War sovereign Soaring The Heavens – ตอนที่ 2024
ตอนที่ 2,024 : การใช้อำนาจโดยมิชอบ!

“ศิษย์ที่แท้จริงคนอื่นสามารถสมัครเข้าทำงานที่หอคุมกฏได้ แต่เจ้าต้วนหลิงเทียนไม่อาจทำได้”

เมื่อเสียงของอาวุโสเพลิงทองแดงประจำโต๊ะรับรองดังขึ้น ก็ทำให้ทั้งวังชินหั่วตกอยู่ในความเงียบงันทันที

เหล่าศิษย์ชั้นยอดในวังชินหั่วต่างมองสลับไปมาระหว่างอาวุโสเพลิงทองแดงกับต้วนหลิงเทียน ด้วยสายตาอื้ออึงไม่เข้าใจ

เกิดอะไรขึ้น?

ไฉนอาวุโสของหอคุมกฏถึงมากำชับไว้ว่าคนอื่นสามารถทำได้ แต่ต้วนหลิงเทียนทำไม่ได้?

นี่ยังไม่ใช่การใช้อำนาจโดยมิชอบ กลั่นแกล้งรังแกผู้อื่นหรอกเหรอ?

“เพ้ย…นี่มันจะไม่มากเกินไปหน่อยหรือ?”

หลังเหล่าศิษย์ชั้นยอดคืนสติ ทั้งหมดก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวออกมาด้วยความไม่พอใจ เห็นได้ชัดว่าเรื่องนี้พวกมันอยู่ข้างต้วนหลิงเทียน

“ต้องมีลับลมคมในอันใดสักอย่างเป็นแน่! พวกเจ้าไม่คิดว่ามันแปลกหรือ? ไฉนอาวุโสหอคุมกฏถึงได้มากำชับอะไรแบบนี้? คนอื่นทำได้แต่ต้วนหลิงเทียนทำไม่ได้เนี่ยนะ? ไม่ใช่จงใจหาเรื่องต้วนหลิงเทียนโดยเฉพาะเลยรึไง?”

ไม่นานเหล่าศิษย์ชั้นยอดก็เริ่มคุยกันอย่างสงสัย

“เรื่องนี้แปลกยิ่ง คล้ายต้วนหลิงเทียนไปทำให้อาวุโสของหอคุมกฏคนนั้นไม่พอใจอะไรสักอย่าง มันถึงได้เจาะจงเล่นงานต้วนหลิงเทียนคนเดียวแบบนี้”

เหล่าศิษย์ชั้นยอดเริ่มคาดเดา

“ต้วนหลิงเทียนนับว่าหาเรื่องเก่งนัก ตอนนี้ไม่พ้นต้องไปมีเรื่องอะไรกับหอคุมกฏแน่นอน! หาไม่แล้วอาวุโสของหอคุมกฏคงไม่ทำแบบนี้! ดูท่ามันคงไม่มีหวังได้ไปทำงานที่หอคุมกฏแล้วล่ะ…”

บางคนส่ายหัวไปมา คิดไปว่าต้วนหลิงเทียนต้องไปก่อเรื่องอะไรไว้แน่ๆ

“อย่างไรก็ตามอาวุโสของหอคุมกฏคนนั้นจะไม่ทำเกินไปหน่อยหรือไง? นี่มัน ‘ใช้อำนาจโดยมิชอบ’ ชัดๆ! หากไม่มีเหตุผลอันสมควรมารองรับ ไหนเลยจะมาตัดสิทธิ์ต้วนหลิงเทียนเช่นนี้ได้!!”

“หากข้าเป็นต้วนหลิงเทียน เรื่องนี้ข้าต้องเอาไปฟ้องร้องที่หอคุมกฏแน่! เพราะนี่มันจะรังแกกันเกินไปแล้ว!!”

“ข้าคิดว่า..ลองอาวุโสคุมกฏผู้นั้นกล้าสั่งมาแบบนี้ มันต้องหาเหตุผลไว้รองรับแล้วล่ะ! เกรงว่าต่อให้ต้วนหลิงเทียนไปฟ้องร้องจริงก็คงไร้ประโยชน์!!”

“ข้าก็คิดเช่นนั้น! ในฐานะอาวุโสของหอคุมกฏ อยู่ดีๆคงไม่กล้าตัดสิทธิ์ต้วนหลิงเทียนอย่างไร้เหตุผลหรอก! ไหนเลยจะเปิดช่องให้ต้วนหลิงเทียนฟ้องร้องเอาผิดได้!”

……

บรรยากาศภายในวังชินหั่วเงียบไปได้ไม่ทันไร ก็เริ่มกลับมาฮือฮาอีกครั้ง

เหล่าศิษย์ชั้นยอดทั้งหลายต่างคาดเดากันไปเรื่อยเปื่อยว่าต้วนหลิงเทียนไปก่อเรื่องอะไรมากันแน่ อาวุโสหอคุมกฏถึงได้มาจำกัดสิทธิ์ของต้วนหลิงเทียนแบบนี้

ในขณะที่เหล่าศิษย์ชั้นยอดเริ่มคุยกันเสียงดัง ด้านต้วนหลิงเทียนก็ได้สติกลับคืนเช่นกัน

หลังรู้สึกตัว สีหน้าเขาก็มืดดำลงทันใด

อาวุโสหอคุมกฏที่สั่งไว้ เห็นได้ชัดว่าจงใจขัดขาเขาโดยเฉพาะ!

จังหวะนี้แม้ต้วนหลิงเทียนไม่ทราบว่าอาวุโสหอคุมกฏที่ขัดขาเขาเป็นใคร แต่ในใจอดไม่ได้ที่จะบังเกิดเพลิงโทสะขึ้นมา!

เพลิงโทสะดังกล่าวยังลุกโหมรุนแรงปานจะแผดเผาได้ทุกสรรพสิ่ง!

“อาวุโส…ข้าสงสัยนักว่าอาวุโสของหอคุมกฏที่มากำชับว่าไม่ให้ข้าทำงานคนนั้นมันมีเหตุผลอะไร? เงื่อนไขของหอคุมกฏไมใช่ว่าขอเพียงเป็นศิษย์ที่แท้จริงและไม่ได้ทำงานในหอคุมกฏครบ 3 เดือนก็เข้าทำงานได้หรอกหรือ?”

หลังสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ต้วนหลิงเทียนเลือกจะกล่าวถามอาวุโสเพลิงทองแดงเบื้องหน้าไปเสียงหนัก

กระทั่งยามเอ่ยคำ ‘ศิษย์ที่แท้จริง’ เขายังเน้นเสียงหนักเป็นพิเศษ

“ข้าเองในเมื่อเป็นศิษย์ที่แท้จริงคนหนึ่ง นับว่าตรงตามเงื่อนไขสมัครทำงานอย่างสมบูรณ์! เช่นนั้นข้าสงสัยนักว่าอาวุโสคนนั้นมีเหตุผลอะไรถึงต้องยกเว้นข้า!?”

ต้วนหลิงเทียนกล่าวถามอีกครั้ง ด้วยน้ำเสียงคาดคั้น

เผชิญหน้ากับคำถามของต้วนหลิงเทียนด้วยน้ำเสียงคาดคั้น อาวุโสเพลิงทองแดงพลันขมวดคิ้วย่นยู่

หากเป็นศิษย์ที่แท้จริงคนอื่นกล้าตั้งคำถามมันด้วยน้ำเสียงแบบนี้ มันย่อมบันดาลโทสะตะคอกขับไล่อีกฝ่ายไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม ต้วนหลิงเทียนที่อยู่เบื้องหน้าคือตัวตนที่เอาชนะได้กระทั่งศิษย์ที่แท้จริงอันดับ 9 ในทำเนียบยอดฝีมือ! พลังฝีมือของอีกฝ่ายนับว่าสูงส่งกว่ามันไม่น้อย!!

ในโลกที่ผู้เข้มแข็งเป็นใหญ่ มันย่อมไม่กล้าขึ้นเสียงหรือใช้อารมณ์กับศิษย์ที่มีพลังฝีมือสูงกว่ามัน

“อาวุโสท่านอย่าได้บอกข้า…ว่ากระทั่งเหตุผลดีๆ อาวุโสของหอคุมกฏคนนั้นยังไม่ได้บอกท่าน? เช่นนั้นมันถือสิทธิ์อะไรมาตัดสิทธิ์ข้าไม่ให้เข้าทำงานที่หอคุมกฏ!?”

ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกเสียงเข้ม สีหน้าจากที่เคยสงบก็แปรเปลี่ยนเป็นเย็นชา

และต้วนหลิงเทียนกล่าวประโยคนี้ไม่ทันขาดคำ…

“โอหัง!”

พลันมีเสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านในวังชินหั่วโดยที่อาวุโสเพลิงทองแดงไม่ทันได้ตอบคำ

ครู่ต่อมาทุกคนก็หันไปมองร่างชาย 2 คนที่ก้าวเดินออกมาจากด้านในวังชินหั่ว

ผู้ที่กล่าวคำเสียงดังเมื่อครู่ก็คือชายหนุ่มที่เดินนำหน้า

ชายหนุ่มผู้นี้มาในชุดอาวุโสเพลิงทองแดงของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ รูปร่างหน้าตาของมันธรรมดาไม่มีอะไรโดดเด่น

และเมื่อทุกคนหันไปให้ความสนใจ มันก็กล่าวออกมาอีกครั้งเสียงเย็น “ข้านี่ล่ะเป็นคนที่สั่งห้ามมิให้เจ้าเข้าทำงานที่หอคุมกฏ ทำไม? เจ้าไม่พอใจรึ?”

โอ!

หลังที่มันกล่าววาจาประโยคนี้ออกมา เหล่าศิษย์ชั้นยอดบางคนที่จดจำมันได้ก็รีบกล่าวทักทายออกไปทันที

“อาวุโสต่งหลิน!”

เมื่อได้ยินคำทักของศิษย์ชั้นยอดผู้นั้น เหล่าศิษย์ในวังชินหั่วก็จดจำอัตลักษณ์ของผู้มาได้ทันที

“ที่แท้เป็นอาวุโสต่งหลินนี่เองที่ตัดสิทธิ์ไม่ให้ต้วนหลิงเทียนเข้าทำงานที่หอคุมกฏ…สวรรค์! อย่าบอกข้านะต้วนหลิงเทียนเผลอไปล่วงเกินมันเข้า?”

“เช่นนั้นก็ย่ำแย่แล้ว! อาวุโสต่งหลินเป็นถึงบุตรชายของรองจ้าวหอคุมกฏลัทธิบูชาไฟเรา! ถึงแม้ตอนนี้มันจะเป็นแค่อาวุโสเพลิงทองแดง ทว่ากระทั่งอาวุโสเพลิงเงินในลัทธิบูชาไฟเราส่วนใหญ่ยังไม่กล้าขัดใจมันด้วยซ้ำ นับประสาอะไรกับศิษย์ที่แท้จริง!”

“ข้าไม่ทราบจริงๆว่าต้วนหลิงเทียนไปล่วงเกินมันที่ใด…แต่หากล่วงเกินมันจริง คิดทำงานในหอคุมกฏเช่นนี้นับว่าฝันเฟื่องแล้วจริงๆ!”

“อย่างไรก็ตามต่อให้ต่งหลินจะเป็นอาวุโสเพลิงทองแดงและมีบิดาเป็นรองจ้าวหอคุมกฏ ทว่ามันก็ต้องมีเหตุผลอันควรที่ตัดสิทธิ์ต้วนหลิงเทียน หาไม่แล้วก็ถือว่ามันใช้อำนาจโดยมิชอบ!”

“ข้าเองก็สงสัยเช่นกันว่ามันมีเหตุผลอะไรกันแน่ในการตัดสิทธิ์ต้วนหลิงเทียน เพราะในฐานะบุตรชายของรองจ้าวหอคุมกฏมันย่อมรู้ดีว่าโทษของการใช้อำนาจมิชอบหนักหนาเพียงใด ต่อให้มีบิดาให้ท้ายก็ยากจะรอดพ้นความผิดนี้ไปได้”

เหล่าศิษย์ชั้นยอดในวั้งชินหั่วเริ่มกระซิบคุยกันถึงเรื่องนี้ด้วยความสงสัย

ในวาจาของพวกมันบอกชัดเจน ว่าต่อให้อาวุโสต่งหลินผู้นี้จะมีบิดาเป็นรองจ้าวหอคุมกฏ แต่มันก็ไม่อาจใช้อำนาจมิชอบได้โดยไร้ความผิด เช่นนั้นอีกฝ่ายสมควรมีเหตุผลรองรับที่ตัดสิทธิ์ต้วนหลิงเทียนเป็นแน่!

“ต่งหลิน ลูกชายรองจ้าวหอคุมกฏ?”

ต้วนหลิงเทียนย่อมได้ยินเสียงกระซิบคุยกันของเหล่าศิษย์ชั้นยอดชัดถนัดหู

ทันใดนั้นสีหน้าของเขาก็มืดลงทันใด แววตาที่ใช้มองต่งหลินยังเย็นเยียบมากขึ้นเรื่อยๆ

“เจ้าคืออาวุโสต่งหลิน? ไม่ทราบข้าไปทำผิดอะไรต่อเจ้า…ไฉนเจ้าถึงได้ตัดสิทธิ์ข้า?”

ต้วนหลิงเทียนกล่าวถามออกไปเสียงเรียบ

“อะไร? เจ้าถามเช่นนี้ใช่กำลังไม่พอใจข้าอยู่หรือไม่? หรือนี่เจ้ากำลังคิดว่า เรื่องนี้เป็นข้าที่จงใจเล่นงานเจ้าโดยเฉพาะ?”

เจอคำถามดังกล่าวของต้วนหลิงเทียน ไม่เพียงต่งหลินจะไม่ตอบดีๆ กลับย้อนถามด้วยน้ำเสียงเย้ยเยาะ

ถึงแม้ว่ามันจะจงใจเล่นงานต้วนหลิงเทียนโดยเฉพาะจริงๆ แต่มันก็ไม่คิดจะกล่าวออกมา

หาไม่แล้วต่อให้มันเป็นถึงลูกชายของรองจ้าวหอคุมกฏ แต่โทษทัณฑ์ที่มันจะได้รับเพราะใช้อำนาจโดยมิชอบก็หนักหนาเกินไป กระทั่งบิดามันก็ช่วยไม่ได้!!

“เอ๋! นั่นมันศิษย์พี่เฉินเผิงมิใช่รึ?”

ในขณะเดียวกันสายตาของเหล่าศิษย์ชั้นยอดบางคนก็เหลือบไปตกยังร่างที่เดินตามต่งหลินมา และมันก็จดจำได้ทันทีว่าเป็นใคร

ชายหนุ่มคนนี้หน้าตาแลดูธรรมดาๆเหมือนกับต่งหลิน

ทว่าเครื่องแต่งกายของมันบ่งบอกให้รู้ว่ามันเป็นศิษย์ที่แท้จริงคนหนึ่ง และตอนนี้มันก็จับจ้องมองไปยังต้วนหลิงเทียนไม่วางตา แถมในสายตายังเผยจิตฆ่าฟันออกมาอย่างไม่คิดจะกักเก็บ!

“ข้าเคยได้ยินมา…ศิษย์พี่เฉินเผิงกับอาวุโสต่งหลินคล้ายเป็นสหายสนิทกันมาเนิ่นนาน…ดูเหมือนเรื่องนี้จะเป็นความจริง”

ศิษย์ชั้นยอดคนหนึ่งอุทานออก

“ข้าจำได้แล้ว! ศิษย์พี่เฉินเผิงเป็นศิษย์ของอาวุโสเพลิงเงินอันดับ 1 ของแท่นบูชาเต่าทมิฬ อาวุโสหลี่อัน! ดูเหมือนว่าเรื่องที่อาวุโสต่งหลินจงใจเล่นงานต้วนหลิงเทียนจะไม่ใช่ไม่มีเหตุผลเสียแล้ว!!”

ศิษย์ชั้นยอดอีกคนหนึ่งกล่าวออก

“ข้าก็กำลังสงสัยอยู่ไม่น้อยว่าต้วนหลิงเทียนไปล่วงเกินอาวุโสต่งหลินที่ใด…ที่แท้สมควรเป็นเพราะศิษย์พี่เฉินเผิง”

“จะอย่างไรศิษย์พี่เฉินเผิงก็เป็นศิษย์คนเล็กของอาวุโสหลี่อัน…ต้วนหลิงเทียนฆ่าศิษย์ของศิษย์คนโตอาวุโสหลี่อันไป กล่าวได้ว่าเสมือนฆ่าศิษย์หลานของศิษย์พี่เฉินเผิง อีกทั้งเพราะเรื่องนี้ยังเป็นสาเหตุการตายของศิษย์คนโตอาวุโสหลี่อันอย่างเว่ยเหอ กล่าวไปก็เหมือนต้วนหลิงเทียนฆ่าศิษย์พี่ใหญ่ของมันโดยอ้อม! จะคิดแค้นต้วนหลิงเทียนเข้าไส้ก็ไม่แปลกอะไร”

“ที่แท้เพราะมันเคียดแค้นต้วนหลิงเทียน จึงขอแรงอาวุโสต่งหลินให้ช่วยเหลือนี่เอง…เช่นนั้นเรื่องนี้ก็มีคำอธิบายที่รวบรัดนัก!”

“อย่างไรก็ตามแม้อาวุโสต่งหลินจะยินดีช่วยมัน แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะตัดสิทธิ์ต้วนหลิงเทียนได้โดยไร้เหตุผล เพราะนั่นจะถือเป็นการใช้อำนาจโดยมิชอบ! ข้าล่ะสงสัยนักว่ามันตัดสิทธิ์ต้วนหลิงเทียนเพราะเรื่องใด มิว่ายังไงต้วนหลิงเทียนก็เป็นศิษย์ที่แท้จริงคนหนึ่งซึ่งตรงตามเงื่อนไขแล้วแบบนี้!”

……

หลังศิษย์ชั้นยอดหลังจดจำอัตลักษณ์ของเฉินเผิงได้ พวกมันก็หันไปมองต่งหลินอีกครั้ง ด้วยอยากรู้ว่าต่งหลินอาศัยอะไรมาตัดสิทธิ์การสมัครเข้าทำงานในหอคุมกฏของต้วนหลิงเทียน

เพราะสุดท้ายแล้วเงื่อนไขที่หอคุมกฏตั้งมาก็คือต้องเป็นศิษย์ที่แท้จริง และในช่วงเวลา 3 เดือนก่อนหน้าไม่ได้ทำงานในหอคุมกฏเท่านั้น ซึ่งเงื่อนไขทั้ง 2 ข้อ ต้วนหลิงเทียนก็ผ่านครบถ้วนสมบูรณ์

ทว่าต่งหลินกลับสอดมือมายุ่งเรื่องตัดสิทธิ์ต้วนหลิงเทียนด้วยตัวเอง!

“เจ้าจะบอกว่าเจ้าไม่ได้เจาะจงเล่นงานข้า?”

ต้วนหลิงเทียนละสายตาจากเฉินเผิงมามองต่งหลินอีกครั้ง ค่อยถามออกไปเสียงหนักด้วยรอยยิ้มเย็นชา

หลังได้ยินเสียงกระซิบโดยรอบของเหล่าศิษย์ในวังชินหั่ว ต้วนหลิงเทียนก็ทราบได้ทันทีว่าไฉนต่งหลินถึงได้เจาะจงเล่นงานเขา ทั้งหมดเป็นเพราะมันออกหน้าแทนสหาย!

สหายของมันเฉินเผิงนั่น…นอกจากเป็นศิษย์ที่แท้จริงแล้ว ยังเป็นศิษย์ส่วนตัวคนเล็กของอาวุโสหลี่อัน!

และหลี่อันก็เป็นศัตรูเขา!

ยังเป็นศัตรูที่ไม่อาจอยู่ร่วมโลกเดียวกันได้!

“ย่อมไม่ใช่!”

ได้ยินคำถามของต้วนหลิงเทียน ต่งหลินพลันระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างสนุกสนาน ค่อยมองเหยียดกล่าวออกด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน “เหตุผลที่ข้าตัดสิทธิ์เจ้ามิให้เข้าทำงานในหอคุมกฏทั้งๆที่เจ้าเป็นศิษย์ที่แท้จริงคนหนึ่ง…เพราะมิอยากให้เกียรติและความศักดิ์สิทธิ์ของหอคุมกฏข้าถูกเจ้าทำให้เสื่อมเสีย!”

“เจ้ารู้หรือไม่? ว่าในประวัติศาสตร์ของหอคุมกฏเรานั้น…พวกเรามิเคยยอมรับคนที่มีพรสวรรค์รากวิญญาณเพียงแค่รากวิญญาณสีเหลืองเข้าทำงานมาก่อนเลย!!”

ต่งหลินกล่าวเสียงดังฟังชัด ยังฟังดูดีมีเหตุผลไม่น้อย