ลี่เจี้ยนหวาด่าไปมาก จนตัวเขาเหนื่อยซะเอง เขารู้สึกว่าการที่เขาพูดแบบนี้กับลี่หุยและจ้าวเฟยเฟยพวกเขาไม่มีทางฟังแน่
เขารู้สึกไร้หนทางกับพวกเธอลึกๆ ในใจ ยังไงซะต่อให้พูดมากแค่ไหน ก็เป็นความผิดของเขาอยู่ดี หากยังยืนอยู่ตรงนี้ต่อไป สิ่งที่ตามมามีแต่ความอับอายและความเหยียดหยาม
ท้ายที่สุดเขาก้มหน้าเดินจากไป แผ่นหลังที่คดงอช่างดูน่าหดหู่
เมื่อลี่หุยและจ้าวเฟยเฟยเห็นว่าลี่เจี้ยนหวาเดินจากไปแล้ว ต่างจ้องหน้ากัน ก่อนที่จะจ้องมองเข้าไปด้านในอย่างไม่พอใจ ก่อนที่จะเดินจากไป
หลังจากที่เห็นพวกลี่เจี้ยนหวาถูกพาตัวออกไป ลี่จุนซินและเจียงหยุนเอ๋อพาโม่เสี่ยวฮุ่ยไปที่หลังเวที เพื่อให้เธอสงบสติอารมณ์
เวียร์และลี่จุนถิงอยู่รับแขกด้านนอก
โม่เสี่ยวฮุ่ยเดินเข้าไปที่หลังเวที นั่งลงบนเก้าอี้ พร้อมสีหน้าเกลียดชัง ยิ่งคิดยิ่งโมโห ฝ่ามือกำหมัดแน่นทุบลงที่โต๊ะข้างๆ ของเธอ
ลี่จุนซินเพิ่งพาเจียงหยุนเอ๋อกลับไปที่ห้อง เพื่อให้เธอพากุ่นกุ่นเจ้าน้อยเข้าไปพักผ่อนสักหน่อย เธอกลับมาคิดที่จะนั่งลง ก็ต้องสะดุ้งโหยงกับเสียงหนึ่ง
“โถ่ คุณแม่ เป็นอะไร ต่อให้โมโหแค่ไหนก็ต้องดูแลสุขภาพตัวเองสิ”
ลี่จุนซินรีบคว้าฝ่ามือของเจียงหยุนขึ้นพิจารณา เมื่อสำรวจอย่างละเอียด พบว่าไม่เป็นอะไร ถึงได้วางใจ
“คุณลองว่ามาสิ พ่อมันนับเป็นอะไรกัน รู้ทั้งรู้ว่าวันนี้เป็นวันหมั้นของคุณ ยังจะพาเมียน้อยกับลูกนอกคอกมาที่นี่อีก ยังไม่ชัดเจนอีกหรือว่าตั้งใจมาเพื่อทำลายงานนี้”
“มันน่าโมโหชะมัด” โม่เสี่ยวฮุ่ยนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่ได้ พลันโมโหมากเช่นเคย
“คุณแม่คะ จะไปถือสาคนพวกนี้ทำไมกัน พวกเขามาก็เพื่อตั้งใจยั่วโมโหเรา หากเรายังโมโหแบบนี้ต่อไป ก็หลงกลพวกมันสิ”
“วันนี้เป็นวันมงคลของหนูกับเวียร์ เราอย่าโมโหไปเลย อย่าไปถือสาคนถ่อยพวกนั้นอยู่เลย ท่านสงบสติอารมณ์เถอะ อีกเดี๋ยวเราจะต้องออกไปรับแขกอีก”
อันที่จริง ลี่จุนซินเองก็โกรธมากเช่นเดียวกัน แต่เมื่อเธอเห็นทุกคนปกป้องเธอ โดยเฉพาะเจียงหยุนเอ๋อที่อุ้มลูกแต่ยังคอยปลอบใจเธออยู่ตลอด ตอนนั้นเมื่อเธอด่าจนจบ ความโกรธในใจของเธอก็คลายลงมาก
ลี่จุนซินลุกขึ้น คิดที่จะรินน้ำให้กับโม่เสี่ยวฮุ่ย ก็ได้พบกับถวนจื่อที่ถือแก้วน้ำเข้ามาอย่างระแวดระวัง เดินเข้ามายื่นให้กับโม่เสี่ยวฮุ่ย “คุณย่าครับ ท่านในเย็นๆ ดื่มน้ำก่อนสิครับ”
โม่เสี่ยวฮุ่ยที่เห็นถวนจื่อก็ยิ้มออกมาทันที เธอรับแก้วน้ำมาไว้ด้วยความรักใคร่เอ็นดู “หลานฉันรักฉันที่สุดเลย”
หลังดื่มน้ำ โม่เสี่ยวฮุ่ยค่อยยังดีขึ้นมาบ้าง
ขณะที่ทั้งสามนั่งอยู่ บิดาของเวียร์เดินเข้ามา เมื่อเห็นพวกเขา โม่เสี่ยวฮุ่ยจับจ้องพวกเขาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด
โม่เสี่ยวฮุ่ยลุกขึ้นยืน ขยับฝีเท้าไปข้างหน้า กุมมือมารดาของเวียร์เอาไว้
“คุณแม่ของเวียร์ ต้องขออภัยมากจริงๆ ที่ต้องมาเห็นเรื่องที่น่าอับอายขนาดนี้ เรื่องของครอบครัวเรา…..เฮ้อ อันที่จริงฉันเองก็อับอายอยู่ไม่น้อย”
มารดาของเวียร์ไม่ใส่ใจมากนัก การที่เธอเข้ามาเพราะเกรงว่าโม่เสี่ยวฮุ่ยจะโมโหจนหนักเกินไป จนไร้สติ จึงคิดที่จะเข้ามาดูเท่านั้น
“ครอบครัวเดียวกันทั้งนั้น ไม่ต้องรู้สึกผิดอะไรหรอก เรื่องของครอบครัวคุณ ก่อนหน้านี้เวียร์เคยเล่าให้ฉันฟังแล้วบ้างนิดหน่อย เราเข้าใจ ฉันแค่เข้ามาดูว่าคุณเป็นยังไงบ้าง ไม่ได้มาเพื่อกล่าวโทษแต่อย่างใด”
มารดาของเวียร์ตบฝ่ามือฝ่ามือของโม่เสี่ยวฮุ่ยอย่างแผ่วเบา เพื่อปลอบใจ
“ขอบคุณคุณมากจริงๆ ตอนนี้ฉันไม่เป็นอะไรแล้ว เมื่อสักครู่ฉันแค่โกรธจนหน้ามืดหน้ามัว เลยไม่ทันได้ควบคุมสติของตัวเองเท่านั้น ขายขี้หน้าแย่”
“คุณพูดอะไรกัน เราจะเป็นครอบครัวเดียวกันอยู่แล้ว ไม่ต้องเกรงใจกันหรอก”
มารดาของเวียร์ไม่สนใจเรื่องของครอบครัวเธอจริงๆ ยังไงซะก็มีชีวิตอยู่มาตั้งหลายปี มีเรื่องอะไรบ้างที่ไม่เคยพบเห็น ผู้หญิงอย่างจ้าวเฟยเฟย เธอเห็นออกบ่อยไป
เธอเพียงแค่นึกเห็นใจ ลี่จุนถิงและลี่จุนซินเป็นเด็กดีมากแท้ๆ แต่บิดาของเขากลับไม่เห็นค่ารักษาพวกเขาเอาไว้ แต่กลับไปชอบลูกนอกสมรสคนนั้น แค่เห็นหน้าค่าตาของลูกนอกสมรสนั่นก็รู้แล้วว่าไม่ใช่คนดีอะไร
ไม่รู้ว่าทำไมนายลี่เจี้ยนหวาถึงได้หน้ามืดตามัวแบบนี้ ลูกที่ดีขนาดนี้ไม่เอา แต่กลับแตกหักกับครอบครัวตนเองเพื่อเมียน้อยคนนั้น
แม้ว่าโม่เสี่ยวฮุ่ยจะอารมณ์ร้ายอยู่บ้างเล็กน้อย แต่จ้าวเฟยเฟยดูก็รู้แล้วว่าไม่ใช่คนดี ดูก็รู้แล้วว่าเธอมีแผนชั่วมากมาย
ทั้งคู่สนทนากันอีกพักหนึ่ง ก่อนที่โม่เสี่ยวฮุ่ยจะพาพวกเขาออกไปรับแขก ยังไงซะลี่จุนถิงและเวียร์ก็เป็นผู้ชายทั้งคู่ ฝั่งสุภาพสตรีอาจดูแลไม่ทั่วถึง
เมื่อโม่เสี่ยวฮุ่ยเดินออกมา เหล่าคุณผู้หญิงทั้งหลายที่ค่อนข้างสนิทกับเธอเดินเข้ามาปลอบใจเธอในทันที
“ต้องขอบคุณทุกคนมากจริงๆ ฉันเห็นพวกเขาทีไรก็ควบคุมตัวเองไม่ได้ทุกที ต้องให้เพื่อนซี้ทั้งหลายทนดูเรื่องบัดสี”
โม่เสี่ยวฮุ่ยถือไวน์แก้วหนึ่งเอาไว้ พลันชูแก้วขึ้นเพื่อแสดงความรู้สึกผิด พวกเธอเองก็แสดงความเข้าอกเข้าใจ คนที่สนิทกับโม่เสี่ยวฮุ่ยยังมีส่วนหนึ่งที่สงสารเธอ
“เสี่ยวฮุ่ย เธอพูดอะไรกัน พวกเขาเป็นคนยังไงแค่แวบเดียวเราก็มองออก เธอไม่ต้องขอโทษหรอก คนพวกนั้นมันสมควรด่า”
“นั่นสิ วันนี้เป็นวันมงคลของจุนซิน ใครจะไปรู้ว่าพ่อสารเลวนั่นยังจะกล้าพาเมียน้อยกับลูกนอกสมรสมาอีก”
พวกที่สนิทกับโม่เสี่ยวฮุ่ย ต่างก็ช่วยโม่เซี่ยวฮุ่ยด่าทอ
ในสมัยนี้ เมียน้อย ผู้ชายเจ้าชู้และลูกนอกสมรสน่ารังเกียจที่สุด โดยเฉพาะผู้หญิงอย่างจ้าวเฟยเฟยที่แสร้งทำตัวอ่อนแอ ทำให้น่ารังเกียจมากเข้าไปใหญ่
หลังจากที่งานหมั้นจบลงอย่างสมบูรณ์แบบ เจียงหยุนเอ๋อพากุ่นกุ่นเจ้าน้อยที่หลับลึก และถวนจื่อที่อ่อนเพลียกลับบ้านก่อนไปก่อนแล้ว
เพราะลี่จุนถิงยังต้องอยู่คอยดูแลแขก เพราะงั้นเพียงสั่งให้ซู่จี้งยี้ส่งพวกเธอกลับไป ส่วนตัวเขายังคงอยู่ที่งานเพื่อช่วยเวียร์ดูแลแขก
ช่วงดึก เมื่อลี่จุนถิงกลับไปเขาดื่มเข้าไปไม่น้อย แต่เขาดูไม่เหมือนกับคนดื่มเข้าไปมากเลยแม้แต่น้อย โดยเฉพาะสายตาคู่นั้น ที่สว่างไสว
แม้ว่าลี่จุนถิงดื่มเข้าไปไม่น้อย แต่เขาทำธุรกิจมานาน เขาจึงคอแข็งไม่ใช่เล่น เมื่อซู่จี้งยี้ส่งเขากลับบ้าน เขายังคงมีสติดี
หลังจากที่ซู่จี้งยี้พาลี่จุนถิงกลับไปที่ห้อง จึงขอตัวกลับก่อน เจียงหยุนเอ๋อคอยวิ่งวุ่นเพื่อดูแลลี่จุนถิง เธอช่วยเขาเตรียมน้ำให้เขาอาบ ช่วยเขาหาเสื้อผ้าที่ใช้เปลี่ยน
เจียงหยุนเอ๋อวางเสื้อผ้าเอาไว้ข้างๆ ลี่จุนถิง นั่งลงข้างเขา “เตรียมเสร็จหมดแล้ว คุณไปอาบน้ำก่อนเถอะ”
ลี่จุนถิงนั่งอยู่อย่างนั้นไม่ไหวติง พลางนั่งจ้องเจียงหยุนเอ๋อด้วยรอยยิ้ม สายตาที่สว่างไสวจับจ้องของเขาทำให้เธอใบหน้าแดงก่ำ พลันเอื้อมมือผลักเขาอีก “คุณเลิกจ้องได้แล้ว ไปอาบน้ำเร็วเข้า”
จบประโยคของเจียงหยุนเอ๋อ ขณะที่เธอหดมือกลับ ทันใดนั้นก็ถูกลี่จุนถิงคว้าเอาไว้ ก่อนออกแรงกระชาก เจียงหยุนเอ๋อล้มลงที่อ้อมอกของลี่จุนถิง
“คุณคิดจะทำอะไร ไปอาบน้ำเร็วเข้าสิ”
ไม่ว่าเจียงหยุนเอ๋อจะว่าอย่างไร ลี่จุนถิงก็กอดเธอเอาไว้อย่างนั้นนิ่ง เขากอดเธอเอาไว้หลายนาที บรรทมจุมพิตที่หน้าผากของเธอ ก่อนลุกขึ้นเข้าไปที่ห้องน้ำ