ตอนที่ 1357 หรือนี่จะเป็นความฝัน (3) ตอนที่ 1358 หรือนี่จะเป็นความฝัน (4)

ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร

ตอนที่ 1357 หรือนี่จะเป็นความฝัน (3) / ตอนที่ 1358 หรือนี่จะเป็นความฝัน (4)
ตอนที่ 1357 หรือนี่จะเป็นความฝัน (3)

แต่ทันใดนั้น เยี่ยเม่ยก็จับเขาขึ้นมาและโจมตีเขาอย่างโหดเหี้ยมต่อไป การโจมตีชุดใหญ่ที่ปล่อยออกมาทำให้พวกผู้เยาว์อย่างเฉียวฉู่และคนอื่นๆ ที่มุงดูอยู่รอบๆ ช่องด้านบนอ้าปากค้างซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยความตกใจ!

เด็กหนุ่มยังคงตกตะลึงกับการโจมตีเป็นชุดอย่างต่อเนื่องของเยี่ยเม่ย การโจมตีที่ดูเหมือนรุนแรงกลับสร้างความเสียหายให้ร่างกายเขาแค่เล็กน้อยเท่านั้น ถ้าเขาป้องกันขึ้นมาละก็ การโจมตีพวกนั้นจะไม่สามารถทำอะไรเขาได้เลยแม้แต่เส้นผมสักเส้น การโจมตีดูเหมือนรุนแรงโหดเหี้ยม แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นจริงก็แค่อย่างนั้นๆ

“เจ้าทำบ้าอะไรเนี่ย!” เด็กหนุ่มตะโกนอย่างสับสนพร้อมขมวดคิ้ว เขามองเยี่ยเม่ยที่ดูเหมือนเตรียมต่อสู้กับเขาจนถึงตาย แล้วสงสัยว่าน้ำเข้าไปในสมองของเยี่ยเม่ยหรืออย่างไร พวกเขาไม่ได้เจอกันนานขนาดนี้ ยังไม่ทันมีโอกาสได้พูดคุยถึงช่วงเวลาเก่าๆ กัน เยี่ยเม่ยก็พุ่งเข้าโจมตีเขาแล้ว!

เยี่ยเม่ยไม่ตอบ แต่การโจมตีของเขากลับทวีความรุนแรงขึ้นแทน ทำให้เด็กหนุ่มเริ่มโกรธขึ้นมาบ้างแล้ว

“ไอ้บ้า! ข้าจะไม่นอนอยู่แบบนี้แล้วนะโว้ย!” เด็กหนุ่มโกรธจัด เขากำลังจะตอบโต้แล้ว

ทันใดนั้น เยี่ยเม่ยก็พุ่งเข้าชนเด็กหนุ่ม และทั้งสองก็กระเด็นลอยไปที่มุมหนึ่งของห้องโถงขนาดใหญ่ซึ่งมองจากช่องด้านบนเพดานไม่เห็น

“นายท่าน! ข้า…”

“เยี่ยกู! นานมากเลยนะ!” เมื่ออยู่ห่างจากสายตาของคนอื่น สีหน้าของเยี่ยเม่ยก็เปลี่ยนไปทันที เขาฉีกยิ้มอย่างดีใจให้กับเยี่ยกูเด็กหนุ่มที่กำลังโกรธจัด

เยี่ยกูตกใจกับสีหน้าที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วของเยี่ยเม่ยและอึ้งอยู่นาน

“พี่น้องข้า ต้องขอโทษจริงๆ เมื่อสักครู่ข้าไม่มีทางเลือก อย่าใส่ใจเลยนะ” เยี่ยเม่ยพูดพร้อมกับฝืนยิ้ม แม้ว่าคำพูดจะฟังดูขอโทษขอโพย แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจสักนิด

อย่าตัดสินเยี่ยกูจากรูปร่างหน้าตาภายนอกของเขาที่ดูเหมือนเด็กอายุสิบเอ็ดสิบสองปีเชียว เยี่ยกูที่ดูเหมือนเด็กคนนี้ จริงๆ แล้วเป็นผู้บัญชาการของกองทัพราตรี!

ในกองทัพราตรี เขาเป็นผู้ที่มีความสามารถในการต่อสู้เป็นอันดับต้นๆ ทั่วทั้งดินแดนเทพมาร มีเพียงคนเดียวที่มีอำนาจมากพอจะอยู่เหนือเยี่ยกูได้ นั่นคือเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิ ถ้าเป็นเมื่อก่อนละก็ เยี่ยเม่ยไม่มีวันกล้าโจมตีเยี่ยกูอย่างวันนี้หรอก แต่สถานการณ์ก็ไม่ให้ทางเลือกอื่นกับเขา

“เกิดอะไรขึ้น เทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิ…ข้าเพิ่งเห็นเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิ…ท่านเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิ…” ในใจของเยี่ยกูยังคงกังวลเรื่องที่ได้เห็นจวินอู๋เย่าเมื่อครู่ จึงไม่ได้สนใจที่จะทะเลาะกับเยี่ยเม่ย

เขาจะไปคิดได้อย่างไรว่าเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิที่เชื่อกันว่าเสียชีวิตไปนานแล้ว จะปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งต่อหน้าเขา ตอนนี้ในหัวเขาจึงระเบิดไปแล้ว!

“เรื่องมันยาว” เยี่ยเม่ยตอบพร้อมกับถอนหายใจเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็สะบัดมือออกและชกไปที่กำแพงข้างๆ ทำให้เกิดเสียงดัง

“เจ้าต้องจำไว้ว่าจะต้องไม่เปิดเผยตัวตนของนายท่าน และจะเปิดเผยเรื่องที่เจ้ารู้จักพวกเราไม่ได้เด็ดขาด นั่นเป็นคำสั่งของนายท่าน” เยี่ยเม่ยเองก็จนปัญญา ตอนที่เห็นเยี่ยกู เขาก็รู้ทันทีว่าไม่ดีแน่แล้ว จึงพุ่งเข้าไปตรึงเยี่ยกูเอาไว้ ถ้าเยี่ยกูพูดคำว่า ‘เทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิ’ ออกมาต่อหน้าทุกคนละก็ จบเห่แน่!

เยี่ยกูมองเยี่ยเม่ยพร้อมกับขมวดคิ้ว หลายปีที่เป็นพี่น้องใกล้ชิดกันมาทำให้เขารู้ได้อย่างรวดเร็วว่าทำไมเยี่ยเม่ยจึงทำเช่นนั้น เขายกเท้าขึ้นและกระทืบลงไปบนพื้นแข็งๆ ทั้งสองคุยกันไปพลาง สร้างเสียงดังเหมือนว่ากำลังต่อสู้กันไปพลาง เพื่อไม่ให้คนอื่นเกิดความสงสัยขึ้นมา

“นายท่าน…สบายดีหรือไม่” เยี่ยกูถามพลางหลุบตาลง

“ทั้งดีและไม่ดี นายท่านมีแผนการของตัวเองอยู่ ไม่ใช่เรื่องที่เราควรจะเข้าไปยุ่ง กองทัพราตรีมีไว้เพื่อทำตามคำสั่งของนายท่าน เราแค่ทำตามคำสั่งไปโดยไม่ต้องตั้งคำถามอะไร” เยี่ยเม่ยตอบพร้อมกับเตือนความจำ

ตอนที่ 1358 หรือนี่จะเป็นความฝัน (4)

เยี่ยกูพูดเย้ยหยันว่า “ตอนที่ข้าเข้ากองทัพราตรี ข้ายังไม่รู้เลยว่าเจ้าอยู่ที่ไหน! ยังต้องให้เจ้ามาสอนข้าด้วยหรืออย่างไรว่าควรจะทำอะไร”

พูดจบ เยี่ยกูก็เตะเยี่ยเม่ยลอยกระเด็นออกไป!

ร่างของเยี่ยเม่ยพุ่งออกไปตรงบริเวณที่มองเห็นได้จากช่องด้านบนหลังคา หน้าท้องของเขาเจ็บจากลูกเตะของเยี่ยกู หยดโลหิตไหลออกมาจากมุมปากของเขา ขณะที่เขาจ้องมองเยี่ยกูที่ยังซ่อนตัวอยู่ที่มุมห้องโถง

เยี่ยกูทำปากพูดแบบไม่ออกเสียงว่า ‘เราต้องแสดงละครให้ดี ต้องให้มันสมจริง’

เยี่ยเม่ยไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เจ้าวายร้ายนั่นฉวยโอกาสจากสถานการณ์แก้แค้นเขาชัดๆ!

แต่เยี่ยเม่ยก็ไม่สามารถส่งเสียงโวยวายออกมาได้

พวกเฉียวฉู่ที่ยืนอยู่บนหลังคาห้องโถงเห็นเยี่ยเม่ยได้รับบาดเจ็บ ก็พากันกระวนกระวายใจมาก พวกเขาอยากจะกระโดดลงไปต่อสู้กับผู้พิทักษ์สุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิ แต่ถูกเยี่ยซาห้ามเอาไว้

ขณะที่เยี่ยเม่ยปลงแล้วว่าเขาจะต้องสู้กับเยี่ยกู ทันใดนั้นเยี่ยกูก็พุ่งเข้ามาตรงบริเวณที่มองเห็นได้จากช่องด้านบนหลังคา

เขาเข้ามาด้วยการ…กลิ้งตัวเข้ามา!

“อ๊ากกก!” เยี่ยกูนอนขดตัวแน่นอยู่บนพื้นพร้อมกับส่งเสียงร้องอย่างเจ็บปวด

เสียงร้องอย่างน่าเวทนานั้น ทำให้เยี่ยเม่ยตกตะลึง

นี่มันเรื่องอะไรกันล่ะเนี่ย

“ร้าย…ร้ายกาจนัก…วันนี้ข้าสู้เจ้าไม่ได้…ข้ายอมรับ…ข้าแพ้เจ้า…” เยี่ยกูพยายามจะพูดคำพวกนี้ออกมาอย่างอ่อนแรง พร้อมกับยันตัวขึ้นนั่ง ใบหน้าครึ่งหนึ่งที่อยู่นอกหน้ากากซีดขาว คนที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นย่อมคิดว่าเขาเพิ่งสู้กับเยี่ยเม่ยอย่างดุเดือดรุนแรง และถูกเยี่ยเม่ยทำให้บาดเจ็บสาหัส

มีเพียงเยี่ยเม่ยเท่านั้นที่รู้สึกรวดร้าวจนแทบจะกระอักโลหิตออกมา

เสแสร้ง!

โคตรของโคตรมารดาเสแสร้งเลย!

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ทำไมถึงไม่เคยสังเกตเห็นพรสวรรค์นี้มาก่อน!

เยี่ยกูนอนลงบนพื้น แสดงสีหน้า ‘ข้าไม่รอดแล้ว ข้าบาดเจ็บหนัก ข้ากำลังจะตาย’

เหตุการณ์ที่พลิกผันอย่างกะทันหัน ทำให้เกิดเสียงโห่ร้องกึกก้องด้วยความตื่นเต้นจากพวกผู้เยาว์ที่อยู่บนหลังคา!

“พี่เยี่ยเม่ยสุดยอดไปเลย!” เฉียวฉู่ตะโกนอย่างตื่นเต้น พร้อมกับยกนิ้วโป้งให้เขา ในใจของพวกเขา อำนาจของดินแดนเทพมารนั้นลึกล้ำและไม่อาจประเมินได้ พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าจะมีวันที่พวกเขาสามารถเอาชนะคนจากดินแดนเทพมารได้ แต่วันนี้ เยี่ยเม่ยก็เอาชนะผู้พิทักษ์สุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิได้อย่าง ‘ง่ายดาย’ เป็นชัยชนะที่ทำให้ทุกคนรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก!

มุมปากของเยี่ยเม่ยกระตุก พอเจอเข้ากับอาการดีอกดีใจเกินพอดีของพวกผู้เยาว์กลุ่มนั้นแล้ว เขาก็ไม่รู้ว่าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน

เขาไม่ได้สุดยอดอะไรขนาดนั้นเลย แต่เพราะเจ้าตัวร้ายเยี่ยกูแสดงดีเกินไปต่างหาก

ถ้าเป็นคนอื่น อาจจะไม่ได้ผลมากนัก

แม้ว่าเยี่ยกูจะแข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ แต่เขาหน้าเด็ก ร่างกายก็เหมือนชายหนุ่มที่ยังไม่โตเต็มที่ ต่อให้มีออร่าของดินแดนเทพมารอยู่กับตัว แต่ในใจผู้คนแล้ว ชายหนุ่มที่ยังไม่โต เป็นไปไม่ได้ที่จะแข็งแกร่งถึงขนาดนั้น ดังนั้นพอเขานอนหน้าซีดอยู่บนพื้นด้วยท่าทางน่าเวทนา จึงยากที่จะแยกความแตกต่างได้ว่าจริงหรือปลอม

ภายใต้เสียงโห่ร้องยินดีและคำชื่นชม เยี่ยเม่ยพยายามที่จะทำสีหน้าให้เหมือนว่าเพิ่งกลับมาจากการต่อสู้ครั้งใหญ่ และพยักหน้าให้พวกของเฉียวฉู่

เยี่ยซาที่เข้าใจทุกอย่างดีได้แต่แอบส่ายหัวไปมา

ผู้พิทักษ์สุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิถูกจับได้แล้ว อุปสรรคใหญ่อีกอย่างในการเข้าสู่สุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิถูกแก้ไขได้แล้ว

จวินอู๋เย่าอุ้มแมวดำตัวน้อยที่ภายในเป็นวิญญาณของจวินอู๋เสีย ลอยลงมาอย่างช้าๆ มายืนอยู่กลางห้องโถงใหญ่ที่พังพินาศ เยี่ยกูที่นอนอยู่บนพื้นพยายามควบคุมตัวเองไม่ให้แสดงสายตาที่ร้อนแรงมากเกินไปขณะที่มองร่างอันสง่างามของเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิ

พวกเฉียวฉู่ก็กระโดดตามลงมา พอลงถึงพื้น ทุกคนก็อ้าปากค้างอย่างตกตะลึงกับสมบัติที่กองเป็นภูเขา ทั้งเงิน ทอง และอัญมณีเต็มห้องโถง!