ตอนที่ 773 ติดตามชายอื่น

แม่ปากร้ายยุค​ 80

ตอนที่​ 773 ติดตาม​ชาย​อื่น​

ทันทีที่​เลิกเรียน​ใน​ช่วง​บ่าย​ ผู้จัดการทั่วไป​ซุน​ก็​จัด​รถตู้​ไป​รับ​หลิน​ม่าย​เพื่อ​แถลงข่าว​

หลิน​ม่าย​กลับ​ไป​ยัง​หอพัก​และ​เปลี่ยนเป็น​ชุด​ผ้าขนสัตว์​สีเบจ​กับ​เสื้อ​โค้ท​ผ้า​แคชเมียร์​สีเทา​ควันบุหรี่​ ก่อน​จะวิ่ง​ออกจาก​หอพัก​ด้วย​ท่าทาง​สง่างามและ​ขึ้นรถ​ออก​ไป​

ในเวลานี้​สวี​ชิงห​ยา​ได้มา​ขวางทาง​เธอ​ไว้​และ​ขอร้อง​อย่าง​น่าสมเพช​ “สหาย​หลิน​ม่าย​ ฉัน​ขอ​คุย​ด้วย​หน่อย​ได้​ไหม​?”

ช่วงนี้​หลิน​ม่าย​ยุ่ง​มาก​ เธอ​คิด​เกี่ยวกับ​ปัญหา​แม้กระทั่ง​ตอน​เดิน​ และ​ไม่ได้​สนใจ​ใคร​หรือ​อะไร​ใน​มหาวิทยาลัย​มานาน​แล้ว​ นับประสาอะไร​กับ​สวี​ชิงห​ยา​

เธอ​พูด​อย่าง​เย็นชา​ “ตอนนี้​ฉัน​รีบ​มาก​ ไม่มีเวลา​ฟังเธอ​หรอก​”

พูด​จบ​เธอ​ก็​ขึ้นรถ​และ​เดิน​ออก​ไป​

ใบหน้า​ของ​สวี​ชิงห​ยา​ซีดเซียว​ ความสิ้นหวัง​ฉาย​ชัด​ใน​ดวงตา​

หล่อน​มอง​รถตู้​ของ​หลิน​ม่าย​แล่น​ออก​ไป​ไกล​ขึ้น​เรื่อย ๆ​ จน​หาย​ไป​จาก​สายตา​ในที่สุด​

……

แม้จะผ่าน​การปฏิรูป​และ​เปิด​ประเทศ​มาหลาย​ปี​แล้ว​ แต่​แทบจะ​ไม่มีใคร​รู้​ว่า​งาน​แถลงข่าว​คือ​อะไร​

ผู้จัดการทั่วไป​ซุน​เอง​ก็​เช่นเดียวกัน​

โชคดี​ที่​หลิน​ม่าย​อธิบาย​ให้​ผู้ใต้บังคับบัญชา​ฟังว่า​การแถลงข่าว​คือ​อะไร​และ​จะจัด​สถานที่​อย่างไร​ ไม่อย่างนั้น​เขา​ต้อง​ทำ​อะไร​ไม่ถูก​อย่าง​แน่นอน​

เมื่อ​หลิน​ม่าย​มาถึง เธอ​ก็​เห็น​ว่า​ผู้จัดการทั่วไป​ซุน​ได้​จัด​ห้องประชุม​ให้​เป็น​สถานที่​แถลงข่าว​ตาม​ความต้องการ​ของ​เธอ​

ทุกอย่าง​ได้รับ​การจัดเตรียม​อย่าง​ดี​

ใน​ห้องประชุม​แห่ง​นั้น​มีโพ​เดียม​อยู่​

โพ​เดียม​นั้น​ถูก​ตกแต่ง​ด้วย​ช่อดอกไม้​และ​ผ้า​จีบ​หลาย​ผืน​อย่าง​สวยงาม​

ใน​หอประชุม​มีสื่อมวลชน​และ​ผู้ชม​ที่​สงสัย​เกี่ยวกับ​การประกวด​นางแบบ​ของ​ห้อง​เสื้อ​จิ่น​ซิ่ว​ รวมถึง​ผู้​เข้ารอบ​สุดท้าย​บางคน​

เสมียน​สาว​สวย​หลาย​คน​กำลัง​ริน​กั๋วเจิน​ที่​ชงแล้ว​ให้​ทุก​คนใน​หอประชุม​

หลิน​ม่าย​เดิน​ขึ้นไป​บน​โพ​เดียม​อย่าง​สง่างาม หยิบ​ไมโครโฟน​ขึ้น​มาแล้ว​กล่าว​

“สวัสดี​ค่ะ​สื่อมวลชน​ ผู้เข้าประกวด​ และ​เพื่อน ๆ​ ผู้ชม​ทุกท่าน​ ห้อง​เสื้อ​จิ่น​ซิ่ว​จัดงาน​แถลงข่าว​ใน​วันนี้​เพื่อ​ตอบสนอง​ต่อ​ผู้ชม​และ​ผู้เข้าแข่งขัน​ที่​ตั้งคำถาม​ถึงความยุติธรรม​ของ​การประกวด​นางแบบ​ของ​ห้อง​เสื้อ​จิ่น​ซิ่ว​ แม้เรา​จะอยู่​ใน​ฐานะ​ผู้จัดการประกวด​นางแบบ​ของ​ห้อง​เสื้อ​จิ่น​ซิ่ว​ แต่​ก็​ไม่ได้​มีส่วน​ร่วมใน​ขั้นตอน​ของ​งาน​ แต่​จาก​เหตุการณ์​ที่​เกิดขึ้น​ทำให้​ทั้ง​ผู้ชม​และ​ผู้เข้าร่วม​การแข่งขัน​บางคน​เกิด​ความสงสัย​ เนื่องจาก​มีผู้ชม​และ​ผู้เข้าแข่งขัน​จำนวนมาก​ตั้งคำถาม​ เรา​จะทำการ​สอบสวน​เพื่อ​ตรวจสอบ​และ​ให้​คำอธิบาย​แก่​ทุกคน​ที่นี่​อย่าง​แน่นอน​ ท้ายที่สุด​แล้ว​ จุดประสงค์​ของ​การ​จัดงาน​นี้​คือ​เพื่อ​ความเป็นธรรม​และ​ยุติธรรม​ และ​เรา​จะไม่ยอม​ปิดบัง​ข้อมูล​ใด​เป็นอันขาด​”

ทั้ง​หอประชุม​พลัน​เกิด​เสียง​อึงอล​ราวกับ​ฟ้าร้อง​

นักข่าว​ถาม “คุณ​หลิน​คะ​ ผล​การ​สอบสวน​จะออก​เมื่อไหร่​?”

หลิน​ม่าย​ยิ้ม​ให้​นักข่าว​อย่าง​เป็นมิตร​ “ห้อง​เสื้อ​จิ่น​ซิ่ว​ของ​เรา​ทำงาน​ได้​อย่าง​มีประสิทธิภาพ​มาก​ และ​จะสามารถ​ให้​ผลลัพธ์​ได้​ไม่เกิน​หนึ่ง​สัปดาห์​ค่ะ​”

นักข่าว​พอใจ​กับ​คำตอบ​ของ​เธอ​มาก​

หลิน​ม่าย​จัดงาน​แถลงข่าว​นี้​ขึ้น​โดย​มีวัตถุประสงค์​ ไม่เพียง​เพื่อ​ความยุติธรรม​ของ​การแข่งขัน​นางแบบ​เท่านั้น​ แต่​ยัง​เพื่อ​กระแส​โฆษณาอีกด้วย​

การประกวด​นางแบบ​ของ​ห้อง​เสื้อ​จิ่น​ซิ่ว​สิ้นสุดลง​แล้ว​ และ​เธอ​ต้อง​รักษา​ความนิยม​สำหรับ​ห้อง​เสื้อ​จิ่น​ซิ่ว​ไว้​

เสื้อผ้า​จิ่น​ซิ่วจะ​ขาย​ได้​ดีขึ้น​และ​ผู้คน​จะสวมใส่​มากขึ้น​

หลิน​ม่าย​กล่าว​กับ​นักข่าว​ว่า​ ผล​การ​สอบสวน​จะออก​ภายใน​หนึ่ง​สัปดาห์​ เนื่องจาก​คาด​ว่า​เซิ่งหนิง​เฉียว​จะใช้เวลา​เพียง​ไม่กี่​วัน​ใน​การ​สอบสวน​เหมา​เซียงเอ๋อร์​ให้​ชัดเจน​

เซิ่งหนิง​เฉียว​ทำตาม​ความคาดหวัง​ของ​เธอ​ ใน​บ่าย​วัน​เสาร์​หลังจากที่​เธอ​เลิกเรียน​ เขา​ก็​ขับ​มอเตอร์ไซค์​ไปหา​เธอ​

หลิน​ม่าย​ขึ้น​มอเตอร์ไซค์​และ​จากไป​

เมื่อ​ฟางจั๋ว​หรา​น​ขับรถ​ไป​รับ​หลิน​ม่าย​ที่​มหาวิทยาลัย​ เขา​ก็​บังเอิญ​เห็น​เหตุการณ์​นั้น​

เดิมที​เขา​ต้องการ​มารับ​โดย​ไม่บอก​เพื่อ​ทำให้​หลิน​ม่าย​ประหลาดใจ​ แต่​เขา​ไม่คาดคิด​ว่า​เธอ​จะทำให้​ตัว​เขา​เอง​ตกใจ​เล็กน้อย​

ภรรยา​ที่รัก​ของ​เขา​ซ้อน​รถจักรยานยนต์​ของ​ชาย​อื่น​

ฟางจั๋ว​หรา​น​นั่ง​อยู่​ใน​รถ​พลาง​ขมวดคิ้ว​ขณะที่​มอง​หลิน​ม่าย​และ​ชาย​คน​นั้น​ขี่​มอเตอร์ไซค์​ออก​ไป​ต่อหน้าต่อตา​เขา​

เซิ่งหนิง​เฉียว​พา​หลิน​ม่าย​ไป​ยัง​ร้านอาหาร​เล็ก​ ๆ ใน​ตรอก​ห่างไกล​ และ​สั่งอาหาร​สอง​อย่าง​กับ​ซุป​หนึ่ง​อย่าง​

หลิน​ม่าย​พูด​กับ​เขา​ “คุณ​กิน​คนเดียว​เถอะ​ ฉัน​จะกลับ​ไป​กินที่​บ้าน​”

คุณปู่​ฟางและ​คนอื่น​ ๆ ยังคง​รอ​ให้​เธอ​กลับ​ไป​ทาน​อาหารเย็น​ด้วยกัน​ หาก​เธอ​รับ​ประ​ธาร​อาหาร​จากร้าน​นี้​จน​อิ่มหนำ​ก็​จะไม่สามารถ​กิน​อาหาร​ร่วมกับ​ครอบครัว​ของ​เธอ​ได้​

เซิ่งหนิง​เฉียว​ยิ้ม​อย่าง​เข้าใจ​และ​หยิบ​ซองจดหมาย​ออก​มาจาก​กระเป๋า​และ​ส่งให้​หลิน​ม่าย​ก่อนที่​อาหาร​จะถูก​เสิร์ฟ​

หลิน​ม่าย​หยิบ​ซองจดหมาย​และ​หยิบ​รูปถ่าย​จำนวน​หนึ่ง​ออกมา​ดู​

ทั้งหมด​คือ​ภาพถ่าย​บน​เตียง​ของ​เหมา​เซียงเอ๋อร์​และ​ผู้กำกับ​รายการ​

หลิน​ม่าย​ตกตะลึง​จน​อุทาน​ใน​ใจ เซิ่งหนิง​เฉียว​ช่างน่าทึ่ง​ เขา​มีรูปถ่าย​พวก​นี้​ทั้งหมด​ได้​อย่างไร​

หลังจาก​เห็นภาพ​เหล่านี้​แล้ว​ หลิน​ม่าย​ก็​ไม่เข้าใจ​ใน​บางสิ่งบางอย่าง​

เหมา​เซียงเอ๋อร์​ยั่วยวน​ผู้กำกับ​ และ​ผู้กำกับ​ก็​ทำงาน​อย่าง​หนัก​เพื่อ​ทำให้​หล่อน​ได้​รับรางวัล​ชนะเลิศ​

หลิน​ม่าย​บ่น​อยู่​ใน​ใจ ผู้หญิง​คน​นี้​ชื่อ​เหมา​เซียงเอ๋อร์​ที่​แปล​ว่า​กลิ่นหอม​ กลับ​ทำตัว​ไม่สมกับ​ที่​ชื่อว่า​เหมา​เซียงเอ๋อร์​เลย​

น่า​เฟะแบบนี้​ไม่สมควร​เรียก​ว่า​หอม​หรอก​!

ขณะ​หลิน​ม่าย​กำลัง​ดู​รูป​ เจ้าของร้าน​ก็​เข้ามา​เสิร์ฟ​อาหาร​ เธอ​รีบ​เก็บ​รูป​นั้น​ลง​ทันที​

หลังจากที่​เจ้าของ​น้าน​จากไป​ หลิน​ม่าย​ก็​ยังคง​ดู​รูปถ่าย​ต่อไป​

เธอ​พบ​ว่า​มีภาพถ่าย​อนาจาร​ของ​เหมา​เซียงเอ๋อร์​และ​ชาย​อื่น​ด้วย​

นับ​จำนวน​ผู้ชาย​แล้ว​ได้​ไม่ต่ำกว่า​สิบห้า​คน​

ใน​หมู่​พวกเขา​ มีผู้ชาย​สอง​สามคน​ที่​เธอ​คุ้นเคย​ พวกเขา​คือ​ผู้จัดการ​เวที​ ช่างแต่งหน้า​ สไตลิสต์​ และ​วิศวกร​ผู้ควบคุม​แสงใน​การประกวด​

หลิน​ม่าย​รู้สึก​ทึ่ง​ เธอ​ถามอย่าง​อธิบาย​ไม่ถูก​ “คุณ​ถ่ายภาพ​อนาจาร​ของ​เหมา​เซียงเอ๋อร์​และ​ผู้ชาย​คนอื่น​ ๆ ได้​ยังไง​?”

แน่นอน​ว่า​ชาย​ที่​เหมา​เซียงเอ๋อร์​จะนอน​ด้วย​นั้น​ต้อง​มีส่วนช่วย​ทำให้​หล่อน​คว้ารางวัล​ชนะเลิศ​ได้​

แต่​หลังจาก​ได้​รับรางวัล​ชนะเลิศ​ หล่อน​ก็​ไม่จำเป็นต้อง​ปล่อย​ให้​ผู้ชาย​ที่​ไม่มีประโยชน์​มานอน​กับ​ตน​ เพราะ​คน​ที่จะ​หลับนอน​กับ​หล่อน​ได้​ก็​มีเพียง​คณะกรรมการ​และ​ผู้กำกับ​เท่านั้น​

เพราะ​พวกเขา​เท่านั้น​ที่จะ​ช่วย​หล่อน​ได้​ในอนาคต​ และ​หล่อน​จะไม่นอน​กับ​พนักงาน​ชั้นต่ำ​คนอื่น​ ๆ แน่นอน​

ตอนนี้​หล่อน​เป็น​ผู้ชนะเลิศ​การประกวด​นางแบบ​ของ​ห้อง​เสื้อ​จิ่น​ซิ่ว​ ดังนั้น​หล่อน​จึงมีสถานะ​สูงส่ง

เป็นไปได้​ไหม​ว่า​เหมา​เซียงเอ๋อร์​มีความสุข​เพราะ​หล่อน​ได้​รับรางวัล​ชนะเลิศ​ จึงให้รางวัล​ใหญ่​ เป็น​โบนัส​สำหรับ​ผู้ชาย​ทุกคน​ที่​ทำงานหนัก​เพื่อให้​หล่อน​คว้ารางวัล​ชนะเลิศ​?

หาก​เป็น​แบบ​นั้น​จริง​ ผู้หญิง​คน​นี้​เรียก​ได้​ว่า​ไม่ธรรมดา​

เซิ่งหนิง​เฉียว​พูด​ด้วย​ความ​ดูถูก​ในขณะที่​กิน​

“ใน​บ่าย​วัน​อังคาร​ที่​คุณ​จัดงาน​แถลงข่าว​ และ​ใน​ตอนเย็น​ที่​คุณ​ปรากฏตัว​ใน​ข่าวท้องถิ่น​ของ​สถานีโทรทัศน์​ปักกิ่ง​ เหมา​เซียงเอ๋อร์​ก็​กระวนกระวาย​ราวกับ​มด​บน​หม้อ​ร้อน​ หล่อน​ไล่​นอน​กับ​ผู้ชาย​ทุกที่​ โดย​หวัง​ว่า​พวกเขา​จะยอม​สะสางเรื่อง​นี้​ให้​หล่อน​ นั่น​เป็น​เหตุผล​ที่​ผม​เก็บ​ภาพ​อนาจาร​ของหล่อน​กับ​ผู้ชาย​พวก​นี้​ได้​”

หลิน​ม่าย​ดูถูก​เหมา​เซียงเอ๋อร์​ถึงขีดสุด​

ผู้หญิง​คน​นี้​ไร้ยางอาย​และ​ปฏิเสธ​ที่จะ​ยอมรับ​ว่า​หล่อน​มาจาก​พื้นที่​ชนบท​แห่ง​หนึ่ง​ทาง​ตอนเหนือ​

หล่อน​ช่างไร้ยางอาย​อย่าง​คาดไม่ถึง​ เพื่อที่จะ​ได้​รับรางวัล​ชนะเลิศ​ หล่อน​สามารถ​นอน​กับ​ผู้ชาย​ที่​คอย​ช่วยเหลือ​หล่อน​ได้​ทุกคน​เหมือน​โสเภณี

หลิน​ม่าย​มอง​ซอง​ที่​มีรูปถ่าย​อยู่​ใน​มือ​และ​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​

เธอ​กล่าว​กับ​เซิ่งหนิง​เฉียว​ “คุณ​คัดลอก​ภาพถ่าย​เหล่านี้​อีก​สอง​สามชุด​ และ​ส่งสำเนา​ไป​ยัง​สำนักหนังสือพิมพ์​ทุกแห่ง​ใน​เมืองหลวง​โดยไม่เปิดเผย​ตัวตน​ โปรด​จำไว้​ว่า​ต้อง​ไม่ระบุชื่อ​”

เซิ่งหนิง​เฉียว​เงยหน้า​ขึ้น​ด้วย​ความ​สับสน​ “ทำไม​ถึงไม่เปิดเผย​ตัวตน​ล่ะ​ครับ​? คุณ​บอก​ใน​งาน​แถลงข่าว​ว่า​ ห้อง​เสื้อ​จิ่น​ซิ่วจะ​ตรวจสอบ​และ​ให้​คำตอบ​กับ​ทุกคน​ไม่ใช่เหรอ​ครับ​? หาก​ไม่เปิดเผย​ตัวตน​ ใคร​จะไป​รู้​ว่า​เรา​เป็น​คน​สืบเสาะ​เรื่องราว​มาได้​?”

หลิน​ม่าย​ยิ้ม​ “ไม่สมควร​มีใคร​รู้​ เพราะ​การแอบ​ถ่ายรูป​มัน​ผิดกฎหมาย​”

เซิ่งหนิง​เฉียว​รู้สึก​ตกตะลึง​ “การแอบ​ถ่ายภาพ​เป็นเรื่อง​ผิดกฎหมาย​? นี่​เป็นครั้งแรก​ที่​ผม​ได้ยิน​เรื่อง​นี้​ ผม​ไม่ค่อย​รู้​กฎหมาย​ อย่า​โกหก​ผม​นะ​ครับ​”

คนใน​ยุค​นี้​รู้เรื่อง​กฎหมาย​น้อย​มาก​ หลาย​คน​ไม่รู้​ว่า​การแอบ​ถ่าย​เป็น​สิ่งผิดกฎหมาย​ เป็นเรื่อง​ปกติ​ที่​เซิ่งหนิง​เฉียว​จะไม่รู้​

“ใคร​จะโกหก​คุณ​เรื่อง​นี้​? มีแต่​คน​ของ​คุณ​นั่นแหละ​ที่​โกหก​คุณ​ว่า​ไม่เป็นไร​” หลิน​ม่าย​พูด​อย่าง​จริงจัง​

“ไป​ถามศาล​สิจะได้​รู้​ว่า​ฉัน​พูด​จริง​หรือ​โกหก​ ฉัน​ต้องการ​ให้​คุณ​ไม่เปิดเผย​ตัวตน​เพื่อ​ที่​คุณ​จะได้​ไม่ต้อง​ยุ่ง​เกี่ยวกับ​เรื่อง​นี้​ และ​เพื่อ​ไม่ให้​ตกหลุมพราง​ของ​ผู้อื่น​”

เซิ่งหนิง​เฉียว​พยักหน้า​อย่าง​ชัดเจน​ ทานอาหาร​ไป​สอง​สามคำ​ และ​ทันใดนั้น​ก็​กล่าว​ขึ้น​ “หลิน​เพ่​ย​ได้รับ​การปล่อยตัว​จาก​คุก​เมื่อ​วันที่​ 14 เมษายน​”

หลิน​ม่าย​พยักหน้า​ “ฉัน​จะพา​หล่อน​ออก​ไป​อย่าง​เงียบ ๆ​ ทันทีที่​หล่อน​ออกจาก​คุก​”

เซิ่งหนิง​เฉียว​พยักหน้า​ “ผม​รู้​ว่า​ควร​ทำ​อย่างไร​ คุณ​ไม่ต้อง​ห่วง​”

เขา​ยัด​หมูสามชั้น​ตุ๋น​เข้าไป​ใน​ปาก​พลาง​พูด​อย่าง​งุนงง​ “ผม​ได้ยิน​จาก​พี่​เฟิงว่า​หลิน​เพ่​ย​เป็น​ศัตรู​ของ​คุณ​ แล้ว​ทำไม​คุณ​ไม่ฆ่าหล่อน​ให้​จบสิ้น​ไป​เลย​ล่ะ​ครับ​?”

หลิน​ม่าย​กล่าว​อย่าง​เฉยเมย​ “เรา​อยู่​ใน​สังคม​ที่​ปกครอง​ด้วย​กฎหมาย​ อย่า​แม้แต่​จะคิด​ฆ่าคน​ ไม่อย่างนั้น​คุณ​ก็​จะตาย​เหมือนกัน​”

ขณะที่​รับประทาน​อาหาร​ เซิ่งหนิง​เฉียว​เงยหน้า​ขึ้น​มอง​เธอ​ “คุณ​ไม่เคย​ได้ยิน​เรื่อง​อุ้ม​หาย​เหรอ​ครับ​? ผม​สามารถ​ทำให้​ผู้หญิง​คน​นั้น​หาย​ไป​ได้​โดย​ไม่มีวี่แวว​เลย​”

หลิน​ม่าย​พูด​อย่าง​เคร่งขรึม​ “คุณ​ไม่เคย​ได้ยิน​เรื่อง​ชีวิต​ต้อง​แลก​ด้วย​ชีวิต​เหรอ​? ตราบใดที่​คุณ​ทำผิดกฎหมาย​ คุณ​อาจ​ถูกจับ​และ​ประหาร​ เรา​ไม่ควร​เสี่ยง​ใน​เรื่อง​นั้น​”

เป็น​เพราะ​ความห่วงใย​และ​กังวล​ หลิน​ม่าย​จึงไม่ต้องการ​ให้​เขา​ฆ่าหลิน​เพ่​ย​

เพราะ​ไม่อย่างนั้น​เธอ​เอง​คง​ใช้เงิน​ว่าจ้าง​คนใน​คุก​ให้​ลอบสังหาร​ผู้หญิง​สารเลว​คน​นั้น​แล้ว​

แต่​หาก​เธอ​ทำ​เช่นนั้น​จริง​ก็​จะนำมาซึ่ง​ปัญหา​ไม่รู้​จบ​

จะเกิด​อะไร​ขึ้น​หาก​เหล่า​นักโทษ​ใน​คุก​รวมหัว​กัน​เปิดโปง​เธอ​

เธอ​รับ​ความเสี่ยง​นั้น​ไม่ได้​ และ​จะไม่ยอมให้​ใคร​มาเสี่ยง​แทน​เธอ​

นอกจากนี้​เธอ​ยัง​ต่อต้าน​การ​รุม​ประชาทัณฑ์​

หาก​ทุกคน​ยิน​ยอมให้​ทำ​เช่นนั้น​ โลก​ก็​คง​วุ่นวาย​ไม่น้อย​จริง​ไหม​?

เธอ​มีวิธี​จัดการ​กับ​หลิน​เพ่​ย​ และ​ไม่จำเป็นต้อง​ใช้การ​รุม​ประชาทัณฑ์​เลย​

เซิ่งหนิง​เฉียว​ยิ้ม​อย่าง​เฉยเมย​และ​พูด​ด้วย​เสียงต่ำ​ “คุณ​ร้าย​ลึก​ไม่เบา​เลย​นะ​ครับ​”

หลิน​ม่าย​พูด​อย่าง​จริงจัง​ “ฉัน​ไม่ได้​ร้าย​ลึก​ แต่​เป็น​คน​ระมัดระวัง​ ดังนั้น​อย่า​ทำ​อะไร​โผงผาง​!”

จากนั้น​เธอ​ก็​พยักหน้า​ให้​เซิ่งหนิง​เฉียว​ “คุณ​กิน​ช้า ๆ ก็ได้​ แต่​ฉัน​ต้อง​ขอตัว​ก่อน​”

หลัง​กล่าว​จบ​ เธอ​ก็​ลุกขึ้น​เดิน​จากไป​

…………………………………………………………………………………………………………………………

สาร​จาก​ผู้แปล​

ฉาว​ขนาด​นี้​ รอ​วัน​โดน​ถลก​หนัง​เลย​นาง​ปีศาจ​จิ้งจอก​ ม่าย​จื่อ​ไม่เก็บ​ไว้​ให้​เสียชื่อ​แบรนด์​หรอก​

ไหหม่า​(海馬)