ตอนที่ 780 แพะรับบาป

แม่ปากร้ายยุค​ 80

ตอนที่​ 780 แพะรับบาป​

เมื่อ​ออก​มาจาก​ร้าน​เปา​ห่า​วชือ​ หลิน​ม่าย​ก็​ขับรถ​ไป​ยัง​มหาวิทยาลัย​

ตอนนี้​เพิ่งจะ​บ่าย​สามโมง ยัง​เหลือ​อีก​สอง​คาบ​เรียน​

ขณะ​กำลัง​ขับรถ​ เธอ​ก็​คิด​ว่า​คราวนี้​เธอ​จะใช้ประโยชน์​จาก​การ​ตีความ​กฎหมาย​แบบ​ผิด​ ๆ ของ​ผู้พิพากษา​และ​กวาดล้าง​ครอบครัว​ที่​ถูก​ว่าจ้าง​มาโดย​ผู้บงการ​อยู่​เบื้องหลัง​

แต่​หลังจากที่​มือมืด​เบื้องหลัง​ล้ม​ลง​ ก็​มีมือมืด​เบื้องหลัง​คนอื่น​ ๆ ที่​ใช้กลอุบาย​นี้​จัดการ​กับ​ร้านอาหาร​ของ​เธอ​เช่นกัน​

ในเวลานั้น​ผู้พิพากษา​ได้​แก้ไข​ข้อผิดพลาด​ของ​เขา​และ​จะไม่ตัดสิน​สถานการณ์​ที่​เรียกร้อง​ค่าชดเชย​เป็นการ​ขู่กรรโชก​

ถ้าอย่างนั้น​ร้าน​ในเครือ​เปา​ห่า​วชือ​ของ​เธอ​จะไม่เพียง​เผชิญ​กับ​ความเสี่ยง​ที่จะ​ถูก​กรรโชก​ได้​ตลอดเวลา​ แต่​ยัง​เผชิญ​กับ​ความเสี่ยง​ที่จะ​ถูก​ปิด​ด้วย​ไม่ใช่หรือ​?

คงจะ​ดี​ไม่น้อย​หาก​มีกล้องวงจรปิด​สัก​ตัว​

หาก​มีกล้องวงจรปิด​ใน​ร้าน​ เธอ​ก็​จะมีหลักฐาน​ที่​ยืนยัน​ได้​ว่าไม่ได้​มีหนู​ตาย​ใน​หม้อไฟ​ บุคคล​เหล่านี้​สร้างสถานการณ์​ขึ้น​มาเพื่อ​จงใจจะทำลาย​ชื่อเสียง​ร้าน​เปา​ห่า​วชือ​ของ​เธอ​

ยุค​นี้​ไม่มีกล้องวงจรปิด​ในประเทศ​จีน​ ดังนั้น​เธอ​จึงได้​แต่​ขอความช่วยเหลือ​จาก​น้องชาย​สามีอย่าง​ฟางจั๋วเยวี่ย​เพื่อ​ดู​ว่า​เขา​สามารถ​สร้าง​กล้องวงจรปิด​ได้​หรือไม่​

หลัง​เลิกเรียน​ใน​ช่วง​บ่าย​ หลิน​ม่าย​ไม่แม้แต่​จะกิน​ข้าวเย็น​ เธอ​โทร​หา​ฟางจั๋วเยวี่ย​ทันที​

เธอ​ถามเขา​ว่า​สามารถ​ประดิษฐ์​กล้องวงจรปิด​ได้​หรือไม่​ ไม่จำเป็นต้อง​เลิศหรู​ ขอ​แบบ​ธรรมดา​ที่สุด​เท่าที่​เขา​จะทำได้​

ฟางจั๋วเยวี่ย​คิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​จาก​อีก​ฝั่งของ​โทรศัพท์​พลาง​กล่าว​ “ได้​สิ การ​สร้าง​กล้องวงจรปิด​ง่ายก​ว่าการ​สร้าง​โทรทัศน์​เสีย​อีก​ แค่​มีเลนส์​ เซ็นเซอร์​รับ​ภาพ​ ชิป​ประมวลผล​สัญญาณดิจิทัล​ และ​จอแสดงผล​ ผม​น่าจะ​สร้างตัว​ต้นแบบ​ให้​พี่​ได้​ภายใน​ครึ่ง​เดือน​”

หลิน​ม่าย​ขอบคุณ​เขา​ที่​ทำงานหนัก​ก่อน​กด​วางสาย​

เธอ​ไม่คิด​ว่า​โทรทัศน์​ใน​ยุค​นี้​จะต้อง​ใช้ชิป​

โชคดี​ที่​สหรัฐอเมริกา​ยัง​ไม่ได้​ทำการ​ผูกขาด​ชิป​ในเวลานี้​ ไม่เช่นนั้น​ ประเทศ​ที่​ใหญ่​พอ​ ๆ กับ​พวกเขา​คง​ไม่สามารถ​ผลิต​โทรทัศน์​ได้​แม้แต่​เครื่อง​เดียว​

แฟชั่น​โชว์​ของ​หลิน​ม่าย​จะจัดแสดง​ที่​โรงละคร​แห่ง​ประเทศ​จีน​เวลา​หก​โมงเย็น​วันนี้​

หลัง​คุย​กับ​ฟางจั๋ว​เย​วี่ย​ หลิน​ม่าย​ก็​ขับรถ​ไป​ยัง​ร้าน​ซาลาเปา​ของ​เธอ​ที่​หน้า​มหาวิทยาลัย​ และ​สั่งซาลาเปา​หนึ่ง​ตะกร้า​พร้อม​ซุป​เนื้อ​แกะ​ชามเล็ก​

หลังจาก​รับประทาน​จน​เสร็จสิ้น​ เธอ​ก็​ขับรถ​ไป​ยัง​โรงละคร​แห่ง​ประเทศ​จีน​

เมื่อ​เธอ​มาถึงโรงละคร​แห่ง​ประเทศ​จีน​ก็​เป็นเวลา​หก​โมงเย็น​พอดี​ และ​แฟชั่น​โชว์​ก็ได้​เริ่ม​ขึ้น​แล้ว​

ยังมี​ชายหนุ่ม​และ​หญิงสาว​จำนวนมาก​รวมตัว​กันที่​ทางเข้า​โรงละคร​ พวกเขา​ต้องการ​ซื้อ​ตั๋ว​เพื่อ​เข้าชม​

มีคนขายตั๋ว​มากมาย​ท่ามกลาง​ฝูงชน​

หลิน​ม่าย​ได้ยิน​ว่า​ราคา​ตั๋ว​เพิ่มขึ้น​เป็น​สามสิบห้า​หยวน​ต่อ​ใบ​ แต่​ชายหนุ่ม​และ​หญิงสาว​หลาย​คน​ก็​ยังคง​เต็มใจ​จะซื้อ​

เธอ​อยาก​จะตะโกน​ออก​ไป​ว่า​ แฟชั่น​โชว์​ที่​จัดแสดง​ใน​โรงละคร​วันนี้​จะออกอากาศ​ทาง​ CCTV ใน​วันพรุ่งนี้​ พวก​เจาไม่จำเป็นต้อง​ซื้อ​ตั๋ว​ราคา​สูงก็​สามารถ​รับ​ชมได้​ทาง​โทรทัศน์​

แต่​หลังจาก​คิดดู​แล้ว​ หาก​เธอ​ตะโกน​เช่นนั้น​ก็​เท่ากับ​เป็นการ​ตัด​กำไร​คน​ขาย​ แบบ​นั้น​พวกเขา​จะไม่รวมหัว​กัน​เพื่อ​ทำลาย​เธอ​เหรอ​?

แม้ว่า​ตอนนี้​เธอ​จะเก่ง​เรื่อง​การต่อสู้​ แต่​หาก​เธอ​ถูก​รุม​ทำร้าย​ เธอ​เอง​ก็​ไม่แน่ใจ​เช่นเดียวกัน​ว่า​จะเอาชนะ​พวกเขา​ได้​หรือไม่​

ดังนั้น​การ​ไม่สร้าง​ปัญหา​จึงเป็น​ทางออก​ที่​ดี​ที่สุด​

เธอ​ไม่คิด​ว่า​แฟชั่น​โชว์​ครั้งนี้​จะโด่งดัง​ถึงขนาด​นี้​ และ​การ​หา​ตั๋ว​เข้าชม​ก็​เรียก​ได้​ว่า​เป็นเรื่อง​ยาก​ยิ่ง​!

หลิน​ม่าย​เข้าไป​ใน​โรงละคร​เพื่อ​ดู​แฟชั่น​โชว์​และ​จากไป​

เธอ​มาที่นี่​เพื่อ​ตรวจสอบ​ความ​เรียบร้อย​ทั้งหมด​เท่านั้น​

วันรุ่งขึ้น​ ข่าว​ที่​ถูก​ตีพิมพ์​ลง​ใน​หนังสือพิมพ์​นั้น​สะดุดตา​เป็นพิเศษ​

ข่าว​ที่หนึ่ง​คือ​ ลูกค้า​กลุ่ม​หนึ่ง​อ้างว่า​พวกเขา​กิน​หนู​ตาย​จาก​หม้อไฟ​ของ​ร้าน​เปา​ห่า​วชือ​และ​เรียกร้อง​ค่าชดเชย​ห้า​หมื่น​หยวน​

หลิน​ม่าย​ซึ่งเป็น​เจ้าของร้าน​เปา​ห่า​วชือ​ได้​โทร​แจ้งตำรวจ​แล้ว​ และ​หน่วยงาน​รักษา​ความปลอดภัย​สาธารณะ​กำลัง​สืบสวน​คดี​นี้​ โดย​เบื้องต้น​สืบ​ทราบ​เป็นการ​กรรโชก​ทรัพย์​

ข่าว​ที่สอง​คือ​ แฟชั่น​โชว์​ที่​จัด​ขึ้น​ที่​โรงละคร​แห่ง​ประเทศ​จีน​เมื่อคืน​ที่ผ่านมา​ประสบความสำเร็จ​อย่าง​มาก​

หลัง​จบ​แฟชั่น​โชว์​ ห้อง​เสื้อ​จิ่น​ซิ่ว​ได้​เชิญผู้​ได้​รับรางวัล​ชนะเลิศ​ รองชนะเลิศ​อันดับ​หนึ่ง​ และ​รองชนะเลิศ​อันดับ​สอง​มาถ่าย​โฆษณาตาม​สัญญา

เมื่อ​โฆษณาออกอากาศ​ กระ​แสก็ดี​มาก​

เสื้อผ้า​ฤดูใบไม้ผลิ​ใหม่​ทั้งหมด​ที่​สวมใส่​โดย​ผู้​ได้​รับรางวัล​ชนะเลิศ​ รองชนะเลิศ​อันดับ​หนึ่ง​ และ​รองชนะเลิศ​อันดับ​สอง​ใน​โฆษณานั้น​หมดเกลี้ยง​ทันทีที่​วางขาย​

กระแส​ดารา​มีอยู่​ใน​ทุก​ยุค​ทุก​สมัย​ แน่นอน​ว่า​กลุ่มคน​ที่​คลั่งไคล้​ผู้มีชื่อเสียง​ก็​ย่อม​ต้อง​การทำตาม​บุคคล​ที่​ตน​ชื่นชม​

นับตั้งแต่​หลิน​ม่าย​หยุด​ธุรกิจค้าส่ง​เสื้อผ้า​เมื่อ​หลาย​ปีก่อน​ ธุรกิจ​ของ​แฟรนไชส์​ทั้งหมด​ก็​ดีขึ้น​

ดังนั้น​จึงมีผู้ประกอบอาชีพ​อิสระ​จำนวนมาก​ที่​ต้องการ​เข้าร่วม​

ปริมาณ​การผลิต​ของ​ห้อง​เสื้อ​จิ่น​ซิ่ว​ไม่เพียง​ไม่ลดลง​ แต่​ยัง​เพิ่มขึ้น​อีก​หลาย​เปอร์เซ็นต์​

เดิมที​หลังจาก​วัน​ปีใหม่​ เสื้อผ้า​ทั้งหมด​จะเข้าสู่​ช่วง​นอก​ฤดูกาล​

อย่างไรก็ตาม​ การ​ที่​ผู้​ได้​รับรางวัล​สามอันดับ​แรก​จาก​การประกวด​นางแบบ​ของ​ห้อง​เสื้อ​จิ่น​ซิ่ว​ขึ้น​นำเสนอ​เสื้อผ้า​รูปแบบ​ใหม่​ประจำ​ฤดูใบไม้ผลิ​ใน​งาน​แฟชั่น​โชว์​นั้น​ ทำให้​ห้อง​เสื้อ​จิ่น​ซิ่ว​ได้รับ​ความนิยม​ค่อนข้าง​สูง

แม้ห้อง​เสื้อ​อื่น​ ๆ จะเข้าสู่​ช่วง​นอก​ฤดูกาล​ แต่​เสื้อผ้า​ของ​ห้อง​เสื้อ​จิ่น​ซิ่ว​ไม่เพียง​ไม่เข้าสู่​ช่วง​นอกฤดู​เท่านั้น​ แต่​ยัง​เจริญรุ่งเรือง​มากกว่า​เดิม​อีกด้วย​

หลัง​ประสบความสำเร็จ​จาก​การเปลี่ยนแปลง​วิธีการ​ขายของ​ห้อง​เสื้อ​จิ่น​ซิ่ว​ คดี​กรรโชก​ของ​ครอบครัว​ที่​แอบ​อ้าว​ว่า​ได้​กิน​หนู​ตาย​ก็​คลี่คลาย​ลง​เช่นกัน​

คู่สามีภรรยา​วัยกลางคน​พร้อมทั้ง​ลูกชาย​และ​ลูกสะใภ้​ยอมรับ​ว่า​พวกเขา​แอบ​ใส่หนู​ลง​ใน​หม้อไฟ​ด้วยตัวเอง​

พวกเขา​ทำ​แบบ​นั้น​เพราะ​ต้องการ​ใส่ร้าย​ร้าน​เปา​ห่า​วชือ​

พวกเขา​ไม่ได้​ทำ​เพื่อ​ขู่กรรโชก​ทรัพย์​ แต่​พวกเขา​ถูก​ว่าจ้าง​มาเพื่อ​ทำให้​ชื่อเสียง​ของ​ร้าน​เปา​ห่า​วชือ​เสื่อมเสีย​

สิ่งที่​ครอบครัว​นี้​อธิบาย​คล้าย​กับ​สิ่งที่​ผู้จัดการ​ซุน​ หลิน​ม่าย​ และ​คนอื่น​ ๆ คาดเดา​

ครอบครัว​นั้น​เป็น​เพียง​เครื่องมือ​ของ​คนอื่น​ แต่​พวกเขา​ยัง​ไม่รู้​ว่า​เครื่องมือ​นี้​เป็น​ของ​ใคร​

นอกจากนี้​ยัง​สอดคล้อง​กับ​สิ่งที่​ซูอวี้อิ๋ง​พูด​ก่อนหน้านี้​ว่า​ มีคน​พยายาม​ลอบ​ทำลาย​หลิน​ม่าย​

อย่างไรก็ตาม​ ครอบครัว​นี้​รีบ​อธิบาย​อย่าง​รวดเร็ว​ว่า​ ผู้อยู่เบื้องหลัง​ที่​ว่าจ้าง​พวกเขา​คือ​ร้าน​ซาลาเปา​ถาน​จี้ ซึ่งอยู่​ตรงข้าม​ร้าน​แฟรนไชส์​เปา​ห่า​วชือบน​ถนน​ฉางอัน​

ตำรวจ​ได้​นำ​ตัว​เถ้าแก่​ถาน​ เจ้าของร้าน​ซาลาเปา​ถาน​จี้ไป​สอบปากคำ​ที่​สถานีตำรวจ​

เถ้าแก่​ถาน​ยอมรับ​ด้วยว่า​สั่งให้​ครอบครัว​นี้​ใส่หนู​ที่​ตาย​แล้ว​ลง​ไป​ใน​หม้อไฟ​เพื่อ​ใส่ร้าย​ร้าน​เปา​ห่า​วชือบน​ถนน​ฉางอัน​

เถ้าแก่​ถาน​ยัง​สารภาพ​ว่า​ตั้งแต่​ร้าน​เปา​ห่า​วชือ​เปิด​ให้บริการ​ที่​ฉางอัน​ ยอดขาย​ร้าน​ซาลาเปา​ของ​เขา​ก็​ลดลง​และ​เกือบจะ​สูญเสีย​กิจการ​

นั่น​เป็น​เหตุผล​ที่​เขา​ใช้เงิน​จำนวนมาก​เพื่อ​จ้างร้าน​ใหญ่​และ​เล็ก​โดยรอบ​ให้​ทำลาย​ร้าน​เปา​ห่า​วชือ​ใน​ฉางอัน​ โดย​หวัง​ว่า​ร้าน​เปา​ห่า​วชือ​จะปิด​ตัว​ลง​ และ​ร้าน​ซาลาเปา​นึ่ง​ของ​เขา​จะกลับมา​

ตำรวจ​ให้​บทเรียน​อย่าง​หนัก​แก่​ครอบครัว​นั้น​และ​เถ้าแก่​ถาน​ โดย​ให้​พวกเขา​จ่าย​ค่า​ปรับราคา​สูง

พวกเขา​ต้อง​ชดเชย​ให้​กับ​ร้าน​เปา​ห่า​วชือ​สำหรับ​การ​สูญเสียชื่อเสียง​ และ​คดี​ก็​ปิด​ลง​

แม้การ​ตัดสินคดี​จะดำเนิน​ไป​อย่าง​สมเหตุสมผล​ตั้ง​แต่ต้นจนจบ​ แต่​ด้วย​เหตุผล​บางอย่าง​ หลิน​ม่าย​รู้สึก​ว่า​เถ้าแก่​ถาน​เป็น​เพียง​แพะรับบาป​ และ​มีผู้อยู่เบื้องหลัง​ซุกซ่อน​อยู่​

แต่​เนื่องจาก​เบื้องหลัง​เป็น​มือมืด​ วันหนึ่ง​มือ​นี้​ก็​จะยื่น​ออกมา​เพื่อ​ทำลาย​เธอ​อีกครั้ง​แน่​

อย่างไรก็ตาม​ ปัญหา​ของ​ร้าน​เปา​ห่า​วชือ​ได้รับ​การ​แก้ไข​แล้ว​ และ​หลิน​ม่าย​ก็​มุ่งความสนใจ​ไป​ยัง​ธุรกิจ​อสังหาริมทรัพย์​

ใน​เดือน​แรก​ เธอ​สอบถาม​เกี่ยวกับ​โครงการ​ชุมชน​ครอบครัว​ของ​ธนาคาร​ที่​พ่อ​ไป๋​ทำงาน​อยู่​ และ​เธอ​ก็​ให้ความสนใจ​กับ​โครงการ​นี้​อย่าง​มาก​

แต่​โครงการ​นี้​ค่อนข้าง​เป็นความลับ​สุดยอด​

นอกจาก​ผู้บริหาร​ของ​ธนาคาร​แห่ง​เจียง​เฉิงแล้วก็​ไม่มีพนักงาน​ภายใน​คนใด​รู้​เกี่ยวกับ​โครงการ​นี้​

เมื่อ​ไม่กี่​วัน​ที่ผ่านมา​ ในที่สุด​ธนาคาร​ก็ได้​ประกาศ​ต่อ​สาธารณชน​ว่า​ พวกเขา​กำลังจะ​สร้าง​พื้นที่​อาศัย​สำหรับ​ครอบครัว​

แต่​หลังจาก​ประกาศ​ข่าว​ออก​ไป​กลับ​ไม่มีกระแส​ตอบรับ​ใด​

หลิน​ม่าย​กลัว​ว่า​จะมีใคร​แอบ​ตัดราคา​เพื่อ​คว้า​โอกาส​ที่จะ​ดูแล​โครงการ​นี้​ไป​ ดังนั้น​เธอ​จึงโทร​หา​พ่อ​ไป๋​

หลิน​ม่าย​ถามเขา​ว่า​ หาก​เธอ​ต้องการ​เป็น​ผู้ดูแล​โครงการ​นี้​ เธอ​ควรจะ​เข้าหา​ใคร​

แม้เธอ​จะไม่ได้​ตั้งใจ​ติดสินบน​ แต่​การ​หา​ผู้​ช่วยเหลือ​ที่จะ​ทำให้​เธอ​ได้​ดูแล​โครงการ​นี้​ได้​จะช่วย​ประหยัดเวลา​ไป​ได้​มาก​

พ่อ​ไป๋​บอกกล่าว​ต่อ​เธอ​ว่า​ไม่จำเป็นต้อง​เข้าหา​ใคร​

เนื่องจาก​ปี​ที่แล้ว​มีการ​ว่าจ้าง​ผู้รับเหมาก่อสร้าง​ แต่​คุณภาพ​ที่​กลุ่ม​ผู้รับเหมา​สร้าง​ชุมชน​อาศัย​สำหรับ​ครอบครัว​กลับ​ออกมา​แย่มาก​

ห้องน้ำ​และ​ห้องครัว​ของ​เกือบ​ทุก​ครัวเรือน​มีน้ำ​รั่ว​ สร้าง​ความไม่พอใจ​อย่าง​มาก​ใน​หมู่​ผู้​พักอาศัย​

พนักงาน​หัวรุนแรง​บางคน​ไม่อาจ​ทน​เก็บ​ความโกรธ​ไว้​ได้​ พวกเขา​เดินทาง​ไป​ประท้วง​และ​อาละวาด​ที่​สำนักงาน​ของ​ผู้รับเหมา​เหล่านั้น​บ่อยครั้ง​

พวกเขา​ต้องการ​ลงโทษ​ผู้ปฏิบัติงาน​ทั้ง​น้อย​ใหญ่​ที่​รับผิดชอบ​การ​สร้าง​ชุมชน​ครอบครัว​

หาก​ไม่ใช่เพราะ​พวกเขา​โกงกิน​ ก็​คง​เป็นไปไม่ได้​ที่จะ​ใช้เงิน​จำนวนมาก​เพื่อ​สร้าง​ชุมชน​ครอบครัว​ที่​มีคุณภาพต่ำ​เช่นนี้​

ดังนั้น​ครั้งนี้​พวกเขา​จึงแก้ปัญหา​โดย​การ​เลือก​ผู้รับเหมา​ผ่าน​การประมูล​

ใน​บ่าย​วัน​เสาร์​นี้​ ธนาคาร​ซึ่งเป็น​ที่ทำงาน​ของ​พ่อ​ไป๋​จะดำเนิน​การประมูล​โครงการ​ชุมชน​ครอบครัว​

หลิน​ม่าย​ต้อง​การชนะ​โครงการ​นี้​จึงคิด​จะเข้าร่วม​ประมูล​ด้วยตัวเอง​

หลิน​ม่าย​จำได้​ว่า​บ้านพัก​สวัสดิการ​ของ​ไป๋​เหยียน​ก็​ได้รับ​การอนุมัติ​ให้​เข้า​อาศัย​เมื่อ​ปี​ที่แล้ว​

ดังนั้น​จึงเอ่ย​ถาม “ครัว​กับ​ห้องน้ำ​บ้าน​มีน้ำ​รั่ว​ด้วย​เหรอ​?”

“รั่ว​สิ รั่ว​เยอะ​ด้วย​! นี่​คือ​ปัญหา​ที่​ครอบครัว​พี่​กำลัง​ประสบ​อยู่​” ผู้ดูแล​สวัสดิการ​ใน​เรื่อง​นี้​ ซึ่งเป็น​ผู้​ทำการ​จัดสรร​และ​แบ่ง​ส่วน​บ้านพัก​ให้​กับ​พนักงาน​ก็​รู้สึก​ปวดหัว​ไม่น้อย​

หลิน​ม่าย​กล่าว​ “ฉัน​จะส่งผู้จัดการ​จางจาก​บริษัท​ตกแต่ง​ของ​ฉัน​ไปดู​ว่า​จะสามารถ​แก้ปัญหา​ให้​พี่​ได้​หรือไม่​”

หลัง​เลิกเรียน​ใน​บ่าย​วันรุ่งขึ้น​ หลิน​ม่าย​ขับรถ​ตรง​ไป​ยัง​บ้าน​ของ​ไป๋​เหยียน​

เมื่อวาน​นี้​ หลิน​ม่าย​ได้​โทร​หา​จางเห​วิน​ปิง​ และ​จางเห​วิน​ปิง​ก็​เดินทาง​มาถึงนาน​แล้ว​ เขา​กำลัง​นั่ง​ดื่ม​ชาอยู่​ใน​บ้าน​ของ​ไป๋​เหยียน​

เมื่อ​เขา​ได้​พบ​กับ​หลิน​ม่าย​ เขา​บอ​กว่า​รอย​รั่ว​ใน​ห้องครัว​และ​ห้องน้ำ​นั้น​ไม่ง่าย​ที่จะ​แก้ไข​ เขา​ต้อง​เทปูน​ใหม่​อีก​ชั้นหนึ่ง​ แต่​ก็​อาจจะ​ไม่ได้ผล​

หาก​ต้อง​การแก้ปัญหา​น้ำ​รั่ว​ซึมใน​ห้องครัว​และ​ห้องน้ำ​ของ​ไป๋​เหยียน​ก็​ต้อง​ได้รับ​ความร่วมมือ​จาก​เพื่อนบ้าน​ชั้นบน​ เนื่องจาก​ปูน​ที่​เขา​ทำการ​เท​ใหม่​อาจ​กระจาย​ไป​ใน​ห้องน้ำ​และ​ห้องครัว​ของ​เพื่อนบ้าน​ชั้นบน​

เพื่อนบ้าน​ชั้นบน​และ​ไป๋​เหยียน​เป็น​เพื่อนร่วมงาน​กัน​ และ​ความสัมพันธ์​ก็​แน่นแฟ้น​ ดังนั้น​หล่อน​จึงตอบ​ตกลง​อย่าง​ง่ายดาย​

ใน​ชีวิต​ที่แล้ว​ หลิน​ม่าย​ไม่ได้​คลุกคลี​อยู่​กับ​แวดวง​นี้​ แต่​แม้จะไม่เคย​กิน​เนื้อหมู​ เธอ​ก็​เคย​เห็น​หมู​วิ่ง​(1) ไม่ใช่เหรอ​?

ใน​ชีวิต​ที่แล้ว​ เธอ​จำได้​ว่า​ช่างทำ​ชั้น​กันน้ำ​ใน​ห้องครัว​และ​ห้องน้ำ​

ขั้นแรก​พวกเขา​เท​กาว​ลง​บน​พื้น​ห้องครัว​และ​ห้องน้ำ​ซ้ำแล้วซ้ำอีก​ เพื่อให้​กาว​ซึมเข้า​ตาม​ซอก​มุมต่าง ๆ​

จากนั้น​จึงเกลี่ย​ซีเมนต์​ผสม​กาว​ เกลี่ย​ยางมะตอย​หนึ่ง​ชั้น​ ปู​ซีเมนต์​หนึ่ง​ชั้น​ เคลือบ​กัน​น้ำหนึ่ง​ชั้น​ และ​ปัญหา​รั่ว​ซึมก็​จะหาย​ไป​

จางเห​วิน​ปิง​ทำ​ตามที่​หลิน​ม่าย​พูด​ และ​ก็​สามารถ​แก้ปัญหา​น้ำ​รั่ว​ใน​ห้องครัว​และ​ห้องน้ำ​ของ​ไป๋​เหยียน​ได้​จริง ๆ​

เพื่อนร่วมงาน​ที่​อาศัย​อยู่​ใน​พื้นที่​ครอบครัว​เดียวกัน​กับ​ไป๋​เหยียน​ขอให้​ไป๋​เหยียน​แนะนำ​จางเห​วิน​ปิง​ให้​พวกเขา​รู้จัก​เพื่อ​แก้ปัญหา​น้ำ​รั่ว​ใน​ห้องครัว​และ​ห้องน้ำ​

การซ่อมแซม​โดยไม่ตั้งใจ​ของ​หลิน​ม่าย​กลาย​เป็นการ​เปิด​ตลาด​ใหม่​ให้​กับ​บริษัท​ตกแต่ง​บ้าน​ของ​เธอ​

……………………………………………………………………………………………………………………….

没吃过猪肉, 还没见过猪跑 สำนวน​ หมายถึง​ แม้จะไม่เคย​ประสบ​กับ​สิ่งนั้น​มาด้วยตัวเอง​ แต่​ก็​เคย​เห็น​เคย​ได้ยิน​หรือ​เคย​รู้​มาบ้าง​แล้ว​

สาร​จาก​ผู้แปล​

ยัย​อวี้อิ๋ง​บงการ​อยู่​เบื้องหลัง​หรือเปล่า​นะ​ หรือว่า​มีใคร​อีก​?

ไหหม่า​(海馬)