ช่วงเช้าโม่เสี่ยวฮุ่ยเพิ่งสั่งให้การ์ดไล่ลี่เจี้ยนหวาและจ้าวเฟยเฟยออกไป ช่วงบ่ายทั้งคู่ก็เริ่มเสแสร้งมาขอร้องเจียงหยุนเอ๋ออีกครั้ง พวกเขารู้ดีขอเพียงแค่เจียงหยุนเอ๋อรับปาก ลี่จุนถิงต้องตกลงช่วยเหลือแน่
พอดีกับที่ช่วงบ่าย โม่เสี่ยวฮุ่ยและป้าเฉินออกไปซื้อของ เจียงหยุนเอ๋อใจอ่อนจึงปล่อยให้พวกเขาเข้ามา
เพราะตอนนี้เจียงหยุนเอ๋อเองก็เป็นคุณแม่ลูกสองเช่นเดียวกัน เพราะงั้นเมื่อเธอได้เห็นลี่เจี้ยนหวาต้องยอมอ่อนน้อมเพื่อลี่หุย จึงรู้สึกสงสาร แถมตอนนี้ด้านนอกยังฝนตกอีกต่างหาก
เจียงหยุนเอ๋อเห็นว่าทั้งคู่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำฝน ไม่ว่าจะบอกให้พวกเขากลับไปยังไงทั้งคู่ก็ไม่ยอมกลับ เจียงหยุนเอ๋อกลัวว่าจะเกิดเรื่องขึ้นกับทั้งคู่ จึงให้พวกเขาเข้ามา
เจียงหยุนเอ๋อให้ป้าจางดูแลลูกๆ หลังจากนั้นก็สั่งให้คุณป้าอีกคนนำผ้าขนหนูออกมาสองผืน เพื่อให้พวกเขาเช็ดตัว
“พวกคุณออกไปเถอะ จุนถิงไม่ช่วยพวกคุณหรอก”
หลังจากที่เจียงหยุนเอ๋อนำผ้าขนหนูให้กับพวกเขา ก็ยังคงพูดเกลี้ยกล่อมทั้งคู่ด้วยเจตนาดี
แต่เมื่อลี่เจี้ยนหวาเห็นว่าเจียงหยุนเอ๋อใจอ่อน ยังไงก็ไม่ยอมตอบรับ จึงขอร้องเธอไม่หยุด
“หยุนเอ๋อ ฉันรู้ว่าเธอเป็นเด็กดี เธอช่วยฉันเกลี้ยกล่อมจุนถิงหน่อยสิ ช่วยเราหาตัวลี่หุยเถอะนะ ฉันขอร้องล่ะ”
“คุณลุง คุณรู้ไหมว่าจุนถิงมีความบาดหมางกับลี่หุยลึกแค่ไหน คุณเลิกมาหาเราซะเถอะ”
เจียงหยุนเอ๋อเผยความลำบากใจ เธอไม่คิดเลยว่าลี่เจี้ยนหวาจะต่อกรด้วยยากขนาดนี้
“คุณลุง พวกคุณเช็ดตัวจนแห้งแล้วก็รีบออกไปเถอะค่ะ อีกเดี๋ยว……”
ไม่ทันที่เจียงหยุนเอ๋นกล่าวจบประโยค จ้าวเฟยเฟยก็คุกเข่าลง “ตุ่บ” กับพื้น “คุณหนูเจียง คุณเป็นคนมีเมตตา ขอร้องล่ะช่วยลูกชายของฉันเถอะ! ช่วยเขาด้วยเถอะ!”
เจียงหยุนเอ๋อคิดที่จะสลัดจ้าวเฟยเฟยที่จับขากางเกงของเธอออก แต่ไม่ว่าเธอจะออกแรงมากแค่ไหน เจียงหยุนเอ๋อก็ไม่สามารถสลัดให้เธอหลุดออกไปได้
เจียงหยุนเอ๋อนึกเสียดายทีหลังในวินาทีที่จ้าวเฟยเฟยคุกเข่าลง ตัวเธอไม่ควรใจอ่อน ที่พาตัวปัญหาสองคนนี้เข้ามา อีกเดี๋ยวเมื่อโม่เสี่ยวฮุ่ยกลับมา ต้องมาเธอแน่
เจียงหยุนเอ๋อคิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไรดี โม่เสี่ยวฮุ่ยก็เข้ามาจากด้านนอก
เพราะตอนที่ลี่เจี้ยนหวาและจ้าวเฟยเฟยเข้ามาทั้งคู่ลืมปิดประตู เมื่อโม่เสี่ยวฮุ่ยอยู่ในสวนก็ได้เห็นทั้งสาม แน่นอนว่าเธอได้เห็นการกระทำของจ้าวเฟยเฟยทั้งหมด
เธอเรียกบอดี้การ์ดที่ลี่จุนถิงเตรียมไว้ให้เข้ามา ไล่ทั้งคู่ออกไป
“พวกคุณมานี่ ไม่เห็นเหรอไงว่าเจียงหยุนเอ๋อถูกพวกเขาเกาะแกะอยู่? รีบไล่แมลงหวี่สองตัวนั้นออกไปซะ”
บอดี้การ์ดรีบเข้ามาล็อกตัวทั้งคู่ออกไป แต่จ้าวเฟยเฟยคว้าขากางเกงของเจียงหยุนเอ๋อเอาไว้ไม่ยอมปล่อย ขณะที่บอดี้การ์ดลากตัวจ้าวเฟยเฟยแทบจะดึงเจียงหยุนเอ๋อเกือบล้มลง
โชคดี ที่ป้าเฉินรับเธอเอาไว้ด้านหลัง เจียงหยุนเอ๋อถึงไม่ได้ล้มลง เมื่อโม่เสี่ยวฮุ่ยเห็นอย่างนั้น พลันยกขาขึ้นถีบไปยังแขนของจ้าวเฟยเฟย
“นางแพศยา ปล่อยมือซะ”
เมื่อจ้าวเฟยเฟยเจ็บตัว ถึงได้ยอมคลายมือออก โม่เสี่ยวฮุ่ยที่ถีบไปเพียงสองที แต่ยังรู้สึกไม่สะใจ จึงถือโอกาสกระทืบจ้าวเฟยเฟยอีกหลายหน
ลี่เจี้ยนหวาที่เห็นเหตุการณ์เขาเองก็ไร้หนทาง บอดี้การ์ดร่างฉกรรจ์หลายคนล็อกตัวเอาไว้ เขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เลย จึงได้แต่สบถด่า
“โม่เสี่ยวฮุ่ย เธอมันผู้หญิงโหดร้าย คิดจะทำอะไรของเธอ! เธอมันร้ายกาจ ดีที่ฉันหย่ากับเธอก่อน ไม่เช่นนั้น……”
ลี่เจี้ยนหวาไม่ทันพูดจบประโยค โม่เสี่ยวฮุ่ยก็พุ่งเข้าไปตบเข้าบ้องหูฉาดใหญ่ “ลี่เจี้ยนหวา คุณยังมีหน้ามาบอกว่าฉันร้ายกาจอีกหรือ ไม่ดูตัวเองซะบ้างเลยว่าเป็นคนยังไง ยังกล้ามาด่าว่าฉันอีกเหรอ? ”
“ฉันจะบอกอะไรให้นะ ต่อจากนี้อย่ามารบกวนเราอีก รีบพานางแพศยานี่ไสหัวไปซะ”
เมื่อส่งทั้งคู่กลับไปได้ โม่เสี่ยวฮุ่ยจับจ้องเจียงหยุนเอ๋อที่มีทีท่าตกอกตกใจจนสติหลุด จึงสงสารเธอไม่อยากว่ากล่าวใดๆ เธอ
“เธอนี่มัน ใจอ่อนเกินไปแล้ว เป็นไง? ไม่เป็นไรใช่ไหม รีบสำรวจขาของเธอสิว่าได้รับบาดเจ็บอะไรไหม”
เจียงหยุนเอ๋อเองก็นึกเสียใจทีหลัง “คุณแม่คะ ขอโทษนะคะ ฉัน… ฉันแค่อยากจะพูดกับพวกเขาให้รู้เรื่อง ไม่คิดเลยว่าพวกเขาจะไร้เหตุผลถึงเพียงนี้”
“พอได้แล้ว เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเธอ เป็นเพราะพวกเขาเองที่ไร้เหตุผลไม่ยอมละเลย”
โม่เสี่ยวฮุ่ยประคองเจียงหยุนเอ๋อให้นั่งลงที่โซฟา เลิกขากางเกงของเจียงหยุนเอ๋อขึ้น ทำการสำรวจอย่างละเอียด บริเวณน่องของเธอเพียงแค่ถูกจ้าวเฟยเฟยรัดจนแดงเท่านั้น
โม่เสี่ยวฮุ่ยเห็นว่าเธอไม่ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณอื่นอีก จึงวางใจ
“เธอนี่นะ คราวหน้าหากพบพวกเขาอีกต้องอยู่ให้ห่างกับพวกเขาเลยนะ เข้าใจไหม”
“อืม! เข้าใจแล้วค่ะ คุณแม่” เจียงหยุนเอ๋อเห็นโม่เสี่ยวฮุ่ยห่วงใยตนมากขนาดนี้ พลันรู้สึกอบอุ่นหัวใจ
เช้านี้เมื่อลี่จุนถิงมาถึงบริษัท คนที่มีหน้าที่คอยจับตามองลี่หุยก็เข้ามาอยู่ก่อนแล้ว
“ประธานลี่ ลี่หุยหายตัวไป” คนที่มีหน้าที่จับตามองลี่หุยสีหน้าเคร่งเครียด
“ผมรู้แล้ว นายได้โอกาสพักผ่อนสักระยะแล้ว”
“ไม่ใช่ ประธานลี่ วันนั้นผมเห็นลี่หุยเข้าไปที่โรงแรมพร้อมกับแฟนสาวคนใหม่ของเขา รอทั้งวันทั้งคืนแต่ก็ไม่ได้ออกมา ทีแรกผมคิดว่าพวกเขาทั้งคู่เล่นสนุกจนเพลิน”
“แต่ว่า เมื่อวันนี้พี่ลี่ที่แทนผมบอกกับผมว่า ไม่ต้องเฝ้าแล้ว ลี่หุยหายตัวไป ผมถึงไหวตัวได้ว่าเกิดเรื่องขึ้น ผมจึงรีบไปสอบถามกับเคาน์เตอร์ พวกเขาบอกผมว่าลี่หุยได้ออกไปตั้งแต่บ่ายในวันเดียวกันแล้ว”
ลี่จุนถิงขมวดคิ้วแน่น ประโยคของเขา ดูเหมือนว่าเรื่องที่ลี่หุยถูกลักพาตัวมีความนัยแอบแฝง ดูเหมือนว่าลี่หุยหายตัวไปเพราะถูกผู้หญิงคนนั้นล่อลวง
ทำไมบุคคลนี้ต้องลักพาตัวลี่หุย ลี่เจี้ยนหวาก็ไม่ได้บอกว่าลักพาตัวต้องการเงินเท่าไหร่ เพียงแค่ขอร้องให้เขาช่วยลี่หุยเท่านั้น นั่นก็หมายความว่าลี่เจี้ยนหวามีเรื่องที่ไม่ได้บอกกับเขา
ลี่จุนถิงสั่งให้เขากลับไปก่อน พร้อมกับเรียกให้ซู่จี้งยี้เข้ามา
“คุณช่วยฉันไปสืบประวัติแฟนของลี่หุยคนนั้นให้ที ฉันรู้สึกว่าการที่ลี่หุยถูกลักพาตัวมีอะไรไม่ชอบมาพากล หากทำเพื่อเงินเท่านั้น ฝ่ายตรงข้ามไม่มีความจำเป็นถึงกับต้องให้ผู้หญิงมาจัดการเขา ต้องมีอะไรมากกว่านั้นแน่”
“ใช่สิ คุณไปสืบให้ฉันทีว่าผู้หญิงคนนี้มีความเกี่ยวข้องกับอาเธอร์รึเปล่า หากมีความเกี่ยวข้องกับอาเธอร์ ถ้างั้นเรื่องนี้ต้องซับซ้อนแน่”
ลี่จุนถิงไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของลี่หุยแม้แต่น้อย แต่ตอนนี้การหายตัวไปของลี่หุยน่าสงสัยเกินไป แถมตอนนี้ยังมีภัยเงียบอย่างอาเธอร์อยู่อีก เพราะงั้น ลี่จุนถิงไม่กล้าสะเพร่า
ทางด้านอาเธอร์ได้รับรู้แล้วว่าลี่เจี้ยนหวาไปขอความช่วยเหลือจากลี่จุนถิง จึงติดต่อเขาไปอีกครั้ง
“คุณกล้าไปขอความช่วยเหลือจากคนอื่นงั้นหรือ คุณไม่อยากได้ลูกชายคืนแล้วใช่ไหม ในเมื่อไม่ต้องการแล้วฉันจะจัดการให้คุณเองดีไหมล่ะ”
ปลายสายที่โทรเข้ามาเมื่อจบประโยคก็ตัดสายทิ้งทันที ก่อนที่จะส่งคลิปลี่หุยถูกซ้อมเข้ามา ลี่หุยในคลิปถูกซ้อมจนเหลือเพียงลมหายใจแผ่ว
ลี่เจี้ยนหวาคิดที่จะโทรกลับไป ลี่จุนถิงก็โทรเข้ามาเสียก่อน
“เรื่องของลี่หุย คุณมีเรื่องอะไรที่ยังไม่ได้บอกผมใช่ไหม?”
ลี่เจี้ยนหวาคิดที่จะพูด ประโยคของชายคนนั้นก็แวบเข้ามาในหัว จึงรีบปฏิเสธ
“เปล่านี่ ไม่มี”
เมื่อลี่จุนถิงได้ยินเขาก็รู้ทันทีว่าลี่เจี้ยนหวาไม่ได้พูดความจริง จึงสบถอย่างเย็นชาพร้อมตัดสายทิ้งทันที