บทที่ 739 ตบหน้าฉาดที่สอง

องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที!

“​พวก​เจ้า​มี​คน​พอแล้ว​ก็​จริง​ ​แต่​กลุ่ม​ของ​เจ้า​คง​เป็น​กลุ่ม​ที่​เล็ก​ที่สุด​ใน​ประวัติศาสตร์​เลย​ก็​ว่า​ได้​”​ ​หนี​หู่​หันกลับ​ไป​มอง​สมาชิก​ใน​กลุ่ม​ตัวเอง​ ​แล้ว​หัวเราะ​ขึ้น​ ​จากนั้น​เขา​จึง​เอ่ย​ว่า​ ​“​มองดู​รอบ​ๆ​ ​ให้​ดีสิ​ ​แต่ละ​ตระกูล​มี​ผู้ขับ​ไล่​วิญญาณ​ร้าย​เป็นตัวแทน​อย่างน้อย​ก็​สิบ​คน​ ​พี่​อวิ​๋น​ ​เจ้า​มี​กัน​แค่​สาม​คน​ ​ช่าง​แปลกใหม่​ไม่​เหมือน​ใคร​จริงๆ​”

เมื่อ​ได้ยิน​คำพูด​นี้​ ​ทุกคน​ก็​ระเบิด​หัวเราะ​ออกมา​อีกครั้ง

แม้​จะ​เป็น​ประมุข​ของ​ตระกูล​ ​แต่​จู​เก​่​ออ​วิ​๋​นก​็​ไม่ใช่​คนพูด​เก่ง​ ​ดังนั้น​เขา​จึง​ไม่รู้​ว่า​จะ​โต้ตอบ​อย่างไร

แต่​นั่น​ไม่ใช่​กับ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​และ​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋ย​ ​โดยเฉพาะ​กับ​นาง​ ​นาง​ยิ้ม​ออกมา​อย่าง​เกียจคร้าน​พร้อมกับ​บอกว่า​ ​“​เจ้า​คิด​ว่า​กลุ่ม​ตัวเอง​มี​คน​มากกว่า​แล้ว​จะ​ได้เปรียบ​หรือ​ ​ข้า​จำได้​ว่า​เมื่อวันก่อน​นาย​น้อย​หนี​เพิ่ง​ยก​คน​ทั้ง​โขยง​ไป​ก่อเรื่อง​ที่​จวน​ตระกูล​จู​เก​่อ​ ​แต่​ดัน​ถูก​อัด​จน​น่วม​กลับมา​เสีย​เอง​นี่​ ​จะ​ว่า​ไป​ภาพ​นั้น​ก็​จัด​ว่า​แปลกใหม่​ไม่​แพ้​กัน​ ​เจ้า​อุตส่าห์​ขน​คน​ไป​ตั้ง​เยอะ​แต่กลับ​ไม่​สามารถ​เอาชนะ​คน​น้อยกว่า​ได้​ ​ฮ่า​ๆ​ ​นาย​น้อย​หนี​ ​เจ้า​อ่อนแอ​ถึง​เพียง​ไหน​กัน​”

ใน​เวลา​เพียง​เสี้ยว​วินาที​!

ใบหน้า​ของ​หนี​หู่​ก็​พลัน​ดำทะมึน

ผู้ขับ​ไล่​วิญญาณ​ร้าย​ที่อยู่​ข้างหลัง​เขา​ได้ยิน​เกี่ยวกับ​เรื่อง​นี้​มา​แล้ว​ ​แต่​พวกเขา​ไม่รู้​รายละเอียด​ของ​เรื่อง​ทั้งหมด​ที่เกิด​ขึ้น

คำพูด​ของ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ทำให้​พวกเขา​รู้สึก​อยาก​หัวเราะ​ขึ้น​มา

หนี​หู่​ไม่เคย​ต้อง​รู้สึก​อับอายขายหน้า​มาก​ถึง​เพียงนี้​ ​เขามอง​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​อย่าง​ฉุนเฉียว​แล้ว​กล่าวว่า​ ​“​ข้า​ไม่รู้​ว่า​เจ้า​มาจาก​ไหน​ ​แต่​ข้า​จะ​เตือน​เจ้า​เอาไว้​ว่า​เจ้า​ไม่​ควร​ยั่วโมโห​ข้า​ ​ไม่อย่างนั้น​ข้า​จะ​ทำให้​เจ้า​ได้​ชดใช้​แน่​!​”

“​โอ้​?​”​ ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​หัวเราะ​อย่าง​ซุกซน​ ​จากนั้น​จึง​ยกมือ​ขึ้น​แล้ว​เอ่ย​เสียงดัง​ฟัง​ชัด​ว่า​ ​“​ผู้ตัดสิน​”

ใน​สนาม​แข่งขัน​มี​ผู้ตัดสิน​อยู่​หลาย​คน​ ​แม้​พวกเขา​จะ​อยู่​ที่นี่​กัน​แค่​พอเป็นพิธี​ ​แต่​ก็​ต้อง​มี​ผู้ตัดสิน​อย่างน้อย​สี่​คน​คอย​ควบคุม​ดูแล​การแข่งขัน​นี้

ตอนแรก​ทุกคน​เห็น​พวกเขา​เป็น​เพียงแค่​ของ​ประกอบ​ฉาก​ ​แต่​เสียง​เรียก​ของ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​กลับ​ดึง​ความสนใจ​ของ​ทุกคน​ได้​ทันที

ผู้ตัดสิน​ที่​มีตำ​แหน่ง​แต่เพียง​ในนาม​ไม่มีทาง​เลือก​นอกจาก​ต้อง​เดิน​เข้ามา​ ​แล้ว​ถาม​ว่า​ ​“​เกิด​อะไร​ขึ้น​หรือ​”

“​นาย​น้อย​หนี​หู่​จาก​ตระกูล​หนี​ใช้​ฐานะ​ทาง​ตระกูล​ของ​ตัวเอง​มา​ข่มขู่​และ​คุกคาม​ผู้แข่งขัน​คนอื่น​ ​ท่าน​จะ​จัดการ​กับ​เรื่อง​นี้​อย่างไร​”​ ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​เอ่ย​เสียง​เบา​ ​แต่​มัน​ก็​เพียงพอ​ที่จะ​ทำให้​ทุกคน​ได้ยิน​นาง​อย่างชัดเจน

หนี​เปียว​เอง​ก็​อยู่​ที่นี่​ ​ขณะที่​คนอื่นๆ​ ​ยืน​อยู่​นั้น​ ​ประมุข​ทุกคน​จาก​ตระกูล​สาขา​ใหญ่​ต่าง​ก็​นั่ง​อยู่​บน​เก้าอี้​ไม้​ ​พวกเขา​จะ​ยืน​ขึ้น​ก็ต่อเมื่อ​การแข่งขัน​เริ่ม​ขึ้น​แล้ว​เท่านั้น

เมื่อ​ได้ยิน​คำถาม​ของ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ ​เขา​ก็​กำ​ถ้วย​ชา​ใน​มือ​แน่น​พร้อมกับ​ค่อยๆ​ ​หรี่​ตาลง​ช้าๆ

ผู้ตัดสิน​ขมวดคิ้ว​ ​เขามอง​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ราวกับ​เห็น​นาง​เป็นตัว​ตลก​ ​เขา​สงสัย​ว่า​คน​คน​นี้​ต้อง​โง่เขลา​ถึง​เพียงใด​กัน​แน่​ ​นาง​กำลัง​ถาม​ข้า​อยู่​จริงๆ​ ​หรือว่า​นาย​น้อย​หนี​ควรจะ​ได้รับ​โทษ​อย่างไร​ ​สมอง​ของ​นาง​มีปัญหา​อะไร​หรือเปล่า

หนี​หู่​หัวเราะ​แล้ว​มอง​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ราวกับ​เห็น​เป็นเรื่อง​ตลก​ ​แล้ว​เย้ยหยัน​ว่า​ ​“​จัดการ​ข้า​หรือ​ ​เจ้า​ควร​สำนึก​ใน​บุญคุณ​ของ​ข้า​ด้วยซ้ำ​ที่​ข้า​ไม่ได้​สั่ง​ให้​เจ้า​รีบ​ไสหัวไป​จาก​ที่นี่​หรือ​สั่ง​ให้​คน​อัด​เจ้า​จน​ปางตาย​เสียก่อน​!​”

แต่​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​กลับใจ​เย็น​อย่างมาก​ ​นาง​เอ่ย​ต่อ​ด้วย​น้ำเสียง​ราบเรียบ​ว่า​ ​“​อะไร​กัน​ ​แค่​เพราะ​ตระกูล​หนี​มีอิทธิพล​ ​พวกเขา​จึง​ไม่​ถูก​ลงโทษ​เมื่อ​กระทำความผิด​หรือ​ ​เรื่อง​นี้​นับว่า​เป็นการ​เปิดโลก​ทัศน์​ให้​กับ​ข้า​จริงๆ​ ​สรุป​ก็​คือ​ตระกูล​หนี​ที่​ภูมิใจ​ใน​ตัวเอง​มาโดยตลอด​ว่า​เป็น​ผู้​ผดุง​ความยุติธรรม​ ​แท้จริง​แล้ว​กลับเป็น​เพียง​การ​ทำ​โดย​ผิวเผิน​หรอก​หรือ​ ​ความจริง​แล้ว​พวกเขา​สามารถ​กลั่นแกล้ง​คนอื่น​ได้​ตามอำเภอใจ​เช่นนี้​นี่เอง​ ​ช่าง​ตบตา​ประชาชน​ได้​เก่ง​เสีย​จริง​!​”

ความคิดเห็น​ของ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ทำให้​ผู้ขับ​ไล่​วิญญาณ​ร้าย​จาก​ต่างเมือง​ที่มา​ที่นี่​เพื่อ​การแข่งขัน​นี้​เริ่ม​ตัดสิน​ใน​บุคลิก​ของ​เขา​ ​สายตา​ที่​พวกเขา​จ้องมอง​หนี​หู่​เริ่ม​มี​ความสงสัย​เกิดขึ้น

พวกเขา​ไม่รู้​ว่า​ตระกูล​สาขา​ใหญ่​ทั้ง​สาม​ตระกูล​ร่วมมือ​กัน​เพื่อ​จะ​ขับไล่​ตระกูล​จู​เก​่อ​ ​พวกเขา​เอง​ก็​เคย​คิด​ว่า​ตระกูล​หนี​เป็นความ​ภาคภูมิใจ​ของ​ผู้ขับ​ไล่​วิญญาณ​ร้าย​ ​และ​นั่น​จึง​เป็นสาเหตุ​ที่​ทำให้​พวกเขา​เดินทาง​จาก​ต่างเมือง​มา​จนถึง​ที่นี่

แต่​ตอนนี้​…

บรรดา​ผู้ขับ​ไล่​วิญญาณ​ร้าย​มองหน้า​กัน​ ​จากนั้น​จึง​หันไป​มอง​ทาง​หนี​เปียว

ใบหน้า​ของ​หนี​เปียว​ดำคล้ำ​ ​ทีแรก​ตอนที่​เขา​ได้ยิน​เสียง​เอะอะโวยวาย​เกิดขึ้น​ ​เขา​ก็​รู้​แล้ว​ว่า​หนี​หู่​คงจะ​ไปหา​เรื่อง​ตระกูล​จู​เก​่อ​เข้า​ ​แต่​เขา​ก็​ไม่ได้​คิด​ที่จะ​สนใจ​ ​แต่​เขา​สงสัย​นัก​ว่า​คน​คน​นั้น​มาจาก​ไหน​ ​และ​สามารถ​ต้อน​บุตรชาย​ของ​เขา​ให้​จนมุม​ด้วย​คำพูด​เพียง​ไม่​กี่​คำ​ได้​อย่างไร

ตอนนี้​เขา​ต้อง​ออกมา​อธิบาย​ให้​ทุกคน​ฟัง​ ​ไม่อย่างนั้น​ภาพลักษณ์​ของ​ตระกูล​หนี​ที่​ได้รับ​การรักษา​มา​เป็น​อย่างดี​จะ​ต้อง​แปดเปื้อน

หนี​เปียว​ต้องการ​ใช้​พระ​สรีระ​เพื่อ​ปกครอง​เมือง​แห่ง​ผู้ขับ​ไล่​วิญญาณ​ร้าย​มาโดยตลอด​ ​แต่​เขา​ต้อง​เรียก​ความเชื่อ​ใจ​จาก​ทุกคน​เพื่อให้​แน่ใจ​ว่า​เขา​จะ​ได้รับ​ตำแหน่ง​อัน​ทรงอำนาจ​นี้​ใน​ภายภาคหน้า

เมื่อ​เห็น​สายตา​คาดเดา​อัน​รุนแรง​จาก​ผู้คน​โดยรอบ​ ​หนี​เปียว​จึง​ไม่มีทาง​เลือก​นอกจาก​ต้อง​ลุกขึ้น​ยืน

“​อาจารย์​หนี​”​ ​ทุกคน​หลีกทาง​ให้​เขา​โดยสมัครใจ

หนี​เปียว​เดิน​เข้ามา​พร้อมกับ​รอยยิ้ม​ ​เขา​ดูเหมือน​ชาย​สูงวัย​ผู้รอบรู้​ระหว่าง​ที่​เอ่ย​ว่า​ ​“​หู่​จื่อ​ ​ถ้า​เจ้า​ทำ​อะไร​ผิด​เจ้า​ก็​ต้อง​ขอโทษ​ ​ข้า​บอก​เจ้า​กี่​ครั้ง​กี่​หน​แล้ว​ว่า​เจ้า​ควร​เปลี่ยน​นิสัย​ใจร้อน​ของ​ตัวเอง​เสีย​!​”

หนี​หู่​ตกตะลึง​ ​เขา​นึกไม่ถึง​เลย​ว่า​ท่าน​พ่อ​จะ​เดิน​เข้ามา​ดุ​เขา​ ​แต่​ต่อให้​เขา​จะ​เป็น​คน​หัวรั้น​เพียงใด​ ​เขา​ก็​ไม่กล้า​ขัดคำสั่ง​ของ​ผู้​เป็น​บิดา​ ​เขา​จ้อง​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​อย่าง​ดุร้าย​ ​แล้ว​กัดฟัน​บอก​กับ​นาง​ว่า​ ​“​เจ้า​ ​แล้วก็​เจ้า​ ​คอย​ดูก​็​แล้วกัน​”

ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋ย​ที่​ถูก​ชี้นิ้ว​ใส่​ได้รับ​ความสนใจ​อย่างมาก​ตั้งแต่​วินาที​ที่​เขา​ปรากฏตัว​ขึ้น​ ​ดวงตา​ของ​เขา​ยังคง​เย็นชา​ขณะที่​เขา​เลิก​คิ้ว​ขึ้น​แล้ว​เผย​รอยยิ้ม​ออกมา​ ​ส่งผล​ให้​คุณหนู​จำนวนมาก​ตก​อยู่​ภายใต้​มนตร์​สะกด​ของ​เขา

อย่างไร​ก็​มี​เพียง​คน​ไม่​กี่​คน​เท่านั้น​ที่จะ​สามารถ​สวม​เสื้อคลุม​ของ​ผู้ขับ​ไล่​วิญญาณ​ร้าย​ได้​สง่างาม​ถึง​เพียงนี้

ยิ่งกว่านั้น​ ​บรรยากาศ​ราวกับ​ผู้ทรงศีล​ที่​แผ่ออก​มาจาก​ร่าง​ของ​เขา​ก็​ยัง​ยาก​ที่จะ​มองข้าม​ได้

เมื่อ​หนี​เปียว​สังเกตเห็น​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋ย​ ​ความ​ชั่วร้าย​ใน​หัวใจ​ของ​เขา​ก็​ยิ่ง​รุนแรง​ขึ้น​ ​จากนั้น​สายตา​ของ​เขา​ก็​ดำทะมึน​เมื่อ​หันไป​มอง​ใบหน้า​เกียจคร้าน​แต่ง​ดงาม​ของ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย

การ​ตำหนิ​บุตรชาย​ตัวเอง​ต่อหน้า​สาธารณชน​เช่นนี้​นับว่า​เป็นการ​ทำให้​ตระกูล​หนี​ต้อง​เสียหน้า

แน่นอน​ว่า​เขา​รู้เรื่อง​สอง​คน​นี้​อยู่​แล้ว​ ​อีกทั้ง​ยัง​ได้​ทำการ​ตรวจสอบ​พวกเขา​มา​แล้ว​อีกด้วย

หนึ่ง​ใน​นั้น​ไม่มี​พลัง​วิญญาณ​ ​แต่​อีก​คน​หนึ่ง​เก่งกาจ​อย่างมาก​ ​และ​ต้อง​จับตาดู​เอาไว้​ให้​ดี

อย่างไรก็ตาม​ ​ทักษะ​ไร้ประโยชน์​เหล่านี้​ก็​ทำให้​พวกเขา​กล้า​เล่น​กับ​ไฟ​ด้วย​การ​ทำให้​เขา​ต้อง​ตก​อยู่​ใน​สถานการณ์​นี้

ทุกคน​ต่าง​ก็​พูด​กัน​ว่า​หนี​เปียว​เป็น​คน​จิตใจ​กว้างขวาง​ ​แต่​ไม่มีใคร​เจ้า​คิด​เจ้า​แค้น​ไป​กว่า​เขา​ ​หลังจาก​ได้​เห็น​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​และ​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋ย​ ​ความคิด​ที่​อยาก​จะ​ให้​ทั้งสอง​คุกเข่า​ลง​ต่อหน้า​เขา​ให้​ได้​ก็​รุนแรง​ขึ้น​เรื่อยๆ

“​ท่าน​พ่อ​ ​เมื่อครู่นี้​ทำไม​ท่าน​ถึง​พูด​กับ​ข้า​เช่นนั้น​ล่ะ​ขอรับ​”​ ​ต่าง​จาก​หนี​เปียว​ ​หนี​หู่​ไม่​สามารถ​ซ่อน​โทสะ​ของ​ตัวเอง​ได้​ ​หลังจาก​กลับมา​ถึง​พื้นที่​ที่​เป็น​ของ​ตระกูล​หนี​ ​เขา​ก็​เอ่ย​ความคับ​ข้องใจ​ออกมา​ทันที

หนี​เปียว​มอง​เขา​แล้ว​เอ่ย​ด้วย​น้ำเสียง​เคร่งเครียด​ว่า​ ​“​เจ้า​คิด​ว่า​พ่อ​ไม่​อยาก​สอน​บทเรียน​ให้​สอง​คน​นั้น​หรือ​ ​ถ้า​พ่อ​ไม่​ก้าว​ออก​ไป​ ​คำพูด​ของ​นาง​จะ​ต้อง​ทำให้​ผู้ขับ​ไล่​วิญญาณ​ร้าย​จาก​ต่างเมือง​ตั้งคำถาม​กับ​ชื่อเสียง​ของ​ตระกูล​เรา​อย่างแน่นอน​ ​หู่​จื่อ​ ​เจ้า​ต้อง​มองโลก​ให้​กว้าง​ขึ้น​เวลา​รับมือ​กับ​สิ่ง​ต่างๆ​ ​มี​วิธี​อื่น​อีก​มากมาย​ใน​การ​จัดการ​กับ​พวกเขา​ ​เรา​จะ​ให้​พวกเขา​ใช้​เส้นทาง​ที่​อันตราย​ที่สุด​ที่​มุ่ง​สู่​สุสาน​หลวง​ ​ในไม่ช้า​พวกเขา​จะ​ได้​รู้​ว่า​หาก​เสียมารยาท​กับ​ตระกูล​หนี​แล้ว​จะ​เป็น​อย่างไร​!​”

“​ข้า​ไม่​อยาก​ให้​พวก​มันตา​ยง​่าย​ๆ​ ​ขอรับ​”​ ​หนี​หู่​กำมือ​เข้าหา​กัน​แน่น​ ​แล้ว​เอ่ย​อย่าง​ชั่วร้าย​ว่า​ ​“​จู​เก​่​ออ​วิ​๋​นกับ​เจ้า​สอง​คน​นั่น​ ​ข้า​ต้อง​ทำให้​พวก​มัน​เสียใจ​ที่มา​หาเรื่อง​กับ​ข้า​!​”

หนี​เปียว​เจ้าเล่ห์​ ​แล้ว​บอกว่า​ ​“​ไม่ต้อง​ห่วง​ ​ข้า​จะ​ส่ง​ผู้ขับ​ไล่​วิญญาณ​ร้าย​อีก​สอง​คน​สะกดรอย​ตาม​พวกเขา​ไป​ ​พวกเขา​ฝีมือ​ย่ำแย่​ถึง​เพียงนั้น​ ​ก้าว​ออก​ไป​แค่​สอง​ก้าว​ก็​คง​ถูก​ปีศาจ​ใน​ป่า​กระโจน​ใส่​แล้ว​กระมัง​…​”