ตอนที่ 753 กลับบ้านในวันที่สอง

แม่ปากร้ายยุค​ 80

ตอนที่​ 753 กลับบ้าน​ใน​วัน​ที่สอง​

เนื่องจาก​คุณย่า​ฟางขอให้​หลิน​ม่าย​และ​คนอื่น​ ๆ กลับบ้าน​ตอน​สิบเอ็ด​โมง หลิน​ม่าย​และ​คนอื่นๆ​ จึงเดินเล่น​เพียง​หนึ่ง​ชั่วโมง​ครึ่ง​และ​กลับบ้าน​ตอน​สิบ​โมงครึ่ง​

โชคดี​ที่​เธอ​กลับมา​เร็ว​ เพราะ​มีแขก​มากมาย​เดินทาง​มาที่​บ้าน​ของ​พวก​เธอ​ ทุกคน​ล้วน​เป็นอดีต​สหาย​ร่วม​รบ​ ผู้ใต้บังคับบัญชา​ และ​เพื่อนร่วมงาน​ของ​คุณปู่​ฟางและ​คุณย่า​ฟาง

หลิน​ม่าย​ประเมิน​ด้วย​สายตา​ว่า​มีอย่าง​น้อย​สามสิบ​ถึงสี่สิบ​คน​ แสดงว่า​ต้อง​ทำอาหาร​ให้​พวกเขา​เทียบ​ได้​กับ​โต๊ะจีน​สี่โต๊ะ​ใช่ไหม​?

หลิน​ม่าย​ทักทาย​แขก​ด้วย​ความเคารพ​ และ​พา​เถาจืออวิ๋น​ไป​ที่​ครัว​เพื่อ​เตรียม​อาหารกลางวัน​

เด็ก​ ๆ ทั้งสอง​และ​ฟางจั๋ว​หรา​น​ช่วย​คุณปู่​ฟางและ​คุณย่า​ฟางให้​ความบันเทิง​แก่​แขก​ ริน​ชา ริน​น้ำ​ จุด​บุหรี่​ และ​พูดคุย​กับ​แขก​

บุคลิก​ของ​ฟางจั๋วเยวี่ย​นั้น​ไม่ได้​เฉยชา​ และ​เขา​ยัง​เป็น​คน​ช่างเจรจา​ ทำให้​ชาย​ชรา​เหล่านั้น​หัวเราะ​บ่อยครั้ง​

แม้ฟางจั๋ว​หรา​น​จะไม่ได้​พูดมาก​ แต่​ก็​มีชาย​ชรา​สอง​สามคน​ที่​พูดคุย​กับ​เขา​ และ​ทั้งหมด​ก็​ถามเขา​เกี่ยวกับ​สุขภาพ​ของ​ตน​

ฟางจั๋ว​หรา​น​ตอบคำถาม​ของ​พวกเขา​อย่าง​อดทน​

คนชรา​เหล่านี้​ได้​หลั่งเลือด​เพื่อ​ประเทศ​ ฟางจั๋ว​หรา​น​เคารพ​พวกเขา​จาก​ก้นบึ้ง​ของ​หัวใจ​

หลิน​ม่าย​ยัง​แสดง​ทักษะ​การ​ดูแล​บ้าน​และ​เตรียม​อาหารกลางวัน​อย่าง​ระมัดระวัง​

อาหาร​จัด​เลี้ยง​ เช่น​ ไค​สุ่ย​ไป๋​ไช่ ลูกชิ้น​หัว​สิงโต​ ไก่​กัง​เปา​ ซุป​เต้าหู้​เห​วิน​ซือ​ พระ​กระโดด​กำแพง​ อาหาร​ทุกอย่าง​ล้วน​เป็น​ฝีมือ​ของ​เธอ​ทั้งหมด​

อีก​ทั้ง​หลิน​ม่าย​ยัง​ทำ​เค้ก​เนื้อ​ เค้ก​ปลา​ ลูกชิ้น​ไข่มุก​ ขา​หมู​ตง​โป​ และ​ซี่โครง​หมู​นึ่ง​ที่​เหมาะสำหรับ​ผู้สูงอายุ​ ควบคู่​ไป​กับ​ซุป​ราก​บัว​

อาหารกลางวัน​ฝีมือ​หลิน​ม่าย​ทั้งหมด​จึงถือเป็น​อาหาร​ที่​หรูหรา​อย่างยิ่ง​

แน่นอน​ว่า​สิ่งสำคัญ​ที่สุด​คือ​รสชาติ​ ไม่ว่า​จะทำให้​เจ็บ​ปวดฟัน​มาก​เพียงใด​ก็​ยัง​จะฝืน​กิน​

ผู้เฒ่า​เหล่านั้น​ต่าง​ชมเปาะ​ต่อ​อาหาร​อัน​โอชะ​ที่​หลิน​ม่าย​ทำ​อย่าง​ไม่ขาดปาก​

เมื่อ​เห็น​คนชรา​เหล่านี้​รับประทาน​อาหาร​อย่าง​มีความสุข​ หลิน​ม่าย​ก็​มีความสุข​เช่นกัน​

นักปฏิวัติ​รุ่นเก่า​เหล่านี้​สมควร​ได้รับ​การ​ดูแล​จาก​คนรุ่นใหม่​

ก่อนที่​งานเลี้ยง​อาหารกลางวัน​จะสิ้นสุดลง​ ท้องฟ้า​ก็​เริ่ม​มีหิมะ​ตกหนัก​

หิมะ​นี้​ดูเหมือน​จะไม่มีวัน​สิ้นสุด​ และ​เพิ่มมากขึ้น​ตลอดเวลา​

ใน​วัน​ที่สอง​ของ​เทศกาล​ปีใหม่​ หิมะ​บน​พื้น​สูงก็​เกิน​ข้อเท้า​

ซูอวี้อิ๋ง​ตื่นขึ้น​แต่เช้า​ เมื่อ​เห็น​ว่า​หิมะ​ตกหนัก​กว่า​เมื่อวาน​ หล่อน​ก็​รู้สึก​กังวล​ทันที​

เมื่อวาน​เป็น​วัน​แรก​ของ​ปีใหม่​ ธุรกิจ​ตลาด​ฮุ่ย​ห​มิน​ทั้งสอง​ของหล่อน​ยังคง​ย่ำแย่​

วันนี้​หิมะ​ตกหนัก​ เกรง​ว่า​จะมีลูกค้า​ที่​ไป​ตลาด​ของ​เธอ​น้อยลง​

อาหารสด​จำนวนมาก​ใน​ตลาด​ของหล่อน​ถูก​วางขาย​มาหลาย​วัน​แล้ว​ ปลา​และ​เนื้อ​ตอนนี้​ต่าง​เริ่ม​มีกลิ่น​เหม็น​

หาก​วันนี้​ขาย​ไม่ได้​ก็​ต้อง​ทิ้ง​ไป​ เป็น​เช่นนั้น​หล่อน​คง​ต้อง​ขาดทุน​ไม่ใช่น้อย​

ซูอวี้อิ๋ง​รับประทาน​อาหารเช้า​ด้วย​ความ​เศร้าหมอง​ และ​ขอให้​คนขับรถ​ของ​พ่อ​ขับรถ​พา​หล่อน​ไป​ที่​ตลาด​ฮุ่ย​ห​มิน​สาขา​แรก​ เพราะ​ต้อง​อธิบาย​งาน​ของ​วันนี้​ให้​ผู้จัดการ​ทั้งสอง​ฟัง

อันที่จริง​รถ​ของ​เขา​เก็บ​ไว้​ใช้สำหรับ​งาน​ทางการ​ และ​ไม่เคย​นำมาใช้​ใน​เรื่องส่วนตัว​ แต่​เขา​ก็​ไม่อาจ​ขัดแย้ง​ได้​

คนขับรถ​ของ​พ่อ​ซูไม่มีความสุข​ แต่​เขา​ก็​ไม่สามารถ​ทำ​อะไร​ได้​ เพราะ​ผู้หญิง​คน​นี้​คือ​ลูกสาว​ของ​เจ้านาย​

เขา​ยังคง​เชื่อฟัง​และ​ขับรถ​พา​หล่อน​ไป​ยัง​ตลาด​ฮุ่ย​ห​มินตา​มคำร้องขอ​

ผู้จัดการ​เฉียน​และ​ผู้จัดการ​หม่า​มาถึงแล้ว​

ผู้จัดการ​เฉียน​เห็น​ซูอวี้อิ๋ง​ก็​พลัน​เอ่ย​ “คุณ​ซูครับ​ อาหารสด​จำนวนมาก​ใน​ตลาด​ของ​เรา​เริ่ม​ส่งกลิ่น​เหม็น​ ผม​คิด​ว่า​น่าจะ​เน่า​เสียแล้ว​ และ​เรา​ควร​ทิ้ง​”

ผู้จัดการ​หม่า​กล่าว​เสริม​ “ผัก​ใน​ตลาด​ก็​เริ่ม​เน่า​เสียแล้ว​ ต้อง​ทิ้ง​เหมือนกัน​ครับ​”

ซูอวี้อิ๋ง​โบกมือ​ “จะทิ้ง​ได้​ยังไง​? คิด​ว่า​ฉัน​รวย​นัก​หรือ​ยังไง​? ล้าง​กลิ่นคาว​และ​กลิ่น​เหม็น​เน่า​ของ​ปลา​ออก​ให้​หมด​ ทำให้​เป็น​ปลา​ตากแห้ง​และ​ขาย​ใน​ราคา​ถูก​ ส่วน​หมู​ให้​นำ​ไป​หมัก​ด้วย​เกลือ​ และ​ขาย​ใน​ราคา​ถูก​เหมือนกัน​ ส่วน​ผัก​ที่​เน่าเสีย​ให้​ตัด​ส่วน​ที่​เน่า​ทิ้ง​แล้ว​เก็บ​ส่วน​ที่​ดี​ไป​ขาย​ราคา​ถูก​ อาหาร​ที่​ปรุง​ไม่สุก​ให้​เติม​เกลือ​และ​น้ำ​ดอง​มากขึ้น​ ขาย​ใน​ราคา​ต่ำ​และ​จัด​โปรโมชั่น​ด้วย​”

ผู้จัดการ​เฉียน​และ​ผู้จัดการ​หม่า​มองหน้า​กัน​ด้วย​ความตกใจ​

ผู้จัดการ​เฉียน​พูด​อย่าง​กล้าหาญ​ “ต่อให้​วัตถุดิบ​เหล่านี้​จะผ่าน​กรรมวิธี​เพื่อ​กลบ​กลิ่น​ได้​ แต่​มัน​ก็​เสื่อมสภาพ​ไป​มาก​แล้ว​ เรา​… อย่า​ขาย​เลย​ดีกว่า​นะ​ครับ​ เพราะ​หาก​ลูกค้า​กิน​เข้าไป​ เรา​ก็​ไม่อาจ​คาดเดา​ได้​ว่า​จะเกิด​อะไร​ขึ้น​”

“จะต้อง​กลัว​อะไร​อีก​ จะปล่อย​ให้อาหาร​เน่า​เสียแล้ว​ต้อง​ทิ้ง​จน​หมด​หรือ​ยังไง​?” ซูอวี้อิ๋ง​จ้องมอง​เขา​ด้วย​ความไม่พอใจ​ “หาก​คุณ​ไม่ทำให้​มัน​สกปรก​ ก็​จะไม่มีใคร​ท้องเสีย​ ชาวบ้าน​ที่​ยากจน​พวก​นั้น​ก็​ต่าง​เก็บ​ผักกาด​ขาว​เน่า​ ๆ มากิน​ ฉัน​ก็​ไม่เห็น​ว่า​มีใคร​ตาย​เพราะ​กิน​มัน​นะ​ ฉัน​เอง​ก็​เคย​เอา​ปลา​พวก​นั้น​ไป​หมัก​ด้วย​พริก​ เกลือ​ และ​พริกไทย​ และ​ต้อง​เอา​ไป​ปรุง​สุก​ก่อน​กิน​อยู่แล้ว​ แบบนี้​ปลอดภัย​เสีย​ยิ่งกว่า​การ​กิน​ผักกาด​เน่า​อีก​ พวกคุณ​ยัง​กลัว​ว่า​พวกเขา​จะท้องเสีย​อีก​เหรอ​? ต่อให้​กิน​แบคทีเรีย​ทั้งเป็น​ก็​ไม่มีใคร​ป่วย​ พวก​คนจน​ไม่มีใคร​ป่วย​อย่าง​ง่ายดาย​หรอก​”

หลังจาก​ฟังคำพูด​ของ​ซูอวี้อิ๋ง​ ผู้จัดการ​เฉียน​ก็​รู้สึก​อึดอัด​มาก​

แต่​เขา​ก็​เป็น​เพียง​ลูกจ้าง​ที่​ไม่อาจ​ขัดคำสั่ง​ของ​เจ้านาย​ ดังนั้น​จึงทำได้​เพียง​เงียบ​ปาก​

ซูอวี้อิ๋ง​จัดแจง​งาน​ใน​วันนี้​และ​ขึ้นรถ​ของ​คุณพ่อ​ซูเพื่อ​เดินทาง​กลับบ้าน​ และ​ร้อง​ขอให้​สามีกลับบ้าน​ไป​พร้อมกับ​หล่อน​

วัน​ที่สอง​ของ​เทศกาล​ปีใหม่​คือ​วันที่​ควร​เดินทาง​กลับ​ไปหา​ครอบครัว​

หาก​หล่อน​ไม่สามารถ​พา​สามีกลับ​ไปหา​ครอบครัว​ของ​ตัวเอง​ได้​ ก็​สมควร​ที่จะ​ปล่อย​เขา​ไป​

หลิน​ม่าย​ก็​จะกลับ​บ้านเกิด​ของ​เธอ​ใน​วันนี้​เช่นกัน​

หลัง​อาหารเช้า​ ทั้งคู่​เตรียม​ของขวัญ​และ​พา​โต้​ว​โต้​ว​ขึ้น​รถจี๊ป​ของ​ฟางจั๋ว​หรา​น​ไป​ที่​บ้าน​ของ​พ่อ​ไป๋​

บ้าน​พ่อ​ของ​ไป๋​อยู่​ไม่ไกล​จาก​บ้าน​ของ​หลิน​ม่าย​ แต่​หิมะ​บน​พื้น​หนา​เกินไป​ ทำให้​เดิน​ลำบาก​และ​ล้ม​ง่าย​ ดังนั้น​จึงควร​ขับรถ​เพื่อ​หลีกเลี่ยง​ปัญหา​ดังกล่าว​

แต่​อย่างไร​ก็​ไม่ควร​ขับรถ​เร็ว​เกินไป​ เพราะ​เสี่ยง​ต่อ​การ​เกิด​อุบัติเหตุ​จาก​ถนน​ลื่น​

เมื่อ​ขับรถ​ไป​ได้​ครึ่งทาง​ หลิน​ม่าย​ก็​เห็น​ร่าง​ที่​คุ้นเคย​สอง​ร่าง​ต่อสู้​กัน​ผ่าน​หน้าต่าง​รถ​

ร่าง​ที่​คุ้นเคย​ทั้งสอง​นั้น​ไม่ใช่ใคร​อื่น​นอกจาก​แม่ไป๋​และ​ไป๋​ซวง​

เห็นได้ชัด​ว่า​แม่ไป๋​ไม่ใช่คู่ต่อสู้​ของ​ไป๋​ซวง​ หล่อน​ถูก​ไป๋​ซวง​ทุบตี​จน​ล้ม​ลง​กับ​พื้น​

ฟางจั๋ว​หรา​น​เอง​ก็​เห็น​แม่ไป๋​และ​ไป๋​ซวง​ต่อสู้​กัน​

เขา​ลด​ความเร็ว​ลง​ เอียง​ศีรษะ​แล้ว​ถามหลิน​ม่าย​ “คุณ​อยาก​ลง​ไปดู​ไหม​?”

หลิน​ม่าย​ส่าย​ศีรษะ​ “ไม่”

เพราะ​แม่ไป๋​เคย​สร้าง​บาดแผล​ใน​หัวใจ​ของ​เธอ​มาก่อน​ ดังนั้น​หลิน​ม่าย​จึงปฏิเสธ​ที่จะ​สนใจ​เรื่อง​นี้​ เรียก​ได้​ว่า​เธอ​ใจแข็ง​ยิ่งกว่า​หิน​ผา​

แต่​หาก​แม่ไป๋​ถูก​ไป๋​ซวง​ทุบตี​จน​เป็นอันตราย​ เธอ​จะโทร​หา​ตำรวจ​ทันที​

เพราะ​เธอ​ต้องการ​ใช้โอกาส​นี้​กำจัด​ไป๋​ซวง​

แม้ว่า​แม่ไป๋​จะถูก​ไป๋​ซวง​ทุบตี​กับ​พื้น​ แต่​หล่อน​ก็​ยัง​เห็น​รถจี๊ป​ของ​ฟางจั๋ว​หรา​น​แล่น​ผ่าน​ไป​ไม่ไกล​

หล่อน​เชื่อมั่น​ว่า​หลิน​ม่าย​และ​สามีเห็น​หล่อน​กำลัง​ตกทุกข์ได้ยาก​ เพราะ​เห็นได้ชัด​ว่า​รถจี๊ป​ของ​ฟางจั๋ว​หรา​น​ขับ​ช้าลง​ใน​ระยะ​หนึ่ง​

ทว่า​รถจี๊ป​ไม่ได้​หยุด​ แต่กลับ​เร่ง​ออก​ไป​

แม่ไป๋​น้ำตาไหล​ด้วย​ความเสียใจ​

ถ้าไม่ใช่เพราะ​ถูก​งูพิษ​ไป๋​ซวง​หลอกล่อ​ หล่อน​คง​ไม่ใช่คนแปลกหน้า​สำหรับ​ลูกสาว​ตัว​น้อย​คน​นี้​

หลิน​ม่าย​และ​สามีคง​ไม่ปฏิเสธ​ที่จะ​ให้​ความช่วยเหลือ​เมื่อ​เห็น​หล่อน​ถูก​ไป๋​ซวง​ทุบตี​

ทั้งหมด​นี้​เกิด​จาก​ไป๋​ซวง​

แม่ไป๋​ที่​ถูก​ไป๋​ซวงกด​และ​ถูบน​พื้น​บัน​ดาลโทสะ​มากขึ้น​เรื่อย ๆ​ และ​ทันใดนั้น​ก็​ระเบิด​ออกมา​ หล่อน​ทุบตี​ไป๋​ซวง​อย่าง​รุนแรง​จน​โอดครวญ​ด้วย​ความเจ็บปวด​

แต่​หลิน​ม่าย​ไม่เห็น​สิ่งเหล่านี้​ ดังนั้น​เธอ​จึงไม่รู้​เป็นธรรมดา​

พ่อ​ไป๋​ตื่น​แต่​เช้าตรู่​ พา​ไป๋​เซี่ย​และ​ไป๋​ลู่​เตรียม​งานเลี้ยง​ครอบครัว​สำหรับ​ต้อนรับ​ลูกสาว​สอง​คน​ที่​แต่งงาน​แล้ว​กลับบ้าน​

ตั้งแต่​ลูกเขย​คนโต​เริ่ม​ธุรกิจ​เล็ก​ ๆ ลูกสาว​คนโต​ก็​ค่อนข้าง​ยุ่ง​ ส่วน​ลูกสาว​คน​เล็ก​ยุ่ง​กับ​การเรียน​และ​ธุรกิจ​จน​ไม่มีเวลา​กลับ​บ้านเกิด​ เขา​ไม่ได้​เห็น​ลูกสาว​ทั้งสอง​มาสักพัก​แล้ว​

ในที่สุด​ก็​ถึงวันที่​ลูกสาว​และ​ลูกเขย​ของ​เขา​ได้​กลับ​มาหา​ครอบครัว​ ทำให้​พ่อ​ไป๋​รู้สึก​ตื่นเต้น​เล็กน้อย​

ในขณะที่​ยุ่ง​อยู่​ เขา​ก็​ไม่ลืม​ที่จะ​ออก​ไปดู​นอกบ้าน​หลังจาก​ผ่าน​ไป​ระยะ​หนึ่ง​

ก่อน​สิบ​โมง ลูกสาว​สอง​คน​ที่​แต่งงาน​แล้ว​ต่าง​ก็​มาพร้อม​ครอบครัว​

ลานบ้าน​ของ​พวกเขา​มีชีวิตชีวา​ขึ้น​มาทันที​

เถียนเถียน​อายุ​มากกว่า​หนึ่ง​ขวบ​แล้ว​ และ​กำลัง​เรียนรู้​ที่จะ​เดิน​

โต้​ว​โต้​ว​ช่วย​ให้​หล่อน​หัด​เดิน​ใน​ห้องนั่งเล่น​

หลิน​ม่าย​บอก​หล่อน​ให้​ระมัดระวัง​ขณะ​ดูแล​น้อง​ เพราะ​น้อง​อาจ​ล้ม​ได้​

หยาง​จิ้น​พูด​ด้วย​รอยยิ้ม​ “ล้ม​ก็​ไม่เป็นไร​หรอก​ พื้นบ้าน​ของ​พ่อ​ปู​ด้วย​ไม้ หาก​เถียนเถียน​ล้ม​ก็​จะไม่เจ็บ​อย่าง​แน่นอน​”

หลิน​ม่าย​และ​ไป๋​เหยียน​พับ​แขน​เสื้อ​ขึ้น​ เตรียม​จะทำงาน​ครัว​

พ่อ​ไป๋​และ​พี่น้อง​ทั้งสอง​เข้ามา​ห้ามปราม​พวก​เธอ​ โดย​บอ​กว่า​ลูกสาว​ที่​แต่งงาน​แล้ว​ถือเป็น​แขก​ ใน​ฐานะ​เจ้าบ้าน​ พวกเขา​ไม่อาจ​ให้​แขก​ทำงานบ้าน​ได้​

ทั้งสอง​คน​กลับ​ไป​ที่​ห้องนั่งเล่น​เพื่อ​พูดคุย​กัน​

หลิน​ม่าย​กระซิบ​ว่า​เธอ​เห็น​แม่ไป๋​และ​ไป๋​ซวง​ต่อสู้​กัน​บน​ถนน​

ไป๋​เหยียน​ถอนหายใจ​พลาง​กล่าว​ “เรา​ก็​เคย​เจอ​เหตุการณ์​นี้​เช่นกัน​ เมื่อ​เห็น​ว่า​ไม่มีความหวัง​ที่จะ​ได้​คืนดี​กับ​พ่อ​ แม่ก็​เอาแต่​ตำหนิ​ไป๋​ซวง​ที่​เป็นต้นเหตุ​ของ​เรื่องราว​ทั้งหมด​ แม่ตามหา​ไป๋​ซวง​ทั่วเมือง​ หาก​ได้​พบ​หล่อน​ก็​จะทำการ​ทุบตี​หล่อน​ทันที​ แต่​พี่​ไม่คิด​เลย​ว่า​ใน​วัน​ปีใหม่​เช่นนี้​แม่ก็​ยัง​เลือก​ที่จะ​ไม่ยอม​ปล่อย​ไป๋​ซวง​ไป​ การทะเลาะวิวาท​กัน​กลาง​ถนน​ท่ามกลาง​ผู้คน​พลุกพล่าน​ช่างเป็นเรื่อง​น่ารังเกียจ​”

หลิน​ม่าย​นึกถึง​ฉาก​ที่​แม่ไป๋​ถูก​ไป๋​ซวงกดลงบน​พื้น​ด้วย​ความรู้สึก​งุนงง​ “พี่​รู้​ไหม​ว่า​แม่เอาชนะ​ไป๋​ซวง​ไม่ได้​?”

เธอ​รู้สึก​ว่า​แม่ไป๋​สมองฝ่อ​เสีย​จน​ไม่สามารถ​ตระหนักถึง​ความถูก​ผิด​ได้​อีกต่อไป​ ทำ​อะไร​ตามอารมณ์​จน​ขาด​การไตร่ตรอง​

ไป๋​เหยียน​พูด​อย่าง​หมดหนทาง​ “บางที​แม่อาจจะ​หวาดระแวง​ พี่​ไม่รู้​เลย​ว่า​มีสิ่งผิดปกติ​อะไร​ที่​กระตุ้น​นิสัย​หวาดระแวง​ที่ซ่อน​อยู่​ของ​แม่หรือเปล่า​ รู้​แค่​ว่า​ที่ผ่านมา​แม่เป็น​คน​มีสติปัญญา​และ​ใจกว้าง​ แต่​เมื่อ​มีบางอย่าง​เกิดขึ้น​ ลักษณะนิสัย​หวาดระแวง​ของ​แม่ก็​ถูก​เปิดโปง​ แม่ผิดปกติ​ขนาด​เดิน​ไป​ตาม​ถนน​ราวกับ​คน​ไร้สติ​ แม้จะมีคน​เรียก​ก็​ไม่หัน​กลับมา​มอง​”

หลิน​ม่าย​เงียบ​

โชคดี​ที่​แม่ไป๋​ไม่ถือโทษ​ที่​ตน​ไม่ยอม​ช่วย​ให้​หล่อน​ได้​คืนดี​กับ​พ่อ​ไป๋​ เพราะ​ไม่อย่างนั้น​แม่ไป๋​อาจ​ไม่ปล่อย​เธอ​ไป​

แท้จริง​แล้ว​หล่อน​เป็น​หญิง​ที่​ไม่ควร​ยั่วยุ​ด้วย​

ฟางจั๋ว​หรา​น​และ​หยาง​จิ้น​ไม่รู้​จะเริ่มต้น​คุย​กัน​อย่างไร​ ทั้งสอง​พยายาม​อย่าง​หนัก​ที่จะ​ค้นหา​หัวข้อ​ต่าง ๆ​ แต่​สุดท้าย​พวกเขา​ก็​ไร้​หนทาง​

โชคดี​ที่​ไป๋​เซี่ย​ปรับ​บรรยากาศ​ได้ดี​ มิฉะนั้น​คง​กดดัน​น่าดู​

ก่อนเที่ยง​ พ่อ​ไป๋​และ​ไป๋​ลู่​ช่วยกัน​เตรียม​อาหาร​จาน​อร่อย​ด้วยกัน​

ทุกคน​ช่วยกัน​วาง​อาหาร​บน​โต๊ะ​

ไป๋​เหยียน​รู้สึก​ยินดี​ที่​ได้​เห็น​อาหาร​พวก​นี้​ “อาหาร​ของ​พ่อ​ครึ่งหนึ่ง​เป็น​ของ​ตุ๋น​และ​อาหาร​จาก​ตลาด​ฝูตัว​ตัว​ อาหาร​ที่​พ่อ​ทำ​เอง​มีเพียง​ไม่กี่​อย่าง​

พ่อ​ไป๋​กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​ “ฝีมือ​ทำอาหาร​ของ​พ่อ​ไม่ค่อย​ดี​นัก​ หลู่​ไช่และ​อาหารเย็น​จาก​ตลาด​ฝูตัว​ตัว​อร่อย​และ​กิน​ง่าย​น่ะ​”

ไป๋​เหยียน​พยักหน้า​ด้วย​รอยยิ้ม​ “อาหาร​พวก​นี้​กิน​ง่าย​มาก​ค่ะ​ เวลา​ยุ่ง​หรือ​เหนื่อย​จาก​งาน​ ฉัน​ก็​มักจะ​ซื้อ​ผัก​ตุ๋น​ของ​เสวี่ย​เป่า​มากิน​ มัน​อร่อย​มาก​เลย​! แต่​น่าเสียดาย​ที่​ไม่มีอาหาร​ปรุง​สด​ใหม่​ หาก​มีก็​คงจะ​ดี​ไม่น้อย​ เพราะ​อาหาร​ปรุง​สำเร็จ​เมื่อ​เย็น​แล้วก็​มีรสชาติ​เปลี่ยนไป​”

หยาง​จิ้น​มอง​หล่อน​ด้วย​แววตา​ไร้เดียงสา​ “งั้น​ลอง​ทำอาหาร​กึ่ง​สำเร็จรูป​ออกมา​ขายดี​ไหม​?”

หลิน​ม่าย​ฟังการ​สนทนา​ระหว่าง​พี่สาว​คนโต​กับ​สามีของหล่อน​ และ​เอ่ย​แทรก​ “เป็นไปไม่ได้​หรอก​ค่ะ​ที่จะ​ทำอาหาร​กึ่ง​สำเร็จรูป​ขาย​ เพราะ​เรา​ไม่อาจ​รู้​ได้​ว่า​จะมีคนซื้อ​กี่​คน​”

หยาง​จิ้น​ส่าย​ศีรษะ​ “ก็​น่าจะ​ไม่มาก​ สินค้า​กึ่ง​สำเร็จรูป​แพง​กว่า​ซื้อ​วัตถุดิบ​กลับ​ไป​ทำ​เอง​แน่นอน​ คง​มีแค่​ไม่กี่​คน​ที่​เต็มใจ​ซื้อ​”​​

หลิน​ม่าย​ก็​คิด​เช่นกัน​

ยุค​นี้​เป็น​ยุค​ที่​ผู้คน​มัก​ซื้อ​อาหารสด​กลับ​ไป​ทำ​เอง​ และ​ไม่นิยม​ซื้อ​อาหาร​กึ่ง​สำเร็จรูป​

หาก​ไม่ใช่เพราะ​ทำ​ธุรกิจ​ใหญ่โต​ ผู้คน​ก็​ย่อม​มีเวลา​ที่จะ​ทำอาหาร​ด้วยตัวเอง​เสมอ​

ยัง​เร็ว​เกินไป​ที่จะ​เปิดตัว​อาหาร​กึ่ง​สำเร็จรูป​ใน​ตอนนี้​

ระหว่าง​รับประทาน​อาหารเย็น​ พ่อ​ไป๋​ก็​ถามเกี่ยวกับ​ธุรกิจ​ของ​หลิน​ม่าย​เป็น​อย่าง​แรก​

หลิน​ม่าย​พูด​ด้วย​รอยยิ้ม​ “ทุกอย่าง​เป็นไป​ด้วยดี​ค่ะ​”

พ่อ​ไป๋​ถามไป๋​เหยียน​และ​สามีว่า​ธุรกิจ​ของ​พวกเขา​เป็น​อย่างไรบ้าง​

ทั้งคู่​พยักหน้า​ด้วย​รอยยิ้ม​บอ​กว่า​ธุรกิจ​ดำเนิน​ไป​ด้วยดี​ พวกเขา​มีรายได้​เดือน​ละ​ห้า​ถึงหกร้อย​

ไป๋​เหยียน​กล่าว​หยอกล้อ​ “รายได้​เกือบ​เทียบเท่า​พ่อ​เลย​นะคะ​ แต่​อาชีพ​ไม่ได้​มีเกียรติ​เท่า​อาชีพ​ของ​พ่อ​เลย​”

ใน​ฐานะ​พ่อแม่​ ทุกคน​ต่าง​หวัง​ว่า​ลูก​ ๆ จะมีชีวิต​ที่​ดี​

พ่อ​ไป๋​มีความสุข​มาก​เมื่อ​ได้ยิน​ดังนั้น​จึงกล่าว​ “ขอ​แค่​เรา​ไม่ได้​ปล้น​หรือ​ขโมย​ใคร​มา ไม่จำเป็นต้อง​สนใจ​ว่า​จะมีชื่อเสียง​หรือเปล่า​ เพียงแค่​มีเงิน​เรา​ก็​จะสามารถ​ทำ​ทุกอย่าง​ได้​ตาม​ต้องการ​ เมื่อ​ลูก​กลายเป็น​ผู้ประกอบการ​อย่าง​เสวี่ย​เป่า​ โดย​มีต้นกำเนิด​จาก​ผู้ประกอบอาชีพ​อิสระ​เล็ก​ ๆ สถานะ​ทางสังคม​ของ​ลูก​ก็​จะสูงขึ้น​ และ​ไม่มีใคร​ดูถูก​ลูก​

ไป๋​เหยียน​ยิ้ม​และ​ส่าย​ศีรษะ​ “เรา​มีความสุข​มาก​ที่​ได้​ประกอบอาชีพ​อิสระ​ แต่​เรา​คง​เป็น​ผู้ประกอบการ​ที่​ประสบความสำเร็จ​เหมือน​น้อง​ไม่ได้​ เรา​ไม่ฉลาด​พอ​ ฮ่าๆๆ!”

หล่อน​กล่าว​พลาง​ป้อน​ซุป​ไก่​ให้​เถียนเถียน​ซึ่งอยู่​ใน​อ้อมแขน​

ทันทีที่​เด็กน้อย​ได้​กิน​ซุป​ไก่​ หล่อน​ก็​เผย​รอยยิ้ม​แห่ง​ความสุข​ออกมา​

หลิน​ม่าย​ยิ้ม​อย่าง​สุภาพ​ “ฉัน​ไม่ใช่ผู้ประกอบการ​ แค่​เจ้าของ​กิจการส่วนตัว​ขนาดเล็ก​ต่างหาก​ค่ะ​”

ไป๋​ลู่​และ​ไป๋​เซี่ย​พูด​พร้อมกัน​ “เธอ​ไม่ถือว่า​เป็น​เจ้าของกิจการ​ขนาดเล็ก​ เพราะ​ถ้าคน​ระดับ​เธอ​เรียก​ว่า​เป็น​เจ้าของกิจการ​ขนาดเล็ก​ ก็​คง​ไม่มีผู้ประกอบการ​มาก​นัก​ในประเทศ​นี้​แล้ว​ล่ะ​”

ทุกคน​กิน​ดื่ม​ พูดคุย​ และ​หัวเราะ​อย่าง​มีความสุข​

………………………………………………………………………………………………………………………….

สาร​จาก​ผู้แปล​

แม่ไป๋​มีโรค​อะไร​หรือเปล่า​ถึงได้​มีพฤติกรรม​และ​ความคิด​ไม่ปกติ​แบบนี้​ บางที​อาจจะ​มีเนื้องอก​หรือ​มะเร็ง​ใน​สมอง​ก็ได้​นะ​

ไหหม่า​(海馬)