บทที่ 684 หรือชอบเหยาเอ้อหลาง

ทะลุมิติไปเป็นแม่ของวายร้ายทั้งสาม

บทที่ 684 หรือชอบเหยาเอ้อหลาง?

บทที่ 684 หรือชอบเหยาเอ้อหลาง?

“เวลาพูดกับพี่ข้า เจ้าช่วยวางตัวให้เหมาะสมหน่อย ทำเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร !”

เหยาเอ้อหลางมองสาวน้อยตรงหน้า นิสัยของนางโผงผาง ช่างแตกต่างจากผู้เป็นพี่ชายโดยสิ้นเชิง พี่ชายของนางเคร่งขรึมกว่านางมากโข

“ต้าชุน แม้ว่าเราจะไม่รู้จักกัน แต่อย่างน้อยก็เคยได้ยินชื่อเสียงของกันและกัน จับข้ามาแบบนี้จะให้ข้าท่องยุทธภพต่อไปอย่างไร?”

เหยาเอ้อหลางพะว้าพะวังกับเรื่องที่ถูกคนจับตัวมายังจวนของพวกเขาอยู่ในใจ เพราะวิธีนี้แลดูไม่ชอบมาพากลยิ่งนัก

เพียงแต่ในสายตาของปี้ชุน เหยาเอ้อหลางเป็นอันธพาลที่ตระกูลกำลังประกาศหาตัว ไม่ว่าเขาจะเป็นเจ้ากรมเมืองจิงจ้าวหรืออะไรก็แล้วแต่ ปี้ชุนก็ไม่เคยเห็นเขาอยู่ในสายตา

“เจ้าก็ยังเป็นนักโทษทีตระกูลของเจ้าประกาศหาตัว ถ้าเจ้าพูดจาเหลวไหลอีกคำเดียว ข้าให้ท่านพี่ส่งเจ้ากลับจวนให้พ่อเจ้าจัดการแน่!”

“เจ้า!”

ทั้งสองคนเจอหน้ากันทีไรเป็นอันต้องจิกกัดกันทุกที ไม่มีท่าทีจะหยุดสักอึดใจเดียว หัวสมองของต้าชุนองครักษ์พิทักษ์เมืองปั่นป่วน เพราะการทะเลาะของสองคนนี้

ต้าชุนมองปี้ชุนน้องสาวของตน ก่อนจะขยิบตาให้นาง

“ปี้ชุน เรื่องนี้เจ้าทำไม่ถูก เจ้าจับตัวเขากลับมาทำไม? องครักษ์เหล่านั้นคอยคุ้มกันความปลอดภัยของเจ้า แต่เจ้ากลับจับคนผู้นี้กลับมา!”

ปี้ชุนบ่นอุบอิบ ตอนนั้นนางไม่ได้คิดอะไรมาก ใครใช้ให้เหยาเอ้อหลางเย่อหยิ่งเกินไปเล่า ปี้ชุนทนไม่ได้เลยจับตัวเขากลับมา

ต้าชุนมีสีหน้ารู้สึกผิด และมองเหยาเอ้อหลางด้วยความเสียใจ

“เจ้ากรมเมืองจิงจ้าวถูกเชิญมาถึงจวนของข้าเช่นนี้ ไม่ค่อยสมเกียรตินัก มิเช่นนั้นข้าขอเชิญเจ้าอยู่กินอาหารด้วยกันเป็นการไถ่โทษนะขอรับ”

ท่าทีของต้าชุนดูเป็นมิตรมาก แต่เหยาเอ้อหลางกลับไม่ศรัทธา ถูกคนพาตัวมาอย่างง่ายดายแถมยังรั้งให้อยู่กินข้าวด้วย เขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?

“ไม่กิน”

เขาย่างเท้าเตรียมออกไป แต่แล้วเสียงของปี้ชุนก็ดังขึ้นอย่างเย็นเยียบ “เจ้าออกไปตอนนี้ทั้งเมืองมีแต่คนตามหาตัวเจ้า เพื่อจะได้ตัวเจ้า พ่อของเจ้ายอมทุ่มสุดตัว ยิ่งหาตัวเจ้าไม่เจอ ใต้เท้าเหยาเฉาก็ยิ่งโกรธเกรี้ยว”

“จู่ ๆ เหยื่อที่เขาต้องการก็ปรากฏตัว เจ้าลองเดาสิว่าใต้เท้าจะโกรธหรือไม่โกรธ?”

เหยาเอ้อหลางจมอยู่ในความเงียบ พ่อของเขาจำใจต้องโหดเหี้ยมกับเหยาเอ้อหลาง กระทำสิ่งต่าง ๆ อย่างไร้ความปรานี

ต้าชุนเห็นดังนั้นจึงพยายามโน้มน้าวเหยาเอ้อหลาง “ข้าจะบอกอะไรให้นะสหายข้า ในเมื่อข้างนอกมีอุปสรรคมากมายเพียงนั้นแล้ว สู้อยู่ในจวนเล็ก ๆ ของข้าจะดีเสียกว่า ถือว่าเรารู้จักกันแล้ว”

เขาเงียบอยู่นานมาก สุดท้ายก็ฝืนพยักหน้าเห็นด้วยอย่างยากลำบาก

การรั้งให้อยู่ที่นี่ต่อไม่ใช่เรื่องน่าลำบากใจนักสำหรับเหยาเอ้อหลาง เพียงแต่คุณหนูใหญ่ผู้นี้ของพวกเขาช่างน่าปวดหัวยิ่งนัก

“ก็ได้”

“ถ้าเจ้าลำบากใจ เจ้าก็ไม่ต้องอยู่ ประตูใหญ่อยู่ข้างนอก เจ้าเดินออกไปได้เลย”

ปากของปี้ชุนยังจิกกัดไม่เลิก เมื่อครู่เหยาเอ้อหลางเตรียมจะตอบกลับ แต่ต้าชุนก็ยกมือโอบไหล่ที่แข็งแรงกำยำของเขาเดินเข้าไปในห้องโถงทันที

“เอาล่ะ ๆ อย่าไปถือสากับเด็กผู้หญิงนักเลย ข้าดื่มฉลองให้เจ้าดีกว่า เป็นการไถ่โทษให้สาวน้อยของข้าด้วย”

คนกลุ่มหนึ่งนั่งอยู่ข้างโต๊ะดื่มสุรา ครั้นเหยาเอ้อหลางเห็นอาหารอันโอชะเต็มโต๊ะ อารมณ์ก็พลันหวั่นไหว

นับตั้งแต่ออกมาได้สองสามวันนี้ เขายังไม่ได้กินอะไรดี ๆ เลย จึงกินตามใจปากสองสามคำเท่านั้น

ต้าชุนรินสุราให้เขา พลางเอ่ยกับสหายน้องรักว่า “ข้าคือเจ้ากรมเมืองจิงจ้าว ตำแหน่งเจ้าก็ดีกว่าข้า”

เหยาเอ้อหลางกระดกสุราลงท้อง เป็นเพราะเริ่มเมาแล้ว เขาจึงต้องโบกมือยอมแพ้

“ไม่เห็นจะมีอะไรดีเลย ถกเถียงกับตาเฒ่านั่นได้ทุกวัน เจ้าว่าข้ารีบได้หรือไม่ล่ะ”

ไม่ว่าจะทำสิ่งใด เหยาเอ้อหลางก็มักจะถูกเหยาเฉาจับตามองอยู่เสมอโดยไม่คลาดสายตาแม้แต่นิดเดียว

ต้าชุนยิ้มพลางรินสุราใส่จอกที่ว่างเปล่าให้เหยาเอ้อหลาง เขาและเหยาเอ้อหลางเข้าขากันได้ดี เหมือนเป็นพี่น้องที่วนมาเจอกันอีกครั้ง

เสวนาตั้งแต่เรื่องงานมาจนถึงเรื่องครอบครัว ทั้งสองพูดคุยกันทุกเรื่อง

ปี้ชุนกินอาหารเสร็จก็ยังนั่งฟังบทสนทนาของทั้งสองคน ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยอย่างไม่เกรงใจ “บุรุษดื่มสุราแล้วต้องติดลมเพียงนี้เลยรึ? เหมือนกับว่าใต้หล้านี้มีแต่พวกเจ้า?”

“พูดจาเหลวไหลจริง”

เหยาเอ้อหลางตบโต๊ะเสียงดัง สายตาคู่นั้นจับจ้องมาทางแม่นางน้อยผู้นี้ไม่วางตา นางช่างงดงามยิ่งนัก แต่ฝีปากแรงกล้าเกินจะให้อภัย

ต้าชุนคิดว่าเหยาเอ้อหลางจะก่อเรื่อง จึงรีบดึงตัวเหลาเอ้อหลางไว้

“นั่นน้องสาวของข้า เจ้าอย่าคิดไม่ดีเชียวนะ นางยังเด็ก”

เหยาเอ้อหลางสูงกว่าต้าชุนไม่น้อย รูปร่างก็ยังล่ำสันยิ่งกว่า เขาไม่เชื่อคำพูดของต้าชุน

เขาจึงรีบสลัดออกจากการพันธนาการของต้าชุน ตอนที่เดินมาข้างกายของปี้ชุนนั้นนางไม่มีท่าทีหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย

เหยาเอ้อหลางเดินผ่านปี้ชุนไป หยิบดาบที่วางอยู่ในห้องโถงกลางขึ้นมา

เขาตวัดดาบไปมา แล้วเดินไปยังลานกว้าง

เหยาเอ้อหลางมองไปยังต้าชุน “เจ้าเลี้ยงอาหารข้า เช่นนั้นข้าจะร่ายดาบสร้างความบันเทิงให้เจ้า”

อาจเพราะฤทธิ์สุรา เขาถึงกล้าแสดงความสามารถ วนเวียนอยู่ท่ามกลางกลีบดอกไม้ที่ร่วงโรย

ครั้นปี้ชุนเห็นบุรุษผู้นี้ ในใจเกิดการสั่นคลอนด้วยความหวั่นไหว

นางรู้ว่าพี่ชายมีวิทยายุทธ์ แต่พี่ชายของตนไม่ถนัดควงดาบ ควบได้แต่รูปแบบขั้นพื้นฐานเท่านั้น

ครั้นได้เห็นเหยาเอ้อหลางในตอนนี้ จึงได้รู้ว่าอะไรที่เรียกว่าเหนือคนยังมีคน เหนือภูเขายังมีภูเขา

”สหายข้า เจ้าทำให้ตาลุกวาวได้เก่งเชียวนะ เรามาดื่มฉลองกันอีกสองเหยือกแล้วกัน!”

ต้าชุนวิ่งเข้ามาในลานกว้าง ลากตัวเหยาเอ้อหลางมาดื่มสุราอีกสองเหยือก สุดท้ายก็ดื่มไม่ไหว ทั้งสองคนจึงล้มพับอยู่ในลานกว้าง

ปี้ชุนเห็นชายใหญ่ทั้งสองคนก็ได้แต่จนปัญญา

“พวกเจ้าก็โตกันแล้ว ทำไมถึงไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจมากกว่านี้! ทหาร มานำตัวท่านพี่กลับเข้าห้อง พาเหยาเอ้อหลางส่งห้องรับรอง”

“ขอรับ คุณหนูใหญ่”

พริบตาเดียวที่เหยาเอ้อหลางถูกลากออกไป สายตาของเขาได้จ้องเขม็งมาที่ปี้ชุน เขาจำใจต้องเดินมาข้างกายของปี้ชุน

ดวงตาคู่นั้นได้จ้องเขม็งมายังปี้ชุนอย่างจริงจัง แม้แต่ปี้ชุนก็ยังไม่เคยถูกชายใดมองด้วยสายตาแบบนี้ ใบหน้าจึงแดงระเรื่อ

“เจ้าจ้องข้าทำไม?”

“เจ้างดงามมาก เป็นหญิงสาวที่มีกิริยางดงาม ช่างเก่งยิ่งนัก

ได้ยินเพียงประโยคในท่อนแรก ปี้ชุนก็กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจแล้ว แต่ใบหน้ายังคงนิ่งสงบราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็มิปาน

“กะล่อน รีบเข้านอนเถอะ มิเช่นนั้นข้าจะให้คนตระกูลเหยามารับตัวเข้ากลับไป!”

เหยาเอ้อหลางถูกลากตัวมายังห้องรับรองแขก ปี้ชุนมองแผ่นหลังเขาอย่างเหม่อลอย

สาวใช้ผู้หนึ่งกระซิบข้างหูของปี้ชุน “คุณหนู ท่านมองใจคนได้อย่างทะลุปรุโปร่ง คุณชายเหยาดึงดาบออกมาเมื่อครู่ตั้งใจหยอกเย้าคุณหนูใหญ่ใช่หรือไม่?”

สาวใช้ข้างกายหยอกเย้าปี้ชุน แต่ปี้ชุนไม่ได้ใส่ใจกับการเยาะเย้ยของพวกเขาแม้แต่น้อย

ต้องยอมรับ เหยาเอ้อหลางเป็นเช่นนั้นจริง ชื่อเสียงของเจ้ากรมเมืองจิงจ้าวไม่นับว่าเปล่าประโยชน์

“ส่งคนมาดูแลเหยาเอ้อหลางให้ดี เขาดื่มสุรามากเกินไป อย่าให้แขกของข้าไม่ได้รับการต้อนรับที่ดีจากจวนเราเด็ดขาด

สาวใช้ข้างกายกลั้นหัวเราะไม่ไหว กระทั่งมีคนเยาะเย้ยปี้ชุน “คุณหนูดูสนใจเหยาเอ้อหลางมากเกินหรือไม่เจ้าคะ? หรือว่าชอบเหยาเอ้อหลางแล้ว?”

ปี้ชุนได้สติกลับมาเพราะความหมายของพวกเขา กระทั่งหน้าแดงระเรื่อจนรีบปฏิเสธ “พวกเจ้าพูดอะไร ข้าจับเขามา ก็ต้องไถ่โทษให้ดีไม่ใช่รึ? หลีกเลี่ยงไม่ให้มีข่าวแพร่ออกไปภายหลังว่าข้าเป็นสตรีปากจัด”

นางวิ่งกลับห้อง แล้วขังตัวเองไว้ภายใน แต่ในหัวสมองเอาแต่นึกถึงท่วงทางควงดาบอันงดงามของเหยาเอ้อหลางเมื่อครู่

นางจำชื่อของเขาได้ และยังจำตำแหน่งหน้าที่ของเขาได้ ปี้ชุนยิ่มอย่างเข้าใจ

“ช่างเหมาะสมกับข้ายิ่งนัก”

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

มีสาวน้อยมาหลงเสน่ห์ของเหยาเอ้อหลวงตัวดีแล้วเหรอคะเนี่ย

ไหหม่า (海馬)

——————————————–