ตอนที่ 602 ฉางโซ่ววางแผนจัดการปีศาจ

ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว

บทที่ 602 ฉางโซ่ววางแผนจัดการปีศาจ เล่อเอ๋อร์ช่วยเสริมกำลังรบ! (3)

อ๋าวอี่ถามขณะที่เขานั่งอยู่หน้ากระจกแต่งตัวอย่างเชื่อฟัง เขานึกถึงเคล็ดลับบางอย่างที่ภรรยาของเขาใช้เมื่อนางแต่งหน้าและเริ่มลงมือทำด้วยตัวเองตามนั้น

“ท่านกำลังจะทำอะไรเปี้ยนจวงหรือ?”

หลี่ฉางโซ่วยิ้มและกล่าวว่า “นี่คือสิ่งที่ข้าต้องการให้เจ้าแสดงหลังจากนี้ ให้เจ้าจงใจแสร้งทำเป็นว่าได้รับบาดเจ็บ เจ้าจะได้รับการช่วยเหลือจากราชาปีศาจ และจากนั้นก็ปล่อยให้ราชาปีศาจประกาศสงครามกับศาลสวรรค์”

ทันใดนั้น อ๋าวอี่ก็มือสั่นและคิ้วกระตุกทันทีและกล่าวว่า “ได้… จะทำได้หรือขอรับ? ดูเหมือนว่า ราชาปีศาจจะไร้สติปัญญาไปแล้ว”

“ความสำเร็จล้วนขึ้นอยู่ที่คนกำหนด[1]” หลี่ฉางโซ่วยิ้มอย่างสงบและกล่าวว่า “ความรักระหว่างชายหญิงสามารถทำให้สิ่งมีชีวิตสูญสิ้นความคิดและไร้สติปัญญาไปได้อย่างง่ายดาย เรามาลองดูกันเถิด หากไม่ได้ผล เราก็ยังมีแผนสำรอง”

“ขอรับ!”

อ๋าวอี่พยักหน้าเบาๆ และเริ่มวาดคิ้วและปัดแก้มแดงอย่างรวดเร็ว

หลี่ฉางโซ่วรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยขณะที่เขาเฝ้ามองดูอยู่ข้างๆ และเอ่ยถามว่า “เหตุใดเจ้าถึงเชี่ยวชาญเพียงนี้?”

“นี่” อ๋าวอี่ยิ้มขัดเขินและกล่าวว่า “ข้ามักจะช่วยซื่อเอ๋อร์ทำสิ่งเหล่านี้ … ”

“เจ้ากับซื่อเอ๋อร์รักกันดียิ่ง” หลี่ฉางโซ่วเปลี่ยนหัวข้ออย่างสงบและถามด้วยรอยยิ้มว่า “แล้วเจ้าวางแผนจะมีทายาทเมื่อใดกัน? ในฐานะลุงของลูกเจ้า ข้ามีของขวัญแสดงความยินดีที่พร้อมจะมอบให้ตลอดเวลา”

อ๋าวอี่กล่าวเสียงกระซิบต่ำว่า “ยังเร็วไปขอรับ… เมื่อไม่นานมานี้ เผ่ามังกรเพิ่งประสบปัญหา และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การฝ่าฟันอุปสรรคข้ามผ่านความยากลำบากและรอดพ้นไปด้วยกัน”

“ช่างน่าปลื้มปีติยินดียิ่งนัก” หลี่ฉางโซ่วกล่าวพลางหยิบเสื้อคลุมเต๋าออกมาจากแขนเสื้อและเริ่มคิดเล็กน้อยว่าจะเปลี่ยนให้เป็นชุดกระโปรงเทพธิดาได้อย่างไร

อ๋าวอี่มองดูเล็กน้อยแล้วพึมพำเบาๆ ว่า “ซื่อเอ๋อร์มีตู้เสื้อผ้าอยู่กับข้าด้วย พี่ชายไม่ต้องห่วง ไว้ข้าจะเปลี่ยนไปสวมใส่มันในภายหลัง”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลี่ฉางโซ่วก็อดจะถอยหลังไปสองก้าวอย่างเงียบๆ ไม่ได้

มังกรน้อยตัวนี้มีงานอดิเรกที่ค่อนข้างพิเศษไม่เหมือนใครจริงๆ

มาคุยเรื่องงานสำคัญกันเถิด

เมื่ออ๋าวอี่แต่งตัวแล้ว บัดนี้ เข่อเล่อเอ๋อร์ ซึ่งเขาไม่ได้พบเห็นมานานก็ปรากฏกายขึ้นอีกครั้ง นางแต่งกายด้วยชุดกระโปรงเทพธิดา สวมรองเท้าเมฆ และเส้นผมยาวของนางก็ถูกมัดเป็นมวยทรงเมฆที่ขมับ ในขณะที่นางซ่อนลูกกระเดือกของนางเอาเอาไว้…

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ หลี่ฉางโซ่วได้หยิบซองออกมาสองซอง เขามอบซองหนึ่งให้เข่อเล่อเอ๋อร์ห้อยไว้ที่เอวในขณะที่ให้อีกซองหนึ่งเก็บไว้สำรอง

มันเป็นโอสถวิญญาณระดับห้า โอสถเพลิงหัวใจ

หลังจากเตรียมการเหล่านั้นแล้ว เข่อเล่อเอ๋อร์ก็บินขึ้นไปบนท้องฟ้าเงียบๆ

ขณะนั้น ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ของหลี่ฉางโซ่วก็เปลี่ยนเป็นแม่ทัพสวรรค์ในชุดเกราะเงิน และปล่อยตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ต้นกำเนิดสิบหกตัวที่มีพลังเวท ให้กลายร่างเป็นทหารสวรรค์สิบหกนาย

ในยามราตรี หลี่ฉางโซ่วได้กระตุ้นเปิดใช้งานสายฟ้าหลายสายจากฝ่ามือของเขาโดยอาศัยประโยชน์จากความมืด! โนเวล-พีดีเอฟ

เกิดสายฟ้าแลบแปลบปลาบ และฟ้าร้องกึกก้องดังสนั่นไปทั่วทั้งระหว่างสวรรค์และปฐพี และร่างที่งดงามก็โซเซและร่วงหล่นลงมาจากก้อนเมฆ ตามด้วยร่างอีกหลายสิบร่างที่รีบไล่ตามนางมา

บังเอิญว่า เงาร่างที่งดงามนี้ ได้ตกลงบนภูเขาเหยาเซิงในขณะที่เหล่าทหารสวรรค์และแม่ทัพสวรรค์มากกว่าสิบคนไล่ตามรีบไล่ตามนาง!

ในเวลาเดียวกันนั้น ก็มีเสียงตะโกนดังลั่นเตือนเหล่าปีศาจที่นี่ว่า “ศาลสวรรค์ได้จับเหล่าเซียนมนุษย์ที่มีบาป สิ่งมีชีวิตทั้งหมดจงหลีกไป!”

ทันใดนั้นเหล่าปีศาจที่อยู่ในรัศมีหลายร้อยลี้ ล้วนตื่นตระหนก สัมผัสปีศาจรับรู้กวาดออกไปทั่ว แล้วพวกเขาทั้งหมดก็ล้วนตื่นตกใจ

ในขณะนั้น ในเคหาสน์ถ้ำของราชาแรด จู่ๆ ก็ปีศาจตนหนึ่งที่กำลังลาดตระเวนอยู่บนภูเขาได้ร้องตะโกนว่า “รายงาน! มหาราชา! มีเหล่าทหารสวรรค์และแม่ทัพพลสวรรค์ไล่เข่นฆ่าเซียนสตรีผู้หนึ่งไปที่ภูเขา!

เวลานี้ พวกเขากำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือดอยู่ที่ภูเขาด้านหลัง พวกเขาอยู่ห่างจากเราไปเพียงไม่กี่สิบสิบลี้เท่านั้น!”

“เข้าใจแล้ว มีอันใดรีบร้อนกันนักหนา?”

ท่ามกลางคำตอบสั้นๆ ที่ดุดันเกรี้ยวกราด บัดนั้นชายร่างกำยำที่กำลังแช่กายอยู่ในสระก็ลุกขึ้นยืน

รูปร่างหน้าตาที่ปรากฏตอนแปลงร่างของเขา ก็ดูไม่ได้ขี้เหร่ เพียงแต่นอแรดที่อยู่บนจมูกของเขาดูผิดที่ และไม่เข้ากันเล็กน้อย

แรดตัวนี้กระโจนขึ้นจากสระน้ำ แล้วเรียกชุดเกราะต่อสู้ของมัน มันหยิบขวานเหล็กขึ้นมา และใช้พลังเวท “ลมปีศาจ” ซึ่งเป็นที่นิยมใช้กันในหมู่เผ่าปีศาจ กวาดม้วนเหล่าแม่ทัพปีศาจมากกว่าสิบและบรรดาปีศาจน้อยอีกมากกว่าร้อยตัว แล้วมุ่งหน้า ตรงไปยังภูเขาด้านหลัง

จากนั้นปีศาจแรดก็ผ่านเส้นทางบนภูเขาหลายสิบลี้และมาถึงในชั่วพริบตาเดียว และเห็นตำแหน่งที่ตั้งของ “การต่อสู้ที่ดุเดือด” นั้น

มีเซียนสตรีคนหนึ่งซึ่งอยู่ในชุดที่เปื้อนเลือด มีบาดแผลที่เอวและไหล่ของนาง นางถือกระบี่สั้นสองเล่มและต่อสู้ไปมากับแม่ทัพสวรรค์ผู้นั้น…

ทว่าหลังจากมองเห็นเซียนสตรีผู้นั้นเพียงแวบเดียว ดวงตาของมหาราชาแรดก็พลันพร่ามัวขึ้นทันที

ในเวลานี้ เทพธิดาในสายตาของเขา ไม่ได้อยู่ในสภาพลำบาก น่าอเนจอนาถใดๆ แม้แต่น้อยเลย เงาร่างแสนสะคราญของนางถูกห่อหุ้มด้วยแสงที่นุ่มนวล และนางก็เปล่งประกายและเคลื่อนไหวงดงามมากจริงๆ จนเขา… รู้สึกใจเต้นแรง

ในขณะนั้น มหาราชาแรดได้ยินเสียงหายใจหอบ เขาหันศีรษะไปมองและเห็นว่าแม่ทัพปีศาจและทหารปีศาจที่เขานำมานั้น ล้วนมีใบหน้าแดงก่ำและหายใจหอบอย่างหนัก

“พวกเจ้ากำลังมองอันใดกัน!?!”

มหาราชาแรดร้องคำราม “หันกลับมาเดี๋ยวนี้! ข้าจะฆ่าพวกเจ้าให้หมด!”

ทันใดนั้น บรรดาทหารปีศาจและแม่ทัพปีศาจ ก็ล้วนตัวสั่นและหันกลับมาอย่างรวดเร็ว

มหาราชาแรดมองไปยังสถานที่ที่ต่อสู้กันระหว่างเซียนสตรีกับแม่ทัพสวรรค์ แล้วดวงตาของเขาก็ค่อยๆ เต็มไปด้วยความอ่อนโยน และทันใดนั้น ขวานวัวก็ร่วงหล่นลงมาแทบเท้าของเขาพร้อมด้วยเสียงดังโครมคราม เขาประสานนิ้วทั้งสิบของมือใหญ่ทั้งสองของเขา แล้ววางไว้ข้างๆ ใบหน้าใหญ่ และถูมันเบาๆ

“อา ข้าอาจจะตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็นอีกครั้ง…”

แม้แต่ดวงตาวัวของเขาก็ยังค่อยๆ กลายเป็นดอกท้อ

ทันใดนั้นแม่ทัพสวรรค์ก็ตะโกนออกมาจากสนามรบว่า “อย่าให้ข้าต้องสังหารเจ้า! จงตามข้ากลับไปรายงานตัวที่ศาลสวรรค์แต่โดยดี!”

“พี่ใหญ่!” “เซียนสตรี เข่อเล่อเอ๋อร์” ตะโกนออกไปอย่างหนักแน่นว่า “ช้าจะตัดสินใจแต่งงานเอง! ข้าจะไม่มีวันยอมเป็นเครื่องมือเวทให้ท่านเอาไปใช้ประจบเทพผู้ทรงอำนาจเด็ดขาด!”

พี่ใหญ่? การแต่งงาน? เพื่อประจบเทพผู้ทรงอำนาจ!

ดวงตาของมหาราชาปีศาจแรดเป็นประกายในขณะที่เขาจินตนาการถึงภาพเหตุการณ์ใหญ่ขึ้นมาในทันที

แม่ทัพสวรรค์ตวาดอีกครั้งว่า “ข้าทำเช่นนี้ก็เพื่อผลประโยชน์ของเจ้าเอง!”

“หากเป็นผลดีกับตัวข้าเอง เช่นนั้น ก็โปรดปล่อยข้าให้เป็นอิสระไปเถิด ปล่อยให้ข้าหาคู่ครองของข้าเองเถิด!”

ทว่าทันทีที่ “เซียนสตรี ” กล่าวจบ นางก็ถูกทวนของแม่ทัพสวรรค์พุ่งเข้าใส่ แล้วร่างเพรียวบางแสนงดงามของนางก็ถูกเหวี่ยงปลิวกระเด็นขึ้นไปในอากาศ และร่วงหล่นลงไปกับพื้น แต่นางก็ยังลุกขึ้นยืนหยัดอย่างดื้อรั้น

บัดนั้น มหาราชาปีศาจแรดก็ก้าวออกไปข้างหน้าครึ่งก้าวโดยไม่รู้ตัวและยกมือขึ้นมาจากระยะไกลเพื่อพยายามคว้าร่างของเซียนสตรีที่ตกลงมา แต่เขาก็พลาดระยะทางที่ยังห่างไกลไปมาก…

“การแต่งงานของเจ้า?”

สีหน้าท่าทางของแม่ทัพสวรรค์ดูเย็นชา เขายกมือขึ้นและทำท่าทางให้ทหารสวรรค์ทั้งสิบนายหยุดอยู่กับที่ในขณะที่แม่ทัพสวรรค์กล่าวอย่างสงบว่า “นั่นคือ การแต่งงานของเจ้า”

“ไม่!”

เซียนสตรีโซเซไปมาขณะที่นางยืนขึ้นด้วยการใช้กระบี่ของนางค้ำยัน นางตะโกนออกมาว่า “คนรักที่ข้าใฝ่ฝันหาจะต้องตัวสูง แข็งแกร่งกำยำ และเขาต้องมีพลังมากพอที่จะปกป้องข้าได้!”

………………………………………………………………..

[1] หรือบางทีเรียกว่า สรรพสิ่งล้วนอยู่ที่คนกำหนด หมายถึง สิ่งต่างๆ ล้วนต้องอาศัยคนทำ ภายใต้สภาพแวดล้อมที่กำหนดไว้ งานการจะสำเร็จหรือไม่นั้นก็ย่อมขึ้นกับความมานะพยายามของตัวคนทำเช่นกัน

—————————————-