว่า​ผู้ร้าย​เป็น​คนแก่​หรือ​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”​ ​เสนาบดี​รู้สึก​ว่า​บทสรุป​นี้​ค่อนข้าง​เหนือ​จินตนาการ​ทีเดียว​ ​”​คนแก่​จะ​เคลื่อนไหว​ได้​รวดเร็ว​จน​สามารถ​ลักพาตัว​ใคร​ได้​โดย​ไม่​เหลือ​ร่องรอย​ได้​อย่างไร​”

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ยิ้ม​ ​”​ถ้า​เป็น​คนแก่​แล้ว​จะ​ทำไม​หรือ​ ​ยิ่ง​คน​คน​นั้น​ดู​ไร้​พิษภัย​เพียงใด​ ​ก็​ยิ่ง​ทำให้​เหยื่อ​ลด​การป้องกัน​ตัว​ลง​ได้มาก​เท่านั้น​ ​ก่อนหน้านี้​ข้า​ก็​สงสัย​อยู่​ว่า​ทำไม​คนที​่​หายตัว​ไป​ถึง​ไม่​ร้องขอ​ความช่วยเหลือ​ ​แต่​ตอนนี้​ข้า​เข้าใจ​แล้ว​ ​สาเหตุ​ที่​พวกเขา​ไม่ได้​ร้องขอ​ความช่วยเหลือ​มีอยู่​สอง​ประการ​ ​ประการ​แรก​ก็​คือ​เพราะ​คน​คน​นั้น​เป็น​คนที​่​พวก​นาง​คุ้นหน้า​ ​ส่วน​ประการ​ที่สอง​คือ​วิธี​ลักพาตัว​ ​ซอย​นั้น​มี​ขนาดเล็ก​ ​ดังนั้น​จึง​สามารถ​ได้ยิน​เสียง​ต่างๆ​ ​ได้​อย่างง่ายดาย​ ​แต่​ตอนที่​ทั้ง​สาม​คน​หายตัว​ไป​ ​นอกจาก​การวิวาท​กัน​ระหว่าง​จาง​หลิง​เอ๋อร​์​กับ​จาง​อวี​้​แล้ว​ ​อีก​สอง​คน​กลับ​หายตัว​ไป​โดย​ไร้​ซุ่มเสียง​ ​ซึ่ง​ผิดปกติ​อย่างมาก​ ​ดังนั้น​ข้า​จึง​อนุมาน​สิ่ง​ที่เกิด​ขึ้น​หลังจาก​จาง​อวี​้​กลับ​ไป​ได้​ ​โดยปกติ​แล้ว​ตอนกลางคืน​มืดมิด​เท่าใด​ ​ความเป็นไปได้​ที่​คนเรา​จะ​เดินตาม​เส้นทาง​ที่​ตัวเอง​คุ้นเคย​ก็​ยิ่ง​มีมาก​ขึ้น​เท่านั้น​ ​จาก​ซอย​แห่ง​นั้น​มา​จนถึง​บ้าน​ของ​บรรดา​คนที​่​หายตัว​ไป​มีทาง​ลัด​อยู่​เส้นทาง​หนึ่ง​ ​และ​มัน​เป็น​ทาง​ที่​มี​แค่​คนใน​ซอย​นั้น​เท่านั้น​ที่​รู้​ ​เวลา​นั้น​พวก​นาง​คง​รีบ​เดิน​ทีเดียว​ ​เพราะ​ผู้หญิง​มักจะ​เร่งฝีเท้า​ขึ้น​เวลา​ที่​เดิน​คนเดียว​ตอนกลางคืน​ ​อีกทั้ง​ยัง​ระมัดระวัง​ตัวอย่าง​มาก​ ​ต่อให้​ไม่มีใคร​อยู่​ข้างหลัง​พวก​นาง​ ​แต่​พวก​นาง​ก็​จะ​รู้สึก​เหมือน​มีบา​งอย​่า​งอยู​่​ข้างหลัง​ ​ยิ่งกว่านั้น​ในขณะนั้น​พวก​นาง​ก็​ยัง​ตกอยู่ในอันตราย​จริงๆ​”

“​เช่นนั้น​ก็​ยิ่ง​แปลก​ ​ในเมื่อ​พวก​นาง​รู้ตัว​ ​ทำไม​พวก​นาง​ถึง​ไม่​ร้องขอ​ความช่วยเหลือ​ล่ะ​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​ ​แม้​จะ​เป็น​คนรู้จัก​ ​แต่​โดยปกติ​แล้ว​พวก​นาง​ก็​น่าจะ​กรีดร้อง​ออกมา​”​ ​เสนาบดี​ประจำ​กรม​ขุนนาง​ยัง​รู้สึก​สงสัย​อยู่​เพราะ​ก่อนหน้านี้​เขา​เคย​ทำ​คดี​มามาก​มาย

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​มอง​เขา​ ​แล้ว​พูดว่า​ ​”​เพราะ​คน​คน​นั้น​ไม่ได้​ปรากฏตัว​ขึ้น​จาก​ทาง​ด้านหลัง​ของ​พวกเขา​ ​แต่​เป็น​ข้างหน้า​น่ะ​สิ​ ​อาจจะ​ดีกว่า​นั้น​เสียอีก​ ​เพราะ​นาง​น่าจะ​ยืน​อยู่​ที่​หน้าบ้าน​ตัวเอง​ ​กำลัง​ทำที​เป็น​เทน​้ำ​หรือไม่ก็​ทำ​อะไร​สัก​อย่าง​เพราะ​การ​ทำ​เช่นนั้น​ย่อม​ดู​เป็นธรรมชาติ​มากกว่า​ ​ดังนั้น​พวก​นาง​จึง​ไม่ได้​ร้องขอ​ความช่วยเหลือ​ ​แทนที่จะ​เป็น​เช่นนั้น​ ​พวก​นาง​จะ​ลด​การป้องกัน​ตัว​ลง​ ​แล้ว​เดิน​เข้าไป​หานาง​ตาม​สัญชาตญาณ​ ​จากนั้น​ตอนที่​พวก​นาง​ไม่ทัน​ได้​ระวังตัว​ ​นาง​ก็​จะ​ใช้​ผ้าเช็ดหน้า​ที่​เตรียม​ไว้​ล่วงหน้า​ปิดปาก​พวก​นาง​ ​แล้ว​สุดท้าย​ก็​ลาก​พวก​นาง​เข้าไป​ที่​สวน​ของ​ตัวเอง​โดยที่​ไม่มีใคร​ได้​ทัน​สังเกต​ ​และ​ยัง​ไม่​เสียเวลา​อีกด้วย​”

“​กระหม่อม​ไม่เข้าใจ​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​ ​ท่าน​หมายความว่า​คนร้าย​รู้อยู่​แล้ว​หรือว่า​พวก​นาง​จะ​เดินผ่าน​เส้นทาง​นี้​กลับบ้าน​ ​เดี๋ยวก่อน​สิ​!​ ​ยืน​อยู่​ที่​หน้าบ้าน​ของ​ตัวเอง​หรือ​”​ ​ดวงตา​ของ​เสนาบดี​เบิก​กว้าง​ขึ้น​ ​”​คนร้าย​อาศัย​อยู่​ใน​ซอย​นั้น​หรือ​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

“​ใช่​แล้ว​”​ ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ค่อยๆ​ ​ยิ้ม​ ​”​การ​จะ​รู้​ว่า​เหยื่อ​กลับบ้าน​เมื่อไหร่​นั้น​ก็​ไม่ใช่​เรื่อง​ยาก​ ​เพราะ​ทุกคน​ล้วนแต่​อาศัย​อยู่​ใน​ซอย​นั้น​ ​ยิ่งกว่านั้น​ ​เวลานัดหมาย​ของ​พวก​นาง​กับ​จาง​อวี​้​ก็​ตายตัว​ ​ทั้งหมด​ที่นาง​ต้อง​ทำ​ก็​คือ​การ​เตรียม​ทุกอย่าง​ไว้​ล่วงหน้า​ ​แล้ว​จากนั้น​ก็​รอ​ให้​เหยื่อ​เดิน​เข้ามา​ตกหลุมพราง​ด้วยตัวเอง​ ​ต่อให้​มี​เจ้าหน้าที่​มาตร​วจ​สอบ​เรื่อง​นี้​ ​นาง​ก็​ไม่ได้​เดือดร้อน​ ​นอกจาก​นาง​จะ​ดู​ไม่มี​พิษภัย​แล้ว​ ​คนที​่​มีโอกาส​จะ​ตกเป็น​ผู้ต้องสงสัย​มาก​ที่สุด​ก็​คือ​จาง​อวี​้​ ​อีก​อย่างหนึ่ง​ ​ใต้เท้า​จาง​ก็​คง​ไม่​เล่าเรื่อง​จริง​ที่เกิด​ขึ้น​ใน​ซอย​ให้​เบื้องบน​ฟัง​เพื่อ​ปกป้อง​บุตรชาย​ของ​ตัวเอง​ ​ต่อให้​เบื้องบน​นึก​อยาก​ตรวจสอบ​เรื่อง​นี้​ขึ้น​มา​จริงๆ​ ​นาง​ก็​ไม่​หวาดกลัว​เลย​ด้วยซ้ำ​ ​เพราะ​นาง​รู้​ว่า​ต่อให้​นาง​ไม่ได้​เป็น​ฝ่าย​พูด​ออกมา​เอง​ ​คนที​่​อาศัย​อยู่​ใน​ซอย​นั้น​ก็​จะ​เอาเรื่อง​รัก​ๆ​ ​ใคร่​ๆ​ ​ของ​จาง​อวี​้​มา​พูด​อยู่ดี​ ​ดังนั้น​คนที​่​เหมาะ​จะ​เป็น​ผู้ต้องสงสัย​ที่สุด​ก็​จะ​ยัง​เป็น​จาง​อวี​้​อยู่​วันยังค่ำ​ ​นาง​แค่​เป็น​คนดู​ ​และ​ใช้ชีวิต​ได้​อย่าง​ผาสุก​พร้อมกับ​กำจัด​หญิงสาว​ที่นาง​เกลียด​ได้​ไป​พร้อมกัน​ ​อีกทั้ง​ยัง​สามารถ​โยนความผิด​ทั้งหมด​ให้​กับ​จาง​อวี​้​ได้​อีกด้วย​”

ยิ่ง​เสนาบดี​ได้​ฟัง​ ​เขา​ก็​ยิ่ง​รู้สึก​กลัว​ ​”​แผนการ​นี้​ช่าง​สมบูรณ์แบบ​จริงๆ​”​ ​ไม่ใช่​แค่​สมบูรณ์แบบ​ ​แต่​ยังชั่ว​ร้าย​มาก​อีกด้วย​ ​ถ้า​ไม่ใช่​เพราะ​พระ​ชายา​ ​คดี​นี้​ก็​คง​ยัง​ไข​ไม่ได้

“​ต่อให้​เป็น​แผนการ​ที่​สมบูรณ์แบบ​ที่สุด​ก็​ยัง​มี​ช่องโหว่​”​ ​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋ย​ที่​เงียบ​มาต​ลอด​ต่อ​บทสนทนา​นั้น​อย่าง​คาดไม่ถึง​ ​ริมฝีปาก​ทรง​เสน่ห์​แสน​เย้ายวน​ของ​เขา​กระตุก​ขึ้นรา​วกั​บดู​ถูก​ ​”​คนเรา​ทำ​อะไร​ก็​ย่อม​ได้​อย่างนั้น​”

เสนาบดี​ประจำ​กรม​ขุนนาง​ถึงกับ​พูดไม่ออก

“​ก็​จริง​ ​เรื่อง​นี้​เป็น​เพียง​การแก้แค้น​ส่วนตัว​”​ ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​เริ่ม​หัวเราะ​ ​พร้อมกับ​เหลือบมอง​จาง​อวี​้​ที่​คุกเข่า​อยู่​กับ​พื้น​อย่าง​ไม่แยแส​ ​”​ชาย​เสเพล​ไร้ศีลธรรม​สร้าง​ปัญหา​ใหญ่​ให้​เรา​ยิ่งนัก​ ​แม้กระทั่ง​เส้นทาง​แห่ง​การเกิดใหม่​ก็​ใกล้​จะ​ถูก​ปิด​เพราะ​เหตุการณ์​นี้​ ​ไม่ว่า​ข้า​จะ​มอง​อย่างไร​ก็​รู้สึก​ไม่​เจริญ​หู​เจริญตา​เอา​เสีย​เลย​ ​ช่างมันเถอะ​ ​บอก​ให้​องครักษ์​เงา​จับ​เขา​ตอน​ซะ​”

ทันทีที่​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​พูด​จบ​ ​จาง​อวี​้​ก็​รู้สึก​เหมือน​ขา​ของ​เขา​ถูก​ใคร​บางคน​จับ​ยกขึ้น​ ​ตามมา​ด้วย​ประกาย​แสง​จาก​ใบ​มีด​ ​มัน​ไม่มี​แม้กระทั่ง​โอกาส​ให้​เขา​ร้องขอ​ชีวิต​เลย​ด้วยซ้ำ​ ​ความ​ทรมาน​อย่าง​สุด​แสน​แล่น​จาก​ช่วง​ล่าง​ของ​เขา​แล้ว​กระจาย​ไป​ทั่ว​ตัว​ ​ก่อน​เขา​จะ​สลบ​ไป​ด้วย​ความเจ็บปวด​!

ใต้เท้า​จาง​วิ่ง​เข้าไป​พยุง​ร่าง​ของ​บุตรชาย​สุดที่รัก​ไว้​ข้าง​ศีรษะ​ ​”​พระ​ชายา​ ​ทำไม​ล่ะ​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​ ​ท่าน​พูด​เอง​มิใช่​หรือว่า​คนร้าย​ไม่ใช่​บุตรชาย​ของ​กระหม่อม​”

“​จริงอยู่​ที่​เขา​ไม่ใช่​คนร้าย​ ​แต่ต้น​เหตุ​ของ​เรื่องราว​เหล่านี้​เกิด​จาก​การ​ที่​เขา​ไป​ขโมย​คู่หมั้น​ของ​คนอื่น​มา​”​ ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​พูด​ด้วย​สีหน้า​ราบเรียบ​ ​”​ใต้เท้า​จาง​น่าจะ​รู้​ถึง​พฤติกรรม​ของ​บุตรชาย​ดีกว่า​ข้า​ ​คนรัก​ทั้ง​สาม​ของ​เขา​คน​หนึ่ง​สมัครใจ​ ​คน​หนึ่ง​ไม่​สมัครใจ​ ​และ​อีก​คน​หนึ่ง​ก็​เป็น​เพียง​ของเล่น​สำหรับ​เขา​ ​ใต้เท้า​จาง​ ​ท่าน​ปกป้อง​บุตรชาย​มานาน​ ​ท่าน​เอง​ก็​น่าจะ​ระวังตัว​เอาไว้​ให้​ดี​เวลา​ที่​ออก​ไป​ข้างนอก​ตอนกลางคืน​ ​ใคร​จะ​รู้​ ​อาจมี​ใคร​บางคน​สะกดรอย​ตาม​ท่าน​เพื่อ​แก้แค้น​ก็ได้​…​”