ตอนที่ 749 ซูอวี้อิ๋งมาขอร้อง

แม่ปากร้ายยุค​ 80

ตอนที่​ 749 ซูอวี้อิ๋ง​มาขอร้อง​

ณ ตลาด​ฮุ่ย​ห​มิน​

ริมฝีปาก​ของ​ซูอวี้อิ๋ง​กระตุก​ขณะที่​มอง​ไป​ยัง​ผัก​ใน​เรือนกระจก​ที่​เพิ่ง​ซื้อ​กลับมา​ด้วย​รา​คาที่​ถูก​ลง​กว่า​เดิม​ถึงสามเท่า​

ด้วย​ผัก​เรือนกระจก​ราคา​ต่ำ​เหล่านี้​ หล่อน​ยัง​ต้อง​กลัว​ว่า​ลูกค้า​ที่​ถูก​ตลาด​ฝูตัว​ตัว​ดึง​ไป​จะไม่กลับมา​อีก​หรือ​?

เมื่อ​คิดถึง​เรื่อง​นี้​ หล่อน​ก็​อารมณ์ดี​

แต่​เมื่อ​รอคอย​จนถึง​เวลา​บ่าย​สาม ตลอดทั้ง​บ่าย​ของ​วันนี้​ลูกค้า​ใน​ตลาด​ไม่เพียง​ไม่เพิ่มขึ้น​ แต่กลับ​ลดลง​มากกว่า​ที่​เคย​อีกด้วย​

ซูอวี้อิ๋ง​รู้สึก​งุนงง​และ​เรียก​ผู้จัดการ​ทั้งสอง​มาเพื่อ​ถามเหตุผล​

ผู้จัดการ​หม่า​เล่าเรื่อง​ทั้งหมด​ให้​ซูอวี้อิ๋ง​ฟังอย่าง​กล้าหาญ​

ปราก​ฎว่า​ราคา​ผัก​ใน​โรงเรือน​ของตลาด​ฝูตัว​ตัว​และ​ปรับ​เป็น​ราคา​เดียว​กับ​ตลาด​ฮุ่ย​ห​มิน​

ความได้เปรียบ​ด้าน​ราคา​ผัก​ของ​พวกเขา​หมด​ไป​ และ​แน่นอน​ว่า​จะไม่มีลูกค้า​กลับมา​อีก​

ซูอวี้อิ๋ง​โกรธ​มาก​จน​ทุบ​โต๊ะ​ “ไร้เหตุผล​ พวกเขา​ทำเกินไป​!”

หล่อน​ถามอย่าง​งุนงง​ “ผัก​เรือนกระจก​ใน​ตลาด​ฝูตัว​ตัว​ขาย​ใน​ราคา​เดียว​กับ​ของ​เรา​ได้​ยังไง​? พง​ก​เขา​ไม่ขาดทุน​เหรอ​?”

ผู้จัดการ​เฉียน​อธิบาย​ “ผัก​เรือนกระจก​ของ​ตลสดฝู​ตัว​ตัว​นำเข้า​มาจาก​มณฑล​หูเป่ย​ครับ​ ต้นทุน​ใน​การ​ปลูก​ผัก​เรือนกระจก​ใน​มณฑล​หูเป่ย​นั้น​ต่ำ​มาก​ เพียง​ครึ่งหนึ่ง​ของ​ต้นทุน​ใน​ชานเมือง​ปักกิ่ง​ ต่อให้​ขาย​เท่า​เรา​ก็​ยัง​ทำ​เงินได้​ครับ​”

ซูอวี้อิ๋ง​ตกตะลึง​

หลังจากนั้น​ไม่นาน​หล่อน​ก็​กัดฟัน​กล่าว​ “งั้น​เรา​ก็​ต้อง​ขาย​ผัก​ใน​ราคา​ต้นทุน​ เพื่อ​ทำให้​ตลาด​ฝูตัว​ตัว​ลดราคา​ตาม​เรา​อีก​ แล้ว​พวกเขา​ก็​จะไม่สามารถ​ทำ​เงินได้​!”

ผู้จัดการ​เฉียน​พูด​เสียง​เบา​ “แม้เรา​จะขาย​ใน​ราคา​ซื้อ​และ​ตลาด​ฝูตัว​ตัว​ขาย​ใน​ราคา​เดียว​กับ​เรา​ พวกเขา​ก็​งสามารถ​รักษา​ทุน​ไว้​ได้​ พวกเขา​จะไม่สูญเสียเงิน​ ไม่ว่า​อย่างไร​เรา​ก็​ไม่อาจ​สู้ใน​สงคราม​แห่ง​ราคา​นี้​ได้​”

ผู้จัดการ​หม่า​กล่าว​ต่อ​ “ตลาด​ฝูตัว​ตัว​ไม่เพียง​ลดราคา​ผัก​เรือนกระจก​เท่านั้น​ แต่​ยัง​ลดราคา​ซื้อ​สินค้า​โภคภัณฑ์​จำนวนมาก​อีกด้วย​ ตอนนี้​สินค้า​ของ​เขา​หลาย​ตัว​กำลัง​ทำ​โปรโมชัน​ โดย​การ​ขาย​ใน​ราคา​ต่ำ​และ​ไม่จำกัด​จำนวน​ แต่​ก็​ยังคง​แข่ง​กับ​เจ้าอื่น​ไม่ได้​”

ซูอวี้อิ๋ง​ไม่อยาก​จะเชื่อ​หลังจาก​ได้ยิน​สิ่งนี้​

ตลาด​ของหล่อน​เพิ่ง​เปิด​ได้​ไม่นาน​ และ​มีพนักงานขาย​เพียง​ไม่กี่​คน​

พนักงานขาย​เหล่านี้​ส่วนใหญ่​ซื้อ​สินค้า​เกษตร​ เช่น​ สัตว์ปีก​ ไข่​ และ​ผัก​ใน​เขตชานเมือง​ของ​เมืองหลวง​

แหล่งที่มา​ของ​สินค้า​ส่วนใหญ่​ได้​มาจาก​หน่วยงาน​ที่​เกี่ยวข้อง​ผ่าน​สายสัมพันธ์​ทาง​พ่อ​ของหล่อน​ ทั้งหมด​นี้​ถูก​ขาย​ใน​รา​คาที่​วางแผน​ไว้​ดีแล้ว​

รา​คาที่​วางแผน​ไว้​ค่อนข้าง​ต่ำ​อยู่แล้ว​ ซึ่งหล่อน​ไม่อยาก​จะเชื่อ​เลย​ว่า​ราคา​ของ​ผลิตภัณฑ์​ที่​ซื้อ​จาก​ตลาด​ฝูตัว​ตัว​จะต่ำกว่า​รา​คาที่​วางแผน​ไว้​

ซูอวี้อิ๋ง​ไป​ยัง​ตลาด​ฝูตัว​ตัว​ทันที​ และ​แน่นอน​ว่า​ตามที่​ผู้จัดการ​ทั้งสอง​กล่าว​ สินค้า​หลายอย่าง​ใน​ตลาด​ฝูตัว​ตัว​ล้วน​ถูก​กว่า​ของตลาด​ฮุ่ย​ห​มิน​

ไม่น่าแปลกใจ​ที่​หล่อน​ไม่สามารถ​เรียก​ลูกค้า​กลับมา​ได้​ อีก​ทั้ง​ธุรกิจ​ของหล่อน​ยัง​ถดถอย​ลง​เรื่อย ๆ​ อีกด้วย​

ซูอวี้อิ๋ง​โกรธ​จน​หน้า​แดงก่ำ​ หลังจาก​กลับ​ถึงบ้าน​ หล่อน​ก็​นอนไม่หลับ​ตลอด​ทั้งคืน​ เอาแต่​คิด​หา​วิธี​รับมือ​

เช้าวันรุ่งขึ้น​ เมื่อ​ฟางจั๋ว​หรา​น​ไป​ทำงาน​ หล่อน​ก็​ไป​ที่​บ้าน​ของ​หลิน​ม่าย​

เมื่อ​น้า​ถูบอก​หลิน​ม่าย​ว่า​มีคน​มาหา​ เธอ​ก็​วิ่ง​ไป​ยัง​ประตูหน้าบ้าน​ เมื่อ​เห็น​ว่า​เป็น​ซูอวี้อิ๋ง​ เธอ​ก็​ไม่สนใจ​ ไม่แม้แต่​จะเชิญเข้าไป​ใน​บ้าน​

เธอ​หยุด​ซูอวี้อิ๋ง​ไว้​นอก​ประตู​และ​ถามอย่าง​เย็นชา​ “ต้องการ​อะไร​จาก​ฉัน​?”

เมื่อ​เห็น​ว่า​หลิน​ม่าย​ไม่ได้​เชิญหล่อน​เข้าไป​ใน​บ้าน​ ซูอวี้อิ๋ง​ก็​ไม่กล้า​กล่าว​หาว่า​เธอ​หยาบคาย​ และ​ไม่กล้า​พูดถึง​ความสัมพันธ์​ใน​ครอบครัว​ระหว่าง​สอง​ครอบครัว​

ปู่​ของหล่อน​เสียชีวิต​ไป​แล้ว​ ดังนั้น​หล่อน​จึงต้อง​ใจเย็น​

ซูอวี้เจี๋ย​ทำให้​หลิน​ม่าย​ขุ่นเคือง​ แม้พ่อ​ของหล่อน​จะพา​ลูกสาว​เดินทาง​มาที่นี่​เพื่อ​ทำการ​ขอโทษ​หลายครั้ง​ แต่​ก็​ถูก​ปฏิเสธ​ทุก​ครา​

ซูอวี้เจี๋ย​ผู้​เป็น​ลูกพี่ลูกน้อง​ถูก​ส่งไป​ชิงไห่​แล้ว​ ดังนั้น​ซูอวี้อิ๋ง​จึงไม่กล้า​ที่จะ​ทำ​อะไร​หลิน​ม่าย​

อีก​ทั้ง​วันนี้​หล่อน​มาอ้อนวอน​หลิน​ม่าย​ จึงไม่กล้า​วิจารณ์​

แต่​หล่อน​ก็​ไม่อาจ​ละทิ้ง​ท่าทาง​หยิ่งยโส​ของ​ตัวเอง​ได้​

ซูอวี้อิ๋ง​เชิด​คาง​ขึ้น​เล็กน้อย​และ​พูด​อย่าง​เย่อหยิ่ง​ “ไม่มีอะไร​มาก​ ฉัน​แค่​อยาก​คุย​กับ​เธอ​”

หลิน​ม่าย​พูด​อย่าง​เฉยเมย​ “เรื่อง​อะไร​?”

ซูอวี้อิ๋ง​เหลือบมอง​น้า​ถูซึ่งทำงาน​อยู่​ไม่ไกล​ “เรา​หา​ที่​คุย​กัน​ได้​ไหม​?”

หลิน​ม่าย​อยาก​รู้มาก​ว่า​ซูอวี้อิ๋ง​จะพูด​อะไร​กับ​เธอ​ เพราะ​ความสัมพันธ์​ของ​ทั้งคู่​ตอนนี้​ย่ำแย่​ยิ่งกว่า​คนแปลกหน้า​ ดังนั้น​เธอ​จึงพยักหน้า​เห็นด้วย​

ปักกิ่ง​เจริญ​กว่า​เจียง​เฉิงมาก​ ทั้ง​ยังมี​ชาวต่างชาติ​มากมาย​ ดังนั้น​จึงมีร้านกาแฟ​เกลื่อน​ถนน​

สุด​ซอย​ที่​ครอบครัว​หลิน​ม่าย​อาศัย​อยู่​ก็​มีร้านกาแฟ​เช่นเดียวกัน​

เธอ​และ​ซูอวี้อิ๋ง​นัด​พบกัน​ที่นั่น​ หลังจาก​ปิดประตู​บ้าน​ หลิน​ม่าย​ก็​กลับ​ไป​ยัง​ห้อง​ของ​เธอ​เพื่อ​เปลี่ยน​เสื้อผ้า​

เธอ​มักจะ​สวม​เสื้อ​ผ้าฝ้าย​ที่​สวมใส่​สบาย​ที่​บ้าน​ แต่​จะแต่งตัว​ดูดี​เสมอ​เมื่อ​ต้อง​ออก​ไป​ข้างนอก​

หลังจากที่​หลิน​ม่าย​แต่งตัว​เสร็จ​และ​กำลังจะ​ออก​ไป​ข้างนอก​ คุณย่า​ฟางก็​บังเอิญ​เห็น​เธอ​จึงเอ่ย​ถาม “ทำไม​นุ่งน้อยห่มน้อย​แบบนี้​ล่ะ​? ไม่หนาว​เหรอ​?”

หลิน​ม่าย​สวม​เพียง​เสื้อ​ขนสัตว์​ แต่​เธอ​ก็​ไม่รู้สึก​หนาว​

อุณหภูมิ​ร้อน​ขึ้น​อย่าง​ผิดปกติ​ตั้งแต่​เมื่อวาน​

หลิน​ม่าย​พูด​กับ​คุณย่า​ฟาง “วันนี้​อากาศ​อุ่น​ขึ้น​ จะหนาว​ได้​อย่างไร​ล่ะ​คะ​?”

คุณปู่​ฟางเงยหน้า​ขึ้น​มอง​ท้องฟ้า​ที่​ไม่มีเมฆและ​พูด​อย่าง​เป็นกังวล​ “อากาศ​ร้อน​ผิดปกติ​ เกรง​ว่า​จะมีหิมะ​ตกหนัก​ใน​ช่วง​ปีใหม่​ เพราะ​หาก​เป็น​แบบ​นั้น​จริง​ การออกไป​ข้างนอก​คง​ไม่สะดวก​นัก​”

หลิน​ม่าย​ออก​ไป​ท่ามกลาง​การ​สนทนา​ของ​สอง​สามีภรรยา​ชรา​ที่​กำลัง​ศึกษา​สภาพอากาศ​และ​มาถึงร้านกาแฟ​เล็ก​ ๆ ตามที่​ตกลง​กัน​ไว้​

ซูอวี้อิ๋งรอ​อยู่​ที่นั่น​แล้ว​และ​กำลัง​ดื่ม​กาแฟ​

หลิน​ม่าย​เดิน​มาหา​หล่อน​และ​นั่งลง​

บริกร​เข้ามา​และ​ถามเธอ​ว่า​เธอ​ต้องการ​อะไร​

หลิน​ม่าย​ไม่ชอบ​ดื่ม​กาแฟ​ ร้านกาแฟ​นี้​ขาย​กั๋วเจินชงสด​ด้วย​ ดังนั้น​เธอ​สั่งกั๋วเจิน​ร้อน​ถ้วย​หนึ่ง​

บริกร​นำ​กั๋วเจิน​ไป​ให้​หลิน​ม่าย​อย่าง​รวดเร็ว​

ขณะที่​หลิน​ม่าย​จิบ​ ซูอวี้อิ๋ง​ก็​พลัน​เอ่ย​ขึ้น​ “หลิน​ม่าย​ ปล่อย​ฉัน​ไป​ได้​ไหม​?”

หลิน​ม่าย​รู้สึก​สับสน​เมื่อ​ได้ยิน​สิ่งนี้​ “ฉัน​ไม่ได้​ทำ​อะไร​เธอ​ แล้ว​ทำไม​ถึงต้อง​อ้อนวอน​ให้​ฉัน​ปล่อย​เธอ​ไป​ด้วย​?”

ซูอวี้อิ๋ง​รู้สึก​ตื่นเต้น​เล็กน้อย​ “ทำไม​ถึงยัง​กล้า​พูดว่า​เธอ​ไม่ได้​ทำ​อะไร​ฉัน​ล่ะ​ เธอ​ลดราคา​ผัก​เรือนกระจก​ให้​เท่า​ราคา​ขายของ​ฉัน​ ทำให้​ฉัน​ไม่มีลูกค้า​ สินค้า​หลายอย่าง​ของ​เธอ​ก็​มีราคา​ถูก​กว่า​ของ​เรา​ เธอ​กำลัง​พยายาม​ทำให้​ฉัน​จนมุม​หรือ​ยังไง​?”

เมื่อ​พูดถึง​เรื่อง​นี้​ ดวงตา​ของ​เธอ​ก็​เป็น​สีแดง​ “เพื่อ​หลีกเลี่ยง​กัน​แย่ง​ลูกค้า​จาก​ตลาด​ของ​เธอ​ ฉัน​จึงเลือก​ที่จะ​ตั้ง​ตลาด​ของ​ฉัน​ให้​อยู่​ไกล​จาก​ตลาด​ฝูตัว​ตัว​ แล้ว​เธอ​ต้องการ​อะไร​จาก​ฉัน​อีก​?”

หลิน​ม่าย​ตกตะลึง​และ​พูดไม่ออก​กับ​พฤติกรรม​ที่​ไร้ยางอาย​ของหล่อน​

เธอ​จิบ​กั๋วเจิน​สอง​สามจิบ​แล้ว​ตอบกลับ​ยัง​เชื่องช้า​ “แล้ว​เธอ​ไม่ได้​ขาย​ตัดราคา​เรา​ก่อน​หรอก​เหรอ​? ใน​เมื่อ​เธอ​ทำได้​ แล้ว​ทำไม​ฉัน​จะทำไม​่ได้​? เธอ​มีสิทธิ์​อะไร​มาห้าม​คนอื่น​? เธอ​ขโมย​แหล่ง​ผัก​เรือนกระจก​ของ​ฉัน​ไป​ แต่กลับ​ร้อง​ขอให้​ฉัน​ปล่อย​เธอ​ไป​อย่าง​งั้น​เหรอ​? หาก​มีคน​ทำ​แบบนี้​กับ​เธอ​บ้าง​ เธอ​จะยัง​ให้โอกาส​คน​เหล่านั้น​อยู่​ไหม​?”

ซูอวี้อิ๋ง​รู้สึก​เสียใจ​มากยิ่งขึ้น​เมื่อ​ได้ยิน​สิ่งนี้​ “ฉัน​ไม่มีทางเลือก​อื่น​นอกจาก​ต้อง​ขโมย​แหล่ง​ผัก​เรือน​เรือนกระจก​ของ​เธอ​ ไม่อย่างนั้น​ตลาด​ของ​ฉัน​จะดำเนินต่อไป​ได้​ยาก​ ฉัน​จะต้อง​สูญเสียเงิน​และ​สูญเสีย​ทุกอย่าง​ที่​ลงทุน​ไป​ เธอ​รู้​หรือเปล่า​ว่า​ฉัน​ใช้เงินลงทุน​ไป​กว่า​หนึ่ง​แสน​หยวน​ใน​การ​เปิด​ตลาด​สอง​แห่ง​นี้​ ซึ่งไม่นับ​รวม​เงินลงทุน​ของ​หุ้นส่วน​ฉัน​อีก​ หาก​ตลาด​ทั้งสอง​แห่ง​ปิด​ตัว​ลง​ ชีวิต​ของ​ฉัน​จะต้อง​จบสิ้น​อย่าง​แน่นอน​ สำหรับ​ตั้งราคา​ผลิตภัณฑ์​ตาม​ตลาด​ตัว​ตัว​ก่อนหน้านี้​ เป็น​เพราะ​ฉัน​เพิ่ง​เริ่มต้น​ธุรกิจ​และ​ไม่รู้​ว่า​จะตั้งราคา​อย่างไร​ ดังนั้น​จึงเป็นเรื่อง​ที่​เธอ​ควร​เข้าใจ​”

หลิน​ม่าย​ยิ้ม​ “แล้ว​ถ้ามีผู้หญิง​คน​หนึ่ง​เข้ามา​พัวพัน​กับ​สามีของ​เธอ​โดย​บอ​กว่า​ไม่รู้​ว่า​เขา​มีภรรยา​อยู่แล้ว​ เธอ​จะเข้าใจ​เรื่อง​นี้​ไหม​? หาก​เหตุผล​ของ​ผู้หญิง​คน​นั่น​คือ​เพราะ​เธอ​ต้องการ​มีชีวิตครอบครัว​ แต่​ไม่มีทางเลือก​อื่น​นอกจาก​ใช้สามีคนเดียว​กับ​เธอ​ หาก​เป็น​แบบ​นั้น​เธอ​จะยัง​เข้าใจ​ไหม​? ดังนั้น​หาก​มีใคร​มาขโมย​เงิน​ของ​เธอ​เธอ​ก็​ควรจะ​เข้าใจ​พวกเขา​ เพราะ​พวกเขา​ไม่รู้​และ​ยากจน​!”!

ซูอวี้อิ๋ง​ไม่คาดคิด​ว่า​หลิน​ม่าย​จะพูด​ได้​แย่​ขนาด​นี้​

หล่อน​ระงับ​ความโกรธ​ใน​ใจพร้อม​ตอบกลับ​ “บอก​ฉัน​สิ เธอ​จะปล่อย​ฉัน​ไป​ไหม​?”

หลิน​ม่าย​ยิ้ม​อย่าง​เหยียดหยาม​ “ฉัน​อด​รอ​ไม่ไหว​ที่จะ​เห็น​เธอ​สูญเสีย​ทุกอย่าง​ และ​อดใจ​รอ​ไม่ไหว​ที่จะ​ได้​เห็น​เธอ​ตกที่นั่งลำบาก​ ใน​เมื่อ​เป็น​แบบนี้​แล้ว​ลอง​บอก​ฉัน​หน่อย​สิว่า​ฉัน​ควรจะ​ปล่อย​เธอ​ไป​ดี​ไหม​?”

ใบหน้า​ของ​ซูอวี้อิ๋ง​เปลี่ยนเป็น​แดง​เรื่อ​ด้วย​ความโกรธ​

หล่อน​พูด​อย่าง​อดทน​ “ฉัน​รู้​ว่า​ฉัน​ทำเกินไป​ใน​บาง​เรื่อง​ แต่​ฉัน​ไม่มีทางเลือก​จริง ๆ​ ฉัน​อยู่​ที่​บ้าน​สามีของ​ฉัน​…”

ก่อนที่​เธอ​จะทัน​พูด​จบ​ประโยค​ หลิน​ม่าย​ก็​ขัดจังหวะ​เธอ​อย่าง​หยาบคาย​ “ไม่ว่า​เธอ​จะเจอ​ปัญหา​อะไร​ใน​บ้าน​สามีก็​ไม่ใช่เหตุผล​ที่​เธอ​จะมาขโมย​แหล่ง​ผัก​เรือนกระจก​ของ​ฉัน​!”

หลัง​กล่าว​จบ​ เธอ​ก็​เรียก​บริกร​มาเก็บ​เงิน​ทันที​

บริกร​กล่าว​ “กาแฟ​แก้ว​ละ​สี่หยวน​ กั๋วเจิน​ราคา​สอง​หยวน​ครึ่ง​ รวม​เป็น​หก​หยวน​ครึ่ง​ครับ​ ขอบคุณ​ครับ​”

หลิน​ม่าย​ตกตะลึง​

เธอ​ไม่ได้​คาดหวัง​ว่า​กั๋วเจิน​หนึ่ง​ถ้วย​จะมีราคาแพง​ถึงขนาด​นี้​ นี่​ขาย​หรือ​ปล้น​กัน​แน่​?

เธอ​หยิบ​เงิน​ออกมา​เพียง​สอง​หยวน​และ​วาง​ไว้​บน​โต๊ะ​ “ฉัน​จ่าย​เฉพาะ​ค่า​เครื่องดื่ม​ที่​ฉัน​ดื่ม​ ใคร​ดื่ม​อะไร​ก็​จ่าย​ใน​สิ่งที่​ตัวเอง​ดื่ม​” เธอ​จากไป​ทันทีที่​กล่าว​จบ​ภายใต้​สายตา​แห่ง​ความประหลาดใจ​ของ​บริกร​

ซูอวี้อิ๋ง​กำหมัด​แน่น​

หลิน​ม่าย​ใจร้าย​ถึงขนาด​นี้​เชียว​หรือ​

แม้เธอ​จะพยายาม​อ้อนวอน​เพียงใด​ หลิน​ม่าย​ก็​ยัง​ปฏิเสธ​ที่จะ​ช่วยเหลือ​ อีก​ทั้ง​ยัง​ทำให้​หล่อน​ขายหน้า​ด้วย​!

………………………………………………………………………………………………………………………..

สาร​จาก​ผู้แปล​

ใคร​ทำ​อะไร​ไว้​คน​นั้น​แก้​เอา​เอง​ค่ะ​ เทพ​เซียน​ที่ไหน​ก็​ช่วยไม่ได้​

ไหหม่า​(海馬)