บทที่ 731 เฮ่อเหลียนเวยเวยกับเจียเจวี๋ย

องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที!

​เทือกเขา​แห่งหนึ​่ง​เร้น​กาย​อยู่​ภายใน​ภูเขา​ไท่​ไป๋​ ​ที่​แห่ง​นั้น​มี​หมอก​หนา​ทึบ​ปกคลุม​ตลอดทั้ง​ปี​ ​โดยที่​ไม่มี​แสงแดด​ส่อง​ถึง

​ท้องฟ้า​ที่​ด้านนอก​ของ​เทือกเขา​แห่ง​นั้น​เป็น​สีดำ​สนิท​ ​ทั้ง​ยัง​เต็มไปด้วย​เมฆ​สีเทา​เข้ม​ที่​ม้วน​เข้าหา​กัน​กลายเป็น​ลวดลาย​อัน​ไม่สม่ำเสมอ​ ​ต้นไม้​สูงตระหง่าน​ทำให้​เส้นทาง​นี้​ดู​น่าขนลุก​อย่างยิ่ง

​ไม่มี​สารถี​คนใด​กล้า​ย่างกราย​เข้าไป​ใน​สถานที่​แห่ง​นั้น​ ​เพราะ​บน​เส้นทาง​เดินรถ​อัน​คับแคบ​นี้​มักจะ​มี​หิน​ก้อน​ใหญ่​กลิ้ง​ตกลง​มาจาก​หน้าผา​ ​ก่อน​จะ​ทิ้งตัว​ลง​สู่​หุบเหว​ลึก​ที่​ดูรา​วกับ​ไร้​ก้นบึ้ง​นั้น

​แม้​คำ​ว่า​ ​’​สุสาน​’​ ​จะ​สามารถ​สร้าง​ความตื่นเต้น​ให้​กับ​ชาวบ้าน​ได้​ ​แต่​มัน​ก็​ยัง​ทำให้​พวกเขา​หน้าซีด​ตัวสั่น​ได้​เช่นกัน

​พวกเขา​อยาก​เข้าไป​ที่นั่น​ ​แต่​ก็​กลัว​เกิน​กว่า​จะ​ทำ​เช่นนั้น

​คนที​่​ไม่รู้​จัก​ศาสตร์​แห่ง​การขับไล่​วิญญาณ​ร้าย​ย่อม​ไม่กล้า​ก้าว​เท้า​เข้าไป​ใน​บริเวณ​นั้น

​เว้นเสียแต่ว่า​คน​คน​นั้น​จะ​รู้สึก​เบื่อชีวิต​ ​และ​พยายาม​รนหาที่​ตาย​อยู่​เท่านั้น

​เล่าลือ​กัน​ว่า​บน​เส้นทาง​มุ่งหน้า​สู่​สุสาน​มี​ปีศาจ​คอย​หลอกล่อ​มนุษย์​ที่​เดิน​หลง​เข้ามา​ให้​ก่อกรรม​ทำชั่ว

​ดังนั้น​จึง​ไม่มี​พราน​ป่า​กล้า​เข้าใกล้​สถานที่​แห่ง​นั้น​แม้​จะ​เป็น​ใน​เวลากลางวัน​ก็ตาม

​แต่​ระหว่างทาง​ขึ้น​ภูเขา​ไท่​ไป๋​แห่ง​นี้​กลับ​มีย​อด​ฝีมือ​ใน​หมู่​ผู้ขับ​ไล่​วิญญาณ​ร้าย​ซึ่ง​ถูก​เรียกว่า​ตระกูล​ผู้ขับ​ไล่​วิญญาณ​ร้าย​ที่แท้​จริง​พำนัก​อยู่

​“​ตระกูล​ผู้ขับ​ไล่​วิญญาณ​ร้าย​แยก​ออก​ไป​เป็น​สี่​สาย​”

​แต่ละ​สาย​ล้วน​ได้รับ​การ​สนับสนุน​จาก​ตระกูล​ผู้​ทรงอำนาจ​หนึ่ง​ตระกูล

​ตระกูล​สาย​ที่​มีชื่อเสียง​ที่สุด​คือ​ตระกูล​หนี​ ​พลัง​ใน​การขับไล่​วิญญาณ​ร้าย​ของ​พวกเขา​แข็งแกร่ง​ที่สุด​ ​และ​นอกจาก​การขับไล่​วิญญาณ​ร้าย​แล้ว​ ​พวกเขา​ยัง​ทำ​ธุรกิจ​อื่น​ควบคู่กันไป​ ​และ​ต่อมา​ยัง​เป็น​ผู้ก่อตั้ง​การผลิต​ผลิตภัณฑ์​สำหรับ​ขับไล่​วิญญาณ​ร้าย​อีกด้วย​…​”

​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​อ่าน​จดหมาย​ที่อยู่​ใน​มือ​ ​แล้ว​หรี่​ตาลง​ ​ตระกูล​หนี​หรือ​?​ ​หนี​เฟิ​่ง​น่ะ​หรือ​?​ ​บังเอิญ​ขนาด​นั้น​เลย​หรือ​?

​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​นึกถึง​สิ่ง​ที่​บุตร​แห่ง​ราชา​นรก​พูด​ไว้​ก่อนหน้านี้​ขึ้น​มา​ได้​ ​จุดประสงค์​เพียง​อย่าง​เดียว​ที่​ทำให้​ตระกูล​ผู้ขับ​ไล่​วิญญาณ​ร้าย​ต้องการ​พระ​สรีระ​จาก​ภิกษุ​ชื่อดัง​ก็​เพื่อ​การฟื้น​คืนชีพ​คนตาย

​ตระกูล​ที่​แนะนำ​ให้​นำพระ​สรีระ​กลับมา​ก็​คือ​ตระกูล​หนี​…

​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​สังหรณ์ใจ​ว่า​หนี​เฟิ​่​งอา​จก​ลับ​มา​แล้ว​ตั้งแต่​เหตุการณ์​ใน​ครั้งนั้น​ ​แต่​นาง​ยัง​ไม่มี​ร่าง​ที่​เหมาะสม​ ​และ​นั่น​ย่อม​อธิบาย​ได้​ว่า​ทำไม​พระบรมสารีริกธาตุ​จึง​จำเป็น​สำหรับ​พิธี​ฟื้นคืนชีพ​นี้

​แต่​ผู้​ที่​เคย​มีประสบการณ์​ใน​การขับไล่​วิญญาณ​ร้าย​น่าจะ​รู้​ว่า​พิธี​ฟื้นคืนชีพ​เป็น​ศาสตร์​ต้องห้าม​ ​หาก​พิธีกรรม​สำเร็จ​ ​ระเบียบ​ของ​โลก​จะ​ถูก​ทำลาย​ ​คน​เป็น​จะ​กลายเป็น​คนตาย​ ​คนตาย​จะ​กลายเป็น​คน​เป็น​ ​ผลสุดท้าย​ปราณ​แห่ง​ความเคียดแค้น​จะ​เพิ่มขึ้น​อย่างรวดเร็ว​ ​และ​ทำให้​โลก​มนุษย์​จม​ลง​สู่​นรก​แห่ง​การ​ชำระล้าง

​หาก​ไม่มี​พระ​สรีระ​ ​ย่อม​ไม่มี​พลัง​วิญญาณ

​ทันทีที่​พิธี​ฟื้นคืนชีพ​เริ่ม​ขึ้น​ ​หาก​คนที​่​ฟื้น​ขึ้น​มา​เป็น​คนธรรมดา​ไร้​ซึ่ง​พลัง​วิญญาณ​ ​คน​คน​นั้น​จะ​กลายเป็น​ผีดิบ

​หนี​เฟิ​่ง​รู้เรื่อง​นี้​เป็น​อย่างดี​ ​แต่​นาง​ก็​ยัง​ต้องการ​ชิง​พระ​สรีระ​มา​เป็น​ของ​ตน​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​คำพูด​ที่นาง​เคย​ประกาศ​เอาไว้​ว่านาง​ต้องการ​พิทักษ์​ความยุติธรรม​ให้​กับ​โลก​มนุษย์​นั้น​เป็น​เพียงแค่​ลมปาก

​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​คิด​พร้อมกับ​วิเคราะห์​ความสัมพันธ์​ระหว่าง​ตระกูล​เหล่านั้น

​พวก​นาง​ไม่​สามารถ​เดิน​ตรง​เข้าไป​ร่วม​การแข่งขัน​ครั้งนี้​ได้​ ​ดังนั้น​พวก​นาง​จึง​ต้อง​แฝงตัว​เข้าไป​พร้อมกับ​หนึ่ง​ใน​ตระกูล​พวก​นี้

​นอกจาก​ตระกูล​หนี​แล้ว​ ​ใน​จำนวน​สาม​ตระกูล​ที่​เหลือ​นี้​ยัง​มีต​ระ​กูล​ใด​ที่​เหมาะสม​และ​สะดวก​จะ​ให้​พวก​นาง​เข้าร่วม​เป็น​พันธมิตร​กับ​พวกเขา​หรือเปล่า​…

​“​กิน​อะไร​ก่อน​สิ​ ​ปล่อย​ให้​คนอื่น​คิด​เรื่อง​นี้​แทน​เสียบ​้าง​”​ ​องค์​ชาย​เอ่ย​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ราบเรียบ​พร้อมกับ​ยื่นมือ​ออก​ไป​ ​แล้ว​ใช้​นิ้ว​เรียว​ของ​ตัวเอง​แตะ​ลง​บน​คำ​ว่า​ ​’​จู​เก​่อ​’​ ​จากนั้น​จึง​ป้อน​ขนม​เข้า​ปาก​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย

​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​รู้​ว่านี​่​คือ​สิ่ง​ที่​องค์​ชาย​ถนัด​ที่สุด​ ​นาง​ยัง​จำได้​ว่า​เขา​มัดใจ​ทุกคน​ได้​อย่าง​อยู่หมัด​ตอนที่​พวก​นาง​ออกจาก​วัง​หลวง​ ​ดังนั้น​ปล่อย​ให้​เขา​เป็น​คน​จัดการ​เรื่อง​ปลอมตัว​คงจะ​ดีกว่า

​ขณะที่​นาง​กำลัง​คิด​เช่นนั้น​อยู่​ ​จู่ๆ​ ​รถม้า​ก็​หยุด​อย่างกะทันหัน

​“​นายท่าน​ ​มี​การ​ดวล​กัน​เกิดขึ้น​ที่​ด้านนอก​ขอรับ​ ​รถม้า​ของ​พวกเรา​ไม่​สามารถ​ผ่าน​เส้นทาง​นี้​ไป​ได้​”​ ​เสียง​ของ​เงา​ทมิฬ​ดัง​ขึ้น​จาก​นอก​รถม้า

​“​ดวล​อะไร​กัน​ ​ทำไม​แม้กระทั่ง​รถม้า​ถึง​ผ่าน​ไป​ไม่ได้​เล่า​”​ ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​เลิก​คิ้ว​ขึ้น​อย่าง​สงสัย​ ​จาก​ข้อมูล​ที่นาง​ได้รับ​มา​ ​ใน​ช่วงนี้​นอกจาก​การแข่งขัน​เข้าสู่​สุสาน​ที่จะ​ถูก​จัด​ขึ้น​ใน​อีก​สาม​วัน​ให้​หลัง​แล้ว​ ​ที่​เมือง​แห่ง​ผู้ขับ​ไล่​วิญญาณ​ร้าย​ก็​ไม่น่า​จะ​มี​การ​ประลอง​อื่น​เกิดขึ้น​อีก​ ​แล้ว​จะ​มี​การ​ท้า​ดวล​เกิดขึ้น​ที่นี่​ได้​อย่างไร

​“​พวกเรา​ลง​ไปดู​กัน​เถอะ​”

​เมื่อ​ออกมา​จาก​รถม้า​ ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ก็​สัมผัส​ได้​ถึง​กระแส​พลัง​วิญญาณ​ที่​พุ่ง​เข้ามา​จาก​บริเวณ​โดยรอบ​ได้​ในทันที

​มัน​แตกต่าง​จาก​พลัง​วิญญาณ​ใน​วัง​หลวง​ ​พลัง​วิญญาณ​ที่นี่​หนาแน่น​เสีย​จน​ทำให้​แม้กระทั่ง​การ​หายใจ​ก็​ยัง​กลายเป็น​เรื่อง​ลำบาก​อย่างยิ่ง

​สม​กับ​เป็น​เมือง​แห่ง​ผู้ขับ​ไล่​วิญญาณ​ร้าย​ใน​ตำนาน​…

​เสียง​โต้คารม​ดัง​ขึ้น​เรื่อยๆ​ ​เมื่อ​ผู้คน​เริ่ม​มารวม​ตัว​กัน​ ​ตอนที่​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ลง​จาก​รถม้า​ ​นาง​ก็ได้​ยิน​คนที​่​อยู่​ใกล้​ๆ​ ​นั้น​เหน็บแนม​อีก​ฝ่าย​หนึ่ง​ว่า​ ​“​หน​นี้​หน้าตา​และ​ศักดิ์ศรี​ของ​ตระกูล​จู​เก​่อ​คงได้​ย่อยยับ​แน่​”

​“​ก็​พูด​ยาก​อยู่​ ​ถ้า​ตระกูล​จู​เก​่อ​ไม่ได้​รน​หาเรื่อง​ด้วย​การยืนกราน​ว่า​ตระกูล​หนี​มี​จุดประสงค์​แอบแฝง​ใน​การ​เข้าไป​ใน​สุสาน​ ​ตระกูล​หนี​ก็​คง​ไม่​หัวเสีย​ถึง​เพียงนั้น​ ​เห็น​กัน​อยู่​ชัดๆ​ ​ว่า​ตระกูล​จู​เก​่อ​ไม่มี​กำลังจะ​ต้านทาน​ตระกูล​หนี​ได้​ด้วยซ้ำ​ ​กระนั้น​พวกเขา​กลับ​ยัง​กล้า​ก่อปัญหา​นี้​ขึ้น​ ​แต่​ตระกูล​หนี​ใช้​เพียง​ลูกศิษย์​แค่​ไม่​กี่​คน​ก็​สามารถ​กดดัน​ตระกูล​จู​เก​่อ​ได้​แล้ว​ ​จาก​ที่​ข้า​เห็น​ ​ข้าว​่า​ถ้า​ยัง​เป็น​เช่นนี้​ต่อไป​ ​ตระกูล​จู​เก​่อ​คง​ไม่จำเป็น​ต้อง​เข้าร่วม​การแข่งขัน​เข้า​สุสาน​ที่จะ​จัด​ขึ้น​ใน​อีก​สาม​วันนี้​ด้วยซ้ำ​ ​ตระกูล​ผู้ขับ​ไล่​วิญญาณ​ร้าย​ที่แท้​จริง​อะไร​จะ​อ่อนแอ​ถึง​เพียงนั้น​ ​ผู้ขับ​ไล่​วิญญาณ​ร้าย​ธรรมดา​ยัง​แข็งแกร่ง​กว่า​พวกเขา​ด้วยซ้ำ​!​”

​ผู้คน​โดยรอบ​ต่าง​ถก​ประเด็น​นี้​กัน​อย่างสนุก​ปาก

​เด็กหนุ่ม​คน​หนึ่ง​ยืน​อยู่​ใจกลาง​ความวุ่นวาย​นั้น​ ​เขา​กัดฟัน​กรอด​พร้อมกับ​พูดว่า​ ​“​หนี​หู่​ ​ถ้า​เจ้า​มีปัญหา​กับ​พวก​ข้า​ก็​เข้ามา​หา​ข้า​สิ​ ​อย่า​ไป​ทำร้าย​คนอื่น​!​”

​“​จู​เก​่​ออ​วิ​๋น​ ​เจ้า​ดู​ให้​ดีสิ​ ​ข้า​ไม่ได้​ทำร้าย​ใคร​เสียหน่อย​ ​ขยะ​ชั้นต่ำ​อย่าง​พวก​เจ้า​ต่างหาก​ที่​อ่อนแอ​เกินไป​!​ ​เจ้า​อยาก​ให้​ข้า​อัด​เจ้า​หรือ​ ​ก็ดี​ ​เช่นนั้น​ข้า​จะ​สนองความต้องการ​ของ​เจ้า​ให้​ก็แล้วกัน​ ​พวกเรา​ ​จัดการ​นาย​น้อย​จู​เก​่อ​ตามที่​เขา​ขอ​ซะ​!​”​ ​ตั้งแต่​ต้น​จน​จบ​ชาย​ที่​ชื่อ​หนี​หู่​ไม่ได้​ยกนิ้ว​ขึ้น​มา​เลย​แม้แต่​นิ้ว​เดียว​ ​เขา​ทำ​เพียง​ยืน​นิ่ง​ด้วย​ท่าทาง​อวดดี​อยู่​ใน​เครื่องแบบ​ผู้ขับ​ไล่​วิญญาณ​ร้าย​สีขาว​ ​รอยยิ้ม​เหยียด​แผ่​กว้าง​ไป​ทั่ว​ใบหน้า​ของ​เขา

​พวกเขา​มี​จำนวนมาก​กว่า​ ​อีกทั้ง​คู่ต่อสู้​ก็​ยัง​อ่อนแอ​กว่า​อย่างเห็นได้ชัด​ ​ดังนั้น​ความไม่สมดุล​ทาง​อำนาจ​นี้​จึง​ยิ่ง​เพิ่ม​ความ​ยโส​โอหัง​ให้​กับ​เขา​อย่างมาก

​หาก​นี่​เป็นการ​ดวล​ตัวต่อตัว​ ​จู​เก​่​ออ​วิ​๋​นอาจ​ยัง​พอ​มีโอกาส​เอาชนะ​ได้​ ​เพราะ​อย่างไร​เขา​ก็​ไม่ได้​ไร้​ฝีมือ​นัก​ ​อันที่จริง​ต้อง​บอกว่า​เขา​ค่อนข้าง​มีฝีมือ​โดดเด่น​ทีเดียว​เมื่อ​เทียบ​กับ​คนใน​ตระกูล

​แต่​เห็น​ๆ​ ​กัน​อยู่​ว่า​หนี​หู่​ลงมือ​อย่าง​ไม่เป็นธรรม​ ​เพราะ​คน​ของ​เขา​มี​จำนวนมาก​กว่า​…

​ทุกคน​ใน​เมือง​แห่ง​ผู้ขับ​ไล่​วิญญาณ​ร้าย​ต่าง​ก็​รู้​ว่า​ครั้งหนึ่ง​ตระกูล​จู​เก​่อ​เคย​มี​ผู้ขับ​ไล่​วิญญาณ​ร้าย​ที่​ทรงพลัง​ที่สุด​ใน​เมือง​ ​แต่​แล้ว​ทุกคน​ต่าง​ก็​ตก​อยู่​ใน​ความหวาดกลัว​เมื่อ​บิดา​ของ​จู​เก​่​ออ​วิ​๋น​ถูก​ฆาตกรรม​อย่าง​ลึกลับ​เมื่อ​ห้า​ปีก่อน​ ​มิหนำซ้ำ​ยัง​หาก​ระ​ทั่ง​วิญญาณ​ของ​เขา​ไม่​เจอ​เลย​ด้วยซ้ำ

​ตั้งแต่นั้นมา​ ​ตระกูล​จู​เก​่​อก​็​สูญเสีย​เสาหลัก​ไป

​ไม่ว่า​เขา​จะ​มีพรสวรรค์​เพียงใด​ ​แต่​จู​เก​่​ออ​วิ​๋​นก​็​ไม่​สามารถ​เทียบ​ได้​กับ​ผู้ขับ​ไล่​วิญญาณ​ร้าย​รุ่นพี่​ ​ดังนั้น​เขา​จึง​เริ่ม​เรียนรู้​ที่จะ​ยอมจำนน​ต่อ​ความอัปยศ​อดสู​นั้น​อย่าง​เงียบๆ

​ด้วยเหตุนี้​ทุกคน​จึง​รู้สึก​ประหลาดใจ​เมื่อ​เขา​กล้า​ท้าทาย​ตระกูล​หนี​อย่างเปิดเผย​และ​ยืนกราน​ว่า​พวกเขา​ไม่​ควร​แตะต้อง​พระ​สรีระ

​ตระกูล​หนี​ไม่​ปล่อย​เรื่อง​นี้​ไป​ง่ายๆ​ ​แม้​บรรดา​คน​รุ่นเก่า​จะ​ไม่ได้​ทำร้าย​เขา​ ​แต่​คนรุ่นเดียวกัน​กับ​เขา​ย่อม​ตอบโต้​อย่างแน่นอน

​หนี​หู่​มอง​จู​เก​่​ออ​วิ​๋​นที​่​ถูก​อัด​จน​น่วม​อยู่​กับ​พื้น​ ​เขา​เดิน​เข้าไป​หา​อีก​ฝ่าย​อย่าง​วางก้าม​ ​แล้ว​แค่น​หัวเราะ​อย่าง​ดูถูก​ว่า​ ​“​ทำไม​นาย​น้อย​จึง​ได้​อ่อนแอ​ถึง​เพียงนี้​เล่า​ ​ท่าทาง​ไม่​กลัว​ตาย​เมื่อครู่นี้​ของ​เจ้า​หาย​ไป​ไหน​หมด​เสีย​แล้ว​ล่ะ​!​ ​หึ​ ​ในเมื่อ​เจ้า​ชอบ​ให้​ใช้​ไม้แข็ง​ ​เช่นนั้น​ก็​สมควร​โดน​แล้ว​”

​จู​เก​่​ออ​วิ​๋น​ยังคง​เงียบ​ ​และ​ทุกคน​ก็​รู้​ว่า​เวลานี้​เขา​คง​พูด​อะไร​ไม่​ออก​แม้แต่​คำ​เดียว​ ​หลังจาก​ถูก​คน​ห้า​คน​รุม​ทุบตี​เข้า​เช่นนี้​ ​ร่างกาย​ของ​เขา​ย่อม​ได้รับบาดเจ็บ​สาหัส​เป็นธรรมดา

​แต่​หนี​หู่​ดูเหมือน​จะ​ยัง​ไม่พอใจ​ ​ทันใดนั้น​เขา​ก็​ยก​เท้า​ขึ้น​แล้ว​กระทืบ​ลง​บน​มือขวา​ของ​จู​เก​่​ออ​วิ​๋​นอย​่าง​แรง​!