ตอนที่ 693 ก่อเรื่อง

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 693 ก่อเรื่อง

“ขอรับ!” เฉิงซ่านหรูดีใจที่ได้รับความไว้ใจจนทำตัวไม่ถูก เขาเงยหน้ามองไปด้านในฉากกั้นแวบหนึ่ง จากนั้นกล่าวต่อ “ข้ามีความรู้ไม่มาก แม้จะคิดว่าแบบหลอมธนูที่พวกเขาทำขึ้นมาดีมาก ทว่า ข้ากลับพบว่าในใต้หล้านี้มีเพียงแคว้นต้าเยี่ยนแคว้นเดียวเท่านั้นที่เคยผลิตธนูแบบนี้ขึ้นมา ข้าจึงสงสัยว่าเซียวเซียนเซิงผู้นี้มีความเกี่ยวข้องกับต้าเยี่ยน คุณหนูใหญ่โปรดระวังเซียวเซียนเซิงไว้บ้างนะขอรับ”

คำกล่าวของเฉิงซ่านหรูทำให้ไป๋ชิงเหยียนต้องมองชายหนุ่มใหม่อีกครั้ง นึกไม่ถึงเลยว่าเฉิงซ่านหรูจะรู้ว่านี่คือแบบธนูของต้าเยี่ยน

“เจ้ารู้ได้เช่นไร” ไป๋ชิงเหยียนปิดฝาถ้วยชา จากนั้นถามยิ้มๆ

“ซ่านหรูเป็นคนโง่ ร่ำเรียนมาน้อย คุณหนูใหญ่เชื่อใจซ่านหรู มอบหมายให้ข้าเป็นคนดูแลเรื่องเหมืองผลิตอาวุธ ข้าอยากมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ให้มากขึ้นกว่านี้จึงไปหาตำราโบราณเกี่ยวกับอาวุธมาอ่านขอรับ ข้าบังเอิญอ่านเจอตำราเล่มหนึ่งที่บันทึกเรื่องธนูของแคว้นต้าเยี่ยนไว้ ตอนนั้นต้าเยี่ยนเป็นแคว้นที่แข็งแกร่งและยิ่งใหญ่ พวกเขามีเหมืองผลิตอาวุธชั้นดี พวกเขาเคยผลิตธนูที่มีพลังทำลายล้างสูงเช่นนี้มาแล้ว ต่อมาต้าเยี่ยนต้องการบุกรุกรานแคว้นของพวกเรา ทว่า พวกเขาเกิดขัดแย้งกันเองภายในจึงถูกต้าจิ้นโจมตีกลับจนกลายเป็นอย่างทุกวันนี้ พวกเขาไม่มีเหมือง ไม่สามารถผลิตอาวุธที่แกร่งกล้าเช่นนี้ออกมาได้อีก ธนูที่เยี่ยมยอดขนาดนี้ต้องใช้แร่ทองแดงชั้นดีในการหล่อหลอม ดังนั้นต้าเยี่ยนจึงไม่สามารถผลิตธนูเช่นนี้ออกมาได้อีกขอรับ! พลธนูที่แข็งแกร่งและดุดันของต้าเยี่ยนในตอนนั้นจึงหายสาบสูญไปแล้วขอรับ”

ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า “นี่ไม่ได้หมายความว่าเซียวเซียนเซิงจะมีความเกี่ยวข้องกับต้าเยี่ยน เซียวเซียนเซิงเป็นคนแคว้นเว่ย ไม่แน่เขาอาจจะหาแบบหลอมธนูนี้มาเพื่อผลิตอาวุธไปช่วยแคว้นของตัวเองสู้รบกับต้าเยี่ยนก็ได้”

เมื่อเห็นว่าไป๋ชิงเหยียนไม่ใส่ใจคำกล่าวของเขา เฉิงซ่านหรูเริ่มร้อนรนขึ้นมาทันที “คุณหนูใหญ่ ต้าเว่ยมีเหมืองแร่ชั้นดีเช่นเดียวกันนะขอรับ! หากเซียวเซียนเซิงผู้นี้ทำเพื่อแคว้นของตัวเองจริง พวกเขาสามารถนำแบบหลอมกลับไปยังต้าเว่ยได้ เหตุใดต้องมาร่วมมือกับคุณหนูใหญ่ด้วยขอรับ คุณหนูใหญ่โปรดไตร่ตรองให้ดีด้วยขอรับ ซ่านหรูทราบดีว่าคุณหนูใหญ่วางแผนทุกอย่างดีเสมอ ทว่า คุณหนูใหญ่อย่าได้ดูถูกพ่อค้าเป็นอันขาดนะขอรับ พ่อค้าเห็นกำไรเป็นใหญ่ หากต้าเยี่ยนให้ผลกำไรที่ดีกว่า เซียวเซียนเซิงผู้นี้อาจส่งอาวุธให้ต้าเยี่ยนแทนก็ได้นะขอรับ ซ่านหรูขอร้องให้คุณหนูใหญ่ระวังเซียวเซียนเซิงผู้นี้ไว้ด้วยขอรับ”

ไป๋ชิงเหยียนไม่สงสัยในความจงรักภักดีของเฉิงซ่านหรู ที่น่าแปลกใจก็คือหญิงสาวไม่คิดว่าเฉิงซ่านหรูจะฉลาดถึงเพียงนี้ นางส่งเขาไปดูแลเรื่องเหมือง คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะหาตำราเกี่ยวกับอาวุธมาอ่านอย่างใฝ่รู้เช่นนี้

“ข้ารู้เรื่องของเซียวเซียนเซิงและต้าเยี่ยนแล้ว…” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวขึ้น “เจ้าไม่ต้องเป็นห่วง ข้ารู้ขอบเขตดี”

เฉิงซ่านหรูถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก “ในเมื่อคุณหนูใหญ่ทราบเรื่องนี้แล้ว ซ่านหรูก็จะไม่กล่าวให้มากความอีกขอรับ”

เฉิงซ่านหรูถอยไปยืนอยู่ด้านข้างอย่างสงบเสงี่ยมโดยไม่กล่าวสิ่งใดออกมาอีก

“ลุงหลิว เดี๋ยวจะมีเสบียงส่งมาให้พวกเราอีก ลุงหลิวจัดการตามสมควรได้เลย ส่งจดหมายบอกจี้ถิงอวี๋ด้วยว่าไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องเสบียง ทางซั่วหยางจะจัดการให้เขาเอง” เมื่อไป๋ชิงเหยียนกล่าวกับผู้ดูแลหลิวเสร็จ หญิงสาวจึงเหลือบมองไปทางเฉิงซ่านหรูที่อยู่นอกฉากกั้นแวบหนึ่ง “หากลุงหลิวจัดการไม่ทันสามารถให้เฉิงซ่านหรูช่วยลุงหลิวแบ่งเบาได้”

บัดนี้ผู้ดูแลหลิวอายุมากแล้ว เขากำลังค่อยๆ ถ่ายทอดงานทั้งหมดให้แก่เฉิงซ่านหรู เมื่อเฉิงซ่านหรูจัดการทุกอย่างได้อย่างคล่องแคล่วแล้ว ผู้ดูแลหลิวจะได้ถอนตัวออกมาพักผ่อนดูแลร่างกายที่แก่ชราลงทุกวันของตัวเองอย่างเต็มที่

“คุณหนูใหญ่ไม่ต้องห่วงขอรับ เรื่องเล็กแค่นี้ข้ายังพอจัดการได้ขอรับ ทว่า ข้าอายุมากแล้วจึงทำสิ่งใดไม่ค่อยได้ดั่งใจและรวดเร็วเหมือนเมื่อก่อน ข้าจะสอนงานทั้งหมดให้เฉิงซ่านหรูในขณะที่ข้ายังพอมีแรงอยู่ วันหน้าเขาจะได้รับช่วงต่องานของข้าได้ขอรับ” ผู้ดูแลหลิวกล่าวยิ้มๆ จากนั้นนึกถึงอีกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้จึงรีบบอกกับไป๋ชิงเหยียน “ยังมีอีกเรื่องหนึ่งขอรับคุณหนูใหญ่ ตั้งแต่ที่ไป๋ฉีอวิ๋นเสียชีวิต อดีตประมุขไป๋ ไป๋เวยเหมยสงบเสงี่ยมได้สักระยะหนึ่ง ทว่า ช่วงนี้บ่าวรับใช้ข้างกายของเขาเข้าออกจวนของคนในตระกูลบรรพบุรุษไป๋อยู่บ่อยครั้ง ต่อมาเป่ยเวยเหมยล้มป่วยลง ผู้อาวุโสส่วนหนึ่งของตระกูลไป๋ต่างไปเยี่ยมเยียนเขาอย่างพร้อมเพรียงราวกับนัดหมายกันไว้ ไม่ถึงชั่วยามก็พากันเดินออกมาจากจวน ข้าเกรงว่าบรรพบุรุษตระกูลไป๋อาจคิดก่อเรื่องขึ้นอีกขอรับ”

“มิเป็นอันใด” ตอนนี้ไป๋ชิงเหยียนไม่กังวลเรื่องตระกูลบรรพบุรุษไป๋แม้แต่น้อย “ไป๋ฉีเหอ ประมุขของตระกูลไป๋ในตอนนี้เป็นคนมีความสามารถ ทว่า เขากลับโดนบิดาของตัวเองและบรรดาผู้อาวุโสของตระกูลกดเอาไว้เพราะคำว่ากตัญญู ทำให้เขากลายเป็นคนอ่อนแอ ครั้งนี้ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีที่ไป๋ฉีเหอจะได้ฝึกฝน หากเขาจัดการเรื่องนี้ได้ไม่ดี ต้องให้ตระกูลไป๋ของเรายื่นมือเข้าช่วยเหลือ เขาก็ไม่ควรดำรงตำแหน่งประมุขของตระกูลอีกต่อไป ทว่า หากเขาจัดการเรื่องนี้ได้อย่างเหมาะสม เขาก็คู่ควรกับตำแหน่งประมุขของตระกูลไป๋”

ได้ยินไป๋ชิงเหยียนกล่าวเช่นนี้ ผู้ดูแลหลิวก็รู้ทันทีว่าไป๋ชิงเหยียนมีแผนการอยู่ในใจแล้ว เขาจึงไม่กล่าวสิ่งใดอีก ทำเพียงพยักหน้าเท่านั้น

“ช่วงนี้ลำบากลุงหลิวและซ่านหรูแล้ว ซ่านหรูทำได้ดีมาก วันหน้าหากเจอปัญหาก็ปรึกษากับลุงหลิวได้เลย พวกเจ้าตัดสินใจกันเองได้เลย ไม่จำเป็นต้องมารายงานข้าทุกเรื่อง” ไป๋ชิงเหยียนกำลังมอบอำนาจให้เฉิงซ่านหรู

เมื่อผู้ดูแลหลิวและเฉิงซ่านหรูจากไป ไป๋ชิงเหยียนจึงกล่าวชมเฉิงซ่านหรูต่อหน้าถงหมัวมัวว่าเขาเป็นคนทนลำบาก ขยันหมั่นเพียร มีสติปัญญาและละเอียดรอบคอบดีมาก

ถงหมัวมัวกล่าวยิ้มๆ “เขาดีดั่งที่คุณหนูใหญ่กล่าวเสียที่ใดเจ้าคะ เป็นเพียงคนซื่อบื้อคนหนึ่งเท่านั้น ขอเพียงไม่สร้างปัญหาให้คุณหนูใหญ่ก็ดีแล้วเจ้าค่ะ”

ลูกชายมีความสามารถ คนเป็นแม่อย่างถงหมัวมัวจะไม่ดีใจได้อย่างไร ใบหน้าของถงหมัวมัวเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ทว่า เมื่อนึกถึงบุตรสาวบุญธรรมอย่างอิ๋นซวงที่สูญเสียดวงตาไปข้างหนึ่ง ถงหมัวมัวก็รู้สึกปวดใจขึ้นมาทันที นางอยากรับตัวอิ๋นซวงจากหมอหงกลับมาอยู่กับนาง

“ถงหมัวมัวไม่ต้องเป็นห่วง ข้าให้อิ๋นซวงเรียนรู้การแยกประเภทยา เก็บสมุนไพรกับท่านหมอหงก็เพราะอยากให้นางมีวิชาติดตัวเอาไว้บ้าง ไม่ใช่ว่าตระกูลไป๋จะเลี้ยงดูนางไม่ได้ ทว่า ผู้ใดก็ไม่อาจรับประกันได้ว่าตระกูลไป๋จะไม่เกิดเรื่องขึ้น หากมีวันนั้นขึ้นมาจริงๆ เมื่ออิ๋นซวงไปจากตระกูลไป๋ นางจะได้มีวิชาติดตัวไว้เลี้ยงชีพได้”

เมื่อเตรียมการทุกอย่างเรียบร้อย ไป๋ชิงเหยียนจะล้มล้างราชวงศ์หลิน ผู้ใดก็ไม่อาจรู้ได้ว่าตระกูลไป๋จะทำสำเร็จหรือไม่ นางต้องเตรียมแผนสำรองไว้บ้าง

“ตายแล้ว คุณหนูใหญ่กล่าวสิ่งใดไม่เป็นมงคลเช่นนี้เจ้าคะ” ถงหมัวมัวถือเรื่องนี้มาก “พวกเราผ่านอุปสรรคที่ยากลำบากตอนอยู่ที่เมืองหลวงมาแล้ว ฟ้าหลังฝนย่อมดีงามเสมอเจ้าค่ะ วันหน้าตระกูลไป๋ของเราต้องมีแต่วาสนาและความโชคดีเจ้าค่ะ คุณหนูใหญ่อย่ากล่าวเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ!”

ชุนเถาที่กำลังปูเตียงให้ไป๋ชิงเหยียนปิดปากหัวเราะ

ไป๋ชิงเหยียนรับปาก “เอาเถิดๆ ข้าไม่กล่าวแล้ว หมัวมัวอย่าโมโหไปเลย”

ชุนเถาปูเตียงเสร็จเรียบร้อย นางประคองไป๋ชิงเหยียนไปที่เตียง เมื่อเห็นไป๋ชิงเหยียนดื่มยาจนหมด นางจึงรับถ้วยยามาจากไป๋ชิงเหยียน จากนั้นได้ยินไป๋ชิงเหยียนกล่าวขึ้น “เจ้าเดินทางกลับมาพร้อมข้าคงเหนื่อยไม่แพ้กัน ก่อนหน้านี้ก็ดูแลข้าจนไม่มีเวลาพักผ่อน วันนี้เจ้าไม่ต้องอยู่เฝ้าข้าแล้ว กลับไปนอนพักเถิด”

“เจ้าค่ะ!” ชุนเถาพยักหน้า ตอนนี้อยู่ที่จวนแล้ว ชุนเถาคลายกังวลลงมาก ไม่จำเป็นต้องอยู่ดูแลคุณหนูใหญ่ไม่ให้คลาดสายตาอีกแล้ว

เมื่อประคองให้ไป๋ชิงเหยียนนอนลงบนเตียงเรียบร้อย ชุนเถาปลดมุ้งที่แขวนอยู่บนตะขอข้างเตียงทั้งสองข้างลง ดับไฟในตะเกียง กำชับให้สาวใช้ที่นอนเฝ้าไป๋ชิงเหยียนในคืนนี้ให้มีสติและดูแลไป๋ชิงเหยียนให้ดี จากนั้นจึงเดินออกไปจากห้อง