ตอนที่ 743 แม่สามีและลูกสะใภ้ที่น่ารังเกียจ

แม่ปากร้ายยุค​ 80

ตอนที่​ 743 แม่สามีและ​ลูกสะใภ้​ที่​น่ารังเกียจ​

เมื่อ​เห็น​ว่า​หญิง​ชรา​ถูก​หลิน​ม่าย​ทุบตี​ เด็กชาย​ตัว​อ้วน​และ​หญิง​ผู้​เป็น​แม่ก็​ร้องไห้​ออกมา​อย่าง​กระวนกระวาย​

คน​หนึ่ง​ร้องเรียก​ว่า​แม่ ส่วน​อีก​คน​เรียก​ว่า​ย่า​ พวกเขา​พุ่ง​เข้ามา​เพื่อ​หวัง​เอาชนะ​หลิน​ม่าย​

แต่​เพราะ​มีผู้คน​จำนวนมาก​บน​รถไฟ​ พวกเขา​ต้อง​เบียดเสียด​อย่าง​สิ้นหวัง​หาก​ต้องการ​เอาชนะ​เธอ​

ใน​ระยะทาง​สั้น​ๆ เพียง​ไม่กี่​เมตร​ แม่ลูกคู่​นี้​ล้ม​ลง​หลายครั้ง​

ผู้โดยสาร​หลาย​คน​แอบ​เหยียด​เท้า​ออก​ไป​เพื่อ​สกัด​ขา​ของ​สอง​แม่ลูก​

หลาย​คน​แอบ​เตะ​พวกเขา​อย่าง​รุนแรง​

สอง​แม่ลูก​ถูก​เตะ​จน​ร้องไห้​ ตะโกน​ถามว่า​ “ใคร​เตะ​เรา​?”

ไม่มีใคร​ตอบ​พวกเขา​ และ​พวกเขา​ทั้งหมด​ต่าง​ก็​ไม่สนใจ​

ใคร​จะโง่ยอมรับ​ความผิด​กัน​ล่ะ​!

หลิน​ม่าย​ยังคง​ทุบตี​หญิง​ชรา​จน​นางร้องไห้​อ้อนวอน​ขอโทษ​ โดย​สัญญาว่า​จะไม่ดูถูก​ทหาร​และ​ครอบครัว​ของ​พวกเขา​อีก​ หลิน​ม่าย​จึงหยุด​มือ​และ​เดิน​กลับ​ไป​ยัง​ที่นั่ง​

เด็กสาว​เป็น​คนมีเหตุผล​ หล่อน​รีบ​ลุกขึ้น​จาก​ที่นั่ง​เพื่อให้​หลิน​ม่าย​กลับมา​นั่ง​ที่​เดิม​

แม้หลิน​ม่าย​จะไม่มีอาการ​ปวดท้อง​หรือ​อาการ​ปิด​ปกติ​อะไร​ใน​ระหว่าง​ประจำเดือน​ มัน​ไม่ใช่ปัญหา​ร้ายแรง​อะไร​นัก​ แต่​ก็​เป็นเรื่อง​น่าเบื่อ​

การ​ตบ​ตี​ใคร​สัก​คน​ต้อง​ใช้แรง​มหาศาล​ ทำให้​เธอ​หมดแรง​และ​ไม่อยาก​ทำ​อะไร​อีก​

เด็กสาว​ตัว​น้อย​ขอให้​เธอ​นั่งลง​ เธอ​จึงไม่เกรงใจ​และ​กลับ​ไป​นั่ง​ที่​เดิม​โดย​ให้​เด็กชาย​นั่ง​บน​ตัก​

คุณแม่​ยัง​สาว​รู้สึก​สะเทือนใจ​จน​พูดไม่ออก​ เมื่อ​เห็น​ว่า​หลิน​ม่าย​ออกตัว​ปกป้อง​ครอบครัว​ของ​ตน​ หล่อน​จึงกล่าว​คำขอบคุณ​ซ้ำแล้วซ้ำเล่า​

หลิน​ม่าย​โบกมือ​ด้วย​ท่าทาง​อ่อนล้า​ “ไม่เป็นไร​ค่ะ​ ทหาร​ปกป้อง​บ้านเมือง​และ​ประเทศ​ของ​เรา​ เรา​จึงควร​รักษา​เกียรติ​ของ​ทหาร​ และ​เป็น​หน้าที่​ของ​เรา​ที่จะ​ต้อง​ปกป้อง​ครอบครัว​ของ​ทหาร​ค่ะ​”

แม่และ​ลูกชาย​รู้สึก​สูญเสีย​และ​ไม่ยอมแพ้​โดยง่าย​ พวกเขา​ร้องไห้​และ​ตะโกน​โวยวาย​เสียงดัง​ เพื่อ​เรียกร้อง​ความสนใจ​จาก​คน​ทั้ง​ขบวน​

ใครคนหนึ่ง​พูด​เหน็บแนม​ “เห่าหอน​ไป​เถอะ​ แต่​ช่วย​ลง​จาก​รถไฟ​ไป​เห่าหอน​ที่อื่น​ได้​ไหม​?”

เมื่อ​มีคน​นำ​ ย่อม​มีคน​ตาม​

“ใช่แล้ว​ ลง​ไป​ซะ อย่า​มาเห่าหอน​บน​รถไฟ​!”

“รถไฟ​เป็น​ของ​ทุกคน​ ไม่ใช่ของ​ครอบครัว​หล่อน​ ควร​มีมารยาท​บ้าง​ได้​ไหม​?”

“บางคน​แต่งกาย​ด้วย​เสื้อผ้า​ดูดี​มีราคา​ แต่กลับ​ทำตัว​ต่ำช้า​ยิ่งกว่า​สุนัข​”

แม่สามี ลูกสะใภ้​ และ​เด็กชาย​ตัว​น้อย​จะทน​ได้​อย่างไร​เมื่อ​มีคน​มาด่าทอ​

เมื่อ​เห็น​ว่า​ผู้โดยสาร​หลาย​คน​เกือบ​ครึ่ง​ช่วยกัน​ด่าทอ​พวกเขา​

ผู้​เป็น​แม่สามีก็​ด่า​ผู้โดยสาร​หลาย​คน​ “ครอบครัว​ของ​พวก​แก​คง​มีคนตาย​ในไม่ช้า​ แล้ว​พวก​แก​ทุกคน​ต้อง​กลับ​ไป​งานศพ​!”

ทันทีที่​คำพูด​เหล่านี้​ถูก​พ่น​ออกมา​ ทุกคน​ก็​เดือดดาล​หนัก​

ผู้โดยสาร​ทั้งหมด​ตะโกน​ใส่พวกเขา​สาปแช่ง​ให้​ครอบครัว​ตาย​ตก​ ผู้โดยสาร​ที่อยู่​ใกล้เคียง​หลาย​คน​ถึงกับ​ทุบตี​แม่สามีและ​ลูกสะใภ้​

หลิน​ม่าย​เฝ้าดู​คน​เหล่านั้น​ถูก​ทุบตี​ เธอ​พลัน​ตะคอก​อย่าง​เย็นชา​ใน​ใจ

แม่เฒ่าผู้​นี้​ด่าทอ​ทหาร​และ​ครอบครัว​ของ​ทหาร​ ตอนนี้​นาง​สมควร​ถูก​ด่าทอ​กลับ​แล้ว​ จะได้​เลิก​ทำ​เรื่องไร้สาระ​แบบนี้​กับ​คนอื่น​!

ทุกคน​ทำได้​ดีมาก​!

ใน​เมื่อ​พวกเขา​ไม่รู้จัก​การ​เป็น​มนุษย์​ สังคม​จะสั่งสอน​ให้​พวกเขา​เป็น​มนุษย์​เอง​

อาจ​เป็น​เพราะ​การเคลื่อนไหว​ของ​หลิน​ม่าย​และ​คนอื่น​ใน​ขบวนรถไฟ​เอิกเกริก​เกินไป​กระทั่ง​พนักงาน​บน​รถไฟ​ตกใจ​ พนักงาน​รถไฟ​จึงอารมณ์เสีย​และ​เดิน​มาตรวจสอบ​สถานการณ์​

แม่ย่า​และ​ลูกสะใภ้​ต้อง​การร้องเรียน​ ซึ่งหลิน​ม่าย​ไม่ต้องการ​ให้​ใคร​มารับผิดชอบ​ โดย​เฉพาะตัว​เธอ​เอง​

คน​ที่​ดูถูก​ทหาร​และ​ครอบครัว​ทหาร​ควร​ถูก​ทุบตี​ ถ้าอยาก​ให้​เธอ​รับผิดชอบ​ก็​ลองดู​!

เธอ​รีบ​ชิงวิ่ง​ไป​ดักหน้า​พนักงาน​ โดย​บอ​กว่า​แม่เฒ่าและ​ลูกสะใภ้​ใช้ลูกชาย​เป็นที่​กำบัง​เพื่อ​ขโมย​เงิน​

เมื่อ​ถูก​จับได้​จึงถูก​ทุบตี​ แต่​คน​กระ​ทำได้​วิ่งหนี​ไป​ขบวน​อื่น​แล้ว​

พวกเขา​จึงร้องไห้​และ​ส่งเสียงดัง​ด้วย​ความไม่พอใจ​

คำพูด​ของ​หลิน​ม่าย​ได้รับ​การ​ยืนยัน​จาก​ผู้โดยสาร​เกือบ​ทั้งหมด​ใน​ขบวน​

แม่เฒ่าและ​ลูกสะใภ้​เห็น​ว่า​อีก​ฝ่าย​ชักแม่น้ำทั้งห้า​มาลบล้าง​ความจริง​ พวกเขา​จึงตะโกน​ขึ้น​อย่าง​กระวนกระวาย​แก้ตัว​ว่า​ตน​ไม่ใช่หัวขโมย​

พนักงาน​รถไฟ​เกลียด​หัวขโมย​และ​ตะคอก​อย่าง​เย็นชา​ “จะมีหัวขโมย​คน​ไหน​ที่ยอมรับ​ว่า​ตัวเอง​เป็น​ขโมย​”

แม้จะเห็น​ว่า​แม่ย่า​และ​ลูกสะใภ้​ผมเผ้า​รุงรัง​ จมูก​มีรอย​ฟกช้ำ​และ​ใบหน้า​บวม​เป่ง​ แต่​เขา​ก็​ไม่อยาก​สนใจ​เรื่อง​นี้​

ถ้าพวกเขา​เป็น​หัวขโมย​จริง​ ก็​สมควร​แล้ว​ที่จะ​ถูก​ทุบตี​

เขา​หันหลัง​กลับ​เดิน​จากไป​อย่าง​เย็นชา​

แม่เฒ่าและ​ลูกสะใภ้​เห็น​ว่า​พนักงาน​รถไฟ​ไม่สนใจ​พวกเขา​ ขณะที่​ผู้โดยสาร​คนอื่น​พูดจา​ถากถาง​ใส่อย่าง​เย็นชา​ พวกเขา​จึงตัดสินใจ​พา​เด็กชาย​ตัว​อ้วน​ไป​ยัง​ตู้​โดยสาร​อื่น​

พวกเขา​ย้าย​ไป​ยัง​ตู้​ขบวน​ที่​ไม่มีใคร​เหยียดหยาม​ เพื่อ​ป้องกัน​ตัวเอง​ถูก​ทุบตี​อีก​

แต่​กระเป๋า​สัมภาระ​ของ​พวกเขา​วาง​อยู่​บน​ชั้น​วาง​และ​ไม่สามารถ​ขน​ไป​ได้​ พวกเขา​ร้อง​ขอให้​คน​ช่วยเหลือ​ แต่​ไม่มีใคร​คิด​ช่วยเหลือ​แม้จะพูด​ดี​แค่​ไหน​ก็ตาม​

ทั้ง​แม่เฒ่าและ​ลูกสะใภ้​ต่าง​ก็​กำลังจะ​หลั่ง​น้ำตา​อีกครั้ง​

ท้ายที่สุด​แม่เฒ่าก็​แก่​ชรา​เกินไป​ ส่วน​ลูกสะใภ้​นั้น​บอบช้ำ​ทั้ง​ร่างกาย​

หล่อน​จึงเสนอ​เงิน​รางวัล​ว่า​จะมอบ​เงิน​ห้า​หยวน​ให้​กับ​ใครก็ตาม​ที่​ช่วย​ยก​กระเป๋า​ไป​ส่งพวกเขา​

ทุกคน​ต่าง​ก็​ไม่แยแส​ บางคน​ถึงกับ​พูด​เย้ยหยัน​ “รับเงิน​จาก​คน​ต่ำช้า​แบบนี้​ เกรง​ว่า​บรรพบุรุษ​ของ​เรา​คง​ปีน​ออกจาก​โลงศพ​มาทุบตี​สั่งสอน​”

ในเวลานี้​ รถไฟ​ป่าวประกาศ​ชื่อ​สถานี​ต่อไป​ เพื่อให้​ผู้โดยสาร​เตรียมตัว​ลง​จาก​รถไฟ​

ชายหนุ่ม​ร่าง​กำยำ​หยิบ​สัมภาระ​ไม่กี่​ชิ้น​ของ​เขา​

เขา​ชี้ไป​ยัง​ถุงผ้าใบ​เขื่อง​สอง​ใบ​บน​ชั้น​วาง​ ก่อน​ถามแม่ย่า​และ​ลูกสะใภ้​ว่า​ “กระเป๋า​สอง​ใบ​นี้​เป็น​ของ​พวกคุณ​หรือเปล่า​?”

แม่เฒ่าและ​ลูกสะใภ้​พยักหน้า​รับ​เหมือน​ไก่​จิก​ข้าว​ “ใช่แล้ว​ ใช่แล้ว​ กระเป๋า​สอง​ใบ​นั้น​เป็น​ของ​เรา​ พ่อ​หนุ่ม​เอ๋ย​ ช่วย​นำ​มัน​ลงมา​และ​ยก​ไป​ให้​เรา​ที​ แล้ว​เรา​จะตอบแทน​ด้วย​เงิน​”

ชายหนุ่ม​บอก​ “ผม​ไม่ต้อง​การเงิน​”

ทันทีที่​กล่าว​เช่นนั้น​ เขา​พบเห็น​สายตา​ว่างเปล่า​และ​ดูถูก​จาก​ผู้โดยสาร​หลาย​คนใน​ตู้​ขบวน​เดียวกัน​

แม่ย่า​และ​ลูกสะใภ้​ยิ้มเยาะ​พลาง​มอง​ไป​ที่​ผู้โดยสาร​คนอื่น​

สีหน้า​บ่งบอก​อย่าง​ชัดเจน​ ต่อให้​พวกเขา​ไม่ช่วย​ ก็​มีคนอื่น​มาช่วย​อยู่ดี​

แต่​พวกเขา​ลำพองใจ​ได้​เพียง​ไม่กี่​วินาที​ สีหน้า​ก็​พลัน​แปร​เปลี่ยนเป็น​ตื่นตกใจ​

เพราะ​ชายหนุ่ม​ร่าง​กำยำ​หยิบ​สัมภาระ​ของ​พวกเขา​ลงมา​ จากนั้น​เปิด​หน้าต่าง​และ​โยน​พวก​มัน​ออก​ไป​

ผู้โดยสาร​หลาย​คน​ปรบมือ​

แม่เฒ่าและ​ลูกสะใภ้​กลับมา​ได้สติ​หลัง​งุนงง​ใน​ตอนแรก​ พวกเขา​คิด​รั้ง​ตัว​ชายหนุ่ม​เพื่อ​ต้องการ​ด่าทอ​ แต่​ชายหนุ่ม​กลับ​หยิบ​กระเป๋า​ของ​ตัวเอง​และ​เดิน​ตรง​ไป​ที่​ประตู​

ทันทีที่​รถไฟ​หยุด​ ชายหนุ่ม​เดินลง​จาก​รถไฟ​ทันที​

ราวกับ​งมเข็มในมหาสมุทร​ แม่เฒ่าและ​ลูกสะใภ้​หา​ชายหนุ่ม​คน​นั้น​ไม่เจอ​อีก​เลย​

คน​ทั้ง​สามไม่มีทางเลือก​อื่น​ นอกจาก​รีบ​ลง​จาก​รถไฟ​เพื่อ​ไป​เก็บ​กระเป๋าเดินทาง​ของ​ตัวเอง​

แม้ว่า​พวกเขา​จะอยู่​ใน​สภาพ​ที่​น่าสังเวช​ แต่​ก็​มีผู้โดยสาร​บางคน​ไม่ยอม​ปล่อย​พวกเขา​ไป​โดยดี​ เหยียด​เท้า​ขวาง​ให้​อีก​ฝ่าย​สะดุด​ล้ม​ระหว่างทาง​

พวกเขา​สะดุด​ล้ม​ครั้งแล้วครั้งเล่า​ จน​ในที่สุด​ก็​สามารถ​เดิน​ออกจาก​รถไฟ​

ระหว่าง​นั้น​ผู้โดยสาร​หลาย​คน​เข้ามา​พูดคุย​กับ​ภรรยา​ของ​ทหาร​

ภรรยา​ของ​ทหาร​มีนิสัย​ใจกว้าง​และ​บอก​ทุกคน​ว่า​เธอ​ชื่อ​จูต้าห​ลิง​ ซึ่งพักอาศัย​อยู่​ใน​ชนบท​ของ​สวี่​ชาง

แม้หล่อน​และ​สามีทหาร​จะพบ​เจอกัน​ด้วย​การ​นัดบอด​ แต่​พวกเขา​ทั้งสอง​มีความสัมพันธ์​อัน​ดี​

น่าเสียดาย​ที่​สามีทหาร​กำลัง​ปกป้อง​ชายแดน​ใน​ทิเบต​ และ​เขา​กลับ​มาหา​ครอบครัว​เพียง​ไม่กี่​ครั้ง​

โดย​กลับมา​เยี่ยม​ญาติ​ทุก​สอง​ปี​เท่านั้น​

จูต้าห​ลิง​ยิ้ม​อย่าง​เขินอาย​ให้​กับ​ฝูงชน​ “ปี​นี้​ฉัน​พา​เด็ก​สอง​คน​ไป​เยี่ยม​คุณพ่อ​ของ​พวกเขา​ที่​ทิเบต​ ถ้าฉัน​ไม่พา​พวกเขา​ไป​ เด็ก​สอง​คน​นี้​อาจ​จำไม่ได้​ว่า​พ่อ​ของ​พวกเขา​หน้าตา​เป็น​อย่างไร​

ทุกคน​ที่​ได้​รับฟัง​ต่าง​นึก​สงสาร​จับใจ​

มีคน​ถามขึ้น​ว่า​ “ที่​ทิเบต​ลำบาก​มากสิ​นะ​”

จูต้าห​ลิง​พยักหน้า​ “ใช่ค่ะ​ โรคภัยไข้เจ็บ​ใน​ที่สูง​แบบ​นั้น​ค่อนข้าง​รุนแรง​ แล้ว​ยังมี​อากาศ​แปรปรวน​ ก่อนที่​คุณพ่อ​พวกเขา​จะไป​ทิเบต​ ผิว​ของ​เขา​ค่อนข้าง​ดี​ แต่​ตอนนี้​หยาบกร้าน​เมื่อ​สัมผัส​~”

ทุกคน​พูดคุย​กัน​เรื่อยเปื่อย​ ไม่นาน​ก็​เป็นเวลา​เที่ยงวัน​

พนักงาน​รถไฟ​เข็น​รถเข็น​ขนาดเล็ก​ขณะ​พยายาม​ขาย​อาหาร​และ​เครื่องดื่ม​

ทุกคน​ปิดปาก​และ​หลีกทาง​ให้​เงียบงัน​ เพื่อให้​พนักงาน​เข็น​รถ​ผ่าน​ไป​ได้​

แทบ​ไม่มีใคร​สั่งอาหาร​และ​เครื่องดื่ม​ แต่​สายตา​หลาย​คู่​จับจ้อง​ไป​ยัง​อาหาร​บน​รถเข็น​

หลาย​คน​กำลัง​หิว​

แต่​อาหาร​บน​รถไฟ​มีราคาแพง​ขนาด​นี้​ ใคร​จะยอม​เสียเงิน​ซื้อ​?

เด็กน้อย​บางคน​ร้องไห้​โยเย​ขอ​กิน​อาหาร​ แต่​พ่อแม่​นำ​อาหารแห้ง​ หรือไม่​ก็​ไข่ต้ม​ที่​เตรียม​ไว้​เพื่อ​เกลี้ยกล่อม​เด็ก​ๆ

เด็ก​สมัยนี้​ไม่จู้จี้จุกจิก​ ขอ​แค่​ท้อง​อิ่ม​ก็​มีความสุข​มาก​แล้ว​

ลูก​ทั้งสอง​ของ​ภรรยา​ทหาร​จูต้าห​ลิง​ต่าง​ก็​เอ่ยปาก​บอ​กว่า​หิว​

พวกเขา​มองดู​กล่อง​ข้าว​บน​รถเข็น​ ซาลาเปา​แป้ง​ขาว​ หรือ​กระทั่ง​ไข่ต้ม​ใน​มือ​ของ​เด็ก​คนอื่น​

แม้พี่สาว​และ​น้องชาย​จะกลืนน้ำลาย​ไม่หยุด​ รู้สึก​หิว​มาก​จน​ปวดท้อง​ แต่​พวกเขา​ก็​อดทน​ต่อไป​อย่าง​เงียบงัน​

น่าแปลกใจ​ จูต้าห​ลิง​เดินทางไกล​พร้อม​ลูก​สอง​คน​เพื่อ​ไป​เยี่ยม​สามีทหาร​ใน​ทิเบต​ แต่​ดูเหมือน​หล่อน​จะไม่ได้​เตรียม​อาหารแห้ง​สำหรับ​เด็ก​สอง​คน​เลย​ ราวกับ​ไม่ได้​นึกถึง​เรื่อง​นี้​

หลิน​ม่าย​ขอให้​พนักงาน​รถไฟ​หยุด​ เธอ​ต้องการ​ซื้อ​ข้าว​กล่อง​เป็น​อาหารกลางวัน​ 4 กล่อง​

พนักงาน​รถไฟ​ดีใจ​มาก​ หล่อน​ร้อง​ขาย​อาหาร​ผ่าน​หลาย​โบกี้​ แต่​ยัง​ขาย​ไม่ได้​สัก​กล่อง​ กระทั่ง​หญิงสาว​หน้าตา​ดี​คน​นี้​ขอ​ซื้อ​ถึง 4 กล่อง​

พนักงาน​รถไฟ​ถามว่า​ “คุณ​ต้องการ​ข้าว​กล่อง​แบบ​ไหน​ดี​คะ​? มีซี่โครง​หมู​ เต้าหู้​ตุ๋น​กับ​ไข่ลวก​ และ​มันฝรั่ง​ขูด​ฝอย​ค่ะ​”

หลิน​ม่าย​ตอบ​ “ขอ​เป็น​ซี่โครง​หมู​ 4 กล่อง​ค่ะ​”

จูต้าห​ลิง​ถามหลิน​ม่าย​ด้วย​ความ​ลำบากใจ​ “คุณ​ซื้อ​ข้าว​กล่อง​อาหารกลางวัน​ให้​พวกเรา​สามคน​หรือ​คะ​? คุณ​ไม่ต้อง​ทำ​แบบ​นั้น​หรอก​ค่ะ​ เรา​นำ​อาหารแห้ง​มาด้วย​ เป็น​เพราะ​เรา​กินข้าว​เช้าสาย​ ตอนนี้​จึงยัง​ไม่หิว​มาก​”

ใคร​ไหน​เล่า​จะเชื่อ​สิ่งที่​หล่อน​พูด​ ใน​เมื่อ​ลูก​สอง​คน​ของหล่อน​หิว​มาก​จน​ตาลาย​ขนาด​นั้น​

หลิน​ม่าย​จ่าย​ค่า​ข้าว​กล่อง​ทั้ง​สี่และ​พูดว่า​จูต้าห​ลิง​ว่า​ “ฉัน​จ่าย​เงิน​ไป​แล้วด้วย​สิ พวกเขา​คง​ไม่ยอม​คืนเงิน​ให้​ คุณ​และ​เด็ก​ทั้งสอง​ช่วย​ฉัน​กินข้าว​กล่อง​อีก​สามกล่อง​ที่​เหลือ​ที​เถอะ​ค่ะ​”

หญิงสาว​จาก​ชนบท​อย่าง​จูต้าห​ลิง​พูด​ไม่เก่ง​ หล่อน​จึงเพียง​กล่าว​ขอบคุณ​ซ้ำแล้วซ้ำเล่า​

หลังจาก​ขอบคุณ​หลิน​ม่าย​ หล่อน​ก็​บอก​ให้​เด็ก​ทั้งสอง​ขอบคุณ​หลิน​ม่าย​เช่นกัน​

จากนั้น​พวกเขา​รับ​ข้าว​กล่อง​แสน​อร่อย​จาก​หญิงสาว​ด้วย​ใบหน้า​แดงก่ำ​ ก่อน​เริ่ม​กิน​อย่าง​เอร็ดอร่อย​

หลิน​ม่าย​กลัว​ว่า​สามแม่ลูก​จูต้าห​ลิง​จะหิว​น้ำ​หลัง​กิน​อาหาร​ เธอ​จึงซื้อ​เครื่องดื่ม​ให้​พวกเขา​สามขวด​

ขณะที่​มีประจำเดือน​ เธอ​ไม่สามารถ​ดื่ม​เครื่องดื่ม​เย็น​ได้​ จึงไม่ได้​ซื้อ​ให้​ตัวเอง​

จูต้าห​ลิง​ตัก​ซี่โครง​ใน​กล่อง​อาหาร​ของ​ตัวเอง​ให้​แก่​ลูก​ทั้งสอง​

เด็ก​ทั้งสอง​ยืนกราน​ให้​หล่อน​ลอง​กิน​ซี่โครง​ โดย​บอ​กว่า​ซี่โครง​ใน​ข้าว​กล่อง​ของ​รถไฟ​อร่อย​มาก​

โดยปกติ​ข้าว​กล่อง​ของ​รถไฟ​มีราคาแพง​และ​ไม่อร่อย​ แต่​เด็ก​ทั้งสอง​คิด​ว่า​มัน​อร่อย​มาก​ เพราะ​ไม่ได้​ลิ้มลอง​รสชาติ​ของ​เนื้อ​มานาน​

หลิน​ม่าย​นึกถึง​ถุงหลู่​ไช่ที่​เธอ​นำมา​ด้วย​

เธอ​ขอให้​จูต้าห​ลิง​รับ​ซี่โครง​ที่​เด็ก​สอง​มอบให้​ ก่อน​แจก​ซี่โครง​ใน​กล่อง​อาหารกลางวัน​ของ​ตัวเอง​แก่​สอง​พี่น้อง​

เธอ​พูด​กับ​จูต้าห​ลิง​ด้วย​รอยยิ้ม​ว่า​ เธอ​ไม่ชอบ​ซี่โครง​

แต่​ใคร​บ้าง​ที่จะ​ไม่ชอบ​ซี่โครง​

จูต้าห​ลิง​เข้า​ใจถึงเจตนา​ของ​อีก​ฝ่าย​ หญิงสาว​เพียง​ต้องการ​ให้​เด็กน้อย​ทั้งสอง​กิน​ซี่โครง​มากขึ้น​

จูต้าห​ลิง​บอ​กว่า​หลิน​ม่าย​ดี​เกินไป​ด้วย​ดวงตา​ที่​แดงก่ำ​

หลิน​ม่าย​หยิบ​ถุงหลู่​ไช่ออกมา​ เธอ​ตัก​เส้น​บะหมี่​และ​ฟองเต้าหู้​ออกมา​ใส่ใน​กล่อง​อาหารกลางวัน​ของ​ตัวเอง​

จากนั้น​แจกจ่าย​เนื้อ​และ​ผัก​ตุ๋น​ที่​เหลือ​ทั้งหมด​ให้​กับ​คู่​หนุ่มสาว​และ​เด็ก​คนอื่น​ใน​โบกี้​รถไฟ​

ส่วนแบ่ง​มีไม่มาก​ เนื้อ​และ​ผัก​ตุ๋น​จึงถูก​นำ​ไป​ให้​เด็ก​ๆ เท่านั้น​

ยกเว้น​พี่สาว​และ​น้องชาย​ที่​ได้รับ​การ​แบ่งปัน​มากกว่า​ เด็ก​คนอื่น​ได้รับ​เนื้อ​เพียง​ 1 ถึง 2 ชิ้น​ เพื่อให้​พวกเขา​ได้​ลิ้มลอง​

ทันใดนั้น​ทั่ว​ทั้ง​ตู้​ขบวนรถไฟ​ก็​อบอวล​ไป​ด้วย​กลิ่นหอม​ของ​หลู่​ไช่

หลาย​คน​เข้ามา​ถามหลิน​ม่าย​ว่า​ตุ๋น​เอง​หรือไม่​ ใช้สูตร​อะไร​ เพราะ​หลู่​ไช่นี้​มีกลิ่นหอม​มาก​

แน่นอน​ว่า​หลิน​ม่าย​ไม่ยอม​เปิดเผย​สูตร​ลับ​ใน​การ​ทำ​น้ำ​ตุ๋น​

เธอ​ยิ้ม​และ​บอก​ทุกคน​ไป​ว่า​ เธอ​ซื้อ​หลู่​ไช่เหล่านี้​มา และ​ไม่ใช่ฝีมือ​ของ​เธอ​

ผู้โดยสาร​ถามเธอ​ว่า​หลู่​ไช่นี้​ยี่ห้อ​อะไร​

หลิน​ม่าย​ฉวยโอกาส​โฆษณาหลู่​ไช่ของ​ตัวเอง​ และ​ตั้งชื่อ​ยี่ห้อ​มัน​ว่า​ไป่​ห​ลี่​เซียง​ (หอม​ร้อย​ลี้​)

ผู้โดยสาร​หลาย​คน​พยักหน้า​ “ช่างสมกับ​ชื่อ​นี้​ เพราะ​กลิ่น​ของ​มัน​หอม​ไป​ถึงร้อย​ลี้​จริงๆ​”

หลัง​อาหารกลางวัน​ หลิน​ม่าย​ลุกขึ้น​เพื่อ​สลับ​ให้​เด็กสาว​นั่ง​

แม้เธอ​จะไม่ค่อย​สบาย​ตัว​ช่วง​ที่​มีประจำเดือน​ แต่​เธอ​ก็​อดทน​ดู​เด็กสาว​ยืน​ตลอดเวลา​ไม่ได้​

เด็กสาว​อายุ​เพียง​ 10 ขวบ​เท่านั้น​

………………………………………………………………………………………………………………………….

สาร​จาก​ผู้แปล​

สามคน​นั้น​คง​รับรู้​รสชาติ​ของ​ยำ​สห​บาทา​แล้ว​นะคะ​ คง​ไม่รู้สึก​หิว​อีกแล้ว​

จะขาย​หลูไช่​ใน​เชิงอุตสาหกรรม​อีก​หรือเปล่า​เนี่ย​ม่าย​จื่อ​

ไหหม่า​(海馬)