ตอนที่ 775 หยางจิ้นผู้เงียบขรึม

แม่ปากร้ายยุค​ 80

ตอนที่​ 775 หยาง​จิ้น​ผู้​เงียบขรึม​

ครอบครัว​ทั้ง​สามขับรถ​ไป​ที่​บ้าน​ของ​พ่อ​ไป๋​

ทันทีที่​พวกเขา​เข้าไป​ใน​ลานบ้าน​ หลิน​ม่าย​ก็​เห็น​รถ​ซาน​ตา​นา​สีดำ​จอด​อยู่​ใน​ลาน​

หลิน​ม่าย​รู้สึก​ประหลาดใจ​จึงเอ่ย​ถามพ่อ​ไป๋​ “พ่อ​คะ​ พ่อ​ซื้อ​รถ​คัน​นี้​มาราคา​เท่าไหร่​คะ​?”

ไป๋​เซี่ย​ขัดจังหวะ​ “พ่อ​จะมีเงิน​ซื้อ​ซาน​ตา​นา​ราคา​หลาย​แสน​ได้​ยังไง​!”

หลิน​ม่าย​ถามด้วย​ความประหลาดใจ​ “แล้ว​นี่​รถ​ใคร​? ทำไม​มาจอด​ใน​บ้าน​ของ​เรา​?”

ไป๋​ลู่​เข้ามา​ใกล้​พลาง​เอ่ย​ “พ่อ​ได้รับ​การ​เลื่อนตำแหน่ง​ให้​เป็น​ประธาน​ประจำ​ของ​ธนาคาร​ และ​นี่​คือ​รถ​ที่​ผู้บริหารระดับสูง​มอบให้​พ่อ​ นั่น​เป็น​เหตุผล​ที่​พ่อ​เชิญเธอ​มาที่​บ้าน​ของ​เรา​เพื่อ​อวด​รถ​ใหม่​น่ะ​”

พ่อ​ไป๋​หัวเราะ​สอง​สามครั้ง​ด้วย​ความ​ลำบากใจ​

เมื่อ​คุณปู่​และ​คุณย่า​ไป๋​ซึ่งกำลัง​นั่ง​อยู่​ใน​ห้องนั่งเล่น​ได้ยิน​เสียง​ของ​ครอบครัว​หลิน​ม่าย​ พวกเขา​ทั้งหมด​ก็​ออกมา​

หลิน​ม่าย​และ​สามีรีบ​อวยพร​ปีใหม่​ให้​กับ​ผู้อาวุโส​ทั้งสอง​

แม้แต่​โต้​ว​โต้​ว​ก็​คำนับ​คุณปู่​ไป๋​และ​คุณย่า​ไป๋​ด้วย​ท่าทาง​สง่างามพร้อม​อวยพร​ให้​ผู้เฒ่า​ทั้งสอง​มีความสุข​ใน​วัน​ปีใหม่​

ทุกคน​หัวเราะ​ลั่น​

ใน​การ​อวยพร​ปีใหม่​ เหล่า​ลูกหลาน​จะมอบ​ของขวัญ​ให้​ผู้สูงอายุ​ และ​ผู้สูงอายุ​จะให้เงิน​นำ​โชค​แก่​ลูกหลาน​

หลังจาก​พิธี​อวยพร​ปีใหม่​สิ้นสุดลง​ ทุกคน​ก็​มารวมตัวกัน​รอบ​รถ​ซาน​ตา​นา​ของ​พ่อ​ไป๋​และ​พูดคุย​กัน​อยู่​พัก​หนึ่ง​

หลิน​ม่าย​ถามพ่อ​ไป๋​ว่า​เขา​ต้องการ​จัด​งานเลี้ยง​เพื่อ​ฉลอง​การ​เลื่อนตำแหน่ง​หรือไม่​

พ่อ​ไป๋​ปฏิเสธ​อย่าง​ราบเรียบ​ “พ่อ​หย่าร้าง​และ​ครอบครัว​ร้าวฉาน​ ดังนั้น​อิทธิพล​ของ​พ่อ​ใน​หน่วยงาน​จึงไม่ค่อย​ดี​นัก​ มีเพียง​ไม่กี่​คน​หรอก​ที่​ยินดี​สำหรับ​การ​เลื่อนตำแหน่ง​ใน​ครั้งนี้​ หาก​จัด​งานเลี้ยง​เพื่อ​เฉลิมฉลอง​การ​เลื่อนตำแหน่ง​จะไม่ทำให้​คนอื่น​อิจฉา​เหรอ​? ดังนั้น​เรา​จะไม่มีการ​เลี้ยง​ฉลอง​กับ​ใคร​อื่น​ จะเลี้ยง​ฉลอง​กัน​ภายใน​ครอบ​ครับ​เท่านั้น​”

ใน​ยุค​นี้​การประเมิน​ผู้ปฏิบัติงาน​มัก​รวม​ถึงชีวิต​ส่วนตัว​

หาก​มีปัญหา​เรื่อง​ชีวิต​ส่วนตัว​ แม้ความสามารถ​โดดเด่น​ก็​ยาก​ที่จะ​ผ่าน​การทดลอง​งาน​

การ​หย่าร้าง​ก็​อยู่​ใน​หมวดหมู่​ของ​ชีวิต​ส่วนตัว​

ดังนั้น​การ​เลื่อนขั้น​ของ​พ่อ​ไป๋​ใน​ครั้งนี้​จึงน่าอิจฉา​มาก​ และ​จำเป็นต้อง​ระมัดระวัง​

พ่อ​ไป๋​ได้รับ​การ​เลื่อนตำแหน่ง​ เขา​จึงต้องการ​จัด​งานเลี้ยง​ภายใน​ครอบครัว​ ไป๋​เหยียน​และ​สามีของหล่อน​ก็​มาที่นี่​ด้วย​

ขณะ​ไป๋​เหยียน​กำลัง​หั่น​ผัก​ หลิน​ม่าย​ก็​เห็น​สร้อยข้อมือ​ทองคำ​บน​ข้อมือ​ของ​ไป๋​เหยียน​

เธอ​เอ่ย​ถาม “พี่​สวม​สร้อยข้อมือ​ทอง​ด้วย​เหรอ​?”

“ฉัน​อุตส่าห์​ซ่อน​ไว้​แล้ว​ ยัง​มองเห็น​อีก​เหรอ​?”

ไป๋​เหยียนถก​แขน​เสื้อ​โค้ท​ขนสัตว์​ที่​หล่อน​สวม​อยู่​ และ​ดึง​สร้อยข้อมือ​ทองคำ​ออกจาก​แขน​ให้​หลิน​ม่าย​ดู​ “สวย​ไหม​?”

สร้อยข้อมือ​ทองคำ​นั้น​ค่อนข้าง​หนา​ ซึ่งหนา​อย่าง​น้อย​เจ็ด​หรือ​แปด​กรัม​ แต่​รูปแบบ​ดู​ไม่งดงาม​นัก​

หลิน​ม่าย​พยักหน้า​เห็นด้วย​กับ​ความตั้งใจ​ของหล่อน​พร้อม​ตอบกลับ​ “ดู​ดีมาก​ค่ะ​”

เมื่อ​เห็น​ใบ​หน้าที่​มีความสุข​ของ​ไป๋​เหยียน​ เธอ​จึงเอ่ย​ถาม “พี่เขย​ให้​มาเหรอ​?”

ไป๋​เหยียน​ยิ้ม​อย่าง​อ่อนหวาน​ “จะเป็น​ใคร​ได้​อีก​ถ้าไม่ใช่เขา​? พี่เขย​ของ​เธอ​เปิดร้าน​ขนม​และ​ซื้อ​สร้อยข้อมือ​ทองคำ​เส้น​นี้​ให้​ฉัน​ทันทีที่​เขา​หา​เงินได้​ เขา​บอ​กว่า​ถ้าหา​เงินได้​มากกว่า​นี้​ เขา​จะซื้อ​สร้อยคอ​ทองคำ​ให้​ฉัน​”

หลิน​ม่าย​พูด​อย่าง​จริงใจ​ “พี่เขย​ใจดี​กับ​พี่​มาก​”

เธอ​ถามอย่าง​งุนงง​ “ว่าแต่​ทำไม​พี่​ถึงซ่อน​สร้อยข้อมือ​ทองคำ​ไว้​ลึก​ขนาด​นั้น​?”

ทุกวันนี้​ไม่มีผู้หญิง​คน​ไหน​ที่​สวม​เครื่องประดับ​ทอง​โดย​ไม่ต้องการ​ให้​คนอื่น​เห็น​ แต่​ไป๋​เหยียน​กลับ​ต้องการ​ที่จะ​ปกปิด​มัน​ไว้​

ไป๋​เหยียน​ถอนหายใจ​พลาง​กล่าว​ “หาก​บอ​กว่า​ฉัน​กลัว​แม่สามีฉก​ไป​ เธอ​จะเชื่อ​ไหม​? ฉัน​ไม่ควร​สวมใส่​สร้อยข้อมือ​ทองคำ​ให้​ใคร​เห็น​”

ไป๋​เหยียน​เพิ่ง​พูดถึง​แม่สามีของ​ตน​ แม่สามีของหล่อน​ก็​มา ไป๋​เซี่ย​ได้ยิน​เสียงเคาะ​จึงเปิด​ประตู​บ้าน​

เมื่อ​เขา​เปิด​ประตู​ลานบ้าน​ก็​พลัน​เห็น​พ่อ​หยาง​และ​แม่หยาง​ยืน​อยู่​ที่​ประตู​ สีหน้า​ของ​เขา​เต็มไปด้วย​ความ​เอือมระอา​ทันที​

เขา​ใช้ร่างกาย​ของ​ตัวเอง​กั้น​พ่อ​หยาง​กับ​แม่หยาง​ไว้​ ก่อน​จะหัน​ศีรษะ​และ​ตะโกน​ไป​ทาง​ห้องนั่งเล่น​ “พ่อ​ครับ​ ทองแผ่นเดียวกัน​อันเป็น​ที่รัก​ของ​พ่อ​มาหา​!”

แม่หยาง​พูด​ด้วย​ความโกรธ​ “เรียก​ฉัน​แบบ​นั้น​ได้​ยังไง​? นาย​ควร​เรียก​ฉัน​ว่า​ป้า​ไม่ใช่เหรอ​?”

ไป๋​เซี่ย​กลอกตา​พลาง​คิดในใจ​ คน​อย่าง​คุณ​ไม่สมควร​ได้​รับคำ​นั้น​หรอก​!

พ่อ​ไป๋​เดิน​ไป​พูด​กับ​พ่อ​หยาง​และ​แม่หยาง​อย่าง​เย็นชา​ “วันนี้​ลูกสาว​สอง​คน​ของ​ผม​กลับมา​เยือน​บ้าน​พ่อ​ผู้ให้กำเนิด​ ผม​ไม่อยาก​รับแขก​ พวกคุณ​กลับ​ไป​เถอะ​”

ใบหน้า​ของ​พ่อ​หยาง​แดงก่ำ​ เขา​ถูก​ขับไล่​ก่อนที่จะ​เข้า​ประตู​ด้วยซ้ำ​ ช่างน่าอาย​เสีย​จริง​

พ่อ​หยาง​บ่น​กับ​แม่หยาง​ “ผม​บอก​แล้ว​ว่า​อย่า​มา แต่​คุณ​ก็​ยัง​อยาก​จะมา รีบ​ไป​กัน​เถอะ​”

หลังจากนั้น​เขา​ก็​ไป​ดึง​แขน​เสื้อ​ของ​ภรรยา​และ​พยายาม​พา​หล่อน​ออก​ไป​

แม่หยาง​ปฏิเสธ​ที่จะ​จากไป​ หล่อน​สะบัดมือ​ของ​พ่อ​หยาง​และ​กล่าว​ต่อ​พ่อ​ไป๋​ “นี่​! ตั้งแต่​ได้รับ​การ​เลื่อนตำแหน่ง​เป็น​ประธานาธิบดี​ คุณ​ก็​วางท่า​ใหญ่โต​ขึ้น​เรื่อย ๆ​ ครอบครัว​ของ​ลูกเขย​อุตส่าห์​เดินทาง​มาเยี่ยม​ แทนที่จะ​ต้อนรับ​ แต่กลับ​ขับไล่​ จะไม่ต้อนรับ​เรา​หน่อย​เหรอ​?”

หล่อน​ตะโกน​ด้วย​เสียงดัง​ราวกับ​พูด​ผ่าน​โทรโข่ง​

ทันใดนั้น​ เพื่อนบ้าน​ก็​โผล่​หัว​ออกมา​และ​มอง​ไป​ยัง​พ่อ​ไป๋​และ​คนอื่น​ ๆ อย่าง​อยากรู้อยากเห็น​

ใบหน้า​ของ​พ่อ​ไป๋​หม่น​ลง​ด้วย​ความโกรธ​ เขา​ตะคอก​กลับ​ทันที​ “เพราะ​พวกคุณ​ไม่ได้มา​ด้วย​เจตนา​ดี​ พวกคุณ​มาก็​เพื่อ​จะอาศัย​บารมี​ของ​ผม​นำ​ลูกชาย​คน​เล็ก​และ​ลูกสะใภ้​ของ​คุณ​เข้าทำงาน​ใน​ธนาคาร​ไม่ใช่เหรอ​? ผม​ไม่ยอมรับ​ข้อเรียกร้อง​ที่​ไม่มีเหตุผล​ของ​คุณ​หรอก​!”

แม่หยาง​ไม่ยอมแพ้​ หล่อน​ต้องการ​ทำให้​เพื่อนบ้าน​คิด​ว่า​พ่อ​ไป๋​เป็น​คน​เสแสร้ง​

แต่​พ่อ​ไป๋​กลับ​เปิดโปง​ให้​เพื่อนบ้าน​ได้​รู้​ถึงจุดประสงค์​ของ​การ​เดินทาง​มาที่นี่​ของ​พวกเขา​ นั่น​คือ​เพื่อ​อาศัย​เส้นสาย​ของ​พ่อ​ไป๋​

เป็นเรื่อง​สมเหตุสมผล​แล้ว​ที่​เขา​ไม่ปล่อย​ให้​พ่อ​หยาง​และ​แม่หยาง​เข้า​บ้าน​ มาดู​กัน​ว่า​ใคร​จะทำลาย​ชื่อเสียง​ของ​ใคร​!

แม่หยาง​ไม่คาดคิด​ว่า​พ่อ​ไป๋​จะใช้กลอุบาย​เช่นนี้​ หล่อน​ไม่สามารถ​ทำ​สิ่งใด​ได้​จึงต้อง​จากไป​ทันทีที่​ถูก​ขับไล่​

ไป๋​เซี่ย​เดิน​ตามหลัง​ไป​พร้อม​กล่าว​ต่อ​สอง​สามีภรรยา​

“พ่อ​ของ​ผม​ฝาก​มาบอ​กว่า​ พยายาม​อย่า​ข้อง​เกี่ยวกับ​ครอบครัว​ของ​เรา​อีก​ โดยเฉพาะ​พี่สาว​ของ​ผม​ ไม่อย่างนั้น​ลูก​คน​เล็ก​ของ​คุณ​กับ​ภรรยา​ของ​เขา​จะไม่มีจุดยืน​ใน​สังคม​อย่าง​แน่นอน​!”

แม่หยาง​ตัวสั่น​ด้วย​ความโกรธ​ “หาก​พ่อ​ของ​นาย​กล้า​ทำ​แบบ​นั้น​ ทั้ง​ครอบครัว​ของ​เรา​จะไป​ที่​บ้าน​พี่สาว​นาย​เพื่อ​กิน​และ​อาศัย​อยู่​กับ​หล่อน​!”

ไป๋​เซี่ย​ยิ้ม​อย่าง​ดูถูก​เหยียดหยาม​ “ตราบใดที่​คุณ​ไป​ พี่สาว​ของ​ผม​ก็​จะหย่า​กับ​ลูกชาย​ของ​คุณ​!”

แม่หยาง​กล่าว​อย่าง​หยิ่งยโส​ “หย่า​ก็​หย่า​สิ!”

หาก​เป็น​ใน​อดีต​ เมื่อ​ไป๋​เซี่ย​พูด​เช่นนั้น​ แม่หยาง​ก็​คง​ยอมรับ​ไม่ได้​

เงินเดือน​ของ​ไป๋​เหยียน​สูงมาก​ แม่หยาง​จะยอมให้​ลูกชาย​คนโต​หย่า​กับ​เธอ​ได้​อย่างไร​

แม้หล่อน​จะภาวนา​ให้​ลูกชาย​คนโต​หย่าร้าง​กับ​ภรรยา​ตลอดเวลา​ แต่​หาก​เป็น​เช่นนั้น​จริง​ หล่อน​ก็​คง​รู้สึก​ไม่พึงพอใจ​

แต่​วันนี้​แตกต่าง​จาก​อดีต​ เพราะ​ร้าน​ขนม​ที่​ลูกชาย​คนโต​เปิด​นั้น​ทำกำไร​ได้​มหาศาล​

หาก​หย่าขาด​จาก​ลูกสะใภ้​คนโต​ เงิน​ทั้งหมด​ที่​ลูกชาย​คนโต​ได้รับ​ก็​จะเป็น​ของ​ครอบครัว​หยาง​

ไป๋​เซี่ย​โกรธ​มาก​จน​หัน​ศีรษะ​และ​จากไป​

เมื่อ​กลับ​เข้ามา​ใน​บ้าน​ เขา​ก็​บอก​ทุกคน​ถึงสิ่งที่​แม่หยาง​พูด​

ไป๋​เหยียน​พูด​กับ​ตัวเอง​ “ไม่ว่า​พวกเขา​จะพยายาม​ขนาด​ไหน​ อา​จิ้น​ก็​จะไม่เลิก​กับ​ฉัน​”

ด้วย​เหตุการณ์​ที่​น่ารำคาญ​นี้​ งานเลี้ยง​อาหารกลางวัน​ก็​เริ่ม​น่าเบื่อ​เล็กน้อย​

แต่​หลังจากนั้น​ไม่นาน​ บรรยากาศ​ก็​ค่อย ๆ​ มีชีวิตชีวา​ขึ้น​

พ่อ​ไป๋​กล่าวว่า​ ระบบ​ธนาคาร​ของ​พวกเขา​กำลังจะ​สร้าง​ชุมชน​ครอบครัว​

หลังจาก​สร้าง​เสร็จ​แล้ว​ ตาม​ระดับ​ของ​เขา​ เขา​สามารถ​ร้องขอ​บ้านพัก​ที่​มีสามห้องนอน​และ​หนึ่ง​ห้องนั่งเล่น​ได้​

เมื่อ​ได้​บ้าน​ใหม่​แล้ว​ พวกเขา​ก็​จะคืน​บ้าน​หลัง​นี้​ให้​กับ​หลิน​ม่าย​

หลิน​ม่าย​กล่าว​ “ไม่ต้อง​รีบร้อน​ค่ะ​”

อันที่จริง​เธอ​ต้องการ​ที่จะ​เข้า​ควบคุม​โครงการ​ชุมชน​ครอบครัว​ของ​ระบบ​ธนาคาร​

ระบบ​ธนาคาร​และ​ระบบ​รถไฟ​เป็น​หน่วยงาน​ที่​มั่งคั่ง​และ​สวัสดิการ​ดี​ที่สุด​

การ​สร้าง​ที่อยู่อาศัย​ของ​ครอบครัว​สำหรับ​หน่วยงาน​อื่น​ ๆ ของ​รัฐ​นั้น​ไม่ได้​ร่ำรวย​ แต่​การ​สร้าง​ที่อยู่อาศัย​ของ​ครอบครัว​สำหรับ​สอง​หน่วย​นี้​จะทำให้​ได้รับ​รายได้​ไม่น้อย​ไป​กว่า​การ​สร้าง​ที่อยู่อาศัย​เพื่อ​การพาณิชย์​สำหรับ​ตัวเอง​

หลิน​ม่าย​ต้องการ​ทดสอบ​น่านน้ำ​ของ​อสังหาริมทรัพย์​ใน​เมืองหลวง​มานาน​แล้ว​

แต่​เธอ​ไม่เคย​พบ​โอกาสดี​ ๆ ใน​การ​ทดสอบ​ ตอนนี้​มีโอกาสดี​อยู่​ตรงหน้า​แล้ว​ และ​เธอ​ก็​ไม่อยาก​พลาด​มัน​

เธอ​ไม่รู้​ขนาด​ชุมชน​ครอบครัว​ของ​ธนาคาร​

หาก​ให้​สร้าง​ตึก​เพียง​ไม่กี่​หลัง​ เธอ​ก็​ไม่ต้องการ​ที่จะ​รับ​ช่วงต่อ​ เพราะ​ขนาด​นั้น​เล็ก​เกิน​กว่า​จะทำ​เงินได้​มาก​

หลิน​ม่าย​จึงถามพ่อ​ไป๋​ว่า​ ชุมชน​ครอบครัว​ของ​ธนาคาร​นั้น​ใหญ่​เพียงใด​

พ่อ​ไป๋​บอ​กว่า​น่าจะ​สร้าง​อาคาร​อย่าง​น้อย​สามสิบ​หลัง​ หลัง​ละ​ห้า​ชั้น​

แน่นอน​ว่า​ขนาดที่​พวกเขา​ต้องการ​นั้น​ไม่เล็ก​เลย​

หลิน​ม่าย​อยาก​ให้​พ่อ​ไป๋​ช่วย​ให้​เธอ​ได้​ดูแล​โครงการ​นี้​

แต่​เธอ​กลัว​ว่า​พ่อ​ไป๋​จะถูก​คนอื่น​วิพากษ์วิจารณ์​เพราะเหตุนี้​ โดย​บอ​กว่า​เขา​ใช้ประโยชน์​จาก​ตำแหน่ง​ของ​ตน​เพื่อ​เรียกร้อง​โครงการ​ให้​กับ​ลูกสาว​

ไม่ง่าย​เลย​ที่​พ่อ​ไป๋​จะได้​ตำแหน่ง​ประธาน​ และ​หลิน​ม่าย​ก็​ไม่ต้องการ​สร้าง​ความเดือดร้อน​ให้​ผู้​เป็น​พ่อ​

ดังนั้น​เธอ​จึงทำได้​เพียง​กลืน​ความปรารถนา​ทั้งหมด​ลง​ไป​ และ​เตรียม​ที่จะ​กลับ​ไปหา​หนทาง​ด้วยตัวเอง​

หลังจาก​รับประทาน​อาหารกลางวัน​ที่​บ้าน​ของ​พ่อ​ไป๋​ ไป๋​เหยียน​ก็​อุ้ม​ลูกสาว​ไป​ยัง​ร้าน​ขนม​ของ​หยาง​จิ้น​

หล่อน​บอกเล่า​ทุกอย่าง​ให้​สามีฟังทันทีที่​ไป​ถึงร้าน​ โดย​บอ​กว่า​แม่ของ​เขา​ต้องการ​ให้​เขา​หย่าร้าง​กับ​หล่อน​ และ​ถามเขา​ว่า​เขา​คิด​อย่างไร​

หยาง​จิ้น​กล่าว​ขณะ​กำลัง​ขาย​เซาปิ่ง​ “ผม​คิด​ยังไง​น่ะ​เหรอ​? ผม​จะไม่หย่า​กับ​คุณ​แน่นอน​! ถ้าผม​หย่า​กับ​คุณ​ ผม​จะกลายเป็น​เครื่องมือ​หาเงิน​ของ​ตระกูล​หยาง​ ที่​สำคัญ​คือ​ แม่จะเอา​เงิน​ทั้งหมด​ที่​ผม​หา​มาได้​ไป​ ต่อให้​ผม​ร้อง​ขอให้​แม่จ่าย​ค่าครองชีพ​ให้​กับ​เถียนเถียน​ แม่ก็​จะไม่เห็นด้วย​ ท่าน​จะมอบ​เงิน​ทั้งหมด​ให้​กับ​ครอบครัว​น้องชาย​เท่านั้น​ แม่ไม่แม้แต่​จะสนใจ​เมื่อ​ผม​ป่วย​ และ​ไม่เคย​สน​ว่า​ผม​มีช่วงเวลา​ที่​ยากลำบาก​เพียงใด​”

หยาง​จิ้น​ไม่ได้​ตื่นตกใจ​อะไร​

ใน​ปี​แรก​ของ​การ​แต่งงาน​กับ​ไป๋​เหยียน​ เขา​ป่วย​ด้วย​โรค​ไส้ติ่ง​อักเสบ​

แม้ว่า​จะเบิก​ค่ารักษาพยาบาล​ใน​หน่วยงาน​ แต่​พนักงาน​ก็​ต้อง​เบิกเงิน​ล่วงหน้า​ก่อน​

ในเวลานั้น​ เนื่องจาก​ครอบครัว​ใหญ่​อาศัย​อยู่​ด้วยกัน​ เงินเดือน​ทั้งหมด​ของ​สามีและ​ภรรยา​ของ​จึงต้อง​มอบให้​กับ​แม่ของ​เขา​

แต่​แม่ของ​เขา​ไม่ยอม​ให้เงิน​ค่า​ผ่าตัด​กับ​เขา​สัก​หยวน​ ให้​เขา​ไป​ขอ​พ่อตา​ของ​เขา​แทน​

พ่อตา​ของ​เขา​ร่ำรวย​ จะไม่มีเงิน​รักษา​ไส้ติ่ง​อักเสบ​ให้​เขา​ได้​อย่างไร​?

ใน​ท้ายที่สุด​ เป็น​ไป๋​เหยียน​ที่​กลับ​ไป​ยัง​บ้าน​พ่อ​ของหล่อน​เพื่อ​ขอ​เงิน​ให้​สามีได้รับ​การ​ผ่าตัด​ และ​ดูแล​เขา​ที่​โรงพยาบาล​

และ​อาหาร​ที่​มีคุณค่า​ทาง​โภชนาการ​ก็​ถูก​นำมา​ส่งโดย​แม่บ้าน​ของ​ครอบครัว​สามี

ต่อมา​เมื่อ​ทำการ​เบิก​คืน​ค่ารักษาพยาบาล​ของ​เขา​และ​ได้​รับเงิน​ แม่ของ​สามีก็​เอา​เงิน​นั้น​ไป​จน​หมด​โดย​อ้างว่า​ตน​เป็น​ผู้​จ่าย​ค่ารักษาพยาบาล​

ดังนั้น​หยาง​จิ้น​จึงรู้ดี​ว่า​หาก​เขา​หย่า​กับ​ไป๋​เหยียน​จริง​ เขา​จะถูก​ครอบครัว​หยาง​กลืน​กิน​จน​ไม่เหลือ​แม้แต่​กระดูก​

ไป๋​เหยียน​มีความสุข​มาก​หลังจาก​ได้ยิน​คำตอบ​ของ​หยาง​จิ้น​ จึงเอ่ย​ขึ้น​ “คุณ​ต้อง​บอก​เรื่อง​นี้​กับ​แม่ของ​คุณ​แล้ว​ ไม่งั้น​แม่ของ​คุณ​จะจับผิด​ฉัน​และ​พ่อ​ของ​ฉัน​เสมอ​”

หยาง​จิ้น​ตอบกลับ​ “วันนี้​พ่อแม่​ของ​ผม​มาหา​และ​ขอให้​ผม​หย่า​กับ​คุณ​ และ​ผม​ก็​บอก​พวกเขา​ทุกอย่าง​ที่​ผม​บอก​คุณ​ ทาย​สิว่า​แม่พูด​อะไร​?

ไป๋​เหยียน​ถามอย่าง​อยากรู้อยากเห็น​ “แม่ของ​คุณ​พูด​อะไร​?”

“แม่ของ​ผม​บอ​กว่า​จะดูแล​ครอบครัว​น้องชาย​ของ​ผม​ให้​ดี​ เมื่อ​ลูกชาย​ของ​พวกเขา​โต​ขึ้น​ประสบความสำเร็จ​ ท่าน​ก็​จะไม่เห็น​หัว​เรา​อีกต่อไป​ ผม​ก็​แค่​ฟังโดย​ไม่ได้​ตอบกลับ​อะไร​ และ​ไม่สนใจ​ด้วยว่า​ลูกชาย​ของ​น้องชาย​จะกตัญญู​หรือไม่​ ผม​มีลูกสาว​หนึ่ง​คน​ อะไร​จะวัด​ได้​ว่า​ลูกสาว​เมื่อ​โต​ขึ้น​จะไม่กตัญญู​? ตอนนี้​มีการ​วางแผนครอบครัว​แล้ว​ หลาย​ ๆ ครอบครัว​จะไม่มีลูกชาย​ในอนาคต​ พวกเขา​ล้วนแต่​พึ่ง​ลูกสาว​ไม่ใช่หรือ​? ครอบครัว​ที่​มีลูกสาว​จะไม่มีใคร​ดูแล​เมื่อ​ยาม​แก่เฒ่า​ เก็บ​ศพ​ ทำ​พิธีศพ​ และ​ไป​หลุมฝังศพ​ใน​ช่วง​เชงเม้งหรือ​ยังไง​?

ไป๋​เหยียน​หัวเราะ​ “คุณ​พูด​แบบ​นั้น​ แม่ของ​คุณ​ไม่โกรธ​เหรอ​คะ​?”

หยาง​จิ้น​ตอบกลับ​ “ปล่อย​ท่าน​ไป​เถอะ​ ยังไง​เงิน​ที่​ผม​ให้​แม่แต่ละ​เดือน​ก็​ไม่น้อย​ไป​กว่า​ที่​ลูกชาย​สุดที่รัก​ของ​แม่ให้​หรอก​ ใน​ช่วง​วันหยุด​ ผม​จะซื้อ​เสื้อผ้า​ที่​ใส่สบาย​ให้​ท่าน​ เพราะ​นี่​เป็น​สิ่งที่​ถูกใจ​ท่าน​มาก​ที่สุด​”

………………………………………………………………………………………………………………………….

สาร​จาก​ผู้แปล​

อย่า​บีบบังคับ​ลูก​คนโต​เชียว​นะ​ป้า​ เมื่อไหร่​ที่​เขา​เขียน​ตัดความสัมพันธ์​แม่ลูก​ขึ้น​มาแบบ​ไม่ส่งค่าเลี้ยงดู​สัก​หยวน​ มัน​จะเป็น​วันที่​หนาว​ที่สุด​นะ​

ไหหม่า​(海馬)